1 00:00:00,825 --> 00:00:02,723 สองสามปีก่อน 2 00:00:02,747 --> 00:00:06,293 คุณแม่ของผมป่วยเป็นโรคไขข้ออักเสบ 3 00:00:06,989 --> 00:00:13,088 ข้อมือ เข่า และนิ้วเท้าของเธอเริ่มบวม สร้างความพิการและอาการเจ็บปวดเรื้อรัง 4 00:00:14,391 --> 00:00:16,081 เธอต้องยื่นเรื่องขึ้นทะเบียนคนพิการ 5 00:00:16,734 --> 00:00:18,734 เธอหยุดไปมัสยิดชุมชนของเรา 6 00:00:19,516 --> 00:00:22,913 เช้าบางวัน มันเจ็บปวดมาก เกินกว่าที่เธอจะแปรงฟันเองได้ 7 00:00:24,339 --> 00:00:25,516 ผมอยากจะช่วยเธอ 8 00:00:26,500 --> 00:00:28,266 แต่ผมไม่รู้จะทำอย่างไร 9 00:00:28,716 --> 00:00:29,941 ผมไม่ใช่แพทย์ 10 00:00:31,005 --> 00:00:35,011 ผมเป็นเพียงนักประวัติศาสตร์การแพทย์ 11 00:00:35,930 --> 00:00:39,392 ดังนั้น ผมจึงเริ่มค้นคว้า ประวัติศาสตร์ของอาการเจ็บปวดเรื้อรัง 12 00:00:39,957 --> 00:00:43,978 ปรากฎว่า ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสเอนเจลิส มีหมวดประวัติศาสตร์ความเจ็บปวดโดยเฉพาะ 13 00:00:44,002 --> 00:00:45,166 ในหอจดหมายเหตุของพวกเขา 14 00:00:46,593 --> 00:00:50,045 และผมพบเรื่องราวหนึ่ง เป็นเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์มาก 15 00:00:50,069 --> 00:00:55,865 เกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งที่ช่วยชีวิต ผู้คนนับล้านจากความเจ็บปวด 16 00:00:55,889 --> 00:00:57,277 ผู้คนที่คล้ายกับแม่ของผม 17 00:00:58,772 --> 00:01:00,232 แต่ผมกลับไม่เคยได้ยินเรื่องของเขา 18 00:01:00,256 --> 00:01:03,888 ไม่มีชีวประวัติของเขา ไม่มีภาพยนตร์ฮอลีวู๊ดเกี่ยวกับเขาเลย 19 00:01:04,483 --> 00:01:08,272 เขาชื่อว่า จอห์น เจ. โบนิก้า 20 00:01:09,070 --> 00:01:10,618 แต่ตอนที่เรื่องของเราเริ่มต้น 21 00:01:10,642 --> 00:01:14,755 เขาเป็นที่รู้จักในชื่อ จอห์นนี่ "บูล" วอคเกอร์ มากกว่า 22 00:01:16,611 --> 00:01:18,951 มันเป็นวันหนึ่งในฤดูร้อนปีค.ศ. 1941 23 00:01:19,857 --> 00:01:25,017 คณะละครสัตว์เพิ่งจะมาถึงในเมืองเล็ก ๆ ที่ชื่อบรู๊คฟิล์ด มลรัฐนิวยอร์ค 24 00:01:25,486 --> 00:01:29,407 ผู้คนแห่กันไปดู คนไต่เชือก คณะตัวตลกเร่ 25 00:01:29,431 --> 00:01:32,166 และถ้าพวกเขาโชคดี ก็จะได้ดูมนุษย์กระสุนปืนใหญ่ 26 00:01:32,190 --> 00:01:36,074 พวกเขายังมาเพื่อรอชมชายผู้แข็งแรง จอห์นนี่ "บูล" วอคเกอร์ 27 00:01:36,098 --> 00:01:39,431 คนพาลผู้แข็งแกร่ง ที่จะตรึงคุณไว้ ด้วยเงินเพียงหนึ่งเหรียญ 28 00:01:40,467 --> 00:01:43,408 