WEBVTT 00:00:00.725 --> 00:00:03.836 เช่นเดียวกับคุณหลายคน ฉันเป็นคนหนึ่งที่โชคดี 00:00:03.836 --> 00:00:07.236 ฉันเกิดในครอบครัวที่การศึกษา แทรกซึมอยู่ในชีวิต 00:00:07.236 --> 00:00:11.474 ฉันเป็นรุ่นที่สามของครอบครับที่ได้ PhD เป็นลูกสาวของนักวิชาการสองคน 00:00:11.474 --> 00:00:15.268 ในวัยเด็ก ฉันวิ่งเล่นในห้องแล็บที่มหาวิทยาลัยของพ่อ 00:00:15.268 --> 00:00:19.117 เลยเป็นเรื่องปกติ ที่ฉันได้เข้ามหาวิทยาลัยชั้นดีเลิศ 00:00:19.117 --> 00:00:22.918 ซึ่งก็ช่วยเปิดประตูสู่โอกาสอีกมากมาย NOTE Paragraph 00:00:22.918 --> 00:00:27.038 แต่น่าเสียดาย คนส่วนใหญ่ในโลกไม่ได้โชคดีอย่างนี้ 00:00:27.038 --> 00:00:30.173 ในบางมุมของโลก ตัวอย่างเช่น ประเทศแอฟริกาใต้ 00:00:30.173 --> 00:00:32.878 การศึกษาไม่ได้แค่เข้าถึงยาก 00:00:32.878 --> 00:00:35.853 ในประเทศแอฟริกาใต้ การศึกษาถูกออกแบบในยุคที่ 00:00:35.853 --> 00:00:38.726 การกีดกันทางสีผิวเอื้อประโยชน์ ให้คนผิวขาวส่วนน้อย 00:00:38.726 --> 00:00:41.426 และผลก็คือ ทุกวันนี้ ไม่มีที่ว่างมากพอ 00:00:41.426 --> 00:00:45.278 สำหรับคนจำนวนมากที่ต้องการ และสมควรจะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ 00:00:45.278 --> 00:00:49.158 ความขาดแคลนนั้นนำมาสู่จลาจลในเดือนมกราคมต้นปีนี้ 00:00:49.158 --> 00:00:50.994 ที่มหาวิทยาลัยแห่งโจฮันเนสเบิร์ก 00:00:50.994 --> 00:00:53.125 ที่ว่างสำหรับเข้าเรียนเหลืออยู่แค่หยิบมือ 00:00:53.125 --> 00:00:56.094 จากการคัดเลือกรอบปกติ และคืนก่อนหน้านั้น 00:00:56.094 --> 00:00:58.654 มหาวิทยาลัยจะเปิดให้คนมาสมัคร 00:00:58.654 --> 00:01:02.706 คนหลายพันเข้าแถวนอกรั้วยาวเป็นไมล์ 00:01:02.706 --> 00:01:06.586 หวังว่าจะเป็นคนแรกสุดที่จะได้ที่นั่งนั้นมา 00:01:06.586 --> 00:01:08.894 ตอนที่ประตูเปิด เกิดเหตุโกลาหล 00:01:08.894 --> 00:01:12.546 คน 20 คนได้รับบาดเจ็บ และผู้หญิงหนึ่งคนเสียชีวิต 00:01:12.546 --> 00:01:14.486 เธอเป็นแม่ที่สละชีวิตของเธอ 00:01:14.486 --> 00:01:18.549 ขณะพยายามที่จะคว้าโอกาสเพื่อชีวิตที่ดีกว่ามาให้ลูกชาย NOTE Paragraph 00:01:18.549 --> 00:01:21.706 แม้แต่ในอีกมุมของโลกอย่างสหรัฐอเมริกา 00:01:21.706 --> 00:01:26.062 ที่การศึกษามีอยู่พร้อม แต่ก็ยังเกินเอื้อมสำหรับบางคน 00:01:26.062 --> 00:01:28.734 เป็นที่ถกเถียงอย่างมากใน 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ 00:01:28.734 --> 00:01:30.723 เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขที่สูงขึ้น 00:01:30.723 --> 00:01:33.365 แต่อีกอย่างที่อาจไม่เด่นชัดในสายตาของคน 00:01:33.365 --> 00:01:37.387 คือ ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ค่าใช้จ่ายในการเรียนมหาวิทยาลัย 00:01:37.387 --> 00:01:39.867 เพิ่มสูงขึ้นเป็นสองเท่าของอัตรานั้นเสียอีก 00:01:39.867 --> 00:01:44.147 คิดเป็นร้อยละ 559 เมื่อเทียบกับปี 1985 00:01:44.147 --> 00:01:48.681 นี่ทำให้การศึกษาแพงเกินไปสำหรับคนจำนวนมาก NOTE Paragraph 00:01:48.681 --> 00:01:52.482 สุดท้าย แม้แต่คนที่หาทางเรียนจบมหาวิทยาลัยมาได้ 00:01:52.482 --> 