0:00:00.760,0:00:03.765
เวลาที่คุณเงยหน้ามองดาวในยามค่ำคืน

0:00:03.765,0:00:05.256
สิ่งที่คุณเห็นมันสุดยอดมาก

0:00:05.256,0:00:06.736
มันสวยงามมาก

0:00:06.736,0:00:09.866
แต่สิ่งที่สุดยอดกว่านั้นคือ[br]สิ่งที่คุณมองไม่เห็น

0:00:09.866,0:00:11.246
เพราะตอนนี้เรารู้แล้วว่า

0:00:11.246,0:00:14.646
สิ่งที่รายล้อมดาวทุกดวง[br]หรือเกือบจะทุกดวงนั้น

0:00:14.646,0:00:15.936
คือดาวเคราะห์ 1 ดวง

0:00:15.936,0:00:17.120
หรืออาจจะ 2-3 ดวง

0:00:18.120,0:00:20.220
สิ่งที่ภาพนี้ไม่ได้แสดงให้คุณเห็น

0:00:20.220,0:00:22.396
คือดาวเคราะห์ทุกดวงที่เรารู้จัก

0:00:22.396,0:00:23.800
ที่อยู่ในอวกาศ

0:00:24.280,0:00:27.470
เมื่อเราคิดถึงดาวเคราะห์[br]เรามักจะคิดถึงสิ่งที่อยู่ไกลออกไป

0:00:27.470,0:00:29.360
ดาวที่มีความแตกต่างกับเราอย่างมาก

0:00:29.360,0:00:31.790
แต่ว่าตอนนี้เราก็อยู่บนดาวเคราะห์

0:00:31.790,0:00:35.110
แล้วโลกเราก็มีเรื่องที่น่าทึ่ง[br]อยู่หลายเรื่องเลยค่ะ

0:00:35.110,0:00:39.320
เราพยายามค้นหาทั่วทุกทิศ[br]เพื่อหาดาวเคราะห์ที่คล้ายคลึงกับโลก

0:00:39.320,0:00:42.840
และยิ่งเราค้นหา[br]เราก็ยิ่งค้นพบความน่าทึ่ง

0:00:42.840,0:00:47.070
แต่ฉันอยากจะบอกคุณเกี่ยวกับ[br]เรื่องน่าทึ่งอย่างหนึ่งบนโลกของเรา

