1 00:00:00,844 --> 00:00:02,905 ผมเคยฝันแบบนี้หลายครั้ง 2 00:00:02,929 --> 00:00:05,341 ผมฝันว่าผมเดินเข้าในห้องที่เต็มไปด้วยผู้คน 3 00:00:06,388 --> 00:00:08,960 และผมพยายามไม่สบตากับใครเลย 4 00:00:10,220 --> 00:00:11,935 จนกระทั่งมีบางคนสังเกตเห็นผม 5 00:00:11,959 --> 00:00:13,402 แล้วผมก็เริ่มกลัว 6 00:00:14,213 --> 00:00:16,017 จากนั้นก็มีคนเดินเข้ามาหาผม 7 00:00:16,041 --> 00:00:18,550 และก็พูดว่า "สวัสดี ผมชื่อนั้นชื่อนี้ 8 00:00:18,574 --> 00:00:19,933 และ คุณชื่ออะไร" 9 00:00:20,313 --> 00:00:23,498 ผมก็เงียบ ผมตอบไม่ได้ 10 00:00:25,196 --> 00:00:27,639 หลังจากความเงียบที่น่าอึดอัดพักใหญ่ เขาก็ถามขึ้นว่า 11 00:00:27,663 --> 00:00:29,244 คุณลืมชื่อตัวเองหรอ 12 00:00:29,851 --> 00:00:31,300 และผมก็ยังเงียบ 13 00:00:32,293 --> 00:00:36,939 จากนั้นคนอื่นในห้อง ก็ค่อย ๆ หันมาหาทางผม 14 00:00:36,963 --> 00:00:39,218 และถาม เกือบจะพร้อมกัน 15 00:00:39,830 --> 00:00:44,592 (หลายเสียง) คุณลืมชื่อตัวเองหรอ 16 00:00:44,616 --> 00:00:47,706 เสียงค่อย ๆ ดังขึ้นเรื่อย ๆ ผมอยากตอบ แต่ก็ทำไม่ได้ 17 00:00:50,350 --> 00:00:51,849 ผมเป็นศิลปิน 18 00:00:52,754 --> 00:00:55,335 งานของผมบางงานออกแนวตลก 19 00:00:55,359 --> 00:00:58,960 และบางงานก็ตลกแบบเศร้า ๆ 20 00:01:00,160 --> 00:01:04,867 และมีงานหนึ่งที่ผมชอบทำมาก 21 00:01:04,891 --> 00:01:07,157 คือ การทำพวกการ์ตูนอนิเมชั่น 22 00:01:07,181 --> 00:01:10,955 ผมได้พากษ์ตัวละครแทบทุกแบบ 23 00:01:10,979 --> 00:01:12,237 ผมเคยพากย์เป็นหมี 24 00:01:12,261 --> 00:01:14,330 (วีดีโอ) หมี (เสียงผู้พูด): สวัสดีครับ 25 00:01:14,354 --> 00:01:16,105 (เสียงหัวเราะ) 26 00:01:16,136 --> 00:01:17,796 ผมเคยเป็นปลาวาฬ 27 00:01:17,813 --> 00:01:19,502 (วีดีโอ) ปลาวาฬ (เสียงผู้พูด): สวัสดี 28 00:01:19,526 --> 00:01:20,789 (เสียงหัวเราะ) 29 00:01:20,813 --> 00:01:22,411 ผมเคยเป็นการ์ดอวยพร 30 00:01:22,411 --> 00:01:24,354 (วีดีโอ) การ์ดอวยพร (เสียงผู้พูด): สวัสดี 31 00:01:24,378 --> 00:01:25,457 (เสียงหัวเราะ) 32 00:01:25,481 --> 00:01:28,488 และที่ผมชอบที่สุดคือ การพากย์เป็นแฟรงเกนสไตน์ 33 00:01:28,512 --> 00:01:31,209 (วีดีโอ) แฟรงเกนสไตน์ (เสียงผู้พูด): ฮืออออออออออออ 34 00:01:31,233 --> 00:01:32,273 (เสียงหัวเราะ) 35 00:01:32,297 --> 00:01:34,397 ผมต้องร้องฮือ บ่อยมากตอนพากย์เสียงนั้น 36 00:01:34,421 --> 00:01:37,104 สองสามปีก่อน ผมทำวิดีโอการศึกษา 37 00:01:37,128 --> 00:01:40,024 เกี่ยวกับความเป็นมาของวิดิโอเกมส์ 38 00:01:40,048 --> 00:01:43,790 ผมได้พากย์เป็นสเปซอินเวเดอร์ส 39 00:01:43,814 --> 00:01:45,870 (วีดีโอ) สเปซอินเวเดอร์ (เสียงผู้พูด): สวัสดี 40 00:01:45,894 --> 00:01:47,341 เหมือนฝันเป็นจริงเลยแหละ 41 00:01:47,365 --> 00:01:48,367 (เสียงหัวเราะ) 42 00:01:48,391 --> 00:01:50,470 ตอนที่ผมโพสวิดิโอลงอินเทอร์เน็ต 43 00:01:50,494 --> 00:01:53,184 ผมก็นั่งอยู่แต่หน้าคอม กดปุ่มรีเฟรช 44 00:01:53,208 --> 00:01:54,684 ตื่นเต้นที่จะได้เห็นผลตอบรับ 45 00:01:55,208 --> 00:01:56,622 ความคิดเห็นแรกก็เข้ามา 46 00:01:56,646 --> 00:01:57,940 (วีดีโอ)ความเห็น: ทำดีมาก 47 00:01:57,964 --> 00:01:59,114 ซาลีม: เยส! 48 00:01:59,709 --> 00:02:00,964 ผมกดรีเฟรชอีก 49 00:02:00,988 --> 00:02:04,091 (วีดีโอ) ความเห็น:สุดยอด จะติดตามรอดูวิดิโอหน้า 50 00:02:04,115 --> 00:02:06,611 นี่เป็นช่วงแรกของวิดีโอจากทั้งหมดสองช่อง 51 00:02:06,635 --> 00:02:08,676 ผมกำลังจะเริ่มทำอันที่สอง 52 00:02:08,700 --> 00:02:09,866 ผมกดปุ่มรีเฟรช 53 00:02:09,890 --> 00:02:13,726 ความเห็น: อันที่สองอยู่ไหน อยากดูเดี๋ยวนี้ 54 00:02:13,750 --> 00:02:15,268 (เสียงหัวเราะ) 55 00:02:15,292 --> 00:02:18,235 นอกจากแม่แล้ว ยังมีคนอื่นชมผม 56 00:02:18,259 --> 00:02:19,425 บนอินเทอร์เน็ต 57 00:02:19,449 --> 00:02:21,782 ผมรู้สึกสุดยอดไปเลย 58 00:02:21,806 --> 00:02:23,108 ผมกดปุ่มรีเฟรช 59 00:02:23,132 --> 00:02:25,831 (วีดีโอ) ความเห็น: ไม่ได้ว่านะ แต่เสียงเขาน่ารำคาญมาก 60 00:02:25,855 --> 00:02:28,525 โอเค ผมไม่ถือสาอะไร ผมกดรีเฟรช 61 00:02:28,549 --> 00:02:32,113 ความเห็น: ทำใหม่ได้มั้ย เอาแบบไม่อมเนยถั่วในปาก 62 00:02:32,137 --> 00:02:36,604 ซาลีม: โอเค อย่างน้อยก็ฟังดูมีประโยชน์ กดรีเฟรช 63 00:02:36,628 --> 00:02:39,174 ความเห็น: ขอเถอะอย่าใช้คนพากย์คนนี้อีก 64 00:02:39,198 --> 00:02:40,560 ฟังไม่รู้เรื่องเลย 65 00:02:40,584 --> 00:02:41,735 รีเฟรช 66 00:02:41,759 --> 00:02:44,739 ความเห็น: ไม่ค่อยเข้าใจ สงสัยเป็นเพราะสำเนียงอินเดียแน่ ๆ 67 00:02:44,763 --> 