0:00:08.460,0:00:11.090 การสื่อสารใต้น้ำมีความท้าทาย 0:00:11.090,0:00:16.650 แสงและกลิ่นเดินทางได้ไม่ดีนัก [br]สัตว์น้ำจริงมองเห็นและดมกลิ่นได้ลำบาก 0:00:16.650,0:00:21.840 แต่เสียงเคลื่อนที่ในน้ำที่ได้เร็วกว่าในอากาศถึงสี่เท่า 0:00:21.840,0:00:23.440 ฉะนั้น ในสิ่งแวดล้อมที่มืดมิด 0:00:23.440,0:00:28.351 สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล[br]จึงมักพึ่งพาใช้เสียงในการสื่อสารกัน 0:00:28.351,0:00:32.057 นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม[br]จึงมีเสียงประสานกันมากมายในมหาสมุทร 0:00:32.057,0:00:32.822 เสียงคลิ๊ก 0:00:32.822,0:00:33.522 เสียงเต้นตุบ ๆ เป็นจังหวะ 0:00:33.522,0:00:34.544 เสียงกระซิบ 0:00:34.544,0:00:35.431 เสียงคราง 0:00:35.431,0:00:36.281 เสียงดีดเด้ง 0:00:36.281,0:00:37.080 เสียงร้อง 0:00:37.080,0:00:39.791 และเสียงสั่นเป็นระลอก เป็นต้น 0:00:39.791,0:00:42.291 แต่ส่วนที่โด่งดังที่สุดของวงมโหรีใต้น้ำนี้ 0:00:42.291,0:00:48.111 คือท่วงทำนองที่สื่อภาพ หรือเพลงที่ถูกประพันธ์[br]โดยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก [br] 0:00:48.111,0:00:50.741 วาฬ 0:00:50.741,0:00:54.602 เพลงของวาฬคือหนึ่งในระบบการสื่อสาร[br]ที่ซับซ้อนมากที่สุด 0:00:54.602,0:00:56.472 ในอาณาจักรสัตว์ 0:00:56.472,0:00:59.181 มีเพียงบางสายพันธุ์เท่านั้น[br]ที่เรารู้ว่าสามารถร้องเพลงได้ 0:00:59.181,0:00:59.924 วาฬสีน้ำเงิน 0:00:59.924,0:01:00.832 วาฬฟิน 0:01:00.832,0:01:01.701 วาฬโบวเฮด 0:01:01.701,0:01:03.181 วาฬมินค์ 0:01:03.181,0:01:06.282 และแน่นอน วาฬหลังค่อม 0:01:06.282,0:01:08.032 ทั้งหมดนี้คือวาฬเบลีน 0:01:08.032,0:01:12.921 ซึ่งใช้แผงคล้ายซี่หวีแทนฟัน[br]ในการดักจับเหยื่อของมัน 0:01:12.921,0:01:16.322 ในขณะเดียวกัน วาฬที่มีฟัน[br]ใช้เอโคโลเคชัน 0:01:16.322,0:01:19.182 และพวกมันและสายพันธุ์อื่น ๆ ของวาฬเบลีน 0:01:19.182,0:01:23.871 ก็สร้างเสียงทางสังคม เช่น[br]เสียงร้องและเสียงหวีด ในการสื่อสาร 0:01:23.871,0:01:28.292 แต่การทำเสียงเหล่านั้น[br]ขาดความซับซ้อนของเพลง 0:01:28.292,0:01:29.992 แล้วพวกมันทำอย่างไรล่ะ 0:01:29.992,0:01:34.988 สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบนบกอย่างพวกเรา[br]สร้างเสียงโดยการเคลื่อนอากาศบนเส้นเสียง 0:01:34.988,0:01:38.114 เมื่อเราหายใจออกทำให้เส้นเสียงเกิดการสั่น 0:01:38.114,0:01:42.262 