WEBVTT 00:00:07.961 --> 00:00:10.711 คุณจะพบกับชากิรา 00:00:10.711 --> 00:00:13.720 ทางตอนเหนือของป่าเขตร้อนในโคลัมเบีย 00:00:13.720 --> 00:00:15.800 อาศัยอยู่กับครอบครัวของเธอเหนือพื้นดิน 00:00:15.800 --> 00:00:19.557 คอตตอนท๊อปทามารินที่มีนิยมชมชอบ การทักทายพูดคุย 00:00:19.557 --> 00:00:22.159 พูดว่า "สวัสดี" 00:00:22.159 --> 00:00:23.732 แม้ว่าคุณอาจจะรู้ 00:00:23.732 --> 00:00:25.546 นี่เป็นการสื่อสารของลิง 00:00:25.546 --> 00:00:27.821 ที่ใช้ภาษาที่ซับซ้อนมาก 00:00:27.821 --> 00:00:30.379 การร้องถึง 38 อย่างต่าง ๆ กัน 00:00:30.379 --> 00:00:35.676 ตามเสียงจ๊อกแจ๊กและเสียงผิว 00:00:35.676 --> 00:00:37.133 การตอบสนองของเธอ 00:00:37.133 --> 00:00:38.649 เป็นที่รู้จักกันว่า "เสียงจ๊อกแจ๊ก B" 00:00:38.649 --> 00:00:41.422 เสียงเรียกที่มักเกี่ยวข้องกับมนุษย์ 00:00:41.422 --> 00:00:44.356 เพื่อที่จะเข้าใจถึงความซับซ้อน ของภาษาของชากิรา 00:00:44.356 --> 00:00:47.062 มาเรียนเสียงจ๊อกแจ๊กและเสียงผิวกันสักหน่อย 00:00:47.062 --> 00:00:49.107 จากนั้นมาพิจารณากันว่าพวกมันถูกนำมารวมกัน 00:00:49.107 --> 00:00:52.400 เพื่อเกิดเป็นลำดับโครงสร้าง ทางไวยากรณ์ได้อย่างไร 00:00:52.400 --> 00:00:54.651 เสียงจ๊อกแจ๊กถูกใช้เพื่อทักทายเรา 00:00:54.651 --> 00:00:56.708 มาจากอันดับของการร้องที่เรียกว่า 00:00:56.708 --> 00:01:00.067 พยางค์ที่ถูกควบคุมด้วยความถี่เดี่ยว 00:01:00.067 --> 00:01:04.057 อันดับนี้ประกอบด้วยเสียงเรียกสั้น ๆ หรือว่าเสียงจ๊อกแจ๊ก 00:01:04.057 --> 00:01:11.097 และเสียงเรียกที่ยาว เรียกว่า เสียงกรีดร้องหรือเสียงแหลม 00:01:11.097 --> 00:01:13.457 นักวิจัยได้กำหนดไว้ว่ามันมีเสียงจ๊อกแจ๊ก 00:01:13.457 --> 00:01:15.809 อยู่แปดแบบซึ่งถูกแบ่งตาม 00:01:15.809 --> 00:01:22.116 การยกขึ้นของเสียง ช่วงความยาว ความถี่สูงสุด และการเปลี่ยนความถี่ 00:01:22.116 --> 00:01:25.868 นอกจากนี้ เสียงจ๊อกแจ๊กยังมีความหมาย ที่เป็นเอกลักษณ์ในตัวของมันเอง 00:01:25.868 --> 00:01:30.467 ยกตัวอย่างเช่น "เสียงจ๊อกแจ๊ก C" ของชากิราถูกใช้ 00:01:30.467 --> 00:01:32.352 เมื่อเธอเข้าใกล้อาหาร 00:01:32.352 --> 00:01:36.770 ในขณะที่ "เสียงจ๊อกแจ๊ก D" จะใช้ก็ต่อเมื่อ 00:01:36.770 --> 00:01:39.251 เธอมีอาหารอยู่ในมือ 00:01:39.251 --> 00:01:43.297 การผิวเดี่ยวยังแสดงถึงจุดประสงค์ ที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละเสียงเรียก 00:01:43.297 --> 00:01:45.475 และเช่นเดียวกับเสียงจ๊อกแจ๊ก แบบต่าง ๆ กันแปดแบบ 00:01:45.475 --> 00:01:47.656 มีเสียงผิวแบบต่าง ๆ อยู่ห้าแบบ 00:01:47.656 --> 00:01:49.328 ตามการควบคุมความถี่ 00:01:49.328 --> 00:01:53.162 เสียงผิวเดี่ยวถูกแบ่งต่อไปได้อีกเป็นสี่หมวด 00:01:53.162 --> 00:01:59.616 ได้แก่ เสียงแหลม เสียงผิวที่ถุกควบคุมในตอนแรก 00:01:59.616 --> 00:02:05.718 เสียงผิวที่ถูกควบคุมทีหลัง และเสียงผิวราบ 00:02:05.718 --> 00:02:07.736 คุณภาพของภาษาเป็นจุดประสงค์ที่มีเอกลักษณ์ 00:02:07.736 --> 00:02:09.713 ถูกยกตัวอย่างเอาไว้อย่างน่าสนใจ โดยหมวดหมู่ 00:02:09.713 --> 00:02:12.463 ของการผิวที่ถูกควบคุมในตอนแรก 00:02:12.463 --> 00:02:14.695 การผิวเหล่านี้เปลี่ยนไปตามความใกล้ชิด 00:02:14.695 --> 00:02:17.954 ของชากิรากับสมาชิกอื่น ๆ ในครอบครัวของเธอ 00:02:17.954 --> 00:02:21.018 ถ้าชากิราอยู่ห่างมากกว่า .6 เมตร จากครอบครัวของเธอ 00:02:21.018 --> 00:02:25.768 เธอจะส่งเสียงผิว ที่ถูกควบคุมในตอนแรกอย่างดัง 00:02:25.768 --> 00:02:28.573 แต่ถ้าเธอห่างออกไปน้อยกว่า .6 เมตร จากครอบครัวของเธอ 00:02:28.573 --> 00:02:33.071 เธอจะส่งเสียงผิว ที่ถูกควบคุมในตอนแรกแบบเบา ๆ 00:02:33.071 --> 00:02:35.069 ตอนนี้เราได้เรียนรู้ เสียงจ๊อกแจ๊กและเสียงผิวไปบ้างแล้ว 00:02:35.069 --> 00:02:37.309 ชากิราอยากที่จะแสดงให้คุณดู 00:02:37.309 --> 00:02:40.804 โดยพาคุณไปดูชีวิตประจำวันของเธอ ที่ใช้เสียงเหล่านี้ 00:02:40.804 --> 00:02:44.076 ในขณะที่เราเดินหน้าเข้าสู่ต้นไม้ ที่เธอไปหาอาหารมื้อแรกของวัน 00:02:44.076 --> 00:02:46.611 เธอบอกว่า (เสียงลิง) 00:02:46.611 --> 00:02:50.583 การร้องที่มักใช้ในการตรวจหาที่ผ่อนคลาย 00:02:50.583 --> 00:02:54.499 อย่างไรก็ดี ทันใดนั้นเอง เธอก็พบกับจุดเงาของเหยี่ยว 00:02:54.499 --> 00:02:57.039 "เสียงจ๊อกแจ๊ก E" เป็นการเตือนภัย 00:02:57.039 --> 00:03:00.362 การร้องนี้เตือนภัยครอบครัวของเธอ ว่ามีนักล่าปรากฏอยู่ 00:03:00.362 --> 00:03:03.531 และชากิรากระโดดไปยังที่ปลอดภัยในกิ่งด้านใน 00:03:03.531 --> 00:03:05.141 ชายหาดดูโล่งดี 00:03:05.141 --> 00:03:07.751 ชากิราจึงไปสมทบกับพ่อของเธอ 00:03:07.751 --> 00:03:09.429 แต่เดี๋ยวก่อน เดี๋ยว นั่นใครน่ะ 00:03:09.429 --> 00:03:12.130 อ้า น้องชายของเธอ คาลอส นี่เอง 00:03:12.130 --> 00:03:15.452 คอตตอนท๊อปทามารินมักจะส่งเสียงแหลม ระหว่างการเล่นมวยปล้ำ 00:03:15.452 --> 00:03:21.243 โห มันเล่นแรงไปหน่อย และชากิราก็ส่งเสียงกรีดร้อง 00:03:21.243 --> 00:03:23.478 เพื่อให้พ่อแม่ของเธอมาช่วย 00:03:23.478 --> 00:03:26.396 พ่อของเธอตรงเข้ามายังเจ้าตัวขน 