00:02:46,247 ซาลีม: โอเค ๆ มีสองอย่างนะ 68 00:02:46,271 --> 00:02:48,343 อย่างแรก ผมไม่ได้พูดสำเนียงอินเดีย 69 00:02:48,367 --> 00:02:50,294 ผมมีสำเนียงปากีสถาน โอเคไหม 70 00:02:50,318 --> 00:02:53,458 อย่างที่สอง สำเนียงปากีสถานผมชัดมาก 71 00:02:53,482 --> 00:02:55,503 (เสียงหัวเราะ) 72 00:02:56,233 --> 00:02:58,258 แต่ความเห็นแบบนั้นก็ยังเข้ามาอยู่ 73 00:02:58,282 --> 00:03:01,027 ผมก็เลยคิดว่าผมก็ไม่ควรสนใจพวกเขา 74 00:03:01,051 --> 00:03:03,640 และก็เริ่มทำวิดิโอตอนที่สอง 75 00:03:04,104 --> 00:03:05,634 ผมบันทึกเสียงตัวเอง 76 00:03:05,658 --> 00:03:08,657 แต่ทุกครั้งที่ผมตั้งใจจะตัดต่อวิดิโอ 77 00:03:08,681 --> 00:03:10,354 ผมกลับทำไม่ได้ 78 00:03:11,688 --> 00:03:14,676 เพราะทุกครั้ง ผมมักจะนึกย้อนไปตอนเด็ก ๆ 79 00:03:14,700 --> 00:03:17,521 ตอนที่การพูดเป็นเรื่องยากสำหรับผม 80 00:03:17,934 --> 00:03:20,738 ผมติดอ่างมาตั้งแต่จำความได้ 81 00:03:22,285 --> 00:03:23,562 ผมเป็นเด็กที่ไม่เคยยกมือขึ้น 82 00:03:23,586 --> 00:03:26,223 ถามคำถามหรือตอบคำถามในห้องเรียน 83 00:03:26,247 --> 00:03:27,421 เลยสักครั้ง 84 00:03:27,445 --> 00:03:28,760 ทุกครั้งที่โทรศัพท์ดัง 85 00:03:28,784 --> 00:03:32,419 ผมจะวิ่งไปห้องน้ำ จะได้ไม่ต้องรับโทรศัพท์ 86 00:03:32,907 --> 00:03:36,116 ถ้าโทรหาผม พ่อแม่ผมจะตอบว่าผมไม่อยู่ 87 00:03:36,140 --> 00:03:38,070 ผมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำบ่อยมาก 88 00:03:39,721 --> 00:03:41,682 และผมก็เกลียดการแนะนำตัว 89 00:03:41,686 --> 00:03:43,150 โดยเฉพาะ กับกลุ่มคน 90 00:03:43,180 --> 00:03:46,494 ผมติดอ่างตรงชื่อตัวเองตลอดแล้วคนก็ชอบถาม 91 00:03:46,494 --> 00:03:48,162 "ลืมชื่อตัวเองหรอ" 92 00:03:48,162 --> 00:03:49,742 แล้วทุกคนก็หัวเราะ 93 00:03:50,303 --> 00:03:52,170 มุขนี้ใช้ได้ตลอดเลย 94 00:03:54,905 --> 00:03:55,692 (เสียงหัวเราะ) 95 00:03:58,392 --> 00:04:01,096 ตอนเด็กผมคิดอยู่เสมอว่า ถ้าผมพูด 96 00:04:01,096 --> 00:04:06,054 ทุกคนต้องรู้แน่ ๆ ว่า ผมผิดปกติ 97 00:04:06,054 --> 00:04:07,821 ว่า ผมไม่เหมือนคนอื่น 98 00:04:09,181 --> 00:04:10,926 ผมก็เลยเงียบเป็นส่วนใหญ่ 99 00:04:12,626 --> 00:04:16,823 เห็นไหมว่าการได้ใช้เสียงในวิดิโอของผมเอง 100 00:04:16,900 --> 00:04:18,309 มันเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน 101 00:04:18,332 --> 00:04:19,742 ทุกครั้งที่ผมบันทึกเสียง 102 00:04:19,742 --> 00:04:22,445 ผมต้องพยายามพูด ประโยค ๆ หนึงตั้งหลายครั้ง 103 00:04:22,663 --> 00:04:24,199 จากนั้นผมก็จะ 104 00:04:24,749 --> 00:04:28,254 เลือกเทปที่ผมคิดว่าเสียงผมแย่น้อยที่สุด 105 00:04:31,249 --> 00:04:33,023 ปรับเสียงเหมือนผ่านโปรแกรมโฟโต้ช็อป 106 00:04:34,193 --> 00:04:38,095 ผมแก้ให้ช้าลง เร็วขึ้นหรือมีเสียงสะท้อนได้ 107 00:04:38,095 --> 00:04:41,914 ถ้าผมติดอ่าง 108 00:04:42,044 --> 00:04:43,627 ผมก็กลับไปและแก้ไขมัน 109 00:04:43,627 --> 00:04:44,784 อย่างกับเวทมนตร์เลย 110 00:04:44,974 --> 00:04:47,937 การใช้เสียงที่ผ่านการแก้ไขแล้ว กับวิดิโอของตัวเอง 111 00:04:47,937 --> 00:04:50,652 เป็นทางออกที่ทำให้ผมรู้สึกปกติ 112 00:04:52,427 --> 00:04:54,052 แต่หลังจากอ่านความเห็นบนวิดิโอ 113 00:04:54,816 --> 00:04:56,981 ผมกลับรู้สึกไม่ปกติเลย 114 00:04:56,981 --> 00:05:00,136 แล้วผมก็หยุดพากย์เสียงในวิดิโอของผม 115 00:05:01,666 --> 00:05:05,791 ตั้งแต่ตอนนั้นผมก็คิดอยู่บ่อย ๆ เกี่ยวกับคำว่าปกติ 116 00:05:07,731 --> 00:05:08,584 และผมก็เข้าใจ 117 00:05:09,714 --> 00:05:12,260 ว่า ปกติ มันเกี่ยวข้องกับความคาดหวังด้วย 118 00:05:13,460 --> 00:05:15,128 ผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง 119 00:05:15,128 --> 00:05:16,687 ผมเจอเรื่องเล่านี้โดยบังเอิญ 120 00:05:16,687 --> 00:05:18,216 เกี่ยวกับ กวีกรีกโบราณ โฮเมอร์ 121 00:05:18,378 --> 00:05:22,118 โฮเมอร์กล่าวถึงสีไม่กี่สีในงานเขียนของเขา 122 00:05:22,618 --> 00:05:24,444 แต่ถึงอย่างนั้น 123 00:05:24,444 --> 00:05:25,773 เขายังพูดถึงสีผิดเลย 124 00:05:27,356 --> 00:05:29,671 เช่น สีของทะเลเป็นสีไวน์แดง 125 00:05:29,671 --> 00:05:33,789 หน้าคนบางทีก็สีเขียวและแกะบางทีก็สีม่วง 126 00:05:34,647 --> 00:05:36,249 แต่ไม่ได้มีแค่โฮเมอร์หรอก 127 00:05:36,259 --> 00:05:38,036 หากคุณดูวรรณกรรมโบราณทั้งหมด 128 00:05:38,036 --> 00:05:40,781 จีน ไอซ์แลนด์ กรีก อินเดียโบราณ 129 00:05:40,781 --> 00:05:43,472 หรือแม้แต่ต้นฉบับไบเบิลของฮิบรู 130 00:05:43,472 --> 00:05:46,172 ก็ต่างกล่าวถึงสีอยู่สองสามสี 131 00:05:46,832 --> 00:05:49,559 