- สมมุติว่าผมอยากหาปริมาตรของลูกบาศก์ โดยที่ค่า ของลูกบาศก์ -- สมมุติว่า x อยู่ระหว่าง -- x มากกว่า หรือเท่ากับ 0, น้อยกว่าหรือเท่ากับ ไม่รู้สิ, 3 สมมุติว่า y มากกว่าเท่ากับ 0, และ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 4 แล้วสมมุติว่า z มากกว่าหรือเท่ากับ 0 และ น้อยกว่าเท่ากับ 2 และผมรู้ ว่าจากการใช้เรขาคณิตง่าย ๆ คุณก็หาได้ คุณก็รู้, แค่เอาความกว้างคูณความสูง คูณ ความลึก แล้วคุณก็ได้ปริมาตรมา แต่ผมอยากทำตัวอย่างนี้, แค่ให้คุณคุ้น ว่าอินทิกรัลสามชั้นเป็นยังไง, มันเกี่ยวกับ อินทิกรัลสองชั้นยังไง, แล้วต่อไปในวิดีโอหน้า เราสามารถ ทำอะไรที่ซับซ้อนกว่านี้ งั้นลองวาดปริมาตรนี้กัน นี่ก็คือแกน x ผม, นี่คือแกน z, นี่คือ y - x, y, z - โอเค งั้น x อยู่ระหว่าง 0 กับ 3 นั่นคือ x เท่ากับ 0 นี่คือ x เท่ากับ -- ลองดู, 1, 2, 3 y อยู่ระหว่าง 0 กับ 4 1, 2, 3, 4 งั้นระนาบ x-y จะออกมาแบบนี้ ฐานของทรงสี่เหลี่ยมจะหน้าตาแบบนี้ แล้ว z อยู่ระหว่าง 0 กับ 2 ดังนั้น 0 คือระนาบ x-y, แล้ว 1, 2 งั้นนี่จะเป็นด้านบน บางทีผมจะใช้สีอีกสีนึง ดังนั้นนี่อยู่ตามแกน x-z คุณจะมีขอบตรงนี้, แล้วก็ออกมา เป็นแบบนี้ คุณมีขอบตรงนี้, เข้ามาข้างในแบบนี้ ขอบตรงนี้ งั้นเราอยากหาปริมาตรของลูกบาศก์นี้ คุณก็ทำได้ คุณอาจบอกว่า, เอาล่ะ, ความลึกคือ 3, ฐาน, ความกว้างคือ 4, ดังนั้นพื้นที่คือ 12 คูณความสูง 12 คูณ 2 ได้ 24 คุณอาจบอกว่ามันคือ 24 ลูกบาศก์หน่วย อะไรก็ตาม ที่เราใช้อยู่ แต่ลองทำด้วยอินทิกรัลสามชั้นกัน แล้วอินทิกรัลสามชั้นหมายถึงอะไร? ทีนี้, ที่เราทำได้คือ เราเอาปริมาตรเล็กจิ๋ว -- ผมไม่อยากบอกว่าพื้นที่ -- ของปริมาตรเล็ก ๆ งั้นสมมุติว่า ผมเอาปริมาตรของลูกบาศก์เล็ก ๆ สักอันในนี้ -- ในปริมาตรที่เราอยากหา และมันจะเริ่มเข้าใจขึ้น, หรือมันเริ่ม มีประโยชน์ขึ้น, เมื่อเรามีขอบ ผิว และเส้นโค้งแปรค่าได้เป็นขอบ แต่สมมุติว่าเราอยากหาปริมาตรของ ลูกบาศก์เล็ก ๆ ตรงนี้ นั่นคือลูกบาศก์ผม มันคือที่ที่นึงในลูกบาศก์อันใหญ่, สี่เหลี่ยมอันใหญ่, สี่เหลี่ยมลูกบาศก์, อะไรก็ได้แล้วแต่คุณจะเรียก แล้วปริมาตรของลูกบาศก์นั้นคืออะไร? สมมุติว่าความกว้างคือ dy - ความยาวนั่นตรงนั้นคือ dy ความสูงคือ dx