1 00:00:06,407 --> 00:00:10,201 หมาของคุณชอบนอนหวดบนเก้าอี้นวม แต่คุณก็ชอบเหมือนกัน 2 00:00:10,201 --> 00:00:13,703 คุณก็เลยไล่มันตะเพิดไป แล้วหย่อนตัวลงในบ่ายสบายๆ 3 00:00:13,703 --> 00:00:15,918 ไม่ว่าจะอย่างไร แถวนี้คนเป็นใหญ่นะ 4 00:00:15,918 --> 00:00:19,481 คุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่เฉลียวฉลาด ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตทั่วไปที่อาศัยสัญชาตญาณ 5 00:00:19,481 --> 00:00:22,591 คุณวางแผน มีความฝัน และโอ้- 6 00:00:22,591 --> 00:00:25,814 หมาของคุณเพิ่งจะเอาชนะความฉลาดของคุณ และรู้สึกดีใจมากเลยหรือเปล่า 7 00:00:25,814 --> 00:00:28,190 หรือว่ามันก็แค่ทำตามสัญชาตญาณ 8 00:00:28,190 --> 00:00:29,858 มันมีความแตกต่างกันบ้างไหม 9 00:00:29,858 --> 00:00:31,687 มันคิดอะไรอยู่ 10 00:00:31,687 --> 00:00:34,452 มันขึ้นกับว่า เราหมายความว่าอย่างไร เมื่อพูดถึง "การคิด" 11 00:00:34,452 --> 00:00:37,603 และเกณฑ์ที่เราใช้ประเมินมัน 12 00:00:37,603 --> 00:00:42,165 อริสโตเติลและเดคาร์ด ทั้งคู่ใช้เกณฑ์สัญชาตญาณและความฉลาด 13 00:00:42,165 --> 00:00:44,889 เพื่อแบ่งแยกสัตว์ออกจากมนุษย์ 14 00:00:44,889 --> 00:00:47,714 อริสโตเติลเชื่อว่ามนุษย์ประมวลเหตุผล 15 00:00:47,714 --> 00:00:53,220 ในขณะที่สัตว์ทำได้แค่ทำตามสัญชาตญาณดิบ สำหรับการอยู่รอดและสืบพันธ์ุ 16 00:00:53,220 --> 00:00:55,294 เกือบ 2,000 ต่อมา 17 00:00:55,294 --> 00:00:59,565 เดคาร์ดแนะถึงแบบของความคิดที่เข้มข้นกว่า 18 00:00:59,565 --> 00:01:03,714 โดยเถียงว่า สัตว์ที่ทำตามสัญชาติญาณ ไม่สามารถจำแนกได้ 19 00:01:03,714 --> 00:01:09,098 จากหุ่นยนต์ที่ตอบสนองตามกลไก ต่อสิ่งกระตุ้นในสิ่งแวดล้อมของมัน 20 00:01:09,098 --> 00:01:13,058 แต่ความเห็นค้านความเฉลียวฉลาดของสัตว์ เริ่มที่จะถูกเปิดเผย 21 00:01:13,058 --> 00:01:15,852 ด้วยทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน 22 00:01:15,852 --> 00:01:20,827 ดาร์วินสันนิษฐานว่าความเฉลียวฉลาด อาจมีวิวัฒนาการจากสัญชาติญาณง่ายๆ 23 00:01:20,827 --> 00:01:25,875 เขาสังเกตเห็นไส้เดือนเลือกว่า จะลากใบไม้รูปร่างแปลกๆ 24 00:01:25,875 --> 00:01:27,441 เข้าไปในเขตของมันอย่างไร 25 00:01:27,441 --> 00:01:32,580 และประหลาดใจที่มนุษย์ใช้วิธีการคล้ายๆ กัน ในการจัดการกับปัญหาคล้ายๆ กัน 26 00:01:32,580 --> 00:01:37,139 เขาจึงคิดว่า ถ้ามนุษย์สืบเชื้อสายมาจากสิ่งมีชีวิตง่ายๆ 27 00:01:37,139 --> 00:01:41,869 ฉะนั้นความคิดของเราอยู่ที่สุดขอบไกล ของความต่อเนื่องนี้ 28 00:01:41,869 --> 00:01:46,647 ก็ต่างจากพวกมันในระดับความมากน้อย