1 00:00:06,604 --> 00:00:07,865 นี่คือบ็อบ 2 00:00:09,265 --> 00:00:11,234 บ็อบเป็นการเต้นทางสังคมประเภทหนึ่ง 3 00:00:15,284 --> 00:00:16,815 การเต้นคือภาษา 4 00:00:16,895 --> 00:00:20,755 และการเต้นทางสัมคมคือการแสดงออก ถึงการรวมตัวกันของชุมชน 5 00:00:21,565 --> 00:00:24,475 ไม่ได้มีนักออกแบบท่าเต้นคนเดียว ที่ออกแบบท่าของการเต้นทางสังคม 6 00:00:24,875 --> 00:00:27,024 ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นช่วงเวลาใด 7 00:00:27,524 --> 00:00:30,125 การเต้นแต่ละชนิดมีจังหวะ ที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน 8 00:00:30,465 --> 00:00:33,566 แต่นั่นก็เป็นเรื่องเอกลักษณ์ และความคิดสร้างสรรค์เฉพาะของแต่ละคน 9 00:00:35,916 --> 00:00:36,735 ด้วยเหตุนั้น 10 00:00:36,805 --> 00:00:38,265 การเต้นทางสังคมจึงเกิดขึ้น 11 00:00:38,485 --> 00:00:39,345 เปลี่ยนแปลงไป 12 00:00:39,505 --> 00:00:41,496 และได้รับการเพยแพร่ไปไวราวกับไฟป่า 13 00:00:43,106 --> 00:00:45,845 การเต้นเก่าแก่ราวกับประวัติศาสตร์ที่จำได้ 14 00:00:47,655 --> 00:00:49,726 ในการเต้นทางสังคมแอฟริกันอเมริกัน 15 00:00:50,016 --> 00:00:51,606 เราเห็นมาแล้วกว่า 200 ปี 16 00:00:51,606 --> 00:00:56,406 ว่าประเพณีแอฟริกันและแอฟริกัน-อเมริกัน ส่งผลต่อประวัติศาสตร์อย่างไร 17 00:00:58,286 --> 00:01:00,927 สิ่งที่เกิดในปัจจุบันมักแสดงถึงที่มาในอดีต 18 00:01:01,437 --> 00:01:03,926 และอดีตได้หล่อหลอมว่าเราเป็นใคร 19 00:01:03,926 --> 00:01:04,715 และเราจะเป็นใคร 20 00:01:04,715 --> 00:01:09,430 (เสียงปรบมือ) 21 00:01:09,430 --> 00:01:12,736 การเต้นจูบ้าถือกำเนิดขึ้น จากประสบการณ์การเป็นทาสของชาวแอฟริกา 22 00:01:12,736 --> 00:01:13,943 บนพื้นที่เพาะปลูก 23 00:01:14,493 --> 00:01:15,677 นำมาให้ชาวอเมริกา 24 00:01:15,677 --> 00:01:17,676 ต่างออกไปจากภาษาพูดโดยทั่ว ๆ ไป 25 00:01:17,896 --> 00:01:21,698 การเต้นชนิดนี้เป็นวิธีที่ทาสแอฟริกาใช้ เพื่อจดจำว่าพวกเขามาจากที่ไหน 26 00:01:22,008 --> 00:01:24,307 การเต้นจะมีลักษณะเช่นนี้ คือ 27 00:01:30,627 --> 00:01:31,895 ตบต้นขา 28 00:01:31,995 --> 00:01:32,797 เดินลากเท้า 29 00:01:32,917 --> 00:01:34,497 และตบมือเบา ๆ 30 00:01:34,907 --> 00:01:38,367 นี่คือเหตุผลที่การเต้นหลีกเลี่ยง กฏห้ามในการตีกลองของเจ้าของทาส 31 00:01:39,047 --> 00:01:41,166 แสดงจังหวะที่ซับซ้อนโดยไม่มีการเตรียมการ 32 00:01:41,166 --> 00:01:44,166 เหมือนกับที่บรรพบุรุษ ตีกลองในเฮติ 33 00:01:44,166 --> 00:01:46,536 หรือในชุมชนโยรูบะ ทางฝั่งแอฟริกาตะวันตก 34 00:01:50,706 --> 00:01:54,099 ถือเป็นการรักษา ประเพณีวัฒนธรรม 35 00:01:54,099 --> 00:01:56,292 และความรู้สึกอิสรภาพที่อยู่ภายในให้คงอยู่ 36 00:01:56,292 --> 00:01:57,746 ภายใต้การถูกจองจำ 37 00:01:59,576 --> 00:02:03,577 เหมือนดั่งจิตวิญญาณที่จะหนี ก่อให้เกิดการเต้นชนิดนี้ขึ้น 38 00:02:04,307 --> 00:02:05,257 เค้กวอล์ค 39 00:02:05,447 --> 00:02:09,166 การเต้นที่ล้อเลียนธรรมเนียมปฏิบัติ ของคนในสังคมชนชั้นสูงที่อยู่ทางใต้ 40 00:02:09,386 --> 00:02:12,480 วิถีสำของทาส เพื่อที่จะระบายพวกเจ้านาย 41 00:02:12,890 --> 00:02:14,909 เรื่องประหลาดจากการเต้นประเภทนี้ 42 00:02:14,909 --> 00:02:17,768 คือ เค้กวอล์ค ถูกจัดแสดงให้พวกเจ้านายชม 43 00:02:17,968 --> 00:02:20,828 ผู้ที่ไม่เคยเอะใจเลยว่า พวกเขาถูกล้อเลียนขำขัน 44 