วาฬเบลีนมีเนื้อเยื่อโค้งเป็นรูปตัวยู[br]ระหว่างปอดของมัน 0:01:42.262,0:01:47.492 และอวัยวะขนาดที่พองได้[br]ที่เรียกว่า ถุงกล่องเสียง 0:01:47.492,0:01:49.705 เราไม่รู้แน่ชัด 0:01:49.705,0:01:53.115 เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะสำรวจ[br]อวัยวะภายในนี้ 0:01:53.115,0:01:55.104 ขณะที่วาฬที่มีชีวิตอยู่ร้องเพลง 0:01:55.104,0:01:57.333 แต่เราคาดว่าเมื่อวาฬร้องเพลง 0:01:57.333,0:02:00.113 การหดตัวของกล้ามเนื้อในลำคอและอก 0:02:00.113,0:02:06.023 เคลื่อนอากาศจากปอดไปตามโค้งรูปตัวยู[br]และเข้าไปยังถุงกล่องเสียง 0:02:06.023,0:02:08.483 ทำให้โค้งตัวยูนั้นสั่น 0:02:08.483,0:02:14.163 การสั่นพ้องเสียงในถุงที่ออกมานั้น[br]เหมือนกับเสียงของคณะนักร้องในโบสถ์ 0:02:14.163,0:02:19.194 ทำให้เสียงดังพอที่จะแผ่ออกไป[br]มากถึงหลายพันกิโลเมตร 0:02:19.194,0:02:21.765 เมื่อวาฬไม่ต้องหายใจออกเพื่อที่จะร้องเพลง 0:02:21.765,0:02:25.334 อากาศถูกถึงกลับเข้ามาในปอดอีกครั้งแทน 0:02:25.334,0:02:27.984 เพื่อสร้างเสียงอีกครั้ง 0:02:27.984,0:02:31.763 เหตุผลหนึ่งที่เพลงของวาฬเป็นที่น่าหลงใหล[br]ก็คือคือรูปแบบของมัน 0:02:31.763,0:02:36.615 เสียงต่าง ๆ เช่นการครวญ การร้อง[br]และการส่งเสียงจ๊อกแจ๊กผสานกันเป็นวลี 0:02:36.615,0:02:39.674 วลีที่ถูกใช้ซ้ำ ๆ [br]ถูกรวมเข้าด้วยกันเป็นเพลงหลัก 0:02:39.674,0:02:44.553 เพลงหลักหลาย ๆ ท่อนที่ถูกทำซ้ำ ๆ [br]ในรูปแบบที่คาดเดาได้กลายเป็นเพลง 0:02:44.553,0:02:47.115 โครงสร้างเชิงลำดับนี้[br]เป็นไวยากรณ์อย่างหนึ่ง 0:02:47.115,0:02:50.842 เพลงของวาฬมีช่วงเวลาที่แตกต่างกันมาก 0:02:50.842,0:02:54.135 และวาฬสามารถทำมันซ้ำ ๆ [br]ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า 0:02:54.135,0:02:59.954 ในช่วงการบันทึกหนึ่ง[br]วาฬหลังค่อมร้องเพลงนาน 22 ชั่วโมง 0:02:59.954,0:03:01.564 แล้วมันทำอย่างนั้นทำไม 0:03:01.564,0:03:05.155 เรายังไม่รู้ว่าจุดประสงค์จริง ๆ แล้วคืออะไร[br]แต่เราสามารถคาดเดาได้ 0:03:05.155,0:03:09.315 เนื่องจากตัวผู้เป็นผู้ร้อง[br]และพวกมันมักร้องในฤดูผสมพันธ์ุ 0:03:09.315,0:03:12.266 เพลงอาจมีไว้เพื่อดึงความสนใจของตัวเมีย 0:03:12.266,0:03:17.036 หรือบางที พวกมันอาจถูกใช้ไล่ตัวผู้อื่น ๆ [br]ที่เข้ามาในเขตแดน 0:03:17.036,0:03:21.155 วาฬกลับมายังแหล่งอาหาร[br]และแหล่งผสมพันธุ์เดิมทุก ๆ ปี 0:03:21.155,0:03:24.966 และแต่ละกลุ่มประชากรก็มีเพลงที่แตกต่างกัน 