แล้ววันหนึ่ง ก็มีเสียงดังออกมา 29 00:01:43,432 --> 00:01:45,417 จากระบบเครื่องกระจายเสียงของคณะละครสัตว์ 30 00:01:45,441 --> 00:01:49,278 พวกเขาต้องการหมอด่วนที่เต้นท์สัตว์มีชีวิต 31 00:01:49,302 --> 00:01:51,686 เกิดเหตุบางอย่างกับครูฝึกสิงโต 32 00:01:51,710 --> 00:01:54,839 การแสดงช่วงสำคัญของเขาเกิดผิดพลาด 33 00:01:54,863 --> 00:01:59,059 และหัวของเขาติดอยู่ภายในปากของสิงโต 34 00:01:59,629 --> 00:02:01,288 เขากำลังขาดอากาศหายใจ 35 00:02:01,312 --> 00:02:03,479 ฝูงชนมองดูด้วยความหวาดกลัว 36 00:02:03,503 --> 00:02:06,407 ขณะที่เขาดิ้นรนและหมดสติไป 37 00:02:06,788 --> 00:02:10,049 เมื่อสิงโตเริ่มคลายกรามของมันในที่สุด 38 00:02:10,073 --> 00:02:14,527 ผู้ฝึกสิงโตร่วงลงพื้นไม่ไหวติง 39 00:02:15,813 --> 00:02:18,182 หลังจากนั้นสองสามนาทีเมื่อคืนสติ 40 00:02:18,206 --> 00:02:20,346 เขาเห็นรูปร่างที่คุ้นตาคร่อมร่างเขาอยู่ 41 00:02:21,169 --> 00:02:23,169 ซึ่งก็คือ บูล วอคเกอร์ 42 00:02:23,816 --> 00:02:29,049 ชายผู้แข็งแกร่งกำลังช่วยชีวิตผู้ฝึกสิงโต แบบปากต่อปาก และรักษาชีวิตเขาเอาไว้ 43 00:02:30,864 --> 00:02:32,692 ตอนนั้น ชายผู้แข็งแกร่งยังไม่ได้บอกใคร 44 00:02:32,716 --> 00:02:36,175 ว่าที่จริงแล้ว เขาเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสาม 45 00:02:36,788 --> 00:02:40,450 เขาออกตระเวนไปกับคณะละครสัตว์ ในช่วงฤดูร้อนเพื่อหาเงินจ่ายค่าเทอม 46 00:02:40,474 --> 00:02:43,184 แต่เก็บมันไว้เป็นความลับ เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของเขา 47 00:02:43,787 --> 00:02:47,191 เขาควรจะเป็นจอมพาล จอมวายร้าย 48 00:02:47,215 --> 00:02:49,437 ไม่ใช่เด็กคงแก่เรียน 49 00:02:50,535 --> 00:02:53,132 เพื่อน ๆ นักศึกษาแพทย์ของเขา ไม่มีใครรู้ความลับนี้เช่นกัน 50 00:02:53,156 --> 00:02:57,235 เพราะเขาคิดว่า "ถ้าคุณเป็นนักกีฬา คุณก็เป็นแค่คนทึ่มคนนึง" 51 00:02:57,849 --> 00:03:00,320 ดังนั้น เขาเลยไม่ได้บอกเพื่อน ๆ เกี่ยวกับคณะละครสัตว์ 52 00:03:00,344 --> 00:03:05,661 หรือเรื่องที่เขาเป็นนักมวยปล้ำอาชีพ ในช่วงเย็นและวันหยุดสุดสัปดาห์ 53 00:03:06,353 --> 00:03:08,973 เขาใช้นามแฝงว่า บูล วอล์คเกอร์ 54 00:03:08,997 --> 00:03:10,926 หรือภายหลัง มาร์ค มาเวล (หน้ากากมหัศจรรย์) 55 00:03:11,627 --> 00:03:15,135 เขาเก็บทุกอย่างเป็นความลับ แม้แต่ในปีนั้น 56 00:03:15,159 --> 00:03:18,518 ที่เขาได้ครองตำแหน่งแชมป์รุ่นไลท์เฮฟวี่เวท 