ทฤษฎีที่อธิบายปรากฏการณ์นี้ 132 00:05:50,493 --> 00:05:52,899 คือ การที่วัฒนธรรมเริ่มสังเกตเห็นสี 133 00:05:52,899 --> 00:05:55,053 เมื่อพวกเขาสามารถสร้างสรรค์สีได้ 134 00:05:55,821 --> 00:05:57,515 หากคุณสร้างสีขึ้นมาได้ 135 00:05:57,515 --> 00:05:59,100 คุณก็จะสังเกตเห็นสีเหล่านั้น 136 00:05:59,870 --> 00:06:03,670 สีแดงซึ่งหลายวัฒนธรรมสร้างสรรค์ได้ง่าย 137 00:06:03,680 --> 00:06:06,376 พวกเขาเริ่มเห็นสีนี้มาตั้งแต่แรก ๆ 138 00:06:06,845 --> 00:06:09,054 แต่สีฟ้าซึ่งสร้างสรรค์ได้ยากกว่า 139 00:06:09,054 --> 00:06:11,115 หลายวัฒนธรรมยังไม่ได้เรียนรู้จัก 140 00:06:11,115 --> 00:06:12,642 และพวกเขามองไม่เห็นสีนั้น 141 00:06:12,642 --> 00:06:15,265 จนหลังจากนั้นเป็นเวลานาน 142 00:06:16,167 --> 00:06:18,843 ก่อนจะถึงตอนนั้นแม้ว่าสีจะอยู่รอบตัวเรา 143 00:06:18,843 --> 00:06:21,659 พวกเขาก็ยังมองไม่เห็นมันอยู่ดี 144 00:06:21,659 --> 00:06:22,879 เป็นเหมือนสิ่งที่มองไม่เห็น 145 00:06:22,890 --> 00:06:25,405 ไม่ใช่ส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน 146 00:06:26,435 --> 00:06:29,743 เรื่องนี้ช่วยให้ผมเข้าใจตัวเองได้มากขึ้น 147 00:06:29,963 --> 00:06:32,994 ดังนั้นเมื่อผมอ่านความเห็นแรกในวิดิโอ 148 00:06:32,996 --> 00:06:36,408 ปฎิกิริยาแรกคือผมไม่พอใจมาก 149 00:06:36,408 --> 00:06:38,238 แต่คนเขียนความเห็นเขาไม่รู้ 150 00:06:38,238 --> 00:06:41,483 ว่าผมกังวลเรื่องเสียงผมขนาดไหน 151 00:06:42,930 --> 00:06:45,408 ส่วนใหญ่พวกเขาวิจารณ์สำเนียงผม 152 00:06:45,409 --> 00:06:49,019 ว่าเป็นเรื่องไม่ปกตินักที่นักพากย์จะมีสำเนียง 153 00:06:49,513 --> 00:06:51,650 แต่อะไรคือสิ่งที่ปกติล่ะ 154 00:06:51,650 --> 00:06:54,330 เรารู้ว่าคนดูจะเจอคำผิดในงานเขียน 155 00:06:54,330 --> 00:06:55,993 หากพวกเค้าคิดว่าคนเขียนเป็นคนดำ 156 00:06:57,301 --> 00:07:00,833 รู้ว่าอาจารย์ไม่ค่อยจะช่วยนักเรียนผู้หญิง หรือผิวสี 157 00:07:02,946 --> 00:07:05,457 รู้ว่าใบสมัครงานที่มีชื่อเหมือนคนผิวขาว 158 00:07:05,461 --> 00:07:08,783 ได้การตอบรับมากกว่าอันที่มีชื่อคนผิวสี 159 00:07:09,394 --> 00:07:10,071 ทำไมล่ะ 160 00:07:11,726 --> 00:07:13,569 เพราะมันเป็นสิ่งที่เรามองว่าปกติไง 161 00:07:14,559 --> 00:07:15,667 เราคิดว่ามันปกติ 162 00:07:15,671 --> 00:07:18,004 เมื่อนักเรียนผิวสีสะกดคำผิดเยอะ 163 00:07:18,514 --> 00:07:19,903 เราคิดว่าเป็นเรื่องปกติ 164 00:07:19,903 --> 00:07:22,928 เมื่อนักเรียนหญิงหรือผิวสีเรียนไม่จบ 165 00:07:22,928 --> 00:07:25,664 เราก็คิดว่าปกติ 166 00:07:25,664 --> 00:07:29,146 และลูกจ้างผิวขาวได้รับการจ้างมากกว่าผิวสี 167 00:07:29,494 --> 00:07:32,271 ผลวิจัยบอกว่าการเลือกปฎิบัติเช่นนี้ 168 00:07:32,285 --> 00:07:34,461 บ่อยครั้ง เกิดจากความลำเอียง 169 00:07:34,461 --> 00:07:38,180 มาจากการต้องการช่วยคนแบบเดียวกับเรา 170 00:07:38,180 --> 00:07:42,405 มากกว่าจะอยากทำร้ายคนที่ต่างกับเรา 171 00:07:43,099 --> 00:07:46,837 ความรู้สึกไม่เข้ากันเริ่มขึ้นตั้งแต่เด็ก 172 00:07:46,837 --> 00:07:48,476 ผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง 173 00:07:48,476 --> 00:07:51,893 ห้องสมุดนึงบันทึกตัวละคร 174 00:07:51,893 --> 00:07:54,563 ในชุดหนังสือเด็กทุกปี 175 00:07:54,577 --> 00:08:00,144 พบว่าปี 2014 แค่ 11% ของหนังสือทั้งหมด 176 00:08:00,144 --> 00:08:02,157 มีตัวละครผิวสี 177 00:08:02,157 --> 00:08:05,498 ก่อนหน้านั้นเพียงหนึงปีมีประมาณ 8% 178 00:08:06,108 --> 00:08:09,902 แม้ว่าตอนนี้เด็กอเมริกันครึ่งนึงเป็นผิวสี 179 00:08:09,902 --> 00:08:11,129 ครึ่งนึงเลยนะครับ 180 00:08:11,319 --> 00:08:12,657 จุดนี้เรามีสองปัญหาใหญ่ 181 00:08:12,657 --> 00:08:15,395 หนึ่ง เราบอกเด็กเป็นอะไรก็ได้ 182 00:08:15,395 --> 00:08:16,619 ทำอะไรก็ได้ 183 00:08:16,619 --> 00:08:19,076 แต่เรื่องราวที่เด็กผิวสีเห็นส่วนใหญ่ 184 00:08:19,076 --> 00:08:20,667 ก็เกี่ยวกับคนที่ต่างจากเขา 185 00:08:21,185 --> 00:08:23,858 อันที่สอง คนส่วนใหญ่ไม่ตระหนัก 186 00:08:23,858 --> 00:08:26,170 ถึงความคล้ายกันระหว่างเขากับคนผิวสี 187 00:08:27,250 --> 00:08:29,343 ชีวิตประจำวัน ความหวัง 188 00:08:29,541 --> 00:08:31,524 ความฝัน ความกลัว 189 00:08:32,123 --> 00:08:33,780 และความชอบต่อขนมฮัมมุสเหมือน ๆ กัน 190 00:08:33,780 --> 00:08:34,832 มันอร่อยใช่มั้ยครับ! 191 00:08:34,832 --> 00:08:35,775 (เสียงหัวเราะ) 192 00:08:38,385 --> 00:08:40,354 ก็เหมือนสีฟ้าในกรีกโบราณ 193 00:08:40,948 --> 00:08:43,825 คนผิวสีไม่ใช่เรื่องปกติ 194 00:08:45,686 --> 00:08:49,929 