คุณจะพบกับชากิรา ทางตอนเหนือของป่าเขตร้อนในโคลัมเบีย อาศัยอยู่กับครอบครัวของเธอเหนือพื้นดิน คอตตอนท๊อปทามารินที่มีนิยมชมชอบ การทักทายพูดคุย พูดว่า "สวัสดี" แม้ว่าคุณอาจจะรู้ นี่เป็นการสื่อสารของลิง ที่ใช้ภาษาที่ซับซ้อนมาก การร้องถึง 38 อย่างต่าง ๆ กัน ตามเสียงจ๊อกแจ๊กและเสียงผิว การตอบสนองของเธอ เป็นที่รู้จักกันว่า "เสียงจ๊อกแจ๊ก B" เสียงเรียกที่มักเกี่ยวข้องกับมนุษย์ เพื่อที่จะเข้าใจถึงความซับซ้อน ของภาษาของชากิรา มาเรียนเสียงจ๊อกแจ๊กและเสียงผิวกันสักหน่อย จากนั้นมาพิจารณากันว่าพวกมันถูกนำมารวมกัน เพื่อเกิดเป็นลำดับโครงสร้าง ทางไวยากรณ์ได้อย่างไร เสียงจ๊อกแจ๊กถูกใช้เพื่อทักทายเรา มาจากอันดับของการร้องที่เรียกว่า พยางค์ที่ถูกควบคุมด้วยความถี่เดี่ยว อันดับนี้ประกอบด้วยเสียงเรียกสั้น ๆ หรือว่าเสียงจ๊อกแจ๊ก และเสียงเรียกที่ยาว เรียกว่า เสียงกรีดร้องหรือเสียงแหลม นักวิจัยได้กำหนดไว้ว่ามันมีเสียงจ๊อกแจ๊ก อยู่แปดแบบซึ่งถูกแบ่งตาม การยกขึ้นของเสียง ช่วงความยาว ความถี่สูงสุด และการเปลี่ยนความถี่ นอกจากนี้ เสียงจ๊อกแจ๊กยังมีความหมาย ที่เป็นเอกลักษณ์ในตัวของมันเอง ยกตัวอย่างเช่น "เสียงจ๊อกแจ๊ก C" ของชากิราถูกใช้ เมื่อเธอเข้าใกล้อาหาร ในขณะที่ "เสียงจ๊อกแจ๊ก D" จะใช้ก็ต่อเมื่อ เธอมีอาหารอยู่ในมือ การผิวเดี่ยวยังแสดงถึงจุดประสงค์ ที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละเสียงเรียก และเช่นเดียวกับเสียงจ๊อกแจ๊ก แบบต่าง ๆ กันแปดแบบ มีเสียงผิวแบบต่าง ๆ อยู่ห้าแบบ ตามการควบคุมความถี่ เสียงผิวเดี่ยวถูกแบ่งต่อไปได้อีกเป็นสี่หมวด ได้แก่ เสียงแหลม เสียงผิวที่ถุกควบคุมในตอนแรก เสียงผิวที่ถูกควบคุมทีหลัง และเสียงผิวราบ คุณภาพของภาษาเป็นจุดประสงค์ที่มีเอกลักษณ์ ถูกยกตัวอย่างเอาไว้อย่างน่าสนใจ โดยหมวดหมู่ ของการผิวที่ถูกควบคุมในตอนแรก การผิวเหล่านี้เปลี่ยนไปตามความใกล้ชิด ของชากิรากับสมาชิกอื่น ๆ ในครอบครัวของเธอ ถ้าชากิราอยู่ห่างมากกว่า .6 เมตร จากครอบครัวของเธอ เธอจะส่งเสียงผิว ที่ถูกควบคุมในตอนแรกอย่างดัง แต่ถ้าเธอห่างออกไปน้อยกว่า .6 เมตร จากครอบครัวของเธอ เธอจะส่งเสียงผิว ที่ถูกควบคุมในตอนแรกแบบเบา ๆ ตอนนี้เราได้เรียนรู้ เสียงจ๊อกแจ๊กและเสียงผิวไปบ้างแล้ว ชากิราอยากที่จะแสดงให้คุณดู