57 00:03:18,542 --> 00:03:19,771 ของโลก 58 00:03:21,313 --> 00:03:25,919 เป็นเวลาหลายปี ที่จอห์น เจ. โบนิก้า ใช้ชีวิตแบบคู่ขนาน 59 00:03:26,515 --> 00:03:28,209 เขาเป็นนักมวยปล้ำ 60 00:03:28,233 --> 00:03:29,390 เขาเป็นแพทย์ 61 00:03:29,788 --> 00:03:31,310 เขาเป็นคนเลว 62 00:03:31,334 --> 00:03:32,491 เขาเป็นฮีโร่ 63 00:03:33,038 --> 00:03:34,834 เขาได้รับความเจ็บปวด 64 00:03:34,858 --> 00:03:36,016 และเขารักษามัน 65 00:03:37,242 --> 00:03:40,744 และเขาไม่รู้เลย ณ ตอนนั้น ว่าอีกห้าสิบปีให้หลัง 66 00:03:40,768 --> 00:03:43,586 เขาจะได้เก็บเกี่ยวจาก อัตลักษณ์ที่ขัดแย้งกันเหล่านี้ 67 00:03:43,610 --> 00:03:46,923 เพื่อบุกเบิกวิธีการใหม่ ในการคิดต่อความเจ็บปวด 68 00:03:47,620 --> 00:03:51,750 มันเปลี่ยนแปลงการแพทย์สมัยใหม่ ไปอย่างมากในช่วงหลายสิบปีให้หลัง 69 00:03:51,774 --> 00:03:56,276 นิตยสารไทม์จะเรียกเขาว่า บิดาผู้บุกเบิกการบรรเทาความเจ็บปวด 70 00:03:57,351 --> 00:03:58,844 แต่ทั้งหมดเกิดขึ้นภายหลัง 71 00:04:00,179 --> 00:04:05,791 ในปี 1942 โบนิก้า จบการศึกษา จากโรงเรียนแพทย์ และแต่งงานกับเอมม่า 72 00:04:05,815 --> 00:04:09,491 คนรักของเขา ซึ่งพบกันในนัดชกครั้งหนึ่งของเขา หลายปีก่อนหน้านั้น 73 00:04:10,505 --> 00:04:13,321 เขายังคงเก็บเรื่องมวยปล้ำไว้เป็นความลับ เขาจำต้องทำ 74 00:04:13,781 --> 00:04:18,428 การฝึกงานของเขาที่โรงพยาบาลเซนต์ วินเซนต์ ในนิวยอร์ก ไม่ได้จ่ายอะไรให้เลย 75 00:04:19,101 --> 00:04:22,853 ด้วยเข็มขัดแชมป์ เขาขึ้นปล้ำในเวทีใหญ่ 76 00:04:22,877 --> 00:04:24,814 เช่นที่สวนเมดิสัน สแควร์ 77 00:04:24,838 --> 00:04:26,514 กับคู่ต่อสู้ชื่อดังหลายคน 78 00:04:26,538 --> 00:04:29,387 เช่น เอเวอเรต มาร์แชล "เดอะ บลอนด์ แบร์" 79 00:04:29,411 --> 00:04:33,053 หรือ แชมป์โลกสามสมัย แองเจโล ซาโวลดี 80 00:04:34,192 --> 00:04:36,969 การแข่งขันทำร้ายร่างกายของเขา 81 00:04:36,993 --> 00:04:40,271 ข้อต่อสะโพกของเขาหลุด ซี่โครงหักหลายซี่ 82 00:04:40,295 --> 00:04:45,193 คืนหนึ่ง หัวแม่เท้าของ เดอะ เทอริเบิล เติร์ก สร้างรอยแผลเป็นเหมือนของกาโปเน 83 00:04:45,217 --> 00:04:46,519 บนของใบหน้าเขา 84 00:04:47,302 --> 00:04:51,341 เช้าวันต่อมาในที่ทำงาน เขาต้องสวมหน้ากากผ่าตัดเพื่อปกปิดมัน 85 00:04:52,450 --> 00:04:57,064 มีสองครั้งที่โบนิก้าถูกส่งเข้าห้องผ่าตัด ด้วยตาข้างหนึ่งที่ฟกช้ำอย่างหนัก 86 00:04:57,088 --> 00:04:58,334 