0:00:00.000,0:00:00.740 - 0:00:00.740,0:00:04.160 สมมุติว่าผมอยากหาปริมาตรของลูกบาศก์ โดยที่ค่า 0:00:04.160,0:00:07.150 ของลูกบาศก์ -- สมมุติว่า x อยู่ระหว่าง -- x มากกว่า 0:00:07.150,0:00:10.350 หรือเท่ากับ 0, น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0:00:10.350,0:00:11.780 ไม่รู้สิ, 3 0:00:11.780,0:00:14.600 สมมุติว่า y มากกว่าเท่ากับ 0, และ 0:00:14.600,0:00:17.000 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 4 0:00:17.000,0:00:21.270 แล้วสมมุติว่า z มากกว่าหรือเท่ากับ 0 และ 0:00:21.270,0:00:23.055 น้อยกว่าเท่ากับ 2 0:00:23.055,0:00:26.650 และผมรู้ ว่าจากการใช้เรขาคณิตง่าย ๆ คุณก็หาได้ 0:00:26.650,0:00:30.370 คุณก็รู้, แค่เอาความกว้างคูณความสูง คูณ 0:00:30.370,0:00:31.340 ความลึก แล้วคุณก็ได้ปริมาตรมา 0:00:31.340,0:00:34.280 แต่ผมอยากทำตัวอย่างนี้, แค่ให้คุณคุ้น 0:00:34.280,0:00:36.700 ว่าอินทิกรัลสามชั้นเป็นยังไง, มันเกี่ยวกับ 0:00:36.700,0:00:39.180 อินทิกรัลสองชั้นยังไง, แล้วต่อไปในวิดีโอหน้า เราสามารถ 0:00:39.180,0:00:40.290 ทำอะไรที่ซับซ้อนกว่านี้ 0:00:40.290,0:00:44.040 งั้นลองวาดปริมาตรนี้กัน 0:00:44.040,0:00:51.780 นี่ก็คือแกน x ผม, นี่คือแกน z, นี่คือ y 0:00:51.780,0:00:54.330 - 0:00:54.330,0:00:55.795 x, y, z 0:00:55.795,0:00:59.600 - 0:00:59.600,0:01:00.080 โอเค 0:01:00.080,0:01:01.910 งั้น x อยู่ระหว่าง 0 กับ 3 0:01:01.910,0:01:03.070 นั่นคือ x เท่ากับ 0 0:01:03.070,0:01:09.120 นี่คือ x เท่ากับ -- ลองดู, 1, 2, 3 0:01:09.120,0:01:10.570 y อยู่ระหว่าง 0 กับ 4 0:01:10.570,0:01:13.180 1, 2, 3, 4 0:01:13.180,0:01:15.450 งั้นระนาบ x-y จะออกมาแบบนี้ 0:01:15.450,0:01:20.520 ฐานของทรงสี่เหลี่ยมจะหน้าตาแบบนี้ 0:01:20.520,0:01:21.770 แล้ว z อยู่ระหว่าง 0 กับ 2 0:01:21.770,0:01:25.350 ดังนั้น 0 คือระนาบ x-y, แล้ว 1, 2 0:01:25.350,0:01:27.130 งั้นนี่จะเป็นด้านบน 0:01:27.130,0:01:30.600 บางทีผมจะใช้สีอีกสีนึง 0:01:30.600,0:01:34.520 ดังนั้นนี่อยู่ตามแกน x-z 0:01:34.520,0:01:36.360 คุณจะมีขอบตรงนี้, แล้วก็ออกมา 0:01:36.360,0:01:38.316 เป็นแบบนี้ 0:01:38.316,0:01:41.850 คุณมีขอบตรงนี้, เข้ามาข้างในแบบนี้ 0:01:41.850,0:01:43.810 ขอบตรงนี้ 0:01:43.810,0:01:45.600 งั้นเราอยากหาปริมาตรของลูกบาศก์นี้ 0:01:45.600,0:01:46.370 คุณก็ทำได้ 0:01:46.370,0:01:51.540 คุณอาจบอกว่า, เอาล่ะ, ความลึกคือ 3, ฐาน, ความกว้างคือ 4, 0:01:51.540,0:01:53.920 ดังนั้นพื้นที่คือ 12 คูณความสูง 0:01:53.920,0:01:55.170 12 คูณ 2 ได้ 24 0:01:55.170,0:01:58.980 คุณอาจบอกว่ามันคือ 24 ลูกบาศก์หน่วย อะไรก็ตาม 0:01:58.980,0:01:59.630 ที่เราใช้อยู่ 0:01:59.630,0:02:01.990 แต่ลองทำด้วยอินทิกรัลสามชั้นกัน 0:02:01.990,0:02:03.640 แล้วอินทิกรัลสามชั้นหมายถึงอะไร? 