0:00:47.070,0:00:49.850
นั่นคือในทุก ๆ หนึ่งนาที

0:00:49.850,0:00:52.290
ไฮโดรเจน 400 ปอนด์

0:00:52.290,0:00:54.920
กับฮีเลียมเกือบ 7 ปอนด์

0:00:54.920,0:00:57.800
หลุดจากโลกไปยังอวกาศ

0:00:58.800,0:01:02.760
ก๊าซเหล่านี้ หลุดออกไป[br]และจะไม่กลับมา

0:01:03.440,0:01:06.440
ไฮโดรเจน ฮีเลียม[br]และสิ่งอื่น ๆ อีกหลายสิ่ง

0:01:06.440,0:01:09.320
สร้างสิ่งที่เราเรียกว่าชั้นบรรยากาศ

0:01:09.320,0:01:14.040
ชั้นบรรยากาศมีแต่ก๊าซพวกนี้[br]ที่เป็นเส้นสีฟ้าบาง ๆ

0:01:14.040,0:01:16.410
มองเห็นได้จากสถานีอวกาศนานาชาติ

0:01:16.410,0:01:18.680
นี่คือภาพที่นักบินอวกาศบางคนถ่ายมา

0:01:19.200,0:01:22.570
และเส้นบาง ๆ ที่อยู่รอบโลกเรานี้เอง

0:01:22.570,0:01:24.920
ที่ทำให้โลกอุดมไปด้วยสิ่งมีชีวิต

0:01:24.920,0:01:27.800
มันปกป้องโลกของเรา[br]จากการปะทะของอุกกาบาต

0:01:27.800,0:01:29.850
และสิ่งต่าง ๆ มาอย่างมากมาย

0:01:29.850,0:01:33.650
มันเป็นปรากฏการณ์ที่น่าอัศจรรย์มาก

0:01:33.650,0:01:36.470
และความจริงที่ว่ามันกำลังค่อย ๆ หายไป

0:01:36.470,0:01:39.320
อย่างน้อยก็ควรสร้างความหวาดกลัวให้กับคุณ

0:01:40.160,0:01:43.430
ดังนั้น ฉันจึงศึกษา[br]เกี่ยวกับกระบวนการนี้

0:01:43.430,0:01:45.720
และเรียกมันว่าการหลุดของชั้นบรรยากาศ

0:01:46.680,0:01:51.240
การหลุดของชั้นบรรยากาศ[br]ไม่ได้เกิดขึ้นกับโลกของเราเพียงอย่างเดียว

0:01:51.240,0:01:55.000
มันเป็นสิ่งที่ทำให้ดาวดวงนั้น[br]ถูกเรียกว่าดาวเคราะห์เลยค่ะ

0:01:55.000,0:01:59.360
เพราะว่าดาวเคราะห์ ไม่เพียงแต่โลก[br]แต่รวมถึงทุกดวงในจักรวาล

0:01:59.360,0:02:01.960
สามารถเกิดการหลุดของชั้นบรรยากาศขึ้นได้

0:02:01.960,0:02:07.400
และสิ่งที่เกิดขึ้นก็ได้บอกเรา[br]เกี่ยวกับดาวดวงนั้น ๆ เอง

0:02:07.920,0:02:10.560
เพราะว่าหากคุณนึกถึงระบบสุริยะ

0:02:10.560,0:02:12.640
คุณอาจจะคิดถึงรูปนี้

0:02:13.800,0:02:17.200
คุณอาจจะบอกว่า[br]มีดาวเคราะห์แปดดวง หรืออาจจะเก้า

0:02:17.200,0:02:19.710
ถ้าหากพวกคุณบางคน[br]จะคิดมากกับภาพนี้นะคะ

0:02:19.710,0:02:21.130
ฉันจะเพิ่มบางคนเข้าไปให้

0:02:21.130,0:02:22.360
(เสียงหัวเราะ)

0:02:22.360,0:02:25.280
เพื่อให้เกียรติยานนิวฮอไรซอน[br]เราจะนับดาวพลูโตด้วยแล้วกัน

0:02:26.160,0:02:27.370
สิ่งที่คุณกำลังเห็น

0:02:27.370,0:02:30.130
คือเป้าหมายของการบรรยายนี้[br]และการหลุดของชั้นบรรยากาศ

0:02:30.130,0:02:32.160
สำหรับฉัน พลูโตเป็นดาวเคราะห์นะคะ

0:02:32.160,0:02:36.100
ในทางเดียวกัน ดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวฤกษ์[br]แม้เราจะมองไม่เห็น

0:02:36.100,0:02:37.930
ก็นับเป็นดาวเคราะห์

0:02:37.930,0:02:40.620
ซึ่งลักษณะพื้นฐานของดาวเคราะห์

0:02:40.620,0:02:43.690
ประกอบด้วย[br]ความจริงที่ว่ามันมีรูปทรง

0:02:43.690,0:02:45.530
ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยแรงโน้มถ่วง

