1 00:00:05,316 --> 00:00:08,422 ฉันขอกล่าวก่อนนะคะ ว่าฉันอยากจะอุทิศการบรรยายครั้งนี้ 2 00:00:08,422 --> 00:00:14,382 ให้กับทุกคนที่เผชิญกับความความไม่รู้ และแบ่งปันเรื่องราวของพวกเขา 3 00:00:14,382 --> 00:00:17,319 ฉันอยากมอบการบรรยายครั้งนี้ ให้กับภรรยาของฉัน เอมี่ 4 00:00:17,319 --> 00:00:20,659 (เสียงปรบมือ) 5 00:00:23,719 --> 00:00:28,839 ฉันอยากเริ่มด้วย การเล่าเรื่องราวส่วนหนึ่งของฉัน 6 00:00:28,839 --> 00:00:31,314 มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะพูดถึงบ่อย ๆ 7 00:00:32,407 --> 00:00:36,505 ตอนฉันอายุ 17 ฉันถูกวินิจฉัยว่า เป็นโรคอารมณ์สองขั้ว 8 00:00:36,505 --> 00:00:37,684 ฉันอยากจะหยุดที่ตรงนั้น 9 00:00:37,684 --> 00:00:42,984 เพราะแค่การเอ่ยถึง คำสั้น ๆ สองคำนั้น "อารมณ์สองขั้ว" 10 00:00:42,986 --> 00:00:48,206 ฉันก็ได้สร้างคลื่นผลกระทบทางลบ ที่รุนแรงขึ้นในห้องนี้แล้ว 11 00:00:49,858 --> 00:00:52,650 บางทีคุณอาจมองร่างกายของฉัน ต่างออกไปจากที่คุณเคยเห็น 12 00:00:52,650 --> 00:00:54,326 เมื่อคุณได้ฟังบทนำของฉัน 13 00:00:54,326 --> 00:00:58,476 บางทีคุณอาจจะกำหนดภาพพจน์ให้ฉัน ทั้งที่จริง ๆ ฉันไม่ใช่เป็นแบบนั้น 14 00:00:59,228 --> 00:01:02,793 ฉันคิดว่ามันสำคัญที่คุณทุกคนต้องรู้ ว่า ณ จุดนี้ ฉันอยากจะบอกว่า 15 00:01:02,793 --> 00:01:05,678 "ขอบคุณที่รับฟัง" และฉันอยากจะลงจากเวทีแล้ว 16 00:01:05,678 --> 00:01:07,538 แต่ฉันจะอยู่ตรงนี้ค่ะ 17 00:01:07,538 --> 00:01:10,798 (เสียงปรบมือ) 18 00:01:12,128 --> 00:01:13,560 ปรบมือกันเยอะจังเลย 19 00:01:13,560 --> 00:01:15,050 (เสียงหัวเราะ) 20 00:01:17,017 --> 00:01:20,560 เราอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า "Depression" (ความหดหู่) 21 00:01:20,560 --> 00:01:23,377 เราอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า "Mania" (ความคลุ้มคลั่ง) 22 00:01:23,377 --> 00:01:26,575 คุณอาจจะเคยใช้คำเหล่านี้ในบทสนทนา 23 00:01:26,575 --> 00:01:30,785 "วันนี้ฉันหดหู่จังเลย" "เขาดูคลั่งมากเลย" 24 00:01:31,458 --> 00:01:33,841 สำหรับฉัน ความคลุ้มคลั่งและความหดหู่นั้น 25 00:01:33,841 --> 00:01:38,141 ดูจะเป็นเรื่องที่กวนใจ มากกว่าจะเป็นเรื่องปกติประจำวัน 26 00:01:38,720 --> 00:01:41,213 มันรุกล้ำเข้ามา ในชีวิตประจำวันของฉันจริง ๆ 27 00:01:41,213 --> 00:01:44,010 และแม้ว่านี่จะเป็นแค่ประสบการณ์ของฉัน 28 00:01:44,010 --> 00:01:45,953 ฉันคิดว่ามันสำคัญที่จะรู้เช่นกัน 29 00:01:45,953 --> 00:01:48,323 ว่าประสบการณ์ของทุกคนนั้น ต่างกันอย่างสิ้นเชิง 30 00:01:49,540 --> 00:01:52,196 ตอนฉันอายุ 17 ปี ฉันเรียนจบมัธยมปลาย 31 00:01:52,196 --> 00:01:56,496 ฉันกำลังเริ่มเรียนในคณะวารสารท้องถิ่น 32 00:01:56,496 --> 00:02:01,175 และสำหรับฉัน ความหดหู่ มันเหมือนเป็นความลำบากอย่างมาก 33 00:02:01,175 --> 00:02:03,975 ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องที่ไม่มีลูกบิด 34 00:02:03,975 --> 00:02:06,071 การลุกออกจากเตียงและการเริ่มวันใหม่ได้นั้น 35 00:02:06,071 --> 00:02:08,421 ก็นับเป็นความสำเร็จแล้ว 36 00:02:09,336 --> 00:02:11,536 ฉันอยากฆ่าตัวตายมากจนไม่สามารถขับรถได้ 37 00:02:11,536 --> 00:02:15,191 แม่ฉันก็เลยต้องขับรถมาส่งฉันที่มหาวิทยาลัย 38 00:02:15,191 --> 00:02:19,101 รอฉันสามชั่วโมงที่ลานจอดรถ เพื่อรับฉันและขับรถพาฉันกลับบ้าน 39 00:02:19,750 --> 00:02:23,158 แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก หรือไม่ได้ยาวนานเท่าไหร่ 40 00:02:23,158 --> 00:02:27,798 สำหรับฉัน ภาวะคลุ้มคลั่ง คือ ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยสมาธิและพลังงาน 41 00:02:27,798 --> 00:02:30,303 และฉันรู้สึกแข็งแกร่งมากจริง ๆ 42 00:02:31,366 --> 00:02:34,720 เมื่อตอนที่ฉันจบปริญญาเอก 43 00:02:34,720 --> 00:02:37,040 ฉันต้องเข้าบำบัดในโรงพยาบาลสี่ครั้ง 44 00:02:37,976 --> 00:02:42,936 เอาล่ะค่ะ นี่ไม่ใช่การเริ่ม TED Talk ของฉัน อย่างที่ฉันคิดไว้เลย 45 00:02:42,936 --> 00:02:44,252 ไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด 46 00:02:44,252 --> 00:02:47,290 ฉันเคยอยากจะพูดกับคุณทุกคน 47 00:02:47,290 --> 00:02:49,797 เกี่ยวกับสถิติที่เกี่ยวข้องกับความวิกลจริต 48 00:02:49,797 --> 00:02:52,159 ฉันเคยอยากจะพูดกับคุณเกี่ยวกับ การศึกษาเกี่ยวกับความหมายของคำ 49 00:02:52,159 --> 00:02:54,597 ฉันเคยอยากจะบอกคุณเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ 50 00:02:54,597 --> 00:02:58,166 ว่าเราทำความเข้าใจและให้ความหมาย คำว่าวิกลจริตอย่างไร 51 00:02:58,166 --> 00:03:01,757 และไม่จนกระทั่งตอนมาถึงร่างที่สี่ ของการพูดนี้ ฉันจึงตระหนักได้ว่า 52 00:03:01,757 --> 00:03:05,592 ฉันได้เขียนเรื่องที่ไม่เกี่ยวอย่างสิ้นเชิง กับตัวฉันในบทสนทนานี้ 53 00:03:05,592 --> 00:03:08,975 และฉันต้องหยุดและถามกับตัวเองว่าทำไม 54 00:03:08,975 --> 00:03:13,285 ทำไมในการพูดที่ฉันอยากจะมาค้นหา ปฏิกิริยาเชิงลบ 55 00:03:13,285 --> 