0:03:24.966,0:03:31.196 เพลงมีวิวัฒนาการตามกาลเวลา ในขณะที่[br]เสียงหรือวลีถูกเติม เปลี่ยน หรือละทิ้งไป 0:03:31.196,0:03:35.020 และเมื่อตัวผู้จากกลุ่มประชากรอื่น[br]กำลังหากินอยู่ในระยะที่ได้ยินกัน 0:03:35.020,0:03:37.300 วลีเหล่านั้นมักได้รับการแลกเปลี่ยน 0:03:37.300,0:03:41.855 บางที เพราะว่าเพลงใหม่ทำให้พวกมัน[br]น่าดึงดูดต่อตัวเมียมากกว่าเดิม 0:03:41.855,0:03:45.586 นี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างของ[br]การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่รวดเร็ว 0:03:45.586,0:03:49.470 ซึ่งพฤติกรรมที่เรียนรู้ได้นี้ถูกส่งผ่าน[br]ระหว่างสิ่งมีชีวิตทั้งสองที่ไม่มีความสัมพันกัน 0:03:49.470,0:03:51.520 ในสายพันธุ์เดียวกัน 0:03:51.520,0:03:54.507 เราสามารถแอบฟังเพลงเหล่านี้[br]โดยใช้ไมโครโฟนใต้น้ำ 0:03:54.507,0:03:56.406 ที่เรียกว่า ไฮโดรโฟน 0:03:56.406,0:04:02.007 มันช่วยให้เราติดตามพวกมันได้ เมื่อ[br]การสังเกตหรือตัวอย่างทางพันธุกรรมหาได้ยาก 0:04:02.007,0:04:04.897 ยกตัวอย่างเช่น นักวิทยาศาสตร์สามารถแยกแยะ 0:04:04.897,0:04:10.335 ฝูงวาฬสีน้ำเงินทั่วโลกที่หาตัวจับยาก[br]โดยพึ่งเสียงเพลงของพวกมัน 0:04:10.335,0:04:14.946 แต่มหาสมุทรกำลังหนวกหูมากขึ้นเรื่อย ๆ [br]อันเป็นผลมาจากกิจกรรมของมนุษย์ 0:04:14.946,0:04:15.676 การเดินเรือ 0:04:15.676,0:04:16.756 โซนาร์ทางทหาร 0:04:16.756,0:04:18.127 การก่อสร้างใต้น้ำ 0:04:18.127,0:04:22.156 และการสำรวจอันอึกทึกเพื่อหาน้ำมัน[br]ก็เกิดขึ้นบ่อยขึ้น 0:04:22.156,0:04:25.347 ซึ่งอาจรบกวนกับการสื่อสารของวาฬ 0:04:25.347,0:04:28.667 วาฬบางตัวจะหลีกเลี่ยง[br]แหล่งหากินและผสมพันธุ์ 0:04:28.667,0:04:31.298 ถ้ามนุษย์ส่งเสียงดังเกินไป 0:04:31.298,0:04:34.557 พบว่าวาฬหลังค่อมร้องเพลงน้อยลง 0:04:34.557,0:04:38.898 อันเนื่องมาจาก[br]เสียงที่ห่างออกไป 200 กิโลเมตร 0:04:38.898,0:04:41.557 การจำกัดกิจกรรมของมนุษย์[br]ตลอดแนวอพยพของวาฬ 0:04:41.557,0:04:43.617 และในแหล่งอื่น ๆ ที่มีความสำคัญต่อมัน 0:04:43.617,0:04:46.437 และการลดมลภาวะทางเสียง[br]ทั่วทั้งมหาสมุทร 0:04:46.437,0:04:49.987 จะช่วยทำให้เรามั่นใจได้ว่า[br]วาฬจะยังมีชีวิตรอดต่อไป 0:04:49.987,0:04:52.838 ถ้าวาฬยังสามารถร้องเพลงได้[br]พวกเราก็ยังสามารถฟังมันต่อไปได้ 0:04:52.838,0:04:56.537 บางที สักวันหนึ่งเราจะเข้าใจอย่างถ่องแท้[br]ว่าพวกมันคุยอะไรกัน