จนเขาไม่สามารถใช้การมันได้ 87 00:04:59,138 --> 00:05:03,641 แต่ที่แย่ที่สุดของทั้งหมดคือ หูของเขาที่บวมเหมือนดอกกะหล่ำ 88 00:05:04,094 --> 00:05:07,502 เขาบอกว่ามันรู้สึกเหมือนมีลูกเบสบอลสองลูก ติดอยู่ที่ข้างหัว 89 00:05:09,153 --> 00:05:12,415 ความเจ็บปวดถูกสะสมไว้ในชีวิตของเขา 90 00:05:13,177 --> 00:05:16,733 ต่อมา เขาเฝ้าดูภรรยาของเขา คลอดลูกที่โรงพยาบาลของเขา 91 00:05:17,509 --> 00:05:20,633 เธอทั้งเบ่งทั้งเค้นอย่างทุกข์ทรมานจนเห็นได้ชัด 92 00:05:21,657 --> 00:05:24,101 สูตินารีแพทย์ของเธอ เรียกแพทย์ฝึกหัดที่อยู่ประจำการ 93 00:05:24,125 --> 00:05:26,633 ให้จ่ายอีเธอร์เธอสองสามหยด เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด 94 00:05:27,519 --> 00:05:30,880 แต่แพทย์ฝึกหัดเป็นเพียงเด็กหนุ่ม ที่เพิ่งมาทำงานได้สามอาทิตย์ 95 00:05:30,904 --> 00:05:33,840 ในขณะที่จ่ายอีเธอร์ เขากระวนกระวาย 96 00:05:33,864 --> 00:05:35,692 และทำให้คอของเอมม่าระคายเคือง 97 00:05:36,145 --> 00:05:40,093 เธออาเจียนและหายใจขัด และเริ่มหน้าเขียว 98 00:05:40,895 --> 00:05:46,235 โบนิก้า ที่มองเห็นเหตุการณ์โดยตลอด ผลักนักศึกษาฝึกงานให้พ้นทาง 99 00:05:46,259 --> 00:05:47,840 เปิดทางเดินหายใจของเธอ 100 00:05:47,864 --> 00:05:50,682 และช่วยชีวิตภรรยา และลูกสาวในท้องเอาไว้ 101 00:05:52,172 --> 00:05:57,017 จุดนั้นเอง ที่เขาตัดสินใจที่จะ อุทิศชีวิตของเขาแก่วิสัญญีวิทยา 102 00:05:57,414 --> 00:06:02,826 ต่อมา เขายังจะเป็นผู้ร่วมพัฒนา เทคนิคการบล็อกหลังสำหรับคุณแม่ที่กำลังจะคลอด 103 00:06:02,850 --> 00:06:04,985 แต่ก่อนที่เขาจะสามารถมุ่งเน้นไปที่สูติศาสตร์ 104 00:06:05,009 --> 00:06:07,765 โบนิกาต้องเข้ารับการฝึกหัดขั้นพื้นฐานก่อน 105 00:06:10,373 --> 00:06:11,967 ช่วงเดียวกับเหตุการณ์ดีเดย์ 106 00:06:11,991 --> 00:06:15,213 โบนิกาปรากฎตัวที่ศูนย์การแพทย์กองทัพมิชิแกน 107 00:06:15,237 --> 00:06:16,387 ใกล้เมืองทาโคม่า 108 00:06:16,783 --> 00:06:21,476 มันเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในอเมริกา ด้วยขนาด 7,700 เตียง 109 00:06:22,242 --> 00:06:24,936 โบนิก้ารับผิดชอบเรื่องการควบคุม ความเจ็บปวดทั้งหมดที่นี่ 110 00:06:25,618 --> 00:06:27,618 เขาอายุเพียง 27 ปี 111 00:06:28,470 --> 00:06:31,764 การรักษาคนไข้จำนวนมาก โบนิก้าเริ่มสังเกตเห็นกรณี 112 00:06:31,788 --> 00:06:34,283 ที่ขัดแย้งต่อทุกสิ่งที่เขาได้ร่ำเรียนมา 113 00:06:34,976 --> 00:06:39,822 ความเจ็บปวดควรจะเป็นสัญญาณเตือน ในทางที่ดี 114 00:06:39,846 --> 00:06:43,446 วิธีการที่ร่างกายส่งสัญญาณถึงการบาดเจ็บ อย่างเช่นแขนหัก 115 00:06:44,538 --> 00:06:46,150 แต่ในบางกรณี 116 00:06:46,174 --> 00:06:49,649 เช่น หลังจากที่ผู้ป่วยถูกตัดขา 117 00:06:49,673 --> 00:06:53,694 ผู้ป่วยคนนั้นยังคงบ่นถึงอาการเจ็บปวด ที่ข้างซึ่งไม่มีอยู่แล้ว 118 00:06:54,231 --> 00:06:58,223 แต่ถ้าการบาดเจ็บได้รับการรักษาแล้ว เหตุใดสัญญาณเตือนยังคงร้องอยู่ล่ะ 119 00:06:58,861 --> 00:07:02,990 ยังมีกรณีอื่น ๆ อีกไม่มีหลักฐานของ การบาดเจ็บใด ๆ เลย 120 00:07:03,014 --> 00:07:05,496 แต่กระนั้น ผู้ป่วยยังคงเจ็บอยู่ 121 00:07:06,678 --> 00:07:10,646 โบนิก้าปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทุกคน ในโรงพยาบาลของเขา ศัลยแพทย์ 122 00:07:10,670 --> 00:07:13,008 นักประสาทวิทยา จิตแพทย์ และคนอื่น ๆ 123 00:07:13,782 --> 00:07:16,858 และเขาพยายามรวบรวมความเห็น จากผู้ป่วยของเขา 124 00:07:17,643 --> 00:07:22,617 มันใช้เวลานานมาก ดังนั้น เขาจึงเริ่มที่จะจัดกลุ่มพูดคุยช่วงพักเที่ยง 125 00:07:23,123 --> 00:07:27,589 มันเหมือนกับการร่วมแรงร่วมใจของเหล่า ผู้เชี่ยวชาญเพื่อต่อสู้กับความเจ็บปวดของคนไข้ 126 00:07:27,613 --> 00:07:31,553 ไม่เคยมีใครให้ความสนใจ ต่อความเจ็บปวดเช่นนี้มาก่อน 127 00:07:32,928 --> 00:07:34,928 หลังจากนั้น เขาค้นหนังสือหลายเล่ม 128 00:07:35,845 --> 00:07:38,708 เขาอ่านตำราแพทย์ทั้งหมด ที่เขาสามารถคว้าได้ 129 00:07:38,732 --> 00:07:41,283 ไม่พบที่ใด ที่เอ่ยถึงคำว่า "ความเจ็บปวด" อย่างละเอียดเลย 130 00:07:42,282 --> 00:07:46,163 จากจำนวนทั้งหมดกว่า 14,000 หน้าที่เขาอ่าน 131 00:07:46,187 --> 00:07:50,363 มีคำว่า "ความเจ็บปวด" ปรากฎเพียง เพียง 17 หน้าครึ่งเท่านั้น 132 00:07:50,908 --> 00:07:52,910 17 หน้าครึ่งครับ 133 00:07:52,934 --> 00:07:58,206 สำหรับสิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุด ธรรมดาที่สุด ส่วนที่น่ารำคาญที่สุดของการเป็นผู้ป่วย 134 00:07:58,875 --> 00:08:00,982 โบนิก้าตกตะลึง ผมใช้คำพูดของเขานะครับ 135 00:08:01,006 --> 00:08:05,460 เขากล่าวว่า "เรามาถึงบทสรุปแบบไหน กันวะเนี่ย 136 00:08:05,484 --> 00:08:08,666 สิ่งที่สำคัญที่สุดจากมุมมองของผู้ป่วย 137 00:08:08,690 --> 00:08:10,055 พวกเขากลับไม่พูดถึง" 138 00:08:11,295 --> 00:08:15,185 ดังนั้น เป็นเวลากว่าแปดปีต่อมา โบนิก้าได้พูดถึงมัน 