แต่ไม่ได้ต่างในรูปแบบ 29 00:01:46,647 --> 00:01:50,632 การทดลองเร็วๆ นี้แสดงว่า หลายสปีชีส์สามารถแก้ปัญหาซับซ้อนได้ 30 00:01:50,632 --> 00:01:53,907 ซึ่งเป็นการยืนยันสมมติฐานแรกเริ่ม ของดาร์วิน 31 00:01:53,907 --> 00:01:57,371 ช้างใช้สิ่งของเพื่อให้เอื้อมถึง ที่ซึ่งเข้าไม่ถึง 32 00:01:57,371 --> 00:01:59,497 นกกาทำอุปกรณ์ของพวกมัน 33 00:01:59,497 --> 00:02:02,835 และใช้การแทนที่น้ำเพื่อให้ได้รางวัล 34 00:02:02,835 --> 00:02:06,713 ปลาหมึกสามารถเปิดขวดโหล หลังจากเห็นตัวอื่นทำแบบนั้น 35 00:02:06,713 --> 00:02:10,022 และยังจดจำกระบวนการนั้นได้ เป็นอีกหลายเดือนให้หลัง 36 00:02:10,022 --> 00:02:13,438 กิจกรรมแบบนั้นเกี่ยวข้องกับ การคิดถึงแง่มุมของปัญหา 37 00:02:13,438 --> 00:02:18,822 แยกกันจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทันที และยังคงแนวทางสำหรับการใช้ครั้งต่อไป 38 00:02:18,822 --> 00:02:22,390 ถึงกระนั้น ในขณะที่สัตว์สามารถแก้ปัญหา ที่ซับซ้อนได้ 39 00:02:22,390 --> 00:02:25,922 เรารู้ได้อย่างไร พวกมันคิดอะไร หรือแม้กระทั่งว่าพวกมันกำลังคิด 40 00:02:25,922 --> 00:02:29,649 นักพฤติกรรม อย่างเช่น พาลอฟ (Pavlov) และ ทอร์นไดค์ (Thorndike) ค้าน 41 00:02:29,649 --> 00:02:31,828 ว่าสัตว์ที่เหมือนว่าจะคิด 42 00:02:31,828 --> 00:02:35,528 ปกติแล้วจะตอบสนอง เพื่อรางวัล หรือต่อการทำโทษเท่านั้น 43 00:02:35,528 --> 00:02:38,254 นั่นเป็นกรณีของ คลีเวอร์ ฮานส์ (Clever Hans) 44 00:02:38,254 --> 00:02:43,324 ม้าที่มีความสามารถอันน่าทึ่ง ในการเคาะคำตอบต่อโจทย์คณิตศาสตร์ 45 00:02:43,324 --> 00:02:46,953 แต่กลายเป็นว่า ฮานส์ ไม่ได้มีความสามารถพิเศษทางคณิตศาสตร์ 46 00:02:46,953 --> 00:02:51,991 แต่มีความสามารถในการอ่านสัญญาณ ที่บอกเป็นนัยๆ จากครูฝึกผู้ไม่ค่อยจะฉลาด 47 00:02:51,991 --> 00:02:54,567 ว่าจะให้หยุดเคาะเมื่อไร 48 00:02:54,567 --> 00:02:58,838 ฉะนั้น ฮานส์ ไม่สามารถคิดเลข แต่นั่นหมายความว่ามันไม่ได้คิดด้วยงั้นหรือ 49 00:02:58,838 --> 00:03:02,109 อย่างไรก็ดี มันสามารถตีความ ข้อความเชิงสังคมที่ต่างกันเพียงเล็กน้อย 50 00:03:02,109 --> 00:03:06,389 คุณสมบัติที่มันมีร่วมกับ สัตว์ที่ไม่ใช่มนุษย์อื่นๆ 51 00:03:06,389 --> 00:03:09,690 ช้างจดจำกันและกันได้ หลังพรากจากกันหลายปี 52 00:03:09,690 --> 00:03:12,674 และเหมือนว่าจะโศกเศร้าเมื่อพวกมันตายซะด้วย 53 00:03:12,674 --> 00:03:15,759 ผึ้งสื่อสารโดยการเต้นแบบส่าย 54 00:03:15,759 --> 00:03:20,575 เพื่อบ่งบอกตำแหน่งและคุณภาพ ของแหล่งอาหารกับผึ้งตัวอื่นๆ 55 00:03:20,575 --> 00:03:24,707 