00:03:16,895 ต้องเกิดจากวิธีที่เราทำความเข้าใจ คำว่าวิกลจริต 56 00:03:16,895 --> 00:03:19,576 ฉันได้เขียนเรื่องเล่าของฉันเองออกมาหรือยัง 57 00:03:19,576 --> 00:03:22,767 เรื่องเล่าที่เหมาะสมกับการสนทนานี้จริง ๆ 58 00:03:22,767 --> 00:03:25,329 และคำตอบนั้นก็เรียบง่าย 59 00:03:25,329 --> 00:03:28,604 และฉันคิดว่ามันเป็นปัญหาอย่างแน่นอน ในความเรียบง่ายของมัน 60 00:03:28,604 --> 00:03:31,429 และมันคือคำเพียงคำเดียว 61 00:03:31,429 --> 00:03:35,017 นั่นคือ "ความน่าอับอาย" และ "มลทิน" ของมัน 62 00:03:35,017 --> 00:03:38,211 แม้ว่าฉันยืนอยู่ตรงนี้ต่อหน้าพวกคุณ 63 00:03:38,211 --> 00:03:43,181 ฉันรู้สึกเกรงกลัวกับการที่ฉันจะถูกมอง 64 00:03:43,181 --> 00:03:44,970 ร่างกายฉันจะถูกมองว่าอย่างไร 65 00:03:44,970 --> 00:03:49,230 จากสายตาของนักเรียนเก่า นักเรียนปัจจุบัน และนักเรียนในอนาคตของฉัน 66 00:03:49,687 --> 00:03:54,197 เพื่อนร่วมงานของฉันจะมองร่างกายของฉัน และตัวตนของฉันอย่างไร 67 00:03:54,197 --> 00:04:00,343 ฉันจะถูกมองว่าด้อยกว่าไหม หรือไร้ความสามารถ หรือไม่น่าไว้ใจไหม 68 00:04:01,754 --> 00:04:06,884 พวกคุณบางคนอาจจะกำลัง นั่งคิดอยู่เงียบ ๆ กับตัวคุณเอง 69 00:04:06,884 --> 00:04:09,638 "แต่เธอดูไม่เหมือนคนบ้าเลยหนิ" 70 00:04:09,638 --> 00:04:15,438 และสำหรับคำถามเหล่านั้น ฉันขอถามคุณ แล้วพวกคนบ้าต้องมีลักษณะอย่างไร 71 00:04:15,438 --> 00:04:18,919 และที่จริง เราไม่ได้ถูกสอนมา ว่าคนบ้าต้องเป็นอย่างไร ใช่ไหม 72 00:04:18,919 --> 00:04:22,951 หลายสถาบันในสังคมของเราได้สอนเรา 73 00:04:22,951 --> 00:04:28,521 และช่วยปลูกฝังความเข้าใจ อย่างตายตัวเกี่ยวกับความวิกลจริตให้กับเรา 74 00:04:28,521 --> 00:04:31,401 และเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเร็ว ที่สิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้น 75 00:04:31,401 --> 00:04:34,274 และมันได้เกิดขึ้นกับเราทุกคน ตั้งแต่เรายังเด็กมาก ๆ 76 00:04:34,274 --> 00:04:37,504 ฉันอยากจะให้ทุกคนหยุดพร้อมกับฉันและคิดดู 77 00:04:37,504 --> 00:04:41,394 คุณคิดถึงอะไร รูปร่างอะไร ความหมายอะไร 78 00:04:41,394 --> 00:04:45,065 คุณคิดถึงอะไรเมื่อได้ยินคำว่า "ประสาท" 79 00:04:45,065 --> 00:04:48,692 คุณคิดถึงอะไรเมื่อได้ยินคำว่า "บ้า" 80 00:04:48,692 --> 00:04:54,352 ความหมายและรูปร่างอะไรที่เข้ามาในความคิด เมื่อคุณได้ยินคำว่า "ป่วยทางจิต" 81 00:04:55,837 --> 00:04:58,439 บางทีความคิดและภาพในหัวของคุณ 82 00:04:58,439 --> 00:05:03,559 มาจากวิธีการที่สื่อข่าวที่ฝังความพิการ 83 00:05:03,559 --> 00:05:06,509 ความพิการทางจิต และความบ้า 84 00:05:06,509 --> 00:05:10,314 บางทีความคิดของคุณอาจมากจากวรรณกรรม 85 00:05:10,314 --> 00:05:12,864 จากนวนิยาย หรือจากภาพยนตร์ 86 00:05:12,864 --> 00:05:14,814 ฉันจะขอพูดถึงภาพยนตร์ 87 00:05:16,393 --> 00:05:19,343 บางทีคุณอาจนึกถึง "Girl Interrupted", 88 00:05:20,670 --> 00:05:23,000 "One Flew Over the Cuckoo's Nest", 89 00:05:24,188 --> 00:05:25,368 "Psycho", 90 00:05:26,403 --> 00:05:27,823 "Mommy Dearest", 91 00:05:28,938 --> 00:05:30,458 หรือ "A Beautiful Mind". 92 00:05:31,816 --> 00:05:36,466 โดยไม่คำนึงถึงว่า คุณจะได้ให้ภาพเหล่านั้นกับที่ไหนบ้าง 93 00:05:36,466 --> 00:05:39,007 หรือคุณจะได้ภาพเหล่านั้นมาจากที่ไหน 94 00:05:39,007 --> 00:05:43,977 ฉันคิดว่ารายการที่เป็นแบบแผน ของการเหมาร่วมได้เกิดขึ้นแล้ว 95 00:05:43,977 --> 00:05:48,293 แม้ว่าเราอาจทำมันมาด้วยกัน และกำลังเพิ่มเติมรายการเหล่านี้ต่อไปเรื่อย ๆ 96 00:05:48,293 --> 00:05:51,108 รายการย่อ ๆ เป็นดังต่อไปนี้ 97 00:05:51,108 --> 00:05:57,314 คนที่มีความพิการทางจิต มักถูกมองว่าเป็นอันตราย 98 00:05:57,314 --> 00:06:00,913 คาดเดาไม่ได้ ไร้ความสามารถ 99 00:06:00,913 --> 00:06:05,593 แปรปรวน ไม่มีเหตุผล และขาดความรับผิดชอบ 100 00:06:06,486 --> 00:06:10,128 ทีนี้ ภาพลักษณ์หรือความเข้าใจ 101 00:06:10,128 --> 00:06:12,768 ที่เข้ามาในหัวของคุณอย่างรวดเร็ว 102 00:06:12,768 --> 00:06:15,819 ตอนที่ฉันให้คุณหยุด และตั้งสมาธิไปที่คำซึ่งก็คือ 103 00:06:15,819 --> 00:06:19,781 "ประสาท", "บ้า" และ "ป่วยทางจิต" 104 00:06:19,781 --> 00:06:23,360 ภาพลักษณ์ที่ฉันดึงขึ้นมานั้น เป็นสิ่งที่จิตใจฉันเคยมอง 105 00:06:23,360 --> 00:06:25,961 และรายการความเชื่อเหมารวมนี้ 106 00:06:25,961 --> 00:06:31,402 นี่คือเหตุผลที่ ฉันต้องร่างการพูดในครั้งนี้ถึงสี่ฉบับ 107 00:06:31,402 --> 00:06:36,922 ความเป็นสากลอย่างชัดเจนของคำ และภาพลักษณ์เหล่านี้ และภาระที่มากับมัน 108 00:06:36,922 --> 00:06:40,004 ได้กำหนดชีวิตผู้ป่วยทางจิตเวช 109 00:06:40,004 --> 00:06:41,434 กำหนดชีวิตของฉัน 110 00:06:42,809 --> 00:06:47,739 ฉันคิดว่ามันสำคัญที่จะรู้ว่า โรคจิตเวชต่าจากโรคทางจิตประเภทอื่น 111 00:06:47,739 --> 00:06:52,607 จิตเวชนำมาซึ่งบางอย่าง ที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ 112 00:06:52,607 --> 