00:02:23,108 --> 00:02:25,318 ตอนนี้คุณอาจจะจำสิ่งนี้ได้ 45 00:02:25,848 --> 00:02:27,131 ช่วงปี 1920 46 00:02:27,131 --> 00:02:28,362 ชาร์ลสตัน 47 00:02:31,962 --> 00:02:35,506 ชาร์ลสตันเป็นการแสดง ที่ไม่ได้เตรียมและการแสดงประกอบดนตรี 48 00:02:35,506 --> 00:02:37,819 ทำให้มันกลายเป็นลินดี้ ฮ็อป 49 00:02:37,829 --> 00:02:38,629 การควงแขนเต้นรำ 50 00:02:38,629 --> 00:02:40,119 หรือแม้กระทั่ง คิด เอ็น เพลย์ 51 00:02:40,119 --> 00:02:42,570 แรกเริ่มเดิมทีนั้นเรียกว่าฟังกี้ ชาร์ลสตัน 52 00:02:47,230 --> 00:02:51,281 เริ่มต้นมาจากชุมชนชาวผิวสีที่ผู้คนสนิทกัน ซึ่งอยู่ใกล้กับชาร์ลสตัน ทางใต้ของแคโรไลนา 53 00:02:51,361 --> 00:02:53,530 ชาร์ลสตันถูกเผยแพร่ไปสู่ห้องเต้นรำต่าง ๆ 54 00:02:53,530 --> 00:02:56,471 ที่ที่สาว ๆ มักมีอิสระ ที่จะได้เตะส้นเท้า 55 00:02:56,471 --> 00:02:58,140 และเคลื่อนไหวขา 56 00:03:03,490 --> 00:03:06,650 ทุกวันนี้ การเต้นทางสังคมจะเกี่ยวข้องกับ ชุมชนและความสัมพันธ์ 57 00:03:07,080 --> 00:03:08,310 ถ้าคุณรู้จังหวะ 58 00:03:08,580 --> 00:03:10,380 ก็หมายความว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม 59 00:03:10,380 --> 00:03:12,979 แต่ถ้ามันได้รับความนิยมไปทั่วโลกล่ะ 60 00:03:13,459 --> 00:03:14,740 ต่อมาเป็นการเต้นทวิสต์ 61 00:03:15,030 --> 00:03:19,179 ไม่แปลกใจเลยว่าการเต้นทวิสต์นั้น มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 62 00:03:19,319 --> 00:03:21,251 จากคองโก้ เข้ามาสู่อเมริกา 63 00:03:21,251 --> 00:03:22,621 ในยุคทาส 64 00:03:23,111 --> 00:03:24,332 แต่ในช่วงปลายยุค 50 65 00:03:24,332 --> 00:03:26,351 ก่อนจะเกิดขบวนการสิทธิประชาชน 66 00:03:26,351 --> 00:03:29,891 ชับบี้ เช็กเกอร์ และ ดิก คลาร์ก ทำให้การเต้นทวิสต์เป็นที่นิยม 67 00:03:30,121 --> 00:03:32,651 ทันใดนั้น ขณะที่ทุกคนกำลังเต้นทวิทสต์ 68 00:03:32,651 --> 00:03:33,971 วัยรุ่นผิวขาว 69 00:03:33,971 --> 00:03:35,563 เด็ก ๆ ในละตินอเมริกา 70 00:03:35,563 --> 00:03:38,182 เข้าทำให้มันกลายเป็นเพลงและภาพยนตร์ 71 00:03:38,192 --> 00:03:39,301 ด้วยการเต้นทางสังคม 72 00:03:39,301 --> 00:03:42,031 กำแพงที่กั้นระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ได้จางหายไป 73 00:03:45,311 --> 00:03:48,931 เรื่องราวต่อเนื่องมาจนถึงยุค 80 และยุค 90 74 00:03:48,931 --> 00:03:51,362 พร้อมๆกับการถือกำเนิดของฮิปฮ็อป 75 00:03:51,362 --> 00:03:55,143 การเต้นทางสังคมแอฟริกันอเมริกัน ยิ่งมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น 76 00:03:55,143 --> 00:03:57,201 ยืมมาจากอดีตอันแสนยาวนาน 77 00:03:57,201 --> 00:03:59,921 หล่อหลอมให้เกิดวัฒนธรรมและเกิดการเต้นขึ้น 78 00:04:08,501 --> 00:04:13,023 ปัจจุบัน การเต้นต่าง ๆ พัฒนา เติบโตและเพยแพร่ 79 00:04:14,033 --> 00:04:15,313 ทำไมพวกเราถึงเต้นนะหรือ? 80 00:04:15,703 --> 00:04:16,562 ก็เพื่อเคลื่อนไหว 81 00:04:16,782 --> 00:04:17,692 เพื่อปลดปล่อย 82 00:04:18,092 --> 00:04:19,263 เพื่อแสดงออกทางความคิด 83 00:04:19,263 --> 00:04:20,953 ทำไมพวกเราถึงเต้นด้วยกัน? 84 00:04:21,253 --> 00:04:22,173 เพื่อเยียวยา 85 00:04:22,413 --> 00:04:23,183 เพื่อจดจำ 86 00:04:23,663 --> 00:04:26,164 เพื่อบอกว่า "เราพูดภาษาเดียวกัน" 87 00:04:26,314 --> 00:04:27,394 เรามีตัวตน 88 00:04:27,394 --> 00:04:28,804 และเรามีอิสรภาพ