WEBVTT 00:00:07.049 --> 00:00:10.164 ในบางครั้ง เมื่อปลาถูกลากขึ้นมาบนผิวน้ำ 00:00:10.164 --> 00:00:12.160 ตัวของมันจะพองออก 00:00:12.160 --> 00:00:14.222 ตาของมันปูดออกมาจากเบ้า 00:00:14.222 --> 00:00:16.622 และกระเพาะอาหาร โผล่แลบออกมาจากปาก 00:00:16.622 --> 00:00:19.289 ตัวของมันขยายใหญ่ขึ้นราวกับลูกโป่ง 00:00:19.289 --> 00:00:22.893 ความเสียหายทางร่างกายชนิดนี้เกิดจาก ความดันอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว 00:00:22.893 --> 00:00:25.433 เรียกว่า "บาโรทรอม่า" (Barotrauma) 00:00:25.433 --> 00:00:30.350 ใต้ท้องทะเล ความดันจะเพิ่มขึ้น 14.7 ปอนด์ต่อหนึ่งตารางนิ้ว 00:00:30.350 --> 00:00:33.848 สำหรับความลึกทุก ๆ 33 ฟุตที่เพิ่มขึ้น 00:00:33.848 --> 00:00:35.750 ดังนั้น ถ้านำปลาร๊อคฟิชตาสีเหลือง 00:00:35.750 --> 00:00:38.926 ซึ่งสามารถอาศัยอยู่ในระดับความลึก 1800 ฟุต 00:00:38.926 --> 00:00:43.423 ที่ซึ่งมีความกดอากาศมากกว่า 800 ปอนด์ บนทุก ๆ หนึ่งตารางนิ้ว 00:00:43.423 --> 00:00:47.854 นั่นหนักเทียบเท่ากับหมีขั้วโลกหนึ่งตัว ที่กำลังทรงตัวอยู่บนเหรียญ 25 เซนต์ 00:00:47.854 --> 00:00:50.106 ทีนี้ กฏของบอยล์ในเรื่องแก๊ส (Boyle's gas law) 00:00:50.106 --> 00:00:54.416 กล่าวว่า ปริมาตรแก๊สแปรผกผันกับความดัน 00:00:54.416 --> 00:00:58.366 ดังนั้น ที่ไหนก็ตามที่มีอากาศ อย่างกระเพาะของปลาร๊อคฟิช 00:00:58.366 --> 00:01:00.165 หรือ ปอดของมนุษย์ 00:01:00.165 --> 00:01:02.469 จะถูกบีบอัดตามระดับความลึก 00:01:02.469 --> 00:01:05.077 และขยายตัวออกเมื่อขึ้นสู่ผิวน้ำ 00:01:05.077 --> 00:01:09.377 เมื่อปลาติดเบ็ด และถูกดึงขึ้นมาอย่างรวดเร็วสู่ผิวน้ำ 00:01:09.377 --> 00:01:12.980 อากาศที่อยู่ในกระเพาะของมัน จะขยายตัวออก 00:01:12.980 --> 00:01:17.412 การขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้ ดันให้เครื่องในของมันทะลักออกมาทางปาก 00:01:17.412 --> 00:01:22.481 ในขณะเดียวกันความดันภายใน ก็ได้ดันลูกตาปลา ปูดออกมานอกเบ้า 00:01:22.481 --> 00:01:25.403 อาการนี้เรียกว่า "เอ็กซอฟตาเมีย" (exophthalmia) 00:01:25.403 --> 00:01:29.652 บางครั้งลูกตาของปลาร๊อคฟิช ก็มีการตกผลึกปรากฏออกมา 00:01:29.652 --> 00:01:31.895 จากตำแหน่งถุงลมในกระจกตา 00:01:31.895 --> 00:01:35.567 ซึ่งฟองแก๊สเล็ก ๆ ได้ถูกสร้างขึ้นภายในกระจกตานี้ 00:01:35.567 --> 00:01:40.505 ต้องขอบคุณที่นักดำน้ำ ไม่มีอวัยวะถุงลมแบบปิดนี้ให้กังวล 00:01:40.505 --> 00:01:45.172 นักดำน้ำสามารถควบคุมแรงดันในปอด โดยการหายใจออกตามระดับการลอยตัว 00:01:45.172 --> 00:01:49.472 แต่ต้องระวังกฏฟิสิกส์ข้อนึง ที่เล่นงานเราเมื่ออยู่ในน้ำ 00:01:49.472 --> 00:01:53.429 กฏของเฮนรีกล่าวว่า ปริมาตรของแก๊ส ที่ละลายอยู่ในของเหลว 00:01:53.429 --> 00:01:56.635 จะแปรผันตรงกับความดัน 00:01:56.635 --> 00:02:00.720 อากาศที่นักดำน้ำใช้หายใจ มีไนโตรเจนอยู่ 