โทษที, ไม่, ความสูงคือ dz, จริงไหม? วิธีที่ผมวาดมัน, z คือขึ้นกับลง และความลึกคือ dx นี่คือ dx นี่คือ dz นี่คือ dy ดังนั้นคุณอาจบอกว่าปริมาตรเล็ก ๆ ภายในปริมาตรอันใหญ่ -- คุณอาจเรียกมันว่า dv, ซึ่งก็คือดิฟเฟอเรนเชียล ปริมาตรอย่างนึง และนั่นจะเท่ากับ, คุณอาจบอกว่า, มันก็คือ ความกว้างคูณ ความยาวคูณ ความสูง dx คูณ dy คูณ dz และคุณอาจเปลี่ยนลำดับมันได้} จริงไหม? เพราะการคูณนั้นเปลี่ยนที่ได้, และลำดับ ไม่ได้สำคัญอะไรพวกนั้น แต่ช่างเถอะ, คุณทำอะไรกับมันได้บ้าง? ทีนี้, เราก็หาอินทิกรัลได้แล้ว อินทิกรัลทั้งหมดช่วยเราหาผลรวมอนันต์ของ ระยะเล็กจิ๋ว, อย่างเช่น dz หรือ dx หรือ dy, ฯลฯ งั้น สิ่งที่เราทำได้คือ เราสามารถเอาลูกบาศก์นี้มาก่อน บวกมันเข้า สมมุติว่า ในทิศ z งั้นเราสามารถเอาลูกบาศก์นั้นมาแล้วรวมมันตามแกน ขึ้นลง -- แกน z -- โดยที่เราได้ ปริมาตรของคอลัมน์นึงได้ แล้วมันหน้าตาเป็นยังไง? ทีนี้, เนื่องจากเรากำลังขึ้นลง, เรากำลังรวม -- เรา กำลังรวมในทิศ z เราจะได้อินทิกรัล แล้วค่า z ที่น้อยที่สุดคืออะไร? ทีนี้, มันก็แค่ z เท่ากับ 0 แล้วขอบบนล่ะ? เช่นเดียวกัน คุณก็เอา -- ลูกบาศก์พวกนี้รวมกัน ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนคุณไปถึงขอบบบน งั้นขอบบนคืออะไร? มันคือ z เท่ากับ 2 - และแน่นอน, คุณได้รวม dv พวกนี้ และผมจะเขียน dz ก่อน แค่ให้เรารู้ว่าเรากำลัง หาอินทิกรัลเทียบกับ z ก่อน แล้วสมมุติว่าเราทำ y ต่อ แล้วเราจะทำ x ดังนั้นในอินทิกรัลนี้, ค่านี้, อย่างที่ผมเขียนมัน, จะ บอกปริมาตรของคอลัมน์ ณ ค่า x กับ y ใด ๆ มันจะเป็นฟังก์ชันของ x กับ y, แต่เพราะเรากำลังยุ่ง กับค่าคงที่ตรงนี้, มันจะเป็นค่า คงที่ มันจะเป็นค่าคงที่ คือ ปริมาตรของ คอลัมน์พวกนี้หนึ่งอัน งั้นในที่สุด มันเท่ากับ 2 คูณ dy dx เพราะความสูงของคอลัมน์แต่ละอันเท่ากับ 2 แล้วความกว้างกับความลึกคือ dy กับ dx ดังนั้นหากเราอยากหาปริมาตรทั้งหมด -- สิ่ง ที่เราเพิ่งทำไป คือ เราหาความสูงของคอลัมน์อันนึง แล้วเราก็เอาคอลัมน์พวกนั้นมาแล้วรวมมัน ในทิศ y ดังนั้นหากเรารวมมันในทิศ y, เราแค่หาอินทิกรัล อีกทีของผลรวมในทิศ y และ y ไปจาก 0 ถึงอะไร? y ไปจาก 0 ถึง 4 ผมเขียนอินทิกรัลนี้ไปทางซ้ายไกลไปหน่อย มันดูแปลก