ลองจินตนาการดูว่า มีคน 100 คนอยู่บนเกาะเดียวกัน ทุกคนล้วนเป็นนักตรรกวิทยา และถูกกักขังโดยผู้คุมที่เสียสติ พวกเขาไม่มีทางหนีออกมาได้ ยกเว้นจะทำตามกฎแปลกๆ ข้อหนึ่ง นักโทษทุกคนสามารถขอผู้คุม เพื่อออกไปจากเกาะนี้ได้ในตอนกลางคืน ถ้านักโทษมีตาสีเขียว เขาก็จะถูกปล่อยตัวไป แต่ถ้าไม่ เขาจะถูกโยนลงในปล่องภูเขาไฟแทน ความจริงแล้ว นักโทษทั้ง 100 คนมีตาสีเขียว แต่พวกเขาอาศัยอยู่ที่เกาะนั้นตั้งแต่เกิด และผู้คุมได้ทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้พวกเขารู้สีตาของตนเอง บนเกาะนั้นไม่มีพื้นผิวที่สะท้อนเงาได้ น้ำถูกบรรจุไว้ในขวดทึบแสง และที่สำคัญไปมากกว่านั้น พวกเขาถูกห้ามไม่ให้พูดคุยกัน ถึงแม้พวกเขาจะมองเห็นกันและกัน ในทุกๆ เช้าตอนนับจำนวนคน ทุกคนรู้ว่าไม่มีใครยอมเสี่ยงหนีออกจากเกาะ ถ้าหากไม่แน่ใจจริงๆ ว่าจะทำสำเร็จ เมื่อเจอความกดดันมากมายจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน ผู้คุมจึงยอมให้คุณไปที่เกาะอย่างไม่เต็มใจ และให้คุณพูดกับนักโทษ ภายใต้เงื่อนไขดังนี้ คุณสามารถพูดได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น และห้ามบอกข้อมูลที่นักโทษไม่เคยรู้มาก่อน คุณจะพูดอย่างไรเพื่อช่วยเหลือพวกนักโทษ โดยที่ไม่ผิดเงื่อนไขของผู้คุม หลังจากที่ครุ่นคิดมานาน คุณบอกกับพวกนักโทษว่า “มีพวกคุณอย่างน้อย 1 คนที่มีตาสีเขียว” ผู้คุมเริ่มสงสัย แต่เขาก็มั่นใจว่าคำพูดคุณไม่มีความหมายอะไร คุณออกไปจากเกาะ และชีวิตบนเกาะก็เริ่มดำเนินเหมือนอย่างเคย แต่ในเช้าวันที่ 100 นับจากวันที่คุณไปที่เกาะ นักโทษทั้งหมดหายไปจากเกาะ แต่ละคนได้ขอผู้คุมออกจากเกาะจนหมดในคืนก่อน คุณเอาชนะผู้คุมได้อย่างไร สมมติว่าจำนวนนักโทษเป็นเท่าใดก็ได้ เพื่อให้ง่ายขึ้น ลองสมมติว่ามี แค่ 2 คนคือ เอเดรียและบิล ต่างคนต่างเห็นว่าอีกคนมีตาสีเขียว และเท่าที่แต่ละคนรู้ นั่นอาจเป็นคนตาสีเขียวคนเดียวบนเกาะก็ได้ ดังนั้นในคืนแรก จึงไม่มีใครขอออกจากเกาะ แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่า อีกคนหนึ่งยังอยู่ในเช้าวันต่อมา พวกเขาจึงคิดได้เลยทันที เอเดรียรู้ว่า ถ้าบิลเห็นตาของเธอไม่ใช่สีเขียว เขาก็คงจะออกไปจากเกาะตั้งแต่คืนแรกแล้ว เมื่อเขาสรุปได้ว่าคำพูดของคุณ หมายถึงเขาแค่คนเดียว บิลเองก็คิดได้เหมือนกับเอเดรีย ความจริงที่ว่าอีกคนหนึ่งยังคงรออยู่ แสดงว่าทั้งสองคนต้องมีตาสีเขียวเหมือนกัน และในเช้าวันที่ 2 ทั้งสองคนก็ออกไปจากเกาะ ลองสมมุติว่าเป็นนักโทษ 3 คนบ้าง เอเดรีย บิลและคาร์ล สามารถมองเห็นอีกสองคนที่มีตาสีเขียวได้ แต่นอกจากตัวเองแล้ว คนอื่นอีกสองคน จะมองเห็นคนที่มีตาสีเขียวสองคนเหมือนกันไหม หรือเห็นแค่คนเดียว พวกเขารอจนผ่านคืนแรกไป แต่ในเช้าวันต่อมา พวกเขาก็ยังคงไม่มั่นใจ คาร์ลคิดว่า "ถ้าฉันไม่มีตาสีเขียว ก็แสดงว่าเอเดรียกับบิลจับตาดูกันและกันอยู่ และทั้งสองคนน่าจะออกจากเกาะไปในคืนที่ 2" แต่เมื่อเขาเห็นทั้งเอเดรียและบิล ยังคงอยู่ในเช้าวันที่ 3 เขาก็คิดได้ว่า สองคนนั้น ต้องจับตาดูเขาอยู่แน่นอน เอเดรียและบิลก็คิดแบบนั้นเช่นเดียวกัน และพวกเขาทั้งหมดก็ออกจากเกาะไปในคืนที่ 3 โดยการใช้เหตุผลแบบอุปนัยเช่นนี้ เราจะเห็นได้ว่ารูปแบบนี้จะเกิดซ้ำไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะมีนักโทษกี่คนก็ตาม สิ่งสำคัญก็คือแนวคิดของความรู้ทั่วไป (common knowledge) ซึ่งนักปรัชญา เดวิด ลูอิส เป็นผู้คิดค้น คำพูดที่คุณพูด ไม่ได้ให้ข้อมูลใหม่ใดๆ แต่มันเป็นการที่คุณบอกทุกคนพร้อมๆกัน นอกเหนือจากที่รู้ว่า อย่างน้อย 1 คนในพวกเขาเป็นคนที่มีตาสีเขียว นักโทษแต่ละคนยังรู้อีกด้วยว่า ทุกคนต่างก็คอยจับตาดู คนที่มีตาสีเขียว ที่พวกเขาสามารถมองเห็นได้ และทุกคนก็รู้แบบนี้เหมือนกันหมด มีสิ่งเดียวที่ไม่ว่านักโทษคนไหนก็ไม่รู้ นั่นคือ ตัวเขาเองเป็นคนที่มีตาสีเขียว และกำลังถูกคนอื่นคอยจับตาดูอยู่หรือไม่ จนกระทั่งหลายคืนผ่่านไป เท่ากับจำนวนของนักโทษบนเกาะ แน่หละ คุณอาจช่วยร่นเวลา ให้พวกนักโทษอีก 98 วัน โดยการบอกพวกเขาว่า มีพวกคุณอย่างน้อย 99 คนที่มีตาสีเขียว แต่ถ้าผู้คุมเสียสติรู้เข้า คุณควรชิ่งหนีไปก่อนจะดีกว่า