00:03:26.396 --> 00:03:28.036 และน้องชายของเธอก็หยุด 00:03:28.036 --> 00:03:29.219 ชากิราสบัดตัว 00:03:29.219 --> 00:03:31.210 และเกาตัวเองเพื่อให้ขนบนศีรษะ 00:03:31.210 --> 00:03:33.055 กลับไปเข้าที่เข้าทาง 00:03:33.055 --> 00:03:36.714 จากนั้นชากิราก็พบกับทามารินอีกกลุ่ม ที่ไม่คุ้นเคย 00:03:36.714 --> 00:03:39.205 และได้ยินเสียงร้องยาว ๆ ตามปกติ 00:03:39.205 --> 00:03:42.981 เธอหันไปหาครอบครัวของเธอ (เสียงลิง) 00:03:42.981 --> 00:03:47.079 คุณได้ยินไหม ตอนแรกมันเป็นเสียงจ๊อกแจ๊ก จากนั้นเป็นเสียงผิว 00:03:47.079 --> 00:03:50.074 นี่คือสิ่งที่เรียกว่า การรวมกันของการให้เสียง 00:03:50.074 --> 00:03:53.758 กลุ่มคำที่มีทั้งเสียงจ๊อกแจ๊กและเสียงผิว 00:03:53.758 --> 00:03:57.739 มีการร้องสองแบบที่ถูกเชื่อมกัน เพื่อส่งข้อความ 00:03:57.739 --> 00:03:59.922 การรวมกันของสองส่วนนี้ 00:03:59.922 --> 00:04:02.455 บอกให้ครอบครัวของเธอรู้ว่า มีอีกกลุ่มหนึ่งปรากฏอยู่ 00:04:02.455 --> 00:04:05.964 "เสียงจ๊อกแจ๊ก F" และระยะห่าง ที่พวกมันอยู่ห่างออกไป 00:04:05.964 --> 00:04:07.826 เสียงผิวยาว ๆ ตามปกติ 00:04:07.826 --> 00:04:11.073 หรือพูดอีกอย่าง ชากิราพูดออกมาเป็นประโยค 00:04:11.073 --> 00:04:14.280 สิ่งเธอแสดงให้เห็น เป็นเพียงสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น 00:04:14.280 --> 00:04:18.715 เธอยังทำเสียงสั่น เสียงสวด และเสียงผิวได้หลากหลาย 00:04:18.715 --> 00:04:23.390 การรวมกันของการให้เสียงนั่น มีความหลากหลายมากกว่าทวิตเตอร์เสียอีก 00:04:23.390 --> 00:04:26.060 แต่น่าเศร้าที่เราอาจไม่ได้ยิน 00:04:26.060 --> 00:04:28.324 ทุก ๆ อย่างที่เธออยากจะพูด 00:04:28.324 --> 00:04:31.289 ที่ผสมปนเปประสาน กับเสียงจ๊อกแจ๊กจากเบื้องบน 00:04:31.289 --> 00:04:35.056 คือเสียงตุ๊บตับของมีดยักษ์ที่กำลังตัดต้นไม้ 00:04:35.056 --> 00:04:37.855 แหล่งที่อยู่ของชากิราในโคลัมเบียกำลังถูกทำลาย 00:04:37.855 --> 00:04:39.466 ทีละเล็กทีละน้อย 00:04:39.466 --> 00:04:40.814 และถ้าเราไม่พยายามปกป้องมัน 00:04:40.814 --> 00:04:43.331 คอตตอนทอปทามารินกำลังถูกคุกคามอย่างหนัก 00:04:43.331 --> 00:04:46.089 มันจะสูญพันธุ์ไปในชั่วชีวิตของเรา 00:04:46.089 --> 00:04:48.099 ถ้าเสียงจ๊อกแจ๊กจากทามารินตัวหนึ่งไปอีกตัวหนึ่ง 00:04:48.099 --> 00:04:51.030 ได้แสดงให้เห็นว่ามันเป็นมากกว่าการคุยฝอยธรรมดา 00:04:51.030 --> 00:04:53.793 ลองนึกดูว่าจะมีอะไรอีกที่รอให้เราค้นพบ 00:04:53.793 --> 00:04:56.294 ลองนึกดูว่าจะมีอะไรอีกที่ชากิราอยากบอกเรา