139 00:08:15,209 --> 00:08:17,654 เขาเขียนเกี่ยวกับมัน เขาเขียนหน้าที่ขาดหายไปเหล่านั้น 140 00:08:18,057 --> 00:08:21,771 เขาเขียน สิ่งที่ต่อมารู้จักกันว่า เป็นคัมภีร์ของความเจ็บปวด 141 00:08:22,575 --> 00:08:25,992 ในนั้น เขาได้เสนอยุทธศาสตร์ใหม่ 142 00:08:26,016 --> 00:08:29,590 การรักษาแบบใหม่ ๆ ที่ใช้ การฉีดสกัดเส้นประสาท 143 00:08:29,614 --> 00:08:32,357 เขาเสนอตั้งสถาบันใหม่ คือ คลินิกความเจ็บปวด 144 00:08:32,381 --> 00:08:34,379 ที่มาจากการประชุมในช่วงพักกลางวันเหล่านั้น 145 00:08:35,248 --> 00:08:37,659 แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับหนังสือของเขา 146 00:08:37,683 --> 00:08:41,765 คือสัญญาณเตือนทางอารมณ์ ที่มีต่อการแพทย์ 147 00:08:42,486 --> 00:08:48,467 การเรียกร้องอย่างสิ้นหวังให้ แพทย์จริงจังต่อความเจ็บปวด 148 00:08:48,491 --> 00:08:49,887 ในชีวิตผู้ป่วย 149 00:08:51,321 --> 00:08:54,590 เขาสร้างวัตถุประสงค์หลักของการแพทย์ขึ้นมาใหม่ 150 00:08:55,373 --> 00:08:59,558 เป้าหมายที่ไม่ใช่การทำให้ อาการของผู้ป่วยดีขึ้น 151 00:08:59,582 --> 00:09:02,934 แต่คือการทำให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้น 152 00:09:04,955 --> 00:09:07,042 เขาผลักดันวาระแห่งความเจ็บปวดอยู่หลายสิบปี 153 00:09:07,066 --> 00:09:10,084 จนในที่สุดก็ได้รับการตอบรับ ช่วงกลางทศวรรษที่ 70 154 00:09:10,831 --> 00:09:14,285 คลินิครักษาความเจ็บปวดผุดขึ้น เป็นร้อย ๆ แห่งทั่วโลก 155 00:09:15,711 --> 00:09:18,941 แต่ทันทีที่พวกเขาลงมือ จุดพลิกผันอันน่าเศร้า 156 00:09:19,754 --> 00:09:22,915 หลายปีที่โบนิกาเล่นมวยปล้ำ ได้ไล่เขาทันในที่สุด 157 00:09:24,597 --> 00:09:26,749 เขาร้างจากเวทีกว่า 20 ปี 158 00:09:26,773 --> 00:09:31,078 แต่การขึ้นชกอาชีพกว่า 1,500 ครั้งของเขานั้น ทิ้งบาดแผลเขาไว้บนร่างกาย 159 00:09:31,769 --> 00:09:35,838 เพียงช่วงกลางวัยห้าสิบ เขาป่วยเป็นโรคข้อกระดูกอักเสบอย่างรุนแรง 160 00:09:36,360 --> 00:09:40,379 ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีต่อมา เขาเข้ารับการผ่าตัดถึง 22 ครั้ง 161 00:09:40,403 --> 00:09:42,930 รวมถึงการผ่าตัดกระดูกสันหลัง 4 ครั้ง 162 00:09:42,954 --> 00:09:45,521 และเปลี่ยนสะโพกอันแล้วอันเล่า 163 00:09:46,110 --> 00:09:49,367 เขาแทบจะยกแขน หรือหมุนคอไม่ได้เลย 164 00:09:50,144 --> 00:09:52,797 เขาต้องใช้ไม้ยันรักแร้อะลูมเนียมเวลาเดิน 165 00:09:53,879 --> 