ผมเป็นคนทำงานได้หลายอย่าง ในฐานะเป็นนักวิทยาศาสตร์ ผมเป็นหัวหน้าทีม แบบจำลองดาวอังคารของนาซ่าเมื่อปีที่แล้ว ในฐานะเป็นนักศิลปิน ผมสร้างศิลปะที่รวบรวม วัฒนธรรมที่หลากหลายไว้ทั่วโลก และเมื่อเร็วๆนี้ ผมได้ลงมือรวมทั้งสองอย่าง เข้าไว้ด้วยกัน แต่ก่อนอื่นผมขอพูดสักนิดเกี่ยวกับ เรื่องพันธกิจของนาซ่า โปรแกรมนี้ชื่อ ไฮซีส์ HI-SEAS ไฮซีส์ได้รับการเงินทุนสนับสนุนจากนาซ่า สร้างแบบการจำลองพื้นผิวของดาว บนภูเขาไฟมอน่าลัว ที่ฮาวาย และเป็นโปรแกรมงานวิจัยที่ออกแบบโดยเฉพาะ ให้ศึกษาผลของการปลีกตัวของคนกลุ่มเล็กๆ ผมอาศัยในโดมนี้เป็นเวลานานถึงสี่เดือน พร้อมกับลูกทีมทั้งหกคน แน่นอน เป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจมากเลย พวกเราทำวิจัยทุกรูปแบบ งานวิจัยหลักของเราคือการศึกษาเรื่องอาหาร แต่นอกเหนือจากการศึกษาเรื่องอาหาร -- การพัฒนาระบบอาหารแบบใหม่ให้กับ นักอวกาศบนอวกาศ -- เราได้ทำงานวิจัยเรื่องอื่น ๆ ด้วย เราทำกิจกรรมภายนอกที่พิเศษยิ่งด้วย อย่างที่คุณเห็นตรงนี้ เราใส่ชุดนักบินอวกาศจำลอง แต่ เราก็มีงานของเรา และ เรื่องอื่นๆที่ต้องทำด้วย เช่น ทำแบบสอบถาม ทุกๆ สิ้นวันทำการ งานยุ่งมาก ๆ เลยทีเดียว ตอนนี้ คุณอาจจินตนาการว่า มันค่อนข้างท้าทายเดียวในการอยู่ ร่วมกับกลุ่มคนจำนวนไม่มาก ในพื้นที่เล็กเป็นระยะเวลานาน มีความท้าทายหลายอย่างทีเดียวทางด้านจิตใจ ทำอย่างไรให้ทีมอยู่ด้วยกันได้ในสภาวะแบบนี้ จะจัดการอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องของเวลา ที่คุณเริ่มรู้สึกได้ เมื่อคุณต้องอยู่ในสภาวะแบบนี้ ปัญหาเรื่องการนอนที่เกิดขึ้น เป็นต้น แต่เราก็ได้เรียนรู้มากมายเช่นกัน ผมได้เรียนรู้อย่างมากเกี่ยวกับ วิธีการที่ลูกทีมแต่ละคน แก้ปัญหาในสถานการณ์แบบนี้ ทำอย่างไรคุณจึงสามารถทำให้ลูกทีม มีผลผลิตและมีความสุข ตัวอย่างเช่น ให้อำนาจพวกเขาตัดสินใจได้เอง ก็เป็นเทคนิคที่ดีอันนึงด้วย และโดยสัตย์จริงๆแล้ว ผมได้เรียนรู้มาก เกี่ยวกับการเป็นผู้นำ เพราะผมเป็นหัวหน้าของทีม เพราะฉะนั้นการทำพันธกิจนี้ ผมจึงเริ่มคิดลึกถึงเรื่องใน อนาคตของพวกเราบนอวกาศ พวกเราจะเดินทางไปยังอวกาศ และ เราจะเริ่มอยู่อาศัยบนนั้น ผมไม่สงสัยเลยถ้ามันจะเกิดขึ้น มันอาจใช้เวลาถึง 50 ปี หรือ อาจใช้เวลาถึง 500 ปี แต่ มันจะต้องเกิดขึ้นแน่นอนไม่ต้องสงสัยเลย เพราะฉะนั้นผมจึงคิดโครงการศิลปะใหม่ ตั้งชื่อว่า ซีกเกอร์ (Seeker) และ โครงการ ซีกเกอร์ นี่จริงๆแล้วคือการ ท้าทายชุมชนต่างๆรอบโลก ให้สร้างต้นแบบของยานอวกาศขึ้นมา ที่จะเปลี่ยนการพักอาศัยและ การเอาตัวรอดของมนุษย์ นั่นคือมันเป็นแก่นแท้ของโครงการ มีสิ่งที่สำคัญอีกอย่างนึง นั่นคือ มันไม่ใช่โครงการในจินตนาการ มันไม่ใช่เกี่ยวกับ "พระเจ้าช่วย โลกเรากำลังจะเลวร้าย และ เราต้องหนีไป เพราะอนาคตข้างหน้า พวกเราอยู่ที่อื่น" ไม่ ไม่ใช่นะครับ เบื้องต้นแล้วโครงการนี้ต้องการเขิญชวน ผู้คนเข้ามา เพื่อหาทางออกห่างจากขีดจำกัดบนโลกของเรา และแล้ว ให้เราทบทวนจินตนาการ ของเราเกี่ยวกับอนาคต และ มันมีประโยชน์จริงๆ มันได้ผลดีจริงๆ นั่นเป็นเรื่องสำคัญของสิ่งที่เรากำลังทำอะไรอยู่ ในตอนนี้ โครงการนี้ ผมกำลังใช้เป้าหมายร่วมกัน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่แตกต่างจากเดิมเล็กน้อย จากเดิมที่คุณมักจะคาดหวังจากศิลปินทั่วไป ผมเสนอความคิดพื้นฐานที่ขาดเสียไม่ได้ กับกลุ่มคน และชุมชน แล้วผู้คนก็เริ่มมาระดมความคิดกัน และร่วมมือกัน เราทำให้เป็นรูปร่าง และสร้างงานศิลปะ จริงๆ มันดูเหมือนคล้ายปลวกเล็กน้อย เราเพียงแค่มาทำงานร่วมกัน และ ถึงแม้ ตัวอย่างเช่น เมื่อสถาปนิก มาชมว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ บางครั้งพวกเขาก็มีช่วงเวลาที่ยุ่งยากใจ กับการทำความเข้าใจ พวกเราทำมันได้อย่างไรโดยไม่มีแม่แบบ พวกเรามักจะทำสิ่งเหล่านี้ออกมาด้วย โครงสร้างขนาดใหญ่โตและมหัศจรรย์ ที่คนเราสามารถเข้าไปอยู่ได้จริงๆ เวอร์ชั่นแรกสำเร็จที่ เบลเยียมและฮอลแลนด์ มันถูกสร้างขึ้นด้วยทีมงานกว่า 50 คน ส่วนนี่เป็นการทำซ้ำแบบโครงการเดียวกัน แต่ทำที่สโลวีเนีย ในประเทศที่แตกต่างกัน และในกลุ่มใหม่ที่คล้ายกัน เรากำลังสร้าง สถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นพวกเขารื้อสถาปัตยกรรมออก พวกเขาเหลือแค่ฐานรากงานศิลป์ และสร้างมันขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ด้วยความเป็นสถาปัตยกรรมชีวรูปมากยิ่งขึ้น บนที่ด้านบนนั้น และนั่นคืออีกส่วนที่ดีเยี่ยมของโครงการ คือ การพัฒนาศิลปะ การพัฒนาสถาปัตยกรรม นี่เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดที่แสดง เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ฮอลแลนด์ ที่ใช้รถพ่วงหลายคันใช้เป็นแบบสร้างยานอวกาศ เราได้ซื้อรถพ่วงมือสองหลายคัน และชำแหละมันออกมา แล้วประกอบพวกมันให้เป็นยานอวกาศ ตอนนี้เมื่อเราคิดถึงเกี่ยวกับยานอวกาศ เราไม่ได้จัดการกับมันให้เพียงแค่ เรื่องความท้าทายทางเทคโนโลยี เรามองมันอย่างจริงจังว่า มีส่วนประกอบ 3 ระบบด้วยกัน: ระบบนิเวศ มนุษย์ และ เทคโนโลยี มันจะมีส่วนประกอบที่เกี่ยวกับ ระบบนิเวศที่ก้าวหน้าอยู่ด้วยเสมอ อย่างที่คุณเห็นระบบเกษตรผสมผสานพึ่งพากัน ที่ทำอยู่รอบๆนักบินอวกาศ พวกมันเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน กับอาหารที่พวกเขากิน ตอนนี้สิ่งที่เป็นรูปแบบของโครงการนี้คือ เรามีภาระกิจที่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยวภายใต้ งานศิลปะและออกแบบโครงการนี้ เราขังตัวเองไว้ในนั้นเป็นเวลาหลายวัน จนงานสำเร็จ และทดสอบสิ่งที่พวกเราสร้าง และนี่คือตัวอย่างเช่น ทางด้านขวาคุณจะเห็นภาระกิจการอยู่อย่างโดดเดี่ยว ใน พิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ที่เมือง ลูบลิยานา ประเทศสโลวีเนีย สถานที่ศิลปินและนักออกแบบหกคน ขังตัวเองไว้ข้างใน -- ผมก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น -- เป็นเวลา 4 วันในพิพิธภัณฑ์ แน่นอนว่ามันให้ความรู้สึกที่ แตกต่างจากชีวิตทั่วไป และ เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา โครงการเวอร์ชั่นถัดไปกำลังอยู่ในช่วงพัฒนา ร่วมกับ คามิโล่ โรดริเกซ เบลรัน ซึ่งเป็น TED Fellow เช่นกัน ที่ทะเลสาปอาตากามาประเทศชิลี สถานที่มหัศจรรย์ ก่อนอื่นเลย สถานที่นี่ถูกเปรียบเทียบ เสมือนดาวอังคาร มันดูเหมือนดาวอังคารมากในบางพื้นที่ และ นาซ่าใช้สถานที่นี้ไว้ทดสอบเครื่องมือ และมันมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เกี่ยวกับอวกาศ ผ่านการสำรวจดวงดาวต่างๆ ตอนนี้มันเป็นบ้านของอัลมา กล้องโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่ถูกพัฒนาขึ้นที่นี่ แต่ก็ยังเป็นสถานที่แห้งแล้งที่สุดในโลก และนี่เป็นเหตุผลว่ามันถึงน่าสนใจมากเลย ที่เราจะไปทำโครงการที่นี่ เพราะทันทีทันใด การพัฒนาที่ยั่งยืน คือสิ่งที่เราต้องการค้นหาอย่างเต็มที่ เราไม่มีทางเลือกอื่น ดังนั้นผมอยากรู้จริงๆว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตอนนี้สิ่งที่พิเศษสำหรับเวอร์ชั่น เฉพาะเจาะจงของโครงการนี้ คือสิ่งที่ผมสนใจจะเห็นมาก เราสามารถติดต่อกับคนท้องถิ่นได้อย่างไร คนพื้นเมือง คนเหล่านี้อยู่อาศัยที่นี่มายาวนานมาก และอาจถูกเรียกว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยั่งยืน ดังนั้นผมเลยสนใจมากที่จะได้รู้ว่า เราสามารถเรียนรู้อะไรจากพวกเขา และรวบรวมภูมิปัญญาชาวบ้าน มาใช้กับการสำรวจอวกาศ เรากำลังเปลี่ยนนิยามใหม่ของ อนาคตที่เราเห็นบนอวกาศ โดยสำรวจการผสมผสาน ระหว่าง ชีววิทยา เทคโนโลยี และ มนุษย์ โดยให้ทุกคนมีส่วนร่วม และ ใช้ และ สำรวจประเพณีท้องถิ่น และ ดูว่าเราสามารถเรียนรู้จากอดีตอย่างไร โดยรวมมันเป็นอนาคตของพวกเรา ขอบคุณครับ (เสียงปรบมือ)