0:02:03.640,0:02:07.110 ทีนี้, ที่เราทำได้คือ เราเอาปริมาตรเล็กจิ๋ว 0:02:07.110,0:02:10.670 -- ผมไม่อยากบอกว่าพื้นที่ -- ของปริมาตรเล็ก ๆ 0:02:10.670,0:02:14.770 งั้นสมมุติว่า ผมเอาปริมาตรของลูกบาศก์เล็ก ๆ 0:02:14.770,0:02:17.810 สักอันในนี้ -- ในปริมาตรที่เราอยากหา 0:02:17.810,0:02:20.160 และมันจะเริ่มเข้าใจขึ้น, หรือมันเริ่ม 0:02:20.160,0:02:22.860 มีประโยชน์ขึ้น, เมื่อเรามีขอบ ผิว 0:02:22.860,0:02:25.050 และเส้นโค้งแปรค่าได้เป็นขอบ 0:02:25.050,0:02:26.840 แต่สมมุติว่าเราอยากหาปริมาตรของ 0:02:26.840,0:02:29.780 ลูกบาศก์เล็ก ๆ ตรงนี้ 0:02:29.780,0:02:30.590 นั่นคือลูกบาศก์ผม 0:02:30.590,0:02:33.630 มันคือที่ที่นึงในลูกบาศก์อันใหญ่, สี่เหลี่ยมอันใหญ่, 0:02:33.630,0:02:35.460 สี่เหลี่ยมลูกบาศก์, อะไรก็ได้แล้วแต่คุณจะเรียก 0:02:35.460,0:02:36.540 แล้วปริมาตรของลูกบาศก์นั้นคืออะไร? 0:02:36.540,0:02:38.930 สมมุติว่าความกว้างคือ dy 0:02:38.930,0:02:42.320 - 0:02:42.320,0:02:44.010 ความยาวนั่นตรงนั้นคือ dy 0:02:44.010,0:02:46.810 ความสูงคือ dx 0:02:46.810,0:02:49.660 โทษที, ไม่, ความสูงคือ dz, จริงไหม? 0:02:49.660,0:02:51.840 วิธีที่ผมวาดมัน, z คือขึ้นกับลง 0:02:51.840,0:02:53.860 และความลึกคือ dx 0:02:53.860,0:02:55.940 นี่คือ dx 0:02:55.940,0:02:56.750 นี่คือ dz 0:02:56.750,0:02:57.720 นี่คือ dy 0:02:57.720,0:03:01.260 ดังนั้นคุณอาจบอกว่าปริมาตรเล็ก ๆ ภายในปริมาตรอันใหญ่ 0:03:01.260,0:03:04.830 -- คุณอาจเรียกมันว่า dv, ซึ่งก็คือดิฟเฟอเรนเชียล 0:03:04.830,0:03:06.750 ปริมาตรอย่างนึง 0:03:06.750,0:03:10.290 และนั่นจะเท่ากับ, คุณอาจบอกว่า, มันก็คือ 0:03:10.290,0:03:13.990 ความกว้างคูณ ความยาวคูณ ความสูง 0:03:13.990,0:03:15.950 dx คูณ dy คูณ dz 0:03:15.950,0:03:17.760 และคุณอาจเปลี่ยนลำดับมันได้} จริงไหม? 0:03:17.760,0:03:21.010 เพราะการคูณนั้นเปลี่ยนที่ได้, และลำดับ 0:03:21.010,0:03:22.920 ไม่ได้สำคัญอะไรพวกนั้น 0:03:22.920,0:03:24.540 แต่ช่างเถอะ, คุณทำอะไรกับมันได้บ้าง? 0:03:24.540,0:03:27.290 ทีนี้, เราก็หาอินทิกรัลได้แล้ว 0:03:27.290,0:03:32.520 อินทิกรัลทั้งหมดช่วยเราหาผลรวมอนันต์ของ 