0:02:45.530,0:02:48.050
วัตถุมากมายถูกดึงเข้ามารวมกัน

0:02:48.050,0:02:49.680
ด้วยแรงดึงดูดนี้เอง

0:02:50.240,0:02:53.080
หากรูปทรงนี้ใหญ่มาก[br]ก็แปลว่ามีแรงโน้มถ่วงมาก

0:02:53.080,0:02:54.390
นี่คือสาเหตุที่มันกลม

0:02:54.390,0:02:56.050
ดังนั้น เมื่อคุณดูภาพนี้

0:02:56.050,0:02:57.290
รวมถึงดาวพลูโตด้วย

0:02:57.290,0:02:58.520
พวกมันกลม

0:02:59.000,0:03:01.710
ดังนั้น คุณจะเห็นบทบาท[br]ของแรงโน้มถ่วงในภาพนี้ด้วย

0:03:01.710,0:03:05.040
แต่ลักษณะพื้นฐานของ[br]ดาวเคราะห์อีกอย่างหนึ่ง

0:03:05.040,0:03:06.800
คือสิ่งที่คุณไม่เห็นในภาพนี้

0:03:06.800,0:03:09.400
และนี่คือดาวฤกษ์ค่ะ[br]คือดวงอาทิตย์

0:03:09.400,0:03:12.560
ซึ่งดาวเคราะห์ทุกดวงในระบบสุริยะ[br]กำลังโคจรอยู่รอบ ๆ

0:03:13.200,0:03:16.920
และยังเป็นปัจจัยหลัก[br]ที่ทำให้เกิดการหลุดของชั้นบรรยากาศ

0:03:17.760,0:03:23.090
เหตุผลที่ดาวฤกษ์ทำให้ชั้นบรรยากาศ[br]หลุดออกไปจากดาวเคราะห์

0:03:23.090,0:03:28.480
ก็เพราะดาวฤกษ์ให้อนุภาค และแสง[br]และความร้อนแก่ดาวเคราะห์

0:03:28.480,0:03:31.600
ซึ่งเป็นสาเหตุให้ชั้นบรรยากาศ[br]หลุดหายออกไปด้วย

0:03:31.600,0:03:33.450
คุณลองนึกถึงบอลลูนลมร้อน

0:03:33.450,0:03:37.610
หรือไม่ก็ดูภาพนี้ค่ะ[br]นี่คือเทศกาลลอยโคมในประเทศไทย

0:03:37.610,0:03:41.120
คุณจะเห็นว่าอากาศร้อน[br]จะขับเคลื่อนให้ก๊าซลอยขึ้นด้านบน

0:03:41.120,0:03:43.410
หากคุณมีพลังงาน[br]และความร้อนมากเพียงพอ

0:03:43.410,0:03:44.756
ซึ่งดวงอาทิตย์ของเรามี

0:03:44.756,0:03:48.670
ก๊าซเหล่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เบา[br]และถูกดึงเข้าไว้ด้วยแรงโน้มถ่วง

0:03:48.670,0:03:50.480
ก็จะสามารถหลุดลอยออกไปได้

0:03:51.600,0:03:55.520
นี่คือสาเหตุที่ทำให้เกิด[br]การหลุดของชั้นบรรยากาศ

0:03:55.520,0:03:58.230
ทั้งบนโลกของเรา[br]และบนดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ

0:03:58.230,0:04:00.940
มันคืออิทธิพลระหว่าง[br]ความร้อนจากดาวฤกษ์

0:04:00.940,0:04:04.320
กับพลังในการยื้อยุด[br]ของแรงโน้มถ่วงบนดาวเคราะห์

0:04:05.000,0:04:06.710
ตามที่ฉันบอกว่ามันเกิดขึ้นแล้ว

0:04:06.710,0:04:10.080
ในอัตราของไฮโดรเจน 400 ปอนด์ต่อนาที

0:04:10.080,0:04:12.200
และฮีเลียมเกือบ 7 ปอนด์ต่อนาที

0:04:13.040,0:04:14.670
แล้วมันเป็นอย่างไรล่ะ

0:04:14.670,0:04:16.530
ย้อนกลับไปในยุค '80

0:04:16.530,0:04:18.280
พวกเราได้ถ่ายภาพโลก

0:04:18.280,0:04:19.760
ในรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต

0:04:19.760,0:04:22.690
ด้วยยานไดนามิคเอ็กพลอเรอร์ของนาซ่า

0:04:22.690,0:04:24.520
และภาพของโลกสองภาพนี้

0:04:24.520,0:04:28.290
แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้น[br]ของการหลุดหายไปของไฮโดรเจน

0:04:28.290,0:04:29.560
ด้วยสีแดง

0:04:29.560,0:04:33.216
และเรายังเห็นสิ่งอื่น ๆ[br]อย่างเช่น ออกซิเจน หรือ ไนโตรเจน

