0:00:06.646,0:00:10.597 เรานับด้วยนิ้วมือได้มากแค่ไหน 0:00:10.597,0:00:13.176 ดูเหมือนว่านี่จะเป็นคำถาม[br]ที่มีคำตอบชัดเจนอยู่แล้ว 0:00:13.176,0:00:15.786 อย่างไรซะ พวกเราส่วนใหญ่มีนิ้วอยู่สิบนิ้ว 0:00:15.786,0:00:17.057 หรือเอาให้ชัด ๆ ก็คือ 0:00:17.057,0:00:19.397 เรามีนิ้วแปดนิ้วและหัวแม่มืออีกสองนิ้ว 0:00:19.397,0:00:22.796 นั่นทำให้เรามีนิ้ว (digit)[br]อยู่สิบนิ้วบนมือทั้งสองข้าง 0:00:22.796,0:00:24.676 ซึ่งเราใช้นับเลขได้ถึงสิบ 0:00:24.676,0:00:28.766 นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่สัญลักษณ์สิบ[br]ที่เราใช้ในการนับเลขในปัจจุบัน 0:00:28.766,0:00:30.957 จะถูกเรียกว่า หลักนับ (digit) เช่นกัน 0:00:30.957,0:00:33.128 แต่นั่นไม่ใช่วิธีนับเพียงวิธีเดียว 0:00:33.128,0:00:38.316 ในบางแห่ง มันเป็นปกติที่เราจะนับได้[br]มากที่สุดถึงสิบสองด้วยมือเพียงข้างเดียว 0:00:38.316,0:00:39.324 ทำอย่างไรน่ะหรือ 0:00:39.324,0:00:42.345 ก็แต่ละนิ้วนั้นถูกแบ่งเป็นสามส่วน 0:00:42.345,0:00:46.787 และเรามีตัวชี้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว[br]ซึ่งก็คือหัวแม่มือ 0:00:46.787,0:00:50.808 นั่นเป็นวิธีการนับง่าย ๆ [br]ที่จะนับถึงสิบสองด้วยมือเพียงข้างเดียว 0:00:50.808,0:00:52.337 และถ้าเราต้องการนับให้ได้มากกว่านั้น 0:00:52.337,0:00:57.937 เราสามารถใช้นิ้วของมืออีกข้าง[br]เพื่อติดตามว่าเรานับครบสิบสองแล้วกี่ครั้ง 0:00:57.937,0:01:02.597 ซึ่งทำได้มากที่สุดห้าครั้ง ครั้งละสิบสอง[br]นั่นคิดเป็น 60 0:01:02.597,0:01:05.248 ยิ่งกว่านั้น ลองใช้ส่วนที่อยู่บนมือข้างที่สอง 0:01:05.248,0:01:10.968 เพื่อนับสิบสองครั้ง ของแต่ละกลุ่มที่มีอยู่สิบสอง[br]ซึ่งนั่นก็มากถึง 144 0:01:10.968,0:01:12.788 นั่นดีกว่าเดิมมากเลยทีเดียว 0:01:12.788,0:01:17.239 แต่เรายังนับได้มากกว่านั้น[br]โดยใช้ส่วนที่ใช้นับได้บนมือแต่ละข้าง 0:01:17.239,0:01:21.249 ยกตัวอย่างเช่น แต่ละนิ้วมีสามส่วน[br]และมีรอยพับสามแห่ง 0:01:21.249,0:01:23.656 ซึ่งคิดรวมกันเป็นหกสิ่งที่ใช้นับได้ 0:01:23.656,0:01:25.988 ทีนี้ เรามีสิ่งที่ใช้นับ 24 สิ่งในแต่ละมือ 0:01:25.988,0:01:28.518 และด้วยการใช้มืออีกข้างนับกลุ่มของ 24 0:01:28.518,0:01:31.668 เราจะนับได้มากถึง 576 0:01:31.668,0:01:33.008 เรายังนับได้มากกว่านี้อีกไหม 0:01:33.008,0:01:36.417 ดูเหมือนว่าเรามาถึงจุดสิ้นสุด[br]ของส่วนต่าง ๆ ของนิ้ว 0:01:36.417,0:01:38.763 ที่เราจะสามารถใช้นับได้อย่างแม่นยำแล้ว 0:01:38.763,0:01:40.620 ถ้าอย่างนั้น มาลองคิดให้ต่างออกไปจากเดิม 0:01:40.620,0:01:43.318 หนึ่งในการประดิษฐ์ทางคณิตศาสตร์[br]ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา 0:01:43.318,0:01:46.689 คือระบบการให้กำหนดตำแหน่ง 0:01:46.689,0:01:50.849 ซึ่งการจัดตำแหน่งของสัญลักษณ์[br]ทำให้เกิดขนาดที่แตกต่างกันของค่า 0:01:50.849,0:01:53.218 อย่างเช่น ตัวเลข 999 0:01:53.218,0:01:55.729 แม้ว่าสัญลักษณ์เดียวกันจะถูกใช้ถึงสามหน 0:01:55.729,0:01:59.850 แต่ละตำแหน่งบ่งบอก[br]ลำดับที่แตกต่างกันของขนาด 