0:03:32.520,0:03:36.080 ระยะเล็กจิ๋ว, อย่างเช่น dz หรือ dx หรือ 0:03:36.080,0:03:38.240 dy, ฯลฯ 0:03:38.240,0:03:41.620 งั้น สิ่งที่เราทำได้คือ เราสามารถเอาลูกบาศก์นี้มาก่อน 0:03:41.620,0:03:44.110 บวกมันเข้า สมมุติว่า ในทิศ z 0:03:44.110,0:03:48.330 งั้นเราสามารถเอาลูกบาศก์นั้นมาแล้วรวมมันตามแกน 0:03:48.330,0:03:51.230 ขึ้นลง -- แกน z -- โดยที่เราได้ 0:03:51.230,0:03:52.410 ปริมาตรของคอลัมน์นึงได้ 0:03:52.410,0:03:54.550 แล้วมันหน้าตาเป็นยังไง? 0:03:54.550,0:03:56.930 ทีนี้, เนื่องจากเรากำลังขึ้นลง, เรากำลังรวม -- เรา 0:03:56.930,0:04:00.670 กำลังรวมในทิศ z 0:04:00.670,0:04:02.610 เราจะได้อินทิกรัล 0:04:02.610,0:04:04.655 แล้วค่า z ที่น้อยที่สุดคืออะไร? 0:04:04.655,0:04:08.310 ทีนี้, มันก็แค่ z เท่ากับ 0 0:04:08.310,0:04:09.280 แล้วขอบบนล่ะ? 0:04:09.280,0:04:12.070 เช่นเดียวกัน คุณก็เอา -- ลูกบาศก์พวกนี้รวมกัน 0:04:12.070,0:04:14.190 ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนคุณไปถึงขอบบบน 0:04:14.190,0:04:14.770 งั้นขอบบนคืออะไร? 0:04:14.770,0:04:16.100 มันคือ z เท่ากับ 2 0:04:16.100,0:04:20.580 - 0:04:20.580,0:04:25.010 และแน่นอน, คุณได้รวม dv พวกนี้ 0:04:25.010,0:04:26.130 และผมจะเขียน dz ก่อน 0:04:26.130,0:04:28.170 แค่ให้เรารู้ว่าเรากำลัง 0:04:28.170,0:04:30.430 หาอินทิกรัลเทียบกับ z ก่อน 0:04:30.430,0:04:32.010 แล้วสมมุติว่าเราทำ y ต่อ 0:04:32.010,0:04:34.200 แล้วเราจะทำ x 0:04:34.200,0:04:37.430 ดังนั้นในอินทิกรัลนี้, ค่านี้, อย่างที่ผมเขียนมัน, จะ 0:04:37.430,0:04:42.020 บอกปริมาตรของคอลัมน์ ณ ค่า x กับ y ใด ๆ 0:04:42.020,0:04:45.240 มันจะเป็นฟังก์ชันของ x กับ y, แต่เพราะเรากำลังยุ่ง 0:04:45.240,0:04:47.130 กับค่าคงที่ตรงนี้, มันจะเป็นค่า 0:04:47.130,0:04:48.600 คงที่ 0:04:48.600,0:04:52.160 มันจะเป็นค่าคงที่ คือ ปริมาตรของ 0:04:52.160,0:04:53.890 คอลัมน์พวกนี้หนึ่งอัน 0:04:53.890,0:04:56.580 งั้นในที่สุด มันเท่ากับ 2 คูณ dy dx 0:04:56.580,0:04:59.330 เพราะความสูงของคอลัมน์แต่ละอันเท่ากับ 2 0:04:59.330,0:05:03.710 แล้วความกว้างกับความลึกคือ dy กับ dx 0:05:03.710,0:05:06.570 ดังนั้นหากเราอยากหาปริมาตรทั้งหมด -- สิ่ง 0:05:06.570,0:05:09.270 ที่เราเพิ่งทำไป คือ เราหาความสูงของคอลัมน์อันนึง 0:05:09.270,0:05:11.300 แล้วเราก็เอาคอลัมน์พวกนั้นมาแล้วรวมมัน 0:05:11.300,0:05:13.730 ในทิศ y 0:05:13.730,0:05:15.710 ดังนั้นหากเรารวมมันในทิศ y, เราแค่หาอินทิกรัล 0:05:15.710,0:05:20.340 อีกทีของผลรวมในทิศ y 0:05:20.340,0:05:25.650 และ y ไปจาก 0 ถึงอะไร? y ไปจาก 0 ถึง 4 0:05:25.650,0:05:27.180 ผมเขียนอินทิกรัลนี้ไปทางซ้ายไกลไปหน่อย 0:05:27.180,0:05:28.300 มันดูแปลก ๆ 0:05:28.300,0:05:31.000 แต่ผมว่าคุณคงเข้าใจ 0:05:31.000,0:05:33.390 y เท่ากับ 0, ถึง y เท่ากับ 4 0:05:33.390,0:05:37.420 แล้วนั่นจะบอกเราถึงปริมาตรของแผ่นที่ 0:05:37.420,0:05:40.290 ขนานกับระนาบ zy 0:05:40.290,0:05:44.250 แล้วที่เราเหลือ ก็คือ รวมแผ่นพวกนั้น 0:05:44.250,0:05:46.570 ในทิศ x, และเราจะได้ปริมาตร 0:05:46.570,0:05:48.210 ของรูปทั้งหมดของเรา 0:05:48.210,0:05:50.190 ดังนั้นในการรวมแผ่นพวกนั้น, เราต้องรวม 0:05:50.190,0:05:51.750 ในทิศ x 0:05:51.750,0:05:57.060 และเราจะไปจาก x เท่ากับ 0, ถึง x เท่ากับ 3 0:05:57.060,0:05:58.660 และการหาค่ามัน ก็ค่อนข้าง 0:05:58.660,0:05:59.690 ตรงไปตรงมา 0:05:59.690,0:06:03.020 งั้น, อย่างแรกเราหาอินทิกรัลเทียบกับ z 0:06:03.020,0:06:05.090 ทีนี้, เราไม่มีอะไรเขียนไว้ตรงนี้, แต่เรา 0:06:05.090,0:06:06.740 รู้อยู่ว่ามันมี 1 อยู่, จริงไหม? 0:06:06.740,0:06:10.160 เพราะ dz คูณ dy คูณ dx นั้นเหมือนกับ 0:06:10.160,0:06:12.940 1 คูณ dz คูณ dy dx 0:06:12.940,0:06:15.500 แล้วค่าของอินทิกรัลนี้คืออะไร? 0:06:15.500,0:06:18.760 ทีนี้, แอนติเดริเวทีฟของ 1 เทียบกับ 0:06:18.760,0:06:20.650 z ก็แค่ z, จริงไหม? 0:06:20.650,0:06:22.700 เพราะอนุพันธ์ของ z เท่ากับ 1 0:06:22.700,0:06:27.640 แล้วคุณก็แทนค่ามันจาก 2 ถึง 0 0:06:27.640,0:06:30.210 แล้วคุณจะเหลือ -- มันคือ 2 ลบ 0 0:06:30.210,0:06:31.580 งั้นคุณก็เหลือ 2 0:06:31.580,0:06:34.390 คุณเหลือ 2, แล้วคุณก็หาอินทิกรัลของอันนั้น 0:06:34.390,0:06:38.080 จาก y เท่ากับ 0, ถึง y เท่ากับ 4 dy, แล้ว 0:06:38.080,0:06:40.060 คุณได้ x 0:06:40.060,0:06:45.280 จาก x เท่ากับ 0, ถึง x เท่ากับ 3 dx 0:06:45.280,0:06:48.440 และระลึกไว้, ตอนเราหาอินทิกรัลเทียบกับ 0:06:48.440,0:06:50.210 z, เราจะได้อินทิกรัลสองชั้น 0:06:50.210,0:06:52.830 และอินทิกรัลสองชั้นนี้ก็คือ อินทิกรัลเดียวกับที่เรา 0:06:52.830,0:06:56.440 ทำในวิดีโอที่แล้วเรื่องอินทิกรัลสองชั้น, โดยคุณ 0:06:56.440,0:06:59.510 อาจบอกว่า z เป็นฟังก์ชันของ x กับ y 0:06:59.510,0:07:01.880 ดังนั้นคุณก็เขียนมัน, คุณก็รู้, z, เป็นฟังก์ชันของ x 0:07:01.880,0:07:04.230 และ y, ซึ่งเท่ากับ 2 ตลอด 0:07:04.230,0:07:05.180 มันเป็นฟังก์ชันคงที่ 