โดยพาคุณไปดูชีวิตประจำวันของเธอ ที่ใช้เสียงเหล่านี้ ในขณะที่เราเดินหน้าเข้าสู่ต้นไม้ ที่เธอไปหาอาหารมื้อแรกของวัน เธอบอกว่า (เสียงลิง) การร้องที่มักใช้ในการตรวจหาที่ผ่อนคลาย อย่างไรก็ดี ทันใดนั้นเอง เธอก็พบกับจุดเงาของเหยี่ยว "เสียงจ๊อกแจ๊ก E" เป็นการเตือนภัย การร้องนี้เตือนภัยครอบครัวของเธอ ว่ามีนักล่าปรากฏอยู่ และชากิรากระโดดไปยังที่ปลอดภัยในกิ่งด้านใน ชายหาดดูโล่งดี ชากิราจึงไปสมทบกับพ่อของเธอ แต่เดี๋ยวก่อน เดี๋ยว นั่นใครน่ะ อ้า น้องชายของเธอ คาลอส นี่เอง คอตตอนท๊อปทามารินมักจะส่งเสียงแหลม ระหว่างการเล่นมวยปล้ำ โห มันเล่นแรงไปหน่อย และชากิราก็ส่งเสียงกรีดร้อง เพื่อให้พ่อแม่ของเธอมาช่วย พ่อของเธอตรงเข้ามายังเจ้าตัวขน และน้องชายของเธอก็หยุด ชากิราสบัดตัว และเกาตัวเองเพื่อให้ขนบนศีรษะ กลับไปเข้าที่เข้าทาง จากนั้นชากิราก็พบกับทามารินอีกกลุ่ม ที่ไม่คุ้นเคย และได้ยินเสียงร้องยาว ๆ ตามปกติ เธอหันไปหาครอบครัวของเธอ (เสียงลิง) คุณได้ยินไหม ตอนแรกมันเป็นเสียงจ๊อกแจ๊ก จากนั้นเป็นเสียงผิว นี่คือสิ่งที่เรียกว่า การรวมกันของการให้เสียง กลุ่มคำที่มีทั้งเสียงจ๊อกแจ๊กและเสียงผิว มีการร้องสองแบบที่ถูกเชื่อมกัน เพื่อส่งข้อความ การรวมกันของสองส่วนนี้ บอกให้ครอบครัวของเธอรู้ว่า มีอีกกลุ่มหนึ่งปรากฏอยู่ "เสียงจ๊อกแจ๊ก F" และระยะห่าง ที่พวกมันอยู่ห่างออกไป เสียงผิวยาว ๆ ตามปกติ หรือพูดอีกอย่าง ชากิราพูดออกมาเป็นประโยค สิ่งเธอแสดงให้เห็น เป็นเพียงสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น เธอยังทำเสียงสั่น เสียงสวด และเสียงผิวได้หลากหลาย การรวมกันของการให้เสียงนั่น มีความหลากหลายมากกว่าทวิตเตอร์เสียอีก แต่น่าเศร้าที่เราอาจไม่ได้ยิน ทุก ๆ อย่างที่เธออยากจะพูด ที่ผสมปนเปประสาน กับเสียงจ๊อกแจ๊กจากเบื้องบน คือเสียงตุ๊บตับของมีดยักษ์ที่กำลังตัดต้นไม้ แหล่งที่อยู่ของชากิราในโคลัมเบียกำลังถูกทำลาย ทีละเล็กทีละน้อย และถ้าเราไม่พยายามปกป้องมัน คอตตอนทอปทามารินกำลังถูกคุกคามอย่างหนัก มันจะสูญพันธุ์ไปในชั่วชีวิตของเรา ถ้าเสียงจ๊อกแจ๊กจากทามารินตัวหนึ่งไปอีกตัวหนึ่ง ได้แสดงให้เห็นว่ามันเป็นมากกว่าการคุยฝอยธรรมดา ลองนึกดูว่าจะมีอะไรอีกที่รอให้เราค้นพบ ลองนึกดูว่าจะมีอะไรอีกที่ชากิราอยากบอกเรา