0:01:59.850,0:02:05.539 ฉะนั้น เราสามารถใช้ค่าเชิงตำแหน่ง[br]กับนิ้วของเราเพื่อเอาชนะสถิติเดิมของเรา 0:02:05.539,0:02:07.849 ลืมเรื่องส่วนของนิ้วไปสักเดี๋ยว 0:02:07.849,0:02:12.163 และลองมาคิดดูง่าย ๆ ว่า[br]เรามีเพียงสองตัวเลือกต่อนิ้ว 0:02:12.163,0:02:13.939 คือขึ้นกับลง 0:02:13.939,0:02:16.329 นั่นไม่สามารถแทนที่ระบบเลขยกกำลังสิบได้ 0:02:16.329,0:02:20.380 แต่มันเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งกับระบบการนับ[br]ที่ใช้เลขยกกำลังสอง 0:02:20.380,0:02:22.489 หรือที่เรียกกันว่า ฐานสอง 0:02:22.489,0:02:26.279 ในระบบฐานสอง แต่ละตำแหน่งมีค่าเป็น[br]สองเท่าของตำแหน่งที่อยู่ก่อนหน้ามัน 0:02:26.279,0:02:29.320 ฉะนั้นเราสามารถใช้นิ้วของเรากำหนดค่าหนึ่ง 0:02:29.320,0:02:30.190 สอง 0:02:30.190,0:02:30.940 สี่ 0:02:30.940,0:02:31.738 แปด 0:02:31.738,0:02:34.293 ไปเรื่อย ๆ จนถึง 512 0:02:34.293,0:02:36.941 และตำแหน่งจำนวนเต็มใด ๆ ถึงขอบเขตหนึ่ง ๆ 0:02:36.941,0:02:39.980 สามารถถูกแสดงออกมา[br]เป็นผลรวมของจำนวนเหล่านี้ 0:02:39.980,0:02:43.771 ยกตัวอย่างเช่น เจ็ด[br]คือ 4+2+1 0:02:43.771,0:02:47.640 ฉะนั้น เราสามารถแทนมันได้[br]ด้วยสามนิ้วเหล่านี้ที่ถูกยกขึ้น 0:02:47.640,0:02:56.290 ในขณะที่ 250 คือ[br]128+64+32+16+8+2 0:02:56.290,0:02:58.260 เรานับได้มากแค่ไหนล่ะตอนนี้ 0:02:58.260,0:03:03.491 นั่นคือจำนวนที่นิ้วทั้งสิบถูกยกขึ้น[br]หรือ 1,023 0:03:03.491,0:03:05.631 มันเป็นไปได้หรือไม่[br]ที่จะนับจำนวนที่มากกว่านั้น 0:03:05.631,0:03:07.730 มันขึ้นอยู่กับว่าคุณคล่องขนาดไหน 0:03:07.730,0:03:12.381 ถ้าคุณสามารถงอนิ้วแต่ละนิ้วเพียงครึ่งหนึ่ง[br]นั่นจะทำให้เราได้สามแบบ 0:03:12.381,0:03:13.321 ลง 0:03:13.321,0:03:14.391 ครึ่ง 0:03:14.391,0:03:15.761 และขึ้น 0:03:15.761,0:03:19.612 ทีนี้ เราสามารถนับโดยใช้ระบบ[br]ที่พึ่งตำแหน่งทั้งสามนี้ 0:03:19.612,0:03:24.980 ได้มากถึง 59,048 0:03:24.980,0:03:28.741 และถ้าคุณงอนิ้วเป็นสี่แบบ[br]หรือมากกว่านั้น 0:03:28.741,0:03:30.641 คุณสามารถนับได้มากขึ้น 0:03:30.641,0:03:36.202 ขอบเขตจึงขึ้นอยู่กับคุณ[br]และความยืดหยุ่นและช่างคิดของคุณ 0:03:36.202,0:03:38.802 แม้แต่การใช้นิ้วของเรา[br]ในการนับที่มีความแตกต่างสองแบบ 0:03:38.802,0:03:41.301 เราก็ค่อนข้างจะสามารถใช้งานมัน[br]ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว 0:03:41.301,0:03:45.332 อันที่จริง คอมพิวเตอร์ของเรา[br]ใช้หลักการเดียวกัน 0:03:45.332,0:03:48.492 แต่ละไมโครชิพ[br]ประกอบด้วยสวิตซ์ไฟฟ้าเล็ก ๆ 0:03:48.492,0:03:51.182 ที่สามารถเปิดหรือปิดได้ 0:03:51.182,0:03:55.752 นั่นหมายถึงระบบฐานสอง[br]คือวิธีการพื้นฐานที่ใช้แสดงตัวเลข 0:03:55.752,0:04:00.192 และเช่นเดียวกับที่เราสามารถใช้ระบบนี้[br]ในการนับด้วยนิ้วของเราได้มากกว่า 1,000 0:04:00.192,0:04:03.199 คอมพิวเตอร์สามารถดำเนินการสิ่งต่าง ๆ[br]ได้มากมายหลายพันล้านอย่าง 0:04:03.199,0:04:07.373 ด้วยการนับจาก 1 หรือ 0