00:09:57,899 เพื่อน ๆ และนักเรียนของเขา กลายมาเป็นแพทย์ของเขา 166 00:09:57,923 --> 00:10:02,125 มีคนหนึ่งเล่าว่าเขาอาจจะ ถูกฉีดสกัดเส้นประสาท 167 00:10:02,149 --> 00:10:04,727 มากกว่าคนไหน ๆ ในโลกนี้ 168 00:10:06,043 --> 00:10:09,481 จากที่เป็นคนบ้างานอยู่แล้ว เขายิ่งทำงานมากกว่า 169 00:10:09,505 --> 00:10:11,451 15-18 ชั่วโมงต่อวัน 170 00:10:11,922 --> 00:10:14,431 การรักษาผู้อื่นเป็นมากกว่างานของเขา 171 00:10:14,455 --> 00:10:17,177 มันได้กลายมาเป็นรูปแบบการเยียวยา ที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดสำหรับเขา 172 00:10:18,510 --> 00:10:22,321 "ถ้าผมไม่มัวแต่ยุ่งแบบนี้" เขาบอกกับนักข่าวในตอนนั้น 173 00:10:22,345 --> 00:10:25,530 "ผมคงกลายเป็นคนพิการโดยสิ้นเชิง" 174 00:10:27,423 --> 00:10:30,962 ในการเดินทางไปธุระที่ฟลอริด้าในช่วงต้นปี 80 175 00:10:30,986 --> 00:10:36,318 โบนิก้าให้อดีตนักเรียนของเขาขับรถ ไปส่งที่เขตไฮด์ปาร์ก ในเมืองเทมปา 176 00:10:37,338 --> 00:10:41,482 พวกเขาขับผ่านเหล่าต้นปาล์ม ไปยังคฤหาสน์หลังเก่า 177 00:10:41,506 --> 00:10:46,116 ที่มีปืนครกสีเงินขนาดยักษ์ ซ่อนไว้ในโรงจอดรถ 178 00:10:46,895 --> 00:10:49,834 บ้านหลังนั้นเป็นของครอบครัวซักกินี 179 00:10:49,858 --> 00:10:52,830 ผู้ที่เคยเป็น ประมาณว่า เจ้าพ่อละครสัตว์อเมริกัน 180 00:10:54,229 --> 00:10:56,802 หลายสิบปีก่อนหน้านี้ โบนิก้าได้ชมการแสดงของพวกเขา 181 00:10:56,826 --> 00:10:59,713 ในชุดสีเงินและแว่นกันลม 182 00:10:59,737 --> 00:11:03,505 ทำในสิ่งที่พวกเขาบุกเบิก ซึ่งก็คือ มนุษย์กระสุนปืนใหญ่ 183 00:11:04,772 --> 00:11:07,847 แต่ตอนนี้ ครอบครัวนี้ก็เป็นเหมือนเขา คือ เกษียณ 184 00:11:09,267 --> 00:11:12,838 คนรุ่นนั้นต่างเสียชีวิตกันหมดแล้ว รวมทั้งโบนิกาด้วย 185 00:11:12,862 --> 00:11:15,805 ดังนั้นจีงไม่มีทางรู้แน่ชัดว่า เขาพูดอะไรกันวันนั้น 186 00:11:16,475 --> 00:11:18,475 แต่ก็เถอะ ผมรักที่จะจินตนาการถึงมัน 187 00:11:19,233 --> 00:11:22,486 การกลับมารวมตัวของมนุษย์กระสุนปืนใหญ่ และชายผู้แข็งแกร่ง 188 00:11:22,510 --> 00:11:24,963 อวดแผลเป็นทั้งเก่าและใหม่แก่กัน 189 00:11:25,802 --> 00:11:28,058 บางทีโบนิก้าก็ให้คำปรึกษาทางการแพทย์แก่พวกเขา 190 00:11:28,082 --> 00:11:33,408 บางทีเขาบอกคนเหล่านั้นถึงสิ่งที่ต่อมา ได้กล่าวไว้ในเรื่องปากเปล่า 191 00:11:33,432 --> 00:11:39,338 ว่าช่วงเวลาของเขาในคณะละครสัตว์และมวยปล้ำ ได้หล่อหลอมชีวิตของเขาเป็นอย่างมาก 192 00:11:41,286 --> 00:11:43,970 โบนิก้ามองเห็นความเจ็บปวดอย่างใกล้ชิด 193 00:11:45,236 --> 00:11:47,236 เขารู้สึกถึงมัน เขาอยู่ด้วยกันกับมัน 194 00:11:48,453 --> 00:11:52,470 และมันเป็นไปไม่ได้เลย ที่เขาจะละเลยสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนอื่น 195 00:11:53,449 --> 00:11:56,563 นอกเหนือจากความเห็นอกเห็นใจ เขาได้เปิดสนามใหม่ 196 00:11:56,587 --> 00:11:59,699 เล่นบทหลักในการทำให้ วงการแพทย์ตระหนักต่อความเจ็บปวด 197 00:11:59,723 --> 00:12:00,975 ในตัวมันและของตัวมันเอง 198 00:12:02,627 --> 00:12:04,539 ในเรื่องปากเปล่าเดียวกัน 199 00:12:04,563 --> 00:12:07,072 โบนิก้าอ้างว่าความเจ็บปวด 200 00:12:07,096 --> 00:12:11,353 เป็นประสบการณ์ที่ซับซ้อนที่สุดของมนุษย์ 201 00:12:12,215 --> 00:12:16,029 เพราะมันเกี่ยวเนื่องกับชีวิตของคุณ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน 202 00:12:16,053 --> 00:12:18,243 การปฏิสัมพันธ์ของคุณ ครอบครัวของคุณ 203 00:12:19,256 --> 00:12:21,811 ซึ่งมันเป็นความจริงอย่างที่สุดสำหรับโบนิก้า 204 00:12:22,593 --> 00:12:25,264 แต่มันก็เป็นเรื่องจริงสำหรับแม่ของผมด้วยเช่นกัน 205 00:12:28,043 --> 00:12:31,342 มันเป็นเรื่องง่ายที่แพทย์จะมองคุณแม่ของผม 206 00:12:31,366 --> 00:12:34,628 ในฐานะผู้ป่วยมืออาชีพประเภทหนึ่ง 207 00:12:34,652 --> 00:12:38,470 ผู้หญิงคนหนึ่งที่ใช้เวลาหลายต่อหลายวัน ในห้องนั่งรอ 208 00:12:39,714 --> 00:12:42,605 บางครั้ง ผมก็ยังมองเธอในรูปแบบนั้น 209 00:12:45,076 --> 00:12:47,043 แต่เมื่อผมเห็นความเจ็บปวดของโบนิก้า 210 00:12:47,067 --> 00:12:51,599 ประจักษ์พยานถึงชีวิตที่เขาใช้อย่างเต็มที่ 211 00:12:51,623 --> 00:12:56,130 ผมเริ่มที่จะจดจำทุกสิ่ง ที่ความเจ็บปวดของแม่ผมอัดอั้นเอาไว้ 212 00:12:58,370 --> 00:13:02,138 ก่อนที่มันจะบวมขึ้น และกลายเป็นข้ออักเสบ 213 00:13:02,162 --> 00:13:05,477 นิ้วของคุณแม่ผมใช้การไม่ได้ 214 00:13:05,501 --> 00:13:08,399 ที่แผนกทรัพยากรบุคคลของโรงพยาบาล ที่เธอทำงานอยู่ 215 00:13:09,150 --> 00:13:13,238 พวกเขาทำซาโมซ่าสำหรับพวกเราทุกคนทั้งมัสยิด 216 00:13:14,734 --> 00:13:18,435 เมื่อตอนที่ผมเป็นเด็ก พวกเขาตัดผมของผม 217 00:13:18,459 --> 00:13:20,911 เช็ดจมูกให้ผม 218 00:13:20,935 --> 00:13:22,585 ผูกเชือกรองเท้าให้ผม 219 00:13:29,832 --> 00:13:31,157 ขอบคุณครับ 220 00:13:31,181 --> 00:13:38,000 (เสียงปรบมือ)