ลิงชิมแพนซีมีส่วนร่วมในการหลอกลวงที่ซับซ้อน 56 00:03:24,707 --> 00:03:29,689 ซึ่งบ่งบอกว่า มันไม่เพียงแต่คิด แต่พวกมันยังเข้าใจว่าตัวอื่นทำเช่นนั้นด้วย 57 00:03:29,689 --> 00:03:32,398 และจากนั้น ก็มีอเล็กซ์ นกแก้วสีเทา 58 00:03:32,398 --> 00:03:33,902 ผู้ที่สามารถใช้ภาษามนุษย์ 59 00:03:33,902 --> 00:03:37,491 ในการจำแนกสีและรูปทรง ของสิ่งของที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น 60 00:03:37,491 --> 00:03:42,672 และกระทั่งเข้าใจแนวคิดนามธรรม เช่นใหญ่กว่าและเล็กกว่า 61 00:03:42,672 --> 00:03:44,660 นั่นมันฟังดูเหมือนความเฉลียวฉลาดเอามากๆ 62 00:03:44,660 --> 00:03:47,649 และไม่ใช่แค่การทำงานของจักรกลที่ไร้สมอง 63 00:03:47,649 --> 00:03:52,338 แต่ขณะที่สัตว์ที่ไม่ใช่มนุษย์สามารถแก้ปัญหา และแม้กระทั่งสื่อสารได้ 64 00:03:52,338 --> 00:03:56,252 สำหรับมนุษย์แล้ว การคิด ยังเกี่ยวข้องกับสติสัมปชัญญะด้วย 65 00:03:56,252 --> 00:04:01,105 ซึ่งเป็นความสามารถที่จะสะท้อนการกระทำของเรา ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะทำมัน 66 00:04:01,105 --> 00:04:06,370 ถึงตอนนี้ ไม่มีการศึกษาใดที่บอกเรา ว่าถ้าการมีความฉลาดที่มากกว่าพวกเรา 67 00:04:06,370 --> 00:04:10,959 หมายถึงว่าหมาของเรา รู้สึกดีเมื่อได้ทำอย่างนั้นหรือเปล่า 68 00:04:10,959 --> 00:04:14,596 ที่เราต้องการรู้จริงๆ คือ เป็นหมาแล้วจะรู้สึกอย่างไร 69 00:04:14,596 --> 00:04:16,006 หรือเป็นปลาหมึก 70 00:04:16,006 --> 00:04:17,519 หรือเป็นนกกา 71 00:04:17,519 --> 00:04:20,602 นักปรัชญาทางความคิดเรียกมันว่า ปัญหาใหญ่ (The Hard Problem) 72 00:04:20,602 --> 00:04:24,351 เพราะในขณะที่คุณและผมสามารถบอกได้ ว่าเป็นคนรู้สึกอย่างไร 73 00:04:24,351 --> 00:04:26,316 ไม่มีใครเลยที่พูดภาษาม้าได้ 74 00:04:26,316 --> 00:04:28,496 แม้แต่นกแก้วพูดได้ เหมือนอล็กซ์ 75 00:04:28,496 --> 00:04:32,989 ก็บอกเราไม่ได้ว่าเขารู้สึกอย่างไร เกี่ยวกับสีที่เขาเรียกชื่อได้ 76 00:04:32,989 --> 00:04:35,493 และถ้าหากสติสัมปชัญญะ มาในรูปแบบที่ต่างออกไปล่ะ 77 00:04:35,493 --> 00:04:38,769 เราจะได้รู้จักกับสติสัมปชัญญะของผึ้งไหม 78 00:04:38,769 --> 00:04:43,530 ด้วยเหตุนั้น เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า คนอื่นๆ มีสติสัมปชัญญะ 79 00:04:43,530 --> 00:04:46,580 บางที พวกเขาก็อาจเป็นแค่ผีดิบ ที่ทำหน้าที่ได้ดี 80 00:04:46,580 --> 00:04:51,231 ไม่ว่าอย่างไร ความคิดของสัตว์ยังคงทดสอบ ข้อจำกัดของความเข้าใจของเรา 81 00:04:51,231 --> 00:04:56,524 และวิธีการที่เราให้กรอบกับมันอาจเปิดเผย เกี่ยวกับความคิดของพวกเรามากกว่าของพวกมัน