78% 00:02:00.720 --> 00:02:02.521 ที่ความกดอากาศใต้น้ำสูงขึ้น 00:02:02.521 --> 00:02:04.957 ไนโตรเจนภายในถังหายใจ 00:02:04.957 --> 00:02:10.907 จะกระจายตัวออกเข้าสู่เนื้อเยื่อของนักดำน้ำ เข้มข้นกว่าตอนอยู่บนพื้นดิน 00:02:10.907 --> 00:02:13.245 ถ้านักดำน้ำไต่ระดับขึ้นผิวน้ำเร็วไป 00:02:13.245 --> 00:02:16.434 ไนโตรเจนในร่างกาย จะหลุดจากการเป็นของเหลว 00:02:16.434 --> 00:02:20.326 และก่อตัวเป็นฟองอากาศเล็ก ๆ ตามเนื้อเยื่อ เลือด ข้อต่อ 00:02:20.326 --> 00:02:24.491 ก่อให้เกิดอาการน้ำหนีบ (aka the bends) 00:02:24.491 --> 00:02:28.921 มันคล้ายกับฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อเราเปิดขวดโซดา 00:02:28.921 --> 00:02:32.172 แก๊สจะหลุดจากสถานะของเหลว เมื่อความดันถูกปล่อยออก 00:02:32.172 --> 00:02:34.872 แต่สำหรับนักดำน้ำ ฟองอากาศนี้ สร้างความเจ็บปวดอย่างมาก 00:02:34.872 --> 00:02:37.184 และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ 00:02:37.184 --> 00:02:40.519 นักดำน้ำจึงหลีกเลี่ยงอาการน้ำหนีบ โดยการขึ้นสู่ผิวน้ำช้า ๆ 00:02:40.519 --> 00:02:45.311 และหยุดพักหายใจตลอดทาง เรียกกว่า การพักน้ำ 00:02:45.311 --> 00:02:48.296 เพื่อให้แก๊สได้มีเวลา ในการกระจายตัวกลับสู่เนื้อเยื่อ 00:02:48.296 --> 00:02:51.026 และปล่อยออกมาผ่านการหายใจ 00:02:51.026 --> 00:02:53.022 เป็นเหตุว่าทำไม นักดำน้ำจึงต้องพักน้ำ 00:02:53.022 --> 00:02:56.427 สำหรับการรักษาปลา ต้องใช้การปรับความดันใหม่ 00:02:56.427 --> 00:02:59.509 ซึ่งจะสำเร็จได้ โดยการนำมันกลับลงไปในน้ำ 00:02:59.509 --> 00:03:02.982 แต่ไม่ใช่แค่โยนมันลงไปจากเรือ 00:03:02.982 --> 00:03:04.809 ร่างกายที่ป่องพองจะทำให้มันลอย 00:03:04.809 --> 00:03:09.196 และกลายเป็นเหยื่อของสิงโตทะเลหิวโซ หรือ จะงอยปากนกนางนวล 00:03:09.196 --> 00:03:10.495 มีวิธีตามความเชื่อแบบง่าย ๆ 00:03:10.495 --> 00:03:14.384 โดยการเจาะท้องของมันด้วยเข็ม เพื่อให้อากาศรั่วออกมา 00:03:14.384 --> 00:03:17.023 ทำให้มันสามารถว่ายลงไปในน้ำ ได้ด้วยตัวมันเอง 00:03:17.023 --> 00:03:19.910 แต่มันก็เป็นลูกโป่งลูกนึง ที่ไม่ควรจะโดนเจาะ 00:03:19.910 --> 00:03:22.449 การนำปลาลงไปยังที่อยู่อาศัย ของมันอย่างถูกต้อง 00:03:22.449 --> 00:03:25.213 คนตกปลาสามารถใช้ รอกหย่อนปลาแทนได้ 00:03:25.213 --> 00:03:29.902 โดยหย่อนปลาลงไปตามสาย และปล่อยมันเมื่อถึงระดับความลึกที่ใช่ 00:03:29.902 --> 00:03:32.922 ส่งมันกลับบ้าน และให้ความดันปรับตัวของมันเอง 00:03:32.922 --> 00:03:35.652 ตาของมันก็จะกลับเข้าเบ้าตา และได้รับการรักษา 00:03:35.652 --> 00:03:38.965 กระเพาะของมันก็กลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิม 00:03:38.965 --> 00:03:41.153 ปลาตัวนี้ก็จะมีชีวิตอยู่รอดไปอีกวัน 00:03:41.153 --> 00:03:46.926 อีกครั้งที่ได้แหวกว่ายอย่างอิสระ ได้กิน และได้แพร่ขยายพันธ์ุต่อไป