เพราะว่าปกติคือสื่งที่เราเจอบ่อย ๆ 195 00:08:50,729 --> 00:08:52,690 คือสิ่งรอบตัวที่เรามองเห็น 196 00:08:53,950 --> 00:08:55,781 จุดนี้เองที่ทุกอย่างเริ่มยุ่งยาก 197 00:08:56,863 --> 00:09:00,842 ผมแค่ยอมรับความเชื่อที่ว่า ปกติเท่ากับดี 198 00:09:01,036 --> 00:09:04,758 และสิ่งอื่นที่ไม่ได้อยู่ในกรอบแคบ ๆ นั้น คือไม่ดี 199 00:09:06,033 --> 00:09:09,693 หรือผมสามารถท้าทายความเชื่อนั้น 200 00:09:09,908 --> 00:09:11,433 ด้วยงานของผม 201 00:09:12,384 --> 00:09:13,460 ด้วยเสียงของผม 202 00:09:14,080 --> 00:09:15,553 ด้วยสำเนียงของผม 203 00:09:16,727 --> 00:09:18,183 และด้วยการยินอยู่บนเวทีนี้ 204 00:09:18,183 --> 00:09:20,936 ถึงแม้ผมจะกลัว และอยากหนีไปอยู่ในห้องน้ำมากครับ 205 00:09:20,936 --> 00:09:22,472 (เสียงหัวเราะ) 206 00:09:22,472 --> 00:09:28,273 (เสียงปรบมือ) 207 00:09:33,783 --> 00:09:35,764 (วีดีโอ) แกะ (เสียงซาลีม) ผมค่อย ๆ ใช้เสียงผม 208 00:09:35,764 --> 00:09:36,731 ในวิดีโออีกครั้ง 209 00:09:36,918 --> 00:09:37,888 ผมรู้สึกดีมาก 210 00:09:38,338 --> 00:09:40,332 ไม่ได้บอกว่าผมไม่จิดตกนะ 211 00:09:40,332 --> 00:09:41,837 ถ้าคราวหน้าหลายคนจะบอกว่าผมพูด 212 00:09:41,837 --> 00:09:44,065 (เสียงพึมพำ) เหมือนอมเนยถั่วในปาก 213 00:09:44,065 --> 00:09:45,962 (เสียงหัวเราะ) 214 00:09:46,598 --> 00:09:49,126 ผมแค่จะบอกว่าตอนนี้ผมเข้าใจมากขึ้น 215 00:09:49,126 --> 00:09:50,388 ว่าผมยืนอยู่จุดไหน 216 00:09:51,118 --> 00:09:53,708 และการยอมแพ้ไม่ใช่ตัวเลือก 217 00:09:57,115 --> 00:09:59,249 คนกรีกโบราณไม่ได้ตื่นมาแล้วรู้ว่า 218 00:09:59,249 --> 00:10:00,499 ท้องฟ้ามีสีฟ้า 219 00:10:01,590 --> 00:10:04,306 เขาใช้เวลาเป็นร้อย ๆ ปี 220 00:10:04,306 --> 00:10:05,331 กว่าจะเห็นสิ่งที่เคยมองข้าม 221 00:10:06,986 --> 00:10:10,494 เราต้องท้าทายความปกติตลอดเวลา 222 00:10:10,498 --> 00:10:15,017 และเมื่อทำแบบนั้น สังคมก็ได้เห็นว่า 223 00:10:15,017 --> 00:10:17,588 ท้องฟ้าจริง ๆ เป็นยังไง 224 00:10:20,854 --> 00:10:26,196 (วีดีโอ) ตัวละคร: ขอบคุณ ๆ 225 00:10:26,204 --> 00:10:27,570 แฟรงเกนสไตน์: ฮือออออออออออออออ 226 00:10:27,570 --> 00:10:28,414 (เสียงหัวเราะ) 227 00:10:28,414 --> 00:10:29,245 ขอบคุณครับ 228 00:10:29,245 --> 00:10:31,126 (เสียงปรบมือ)