ๆ แต่ผมว่าคุณคงเข้าใจ y เท่ากับ 0, ถึง y เท่ากับ 4 แล้วนั่นจะบอกเราถึงปริมาตรของแผ่นที่ ขนานกับระนาบ zy แล้วที่เราเหลือ ก็คือ รวมแผ่นพวกนั้น ในทิศ x, และเราจะได้ปริมาตร ของรูปทั้งหมดของเรา ดังนั้นในการรวมแผ่นพวกนั้น, เราต้องรวม ในทิศ x และเราจะไปจาก x เท่ากับ 0, ถึง x เท่ากับ 3 และการหาค่ามัน ก็ค่อนข้าง ตรงไปตรงมา งั้น, อย่างแรกเราหาอินทิกรัลเทียบกับ z ทีนี้, เราไม่มีอะไรเขียนไว้ตรงนี้, แต่เรา รู้อยู่ว่ามันมี 1 อยู่, จริงไหม? เพราะ dz คูณ dy คูณ dx นั้นเหมือนกับ 1 คูณ dz คูณ dy dx แล้วค่าของอินทิกรัลนี้คืออะไร? ทีนี้, แอนติเดริเวทีฟของ 1 เทียบกับ z ก็แค่ z, จริงไหม? เพราะอนุพันธ์ของ z เท่ากับ 1 แล้วคุณก็แทนค่ามันจาก 2 ถึง 0 แล้วคุณจะเหลือ -- มันคือ 2 ลบ 0 งั้นคุณก็เหลือ 2 คุณเหลือ 2, แล้วคุณก็หาอินทิกรัลของอันนั้น จาก y เท่ากับ 0, ถึง y เท่ากับ 4 dy, แล้ว คุณได้ x จาก x เท่ากับ 0, ถึง x เท่ากับ 3 dx และระลึกไว้, ตอนเราหาอินทิกรัลเทียบกับ z, เราจะได้อินทิกรัลสองชั้น และอินทิกรัลสองชั้นนี้ก็คือ อินทิกรัลเดียวกับที่เรา ทำในวิดีโอที่แล้วเรื่องอินทิกรัลสองชั้น, โดยคุณ อาจบอกว่า z เป็นฟังก์ชันของ x กับ y ดังนั้นคุณก็เขียนมัน, คุณก็รู้, z, เป็นฟังก์ชันของ x และ y, ซึ่งเท่ากับ 2 ตลอด มันเป็นฟังก์ชันคงที่ มันไม่ขึ้นอยู่กับ x และ y แต่หากคุณนิยาม z แบบนี้, และคุณอยากหา ปริมาตรใต้พื้นผิวนี้, โดยที่ผิว คือ z เท่ากับ 2 -- คุณก็รู้, นี่คือผิว, คือ z เท่ากับ 2 -- เราก็จะได้ออกมาแบบนี้ ดังนั้นคุณจะเห็นว่า สิ่งที่เราทำกับอินทิกรัล สามชั้น, ที่จริงแล้วมันไม่ได้ต่างกันเลย และคุณอาจสงสัยว่า, แล้วเราจะทำแบบนี้ ทำไม? ผมจะแสดงให้คุณเห็นในไม่ช้า แต่เอาล่ะ, ในการหาค่ามัน, คุณก็หา แอนติเดริเวทีฟของอันนี้เทียบกับ y, คุณจะได้ 2y -- ขอผม เลื่อนมันลงมาหน่อย คุณจะได้ 2y แทนค่าที่ 4 กับ 0 แล้ว, คุณจะได้ 2 คูณ 4 ดังนั้นมันคือ 8 ลบ 0 แล้วคุณก็อินทิเกรตจาก, เทียบกับ x จาก 0 ถึง 3 ดังนั้นนั่นคือ 8x จาก 0 ถึง 3 ดังนั้นนั่นจะเท่ากับ 24 หน่วยกำลังสาม ผมรู้ว่า คำถามนึงแน่ ๆ คือ แล้วมันมีดีอะไร? ตอนคุณมีค่าคงที่ใน ปริมาตร, คุณก็คิดถูกแล้ว คุณสามารถทำได้ด้วยอินทิกรัลสองชั้น