0:04:33.220,0:04:34.690
ตรงรัศมีสีขาว

0:04:34.690,0:04:37.056
ในวงกลมนี้แสดงให้เห็นถึงแสงออโรร่า

0:04:37.060,0:04:39.960
และเห็นเป็นปอย ๆ แถว ๆ เขตร้อน

0:04:39.960,0:04:43.016
สรุปแล้ว ภาพนี้ได้แสดงให้เราเห็นว่า

0:04:43.020,0:04:46.730
ชั้นบรรยากาศของเรา[br]ไม่ได้ถูกดึงเอาไว้เพียงอย่างเดียว

0:04:46.730,0:04:50.376
แต่จริง ๆ แล้ว [br]มันกระจายออกไปยังอวกาศด้วย

0:04:50.380,0:04:52.320
ฉันจะเพิ่มให้ว่า ในระดับที่ควรกังวล

0:04:53.080,0:04:56.870
แต่โลกไม่ได้เป็นดาวเคราะห์ดวงเดียว[br]ที่ชั้นบรรยากาศหลุดลอยออไป

0:04:56.870,0:05:00.360
ดาวอังคาร เพื่อนบ้านที่ใกล้ที่สุด[br]มีขนาดเล็กกว่าโลกมาก

0:05:00.360,0:05:04.170
จึงมีแรงโน้มถ่วง[br]ที่จะดึงชั้นบรรยากาศเอาไว้ได้น้อยกว่า

0:05:04.170,0:05:06.400
ถึงอย่างนั้น[br]ดาวอังคารก็มีชั้นบรรยากาศ

0:05:06.400,0:05:08.650
เราจะเห็นเส้นที่บางกว่าของโลกมาก

0:05:08.650,0:05:10.136
ลองดูที่พื้นผิวสิคะ

0:05:10.140,0:05:13.600
เราจะเห็นหลุมบ่อ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า[br]ชั้นบรรยากาศของมัน

0:05:13.600,0:05:15.490
บางเกินกว่าจะหยุดยั้งการปะทะ

0:05:15.490,0:05:18.280
เราจะเห็นว่านี่คือ "ดาวแดง"

0:05:18.280,0:05:20.840
ซึ่งก็เป็นผลมาจาก[br]การหลุดของชั้นบรรยากาศ

0:05:20.840,0:05:22.440
ทำให้ดาวอังคารมีสีแดง

0:05:22.440,0:05:26.040
เพราะคิดว่าในอดีต[br]ดาวอังคารเคยมีน้ำมาก่อน

0:05:26.040,0:05:30.650
และเมื่อน้ำมีพลังงานมากพอ[br]มันจะกลายเป็นไฮโดรเจนและออกซิเจน

0:05:30.650,0:05:34.400
ไฮโดรเจนเบาจนสามารถลอยขึ้นสู่อวกาศ

0:05:34.400,0:05:36.360
ทิ้งไว้แต่เพียงออกซิเจน

0:05:36.360,0:05:38.210
เผาผลาญตัวเองและตกลงสู่พื้นดิน

0:05:38.210,0:05:41.960
ทำให้เกิดสีแดงคล้าย ๆ สนิม[br]แบบที่เราเห็นกัน

0:05:42.960,0:05:44.870
เราสามารถมองภาพของดาวอังคาร

0:05:44.870,0:05:47.370
และบอกว่าอาจมีการหลุดของชั้นบรรยากาศ

0:05:47.370,0:05:51.480
แต่นาซ่ากำลังค้นคว้า และขณะนี้[br]ได้ส่งดาวเทียมมาเวนไปยังดาวอังคาร

0:05:51.480,0:05:55.050
งานของมันคือการศึกษา[br]เกี่ยวกับการหลุดของชั้นบรรยากาศ

0:05:55.050,0:05:59.630
และยานโวลาไทล์อีโวลูชั่น[br]เพื่อศึกษาชั้นบรรยากาศ

0:05:59.630,0:06:03.330
มันได้ส่งผลมาเป็นภาพ[br]ซึ่งดูแล้วคล้ายคลึงกับ

0:06:03.330,0:06:05.256
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกของเรา

0:06:05.260,0:06:07.760
เรารู้มานานแล้วว่าดาวอังคาร[br]สูญเสียชั้นบรรยากาศ

0:06:07.760,0:06:09.550
แต่เรามีภาพที่น่าประหลาดใจกว่า

0:06:09.550,0:06:12.710
นี่คือตัวอย่างค่ะ[br]คุณจะเห็นในวงกลมสีแดง

0:06:12.710,0:06:14.240
มันคือขนาดของดาวอังคาร

0:06:14.240,0:06:18.450
ส่วนสีน้ำเงินคือไฮโดรเจน[br]ที่หลุดลอยออกไปยังอวกาศ

0:06:18.450,0:06:22.000
มันมีขนาดมากกว่าสิบเท่าของดาวเคราะห์

0:06:22.000,0:06:24.720
หลุดออกไปไกลจนไม่สามารถ[br]ดึงกลับมายังดาวเคราะห์ได้อีก

0:06:24.720,0:06:26.720
มันหลุดออกในอวกาศ

0:06:26.720,0:06:28.960
ภาพนี้ช่วยยืนยันความคิดของเรา

0:06:28.960,0:06:31.760
ที่ว่าดาวอังคารเป็นสีแดง[br]เพราะสูญเสียไฮโดรเจน

0:06:32.520,0:06:35.080
แต่ไฮโดรเจน[br]ไม่ได้เป็นก๊าซชนิดเดียวที่เสียไป

0:06:35.080,0:06:38.290
ฉันกำลังพูดถึงฮีเลียมบนโลก[br]ออกซิเจน และไนโตรเจน

0:06:38.290,0:06:42.090
และภาพจากมาเวน เราจะเห็นว่าออกซิเจน[br]ก็กำลังหลุดออกไปจากดาวอังคาร

0:06:42.090,0:06:44.550
อย่างที่คุณเห็น[br]เพราะว่าออกซิเจนมีน้ำหนักมากกว่า

0:06:44.550,0:06:47.730
มันจึงหลุดออกไปได้ไม่ไกลเท่าไฮโดรเจน

0:06:47.730,0:06:49.920
แต่ก็ยังหลุดออกไปจากดาวเคราะห์อยู่ดี

0:06:49.920,0:06:53.040
คุณจะไม่เห็นมันรวมตัวกัน[br]อยู่เพียงในวงกลมสีแดง

0:06:53.800,0:06:57.800
ความจริงที่ว่าเราไม่ได้เห็นเพียง[br]การหลุดของชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์

0:06:57.800,0:07:01.440
แต่เรายังเห็นสิ่งอื่น ๆ [br]และส่งยานสำรวจออกไป

0:07:01.440,0:07:04.560
เพื่อให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับ[br]อดีตของดาวเคราะห์

0:07:04.560,0:07:06.856
ลักษณะทั่วไปของดาวเคราะห์

0:07:06.860,0:07:08.640
และอนาคตของโลก

0:07:08.640,0:07:11.336
ดังนั้น ทางเดียวที่จะทำให้เราเห็นอนาคต

0:07:11.340,0:07:14.440
คือการเรียนรู้จากดาวเคราะห์[br]ที่อยู่ห่างไกลและมองไม่เห็น

0:07:15.440,0:07:18.490
ก่อนจะไปถึงตรงนั้น[br]ฉันควรอธิบายเพิ่มสักเล็กน้อย

0:07:18.490,0:07:20.970
ฉันไม่ได้กำลังให้คุณดูภาพแบบนี้ของพลูโต

0:07:20.970,0:07:22.410
อาจจะผิดหวังกันนิดหน่อย

0:07:22.410,0:07:24.450
เพราะเรายังไม่มีรูปแบบนี้ของมัน

0:07:24.450,0:07:27.700
แต่ตอนนี้ ภารกิจของนิวฮอไรซอน[br]ก็กำลังศึกษาการหลุดของชั้นบรรยากาศ