00:06:55,937 มันนำมาซึ่งการตัดสินทางศีลธรรมต่อคนคนหนึ่ง 113 00:06:57,829 --> 00:07:01,521 ดังนั้น เราทำอะไรกับสิ่งเหล่านี้ได้บ้าง 114 00:07:01,521 --> 00:07:03,557 ก่อนที่ฉันจะบอกคุณเรื่องนั้น ฉันอยากบอกคุณ 115 00:07:03,557 --> 00:07:05,941 ถึงสิ่งที่ไม่ใช่จุดประสงค์ของการพูดครั้งนี้ 116 00:07:05,941 --> 00:07:08,833 ฉันคิดบ่อย ๆ ว่า เมื่อคนพิการไม่ว่าด้านใดก็ตาม 117 00:07:08,833 --> 00:07:11,380 ได้แบ่งปันเรื่องราวของเขา หรือกล่าวสุนทรพจน์ 118 00:07:11,380 --> 00:07:14,857 พวกเขาจะถูกมองว่าเป็นแรงบันดาลใจ 119 00:07:14,857 --> 00:07:18,571 เรื่องของพวกเขามีความหมายที่จะฟัง และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ 120 00:07:18,571 --> 00:07:21,012 ที่จะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น ในฐานะที่คุณสมประกอบ 121 00:07:21,012 --> 00:07:24,027 หรือแม้กระทั่ง ในฐานะคนพิการเหมือนกัน 122 00:07:24,027 --> 00:07:28,277 ฉันมาที่นี่เพื่อจะบอกคุณว่า ฉันไม่ใช่แรงบันดาลใจของคุณ 123 00:07:28,277 --> 00:07:29,924 นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ของฉัน 124 00:07:29,924 --> 00:07:32,715 จุดประสงค์ของการพูดครั้งนี้ คือเพื่อที่จะร้องขอ 125 00:07:32,715 --> 00:07:36,931 ให้เราค่อย ๆ ปลูกฝังให้ชุมชนและสังคม 126 00:07:36,931 --> 00:07:40,251 แก้ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเหมารวม และมลทินต่าง ๆ 127 00:07:40,251 --> 00:07:42,651 ที่ถูกฝังลึกในค่าคำทางจิตเวช 128 00:07:43,812 --> 00:07:46,088 ฉันอยากจะอยู่ในที่ 129 00:07:46,088 --> 00:07:49,084 ที่ใครก็ตามที่บอกว่า เขาเป็นโรคอารมณ์สองขั้วนั้น 130 00:07:49,084 --> 00:07:54,184 ไร้พิษภัยเหมือนกับที่คนอื่นพูดว่า "ฉันเป็นเบาหวาน" 131 00:07:55,520 --> 00:07:58,488 ฉันอยากจะอยู่ในที่ที่การตัดสินทางศีลธรรม 132 00:07:58,488 --> 00:08:03,038 ที่ผู้ป่วยจิตเวชถูกตีตราอยู่นั้นหายไป 133 00:08:04,310 --> 00:08:09,497 ฉันอยากจะอยู่ในที่ที่ฉันสามารถ อยู่ต่อหน้าฝูงชน 134 00:08:09,497 --> 00:08:11,587 หรือใครซักคน 135 00:08:11,587 --> 00:08:12,894 แบบนี้ 136 00:08:12,894 --> 00:08:16,346 ยืนขึ้นและพูดว่า "ฉันชื่อเชย์ดา คาไฟ 137 00:08:16,346 --> 00:08:19,480 ฉันเป็นศาสตราจารย์จากภาควิชา ชาติพันธุ์และสตรีศึกษา 138 00:08:19,480 --> 00:08:23,565 ที่ Cal Poly Pomona และฉันเป็นโรคอารมณ์สองขั้ว 139 00:08:23,565 --> 00:08:24,649 ขอบคุณค่ะ 140 00:08:24,649 --> 00:08:26,999 (เสียงปรบมือ)