แต่ถ้าหากผมบอกคุณว่า, เป้าหมายเราไม่ใช่การหา ปริมาตรของรูปนี้ล่ะ เป้าเหมายเรากลายเป็นการหามวลของรูปนี้ และยิ่งไปกว่านั้น, ปริมาตรนี้ -- พื้นที่ของที่ว่าง หรือ อะไรก็ตาม -- มวลของมันไม่สม่ำเสมอ หากมวลมันสม่ำเสมอ, คุณอาจคูณความหนาแน่นสม่ำเสมอนั้น กับปริมาตร, คุณจะได้มวลมันมา แต่สมมุติว่าความหนาแน่นเปลี่ยนไป มันอาจเป็นปริมาตรของแก๊ส หรืออาจเป็น วัสดุที่มีองค์ประกอบหลาอย่างปนกัน สมมุติว่าความหนาแน่นมันเป็นฟังก์ชันขึ้นอยู่ กับ x,y และ z งั้นสมมุติว่าความหนาแน่น -- rho นี้ สิ่งที่เหมือนกับ ตัว p คือ สิ่งที่คุณมักใช้ในฟิสิกส์แทนความหนาแน่น -- ดังนั้น ความหนาแน่นเป็นฟังก์ชันของ x, y กับ z ลอง -- เพื่อให้ง่าย -- สมมุติว่ามันคือ x คูณ y คูณ z หากเราอยากหามวลของปริมาตรเล็ก ๆ, มันจะเท่ากับปริมาตรนั่นคูณกับความหนาแน่น, จริงไหม? เพราะความหนาแน่น -- หน่วยของความหนาแน่น อาจเป็น กิโลกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร ดังนั้นหากคุณคูณมันกับเมตรกำลังสาม, คุณจะได้ กิโลกรัม ดังนั้นคุณอาจบอกว่า มวล -- ทีนี้, ผมจะสมมุติสัญลักษณ์, d มวล -- นี่ไม่ใช่ฟังก์ชัน ทีนี้, ผมอยากเขียนมันในวงเล็บ, เพราะมัน ทำให้มันดูเหมือนฟังก์ชัน ดังนั้น, มวลดิฟเฟอเรนเชียลเล็ก ๆ, หรือมวลเล็กจิ๋ว, จะ เท่ากับความหนาแน่น ณ จุดนั้น, ซึ่งเท่ากับ xyz, คูร ปริมาตรของมวลเล็ก ๆ นั่น แล้วปริมาตรของมวลเล็ก เราสามารถเขียนเป็น dv และเรารู้ว่า dv ก็เหมือนกับความกว้าง คูณ ความสูง คูณความลึก dv ไม่จำเป็นต้องเป็น dx คูณ dy คูณ dz เสมอไป หากเราใช้ระบบพิกัดอื่น, หากเราใช้พิกัด แบบขั้ว, มันจะต่างออกไป และเราจะใช้มันในที่สุด แต่หากเราอยากหามวล, เนื่องจากเราใช้พิกัด สี่เหลี่ยม, มันจะเท่ากับ ฟังก์ชันความหนาแน่น ณ จุดนั้น คุณปริมาตรดิฟเฟอเรนเชียล ดังนั้นคูณ dx dy dz และแน่นอน, เราสามารถเปลี่ยนลำดับได้ ดังนั้นเมื่อคุณอยากหาปริมาตร -- ตอนคุณอยาก หามวลออกมา -- ซึ่งผมจะทำในวิดีโอหน้า, เรา จะต้องอินทิเกรตฟังก์ชันนี้ในที่สุด เทียบกับ z, y และ x และผมจะทำมันในวิดีโอหน้า แล้วคุณจะเห็นว่ามันก็แค่การหาแอนติเดริเวทีฟ ง่าย ๆ โดยหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดง่าย ๆ แล้วพบกันใหม่ในวิดีโอหน้าครับ -