0:07:27.700,0:07:29.090
ที่หายไปจากดาวพลูโต

0:07:29.090,0:07:30.840
รอติดตามความคืบหน้ากันนะคะ

0:07:31.560,0:07:33.680
แต่ดาวเคราะห์ที่ฉันอยากจะพูดถึง

0:07:33.680,0:07:36.000
คือดาวเคราะห์นอกระบบที่โคจรผ่านหน้าดาวฤกษ์

0:07:36.000,0:07:39.800
ดาวเคราะห์ทุกดวงที่โคจรรอบดาวฤกษ์[br]ซึ่งไม่ใช่ดวงอาทิตย์ของเรา

0:07:39.800,0:07:42.770
เราเรียกมันว่าดาวเคราะห์นอกระบบ

0:07:42.770,0:07:45.240
และดาวเคราะห์ที่เรียกว่า[br]ดาวเคราะโคจรผ่านหน้าดาวฤกษ์

0:07:45.240,0:07:46.530
มีคุณสมบัติพิเศษ

0:07:46.530,0:07:48.656
คือถ้ามองดวงดาวที่อยู่ตรงกลางนี้

0:07:48.660,0:07:51.050
คุณจะเห็นว่ามันกำลังกะพริบ

0:07:51.050,0:07:52.900
และเหตุผลที่มันกะพริบ

0:07:52.900,0:07:56.960
ก็เพราะว่ามันมีดาวเคราะห์[br]ที่โคจรผ่านในตอนนั้นพอดี

0:07:56.960,0:07:59.130
และมันสอดคล้องกับการบอกว่า

0:07:59.130,0:08:01.920
ดาวเคราะห์เหล่านี้ไปบดบังแสงจากดาวฤกษ์

0:08:01.920,0:08:04.240
ซึ่งทำให้เราเห็นแสงกะพริบ

0:08:04.960,0:08:07.800
และด้วยการสำรวจดาวฤกษ์บนท้องฟ้า[br]ตอนกลางคืน

0:08:07.800,0:08:09.240
ด้วยจังหวะการกะพริบ

0:08:09.240,0:08:10.930
มันก็เลยทำให้เราค้นพบดาวเคราะห์

0:08:10.930,0:08:15.110
นี่คือวิธีที่เราใช้ตรวจจับดาวเคราะห์[br]มากกว่า 5,000 ดวง

0:08:15.110,0:08:16.370
ในกาแลกซี่ทางช้างเผือก

0:08:16.370,0:08:19.240
และเรารู้ว่ามันยังมีมากกว่านั้น[br]อย่างที่ฉันบอก

0:08:19.240,0:08:22.170
ดังนั้น เมื่อเรามองไปยังแสงของ[br]ดาวฤกษ์เหล่านี้

0:08:22.170,0:08:25.670
อย่างที่ฉันบอก[br]เราไม่ได้เห็นเพียงแค่ดาวเคราะห์เท่านั้น

0:08:25.670,0:08:27.760
จริง ๆ เรายังเห็นความสลัวของแสง

0:08:27.760,0:08:29.450
ซึ่งเราได้ทำการบันทึกไว้

0:08:29.450,0:08:32.879
ดังนั้น แสงของมันลดลงเมื่อมีดาวเคราะห์[br]โคจรผ่านหน้าดาวฤกษ์

0:08:32.879,0:08:35.320
และการกะพริบที่คุณได้เห็นก่อนหน้านี้

0:08:35.320,0:08:37.170
เราไม่ได้ตรวจจับได้เพียงดาวเคราะห์

0:08:37.170,0:08:40.015
แต่เรายังเห็นแสงในความยาวคลื่น[br]ที่แตกต่างกัน

0:08:40.019,0:08:44.129
ฉันเคยบอกว่าเรามองโลกและดาวอังคาร[br]ผ่านแสงอัลตร้าไวโอเล็ต

0:08:44.129,0:08:47.750
หากเรามองดาวเคราะห์โคจรผ่านดาวฤกษ์[br]ผ่านกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล

0:08:47.750,0:08:49.890
เราเห็นมันในแสงอัลตร้าไวโอเล็ต

0:08:49.890,0:08:53.550
เราจะเห็นการกะพริบที่แรงกว่า[br]ซึ่งบดบังแสงจากดาวฤกษ์มากกว่า

0:08:53.550,0:08:55.370
เมื่อดาวเคราะห์โคจรผ่านหน้า

0:08:55.370,0:08:58.800
เราจึงคิดว่า เพราะมันมีชั้นบรรยากาศ[br]ของก๊าซไฮโดรเจนที่แผ่ออกไปไกล

0:08:58.800,0:09:00.050
ปกคลุมดาวเคราะห์นั้น

0:09:00.050,0:09:01.560
ซึ่งทำให้มันดูพองกว่า

0:09:01.560,0:09:03.920
ทำให้มันบดบังแสงของดาวฤกษ์[br]มากกว่าที่คุณเห็น

0:09:04.880,0:09:07.770
ด้วยวิธีการนี้ เราสามารถที่จะค้นพบ

0:09:07.770,0:09:12.050
ดาวเคราะห์นอกระบบที่โคจรผ่าน[br]และกำลังสูญเสียชั้นบรรยากาศของตัวเอง

0:09:12.050,0:09:14.860
เราเรียกดาวเคราะห์พวกนี้[br]"ดาวพฤหัสบดีร้อน"

0:09:14.860,0:09:16.520
สำหรับบางอย่างที่เราค้นพบ

0:09:16.520,0:09:19.130
พวกมันเป็นดาวเคราะห์ก๊าซ[br]เหมือนดาวพฤหัสบดี

0:09:19.130,0:09:20.920
แต่มันอยู่ใกล้ดาวฤกษ์มาก ๆ

0:09:20.920,0:09:23.210
ใกล้กว่าดาวพฤหัสบดีประมาณร้อยเท่า

0:09:23.210,0:09:26.680
และพวกมันยังมีก๊าซที่มีน้ำหนักเบา[br]ซึ่งพร้อมจะหลุดออกไป

0:09:26.680,0:09:28.400
และด้วยความร้อนจากดาวฤกษ์

0:09:28.400,0:09:32.240
คุณก็จะได้อัตราความรุนแรง[br]ของการหลุดของชั้นบรรยากาศ

0:09:32.240,0:09:36.890
ไม่เหมือนกับที่เราสูญเสีย[br]ไฮโดรเจน 400 ปอนด์ไปจากโลก

0:09:36.890,0:09:38.170
ดาวเคราะห์เหล่านี้

0:09:38.170,0:09:42.280
สูญเสียไฮโดรเจน 1.3 พันล้านปอนด์ต่อนาที

0:09:43.320,0:09:47.650
คุณอาจจะคิดว่า มันทำให้ดาวเคราะห์นั้น[br]ใกล้จะดับหรือเปล่า

0:09:47.650,0:09:49.680
นี่คือคำถามที่หลายคนสงสัย

0:09:49.680,0:09:51.530
เมื่อพวกเรามองมายังระบบสุริยะ

0:09:51.530,0:09:53.890
ดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์[br]เป็นดาวเคราะห์หิน

0:09:53.890,0:09:56.830
ส่วนดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลออกไป[br]และใหญ่กว่า เป็นดาวเคราะห์ก๊าซ

0:09:56.830,0:09:59.250
เรามาเริ่มกันที่ดาวพฤหัสบดี

0:09:59.250,0:10:00.600
ซึ่งอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์

0:10:00.600,0:10:02.600
และก๊าซกำลังหลุดหายไปหรือเปล่า

0:10:02.600,0:10:05.690
ทีนี้ เรากลับไปคิดถึงดาวพฤหัสบดีร้อน

0:10:05.690,0:10:08.510
ซึ่งมันจะไม่จบด้วยการเป็นโลก[br]หรือดาวพุธ

0:10:08.510,0:10:10.736
แต่ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยอะไรที่เล็กกว่า

0:10:10.740,0:10:13.530
มันก็เป็นไปได้ว่าก๊าซจำนวนหนึ่ง[br]จะหลุดหายออกไป

0:10:13.530,0:10:15.680
ซึ่งมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ

0:10:15.680,0:10:19.040
และก็จะเหลือเพียงสิ่งที่แตกต่างกันมาก ๆ[br]กับจุดเริ่มต้น

0:10:19.040,0:10:20.960
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องปกติค่ะ

0:10:20.960,0:10:23.530
แล้วเราก็กลับมาคิดถึงระบบสุริยะของเรา

0:10:23.530,0:10:26.310
เราจะทำอย่างไรกับโลกของเราดี

0:10:26.310,0:10:28.130
ในอนาคตอันไกลโพ้น

0:10:28.130,0:10:30.260
ดวงอาทิตย์จะเริ่มสว่างขึ้น

0:10:30.260,0:10:31.530
และการเกิดสิ่งนั้น

0:10:31.530,0:10:34.880
ความร้อนที่ออกมาจากดวงอาทิตย์[br]ก็จะเข้มข้นขึ้นมาก

0:10:35.600,0:10:39.910
ในทางเดียวกับที่คุณเห็น[br]ก๊าซหลุดออกจากดาวพฤหัสบดีร้อน

0:10:39.910,0:10:42.290
มันก็จะหลุดออกจากโลกแบบเดียวกัน

0:10:42.290,0:10:44.480
ดังนั้น เมื่อเราต้องรอดู

0:10:44.480,0:10:46.550
หรืออย่างน้อยเตรียมตัวตั้งรับ

0:10:46.550,0:10:48.390
คือความจริงที่ว่าในอนาคตอันไกล

0:10:48.390,0:10:51.210
โลกจะมีหน้าตาคล้ายกับดาวอังคาร

0:10:51.210,0:10:53.960
ไฮโดรเจนที่แตกตัวออกจากน้ำ

0:10:53.960,0:10:56.380
จะลอยหายไปในอวกาศอย่างรวดเร็ว

0:10:56.380,0:11:00.520
เราจะเหลือแต่ดาวเคราะห์สีแดงที่แห้งแล้ง[br]

0:11:00.960,0:11:03.440
แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ[br]ไม่ใช่ 2-3 พันล้านปีนี้หรอก

0:11:03.440,0:11:05.030
ยังมีเวลาให้เตรียมตัว

0:11:05.030,0:11:06.110
(เสียงหัวเราะ)

0:11:06.110,0:11:08.960
แต่ฉันอยากให้พวกคุณ[br]ตื่นตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

0:11:08.960,0:11:10.250
ไม่ใช่เฉพาะในอนาคต

0:11:10.250,0:11:13.496
ตอนที่เราพูดกันนี้[br]ก็มีชั้นบรรยากาศหลุดหายออกไป

0:11:13.500,0:11:17.000
คุณได้ยินเรื่องเรื่องวิทยาศาสตร์น่าทึ่ง[br]ที่เกิดขึ้นในอวกาศมามาก

0:11:17.000,0:11:18.950
มันมีดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลออกไป

0:11:18.950,0:11:22.200
และเรากำลังศึกษาดาวเคราะห์เหล่านั้น[br]เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับโลก

0:11:22.200,0:11:26.910
เหมือนกับที่เราศึกษาดาวอังคาร[br]หรือดาวเคราะห์นอกระบบอย่างดาวพฤหัสบดีร้อน

0:11:26.910,0:11:29.950
เราค้นพบการหลุดของชั้นบรรยากาศ

0:11:29.950,0:11:33.720
และมันก็บอกเราหลาย ๆ อย่าง[br]เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลก

0:11:33.720,0:11:37.810
หากยังคิดว่าอวกาศเป็นเรื่องไกลตัว[br]อยากให้ลองคิดใหม่นะคะ

0:11:37.810,0:11:39.020
ขอบคุณค่ะ

0:11:39.020,0:11:42.120
(เสียงปรบมือ)