0:07:05.180,0:07:06.980 มันไม่ขึ้นอยู่กับ x และ y 0:07:06.980,0:07:09.210 แต่หากคุณนิยาม z แบบนี้, และคุณอยากหา 0:07:09.210,0:07:11.985 ปริมาตรใต้พื้นผิวนี้, โดยที่ผิว 0:07:11.985,0:07:15.370 คือ z เท่ากับ 2 -- คุณก็รู้, นี่คือผิว, คือ z 0:07:15.370,0:07:17.580 เท่ากับ 2 -- เราก็จะได้ออกมาแบบนี้ 0:07:17.580,0:07:19.130 ดังนั้นคุณจะเห็นว่า สิ่งที่เราทำกับอินทิกรัล 0:07:19.130,0:07:21.030 สามชั้น, ที่จริงแล้วมันไม่ได้ต่างกันเลย 0:07:21.030,0:07:22.060 และคุณอาจสงสัยว่า, แล้วเราจะทำแบบนี้ 0:07:22.060,0:07:22.840 ทำไม? 0:07:22.840,0:07:25.730 ผมจะแสดงให้คุณเห็นในไม่ช้า 0:07:25.730,0:07:28.320 แต่เอาล่ะ, ในการหาค่ามัน, คุณก็หา 0:07:28.320,0:07:32.070 แอนติเดริเวทีฟของอันนี้เทียบกับ y, คุณจะได้ 2y -- ขอผม 0:07:32.070,0:07:33.760 เลื่อนมันลงมาหน่อย 0:07:33.760,0:07:38.530 คุณจะได้ 2y แทนค่าที่ 4 กับ 0 0:07:38.530,0:07:41.150 แล้ว, คุณจะได้ 2 คูณ 4 0:07:41.150,0:07:42.540 ดังนั้นมันคือ 8 ลบ 0 0:07:42.540,0:07:46.070 แล้วคุณก็อินทิเกรตจาก, เทียบกับ 0:07:46.070,0:07:48.340 x จาก 0 ถึง 3 0:07:48.340,0:07:52.430 ดังนั้นนั่นคือ 8x จาก 0 ถึง 3 0:07:52.430,0:07:55.430 ดังนั้นนั่นจะเท่ากับ 24 หน่วยกำลังสาม 0:07:55.430,0:07:59.780 ผมรู้ว่า คำถามนึงแน่ ๆ คือ แล้วมันมีดีอะไร? 0:07:59.780,0:08:05.420 ตอนคุณมีค่าคงที่ใน 0:08:05.420,0:08:06.400 ปริมาตร, คุณก็คิดถูกแล้ว 0:08:06.400,0:08:08.230 คุณสามารถทำได้ด้วยอินทิกรัลสองชั้น 0:08:08.230,0:08:11.610 แต่ถ้าหากผมบอกคุณว่า, เป้าหมายเราไม่ใช่การหา 0:08:11.610,0:08:13.670 ปริมาตรของรูปนี้ล่ะ 0:08:13.670,0:08:16.550 เป้าเหมายเรากลายเป็นการหามวลของรูปนี้ 0:08:16.550,0:08:21.660 และยิ่งไปกว่านั้น, ปริมาตรนี้ -- พื้นที่ของที่ว่าง หรือ 0:08:21.660,0:08:23.670 อะไรก็ตาม -- มวลของมันไม่สม่ำเสมอ 0:08:23.670,0:08:28.190 หากมวลมันสม่ำเสมอ, คุณอาจคูณความหนาแน่นสม่ำเสมอนั้น 0:08:28.190,0:08:31.240 กับปริมาตร, คุณจะได้มวลมันมา 0:08:31.240,0:08:33.040 แต่สมมุติว่าความหนาแน่นเปลี่ยนไป 0:08:33.040,0:08:36.340 มันอาจเป็นปริมาตรของแก๊ส หรืออาจเป็น 0:08:36.340,0:08:39.070 วัสดุที่มีองค์ประกอบหลาอย่างปนกัน 0:08:39.070,0:08:42.370 สมมุติว่าความหนาแน่นมันเป็นฟังก์ชันขึ้นอยู่ 0:08:42.370,0:08:43.240 กับ x,y และ z 0:08:43.240,0:08:47.650 งั้นสมมุติว่าความหนาแน่น -- rho นี้ สิ่งที่เหมือนกับ 0:08:47.650,0:08:50.720 ตัว p คือ สิ่งที่คุณมักใช้ในฟิสิกส์แทนความหนาแน่น -- ดังนั้น 0:08:50.720,0:08:54.390 ความหนาแน่นเป็นฟังก์ชันของ x, y กับ z 0:08:54.390,0:08:55.710 ลอง -- เพื่อให้ง่าย -- สมมุติว่ามันคือ 0:08:55.710,0:08:59.840 x คูณ y คูณ z 0:08:59.840,0:09:06.020 หากเราอยากหามวลของปริมาตรเล็ก ๆ, 0:09:06.020,0:09:08.440 มันจะเท่ากับปริมาตรนั่นคูณกับความหนาแน่น, จริงไหม? 0:09:08.440,0:09:12.190 เพราะความหนาแน่น -- หน่วยของความหนาแน่น อาจเป็น กิโลกรัม 0:09:12.190,0:09:13.590 ต่อลูกบาศก์เมตร 0:09:13.590,0:09:16.400 ดังนั้นหากคุณคูณมันกับเมตรกำลังสาม, คุณจะได้ กิโลกรัม 0:09:16.400,0:09:20.260 ดังนั้นคุณอาจบอกว่า มวล -- ทีนี้, ผมจะสมมุติสัญลักษณ์, d 0:09:20.260,0:09:23.730 มวล -- นี่ไม่ใช่ฟังก์ชัน 0:09:23.730,0:09:25.230 ทีนี้, ผมอยากเขียนมันในวงเล็บ, เพราะมัน 0:09:25.230,0:09:26.230 ทำให้มันดูเหมือนฟังก์ชัน 0:09:26.230,0:09:30.490 ดังนั้น, มวลดิฟเฟอเรนเชียลเล็ก ๆ, หรือมวลเล็กจิ๋ว, จะ 0:09:30.490,0:09:35.860 เท่ากับความหนาแน่น ณ จุดนั้น, ซึ่งเท่ากับ xyz, 0:09:35.860,0:09:39.810 คูร ปริมาตรของมวลเล็ก ๆ นั่น 0:09:39.810,0:09:42.780 แล้วปริมาตรของมวลเล็ก เราสามารถเขียนเป็น dv 0:09:42.780,0:09:48.790 และเรารู้ว่า dv ก็เหมือนกับความกว้าง คูณ 0:09:48.790,0:09:49.670 ความสูง คูณความลึก 0:09:49.670,0:09:52.350 dv ไม่จำเป็นต้องเป็น dx คูณ dy คูณ dz เสมอไป 0:09:52.350,0:09:54.000 หากเราใช้ระบบพิกัดอื่น, หากเราใช้พิกัด 0:09:54.000,0:09:57.670 แบบขั้ว, มันจะต่างออกไป 0:09:57.670,0:09:59.160 และเราจะใช้มันในที่สุด 0:09:59.160,0:10:01.280 แต่หากเราอยากหามวล, เนื่องจากเราใช้พิกัด 0:10:01.280,0:10:03.550 สี่เหลี่ยม, มันจะเท่ากับ ฟังก์ชันความหนาแน่น 0:10:03.550,0:10:07.030 ณ จุดนั้น คุณปริมาตรดิฟเฟอเรนเชียล 0:10:07.030,0:10:11.330 ดังนั้นคูณ dx dy dz 0:10:11.330,0:10:13.870 และแน่นอน, เราสามารถเปลี่ยนลำดับได้ 0:10:13.870,0:10:16.386 ดังนั้นเมื่อคุณอยากหาปริมาตร -- ตอนคุณอยาก 0:10:16.386,0:10:19.000 หามวลออกมา -- ซึ่งผมจะทำในวิดีโอหน้า, เรา 0:10:19.000,0:10:21.290 จะต้องอินทิเกรตฟังก์ชันนี้ในที่สุด 0:10:21.290,0:10:27.400 เทียบกับ z, y และ x 0:10:27.400,0:10:28.690 และผมจะทำมันในวิดีโอหน้า 0:10:28.690,0:10:32.050 แล้วคุณจะเห็นว่ามันก็แค่การหาแอนติเดริเวทีฟ 0:10:32.050,0:10:34.700 ง่าย ๆ โดยหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดง่าย ๆ 0:10:34.700,0:10:37.280 แล้วพบกันใหม่ในวิดีโอหน้าครับ 0:10:37.280,0:10:37.900 -