00:01:55.107 ประตูสู่โอกาสก็ยังไม่เปิดให้พวกเขา 00:01:55.107 --> 00:01:58.314 นักศึกษาจบใหม่ในสหรัฐอเมริกา 00:01:58.314 --> 00:02:00.627 จำนวนเกินครึ่งมานิดเดียว 00:02:00.627 --> 00:02:04.090 ที่ได้งานที่ต้องการระดับการศึกษาอย่างพวกเขา 00:02:04.090 --> 00:02:05.930 แน่นอนว่ามันไม่จริงสำหรับนักเรียน 00:02:05.930 --> 00:02:07.882 ที่เรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ 00:02:07.882 --> 00:02:10.514 แต่มีคนอื่นจำนวนมาก ที่ไม่ได้รับผลตอบแทน 00:02:10.514 --> 00:02:14.050 สำหรับเวลาและความพยายามของพวกเขา NOTE Paragraph 00:02:14.050 --> 00:02:17.080 ทอม ฟรีดแมน เขียนบทความใน นสพ.นิวยอร์กไทม์ เร็วๆนี้ 00:02:17.080 --> 00:02:21.448 พูดถึงจิตวิญญาณเบื้องหลังความพยายามของเรา ซึ่งไม่มีใครพูดได้ดีไปกว่าเขา 00:02:21.448 --> 00:02:24.568 เขาบอกว่าการค้นพบที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อ 00:02:24.568 --> 00:02:28.467 สิ่งที่เพิ่งเป็นไปได้มาพบกับสิ่งที่จำเป็นอย่างสูงสุด 00:02:28.467 --> 00:02:31.088 ฉันได้พูดเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นอย่างสูงสุดไปแล้ว 00:02:31.088 --> 00:02:33.600 เรามาพูดถึงสิ่งที่เพิ่งจะเป็นไปได้กันบ้าง NOTE Paragraph 00:02:33.600 --> 00:02:36.719 สิ่งที่เพิ่งจะเป็นไปได้นั้นสาธิตโดย 00:02:36.719 --> 00:02:38.287 ชั้นเรียนขนาดใหญ่ 3 ห้องที่แสตนฟอร์ด 00:02:38.287 --> 00:02:42.167 แต่ละห้องมีนักเรียน 100,000 คน หรือมากกว่านั้น 00:02:42.167 --> 00:02:45.551 เพื่อจะเข้าใจสิ่งนี้ เรามาดูหนึ่งในชั้นเรียนเหล่านั้นกัน 00:02:45.551 --> 00:02:47.471 วิชาการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) 00:02:47.471 --> 00:02:49.200 สอนโดยเพื่อนร่วมงาน และผู้ร่วมก่อตั้งของฉัน แอนดรูว์ อิ้ง 00:02:49.200 --> 00:02:51.519 แอนดรูสอนในห้องเรียนขนาดใหญ่ที่แสตนฟอร์ด 00:02:51.519 --> 00:02:52.728 นั่นก็คือ วิชาการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) 00:02:52.728 --> 00:02:56.246 ซึ่งมีนักเรียน 400 คน ในทุกๆครั้งที่เปิดสอน 00:02:56.246 --> 00:02:59.511 เวลาที่แอนดรูว์เปิดสอนวิชานี้ให้กับคนทั่วไป 00:02:59.511 --> 00:03:02.127 มีคน 100,000 คน ลงทะเบียนเรียน 00:03:02.127 --> 00:03:04.136 ถ้าจะทำให้เห็นภาพตัวเลขนั้นมากขึ้น 00:03:04.136 --> 00:03:06.495 ถ้าแอนดรูว์จะสอนให้ได้นักเรียนจำนวนเท่ากัน 00:03:06.495 --> 00:03:08.321 โดยการสอนชั้นเรียนที่แสตนฟอร์ด 00:03:08.321 --> 00:03:12.247 เขาต้องทำอย่างนั้นไป 250 ปี 00:03:12.247 --> 00:03:15.733 แน่นอน เขาคงจะเบื่อมาก NOTE Paragraph 00:03:15.733 --> 00:03:18.470 ดังนั้น เราได้เห็นผลของสิ่งนี้แล้ว 00:03:18.470 --> 00:03:21.598 แอนดรูว์กับฉันตัดสินใจว่า เราต้องพยายามขยายสิ่งนี้ 00:03:21.598 --> 00:03:25.718 เพื่อนำการศึกษาคุณภาพสูงไปสู่คนจำนวนมาก ให้ได้เท่าที่จะทำได้ 00:03:25.718 --> 00:03:27.213 เราเลยก่อตั้ง คอร์เซอร์รา (Coursera) 00:03:27.213 --> 00:03:30.350 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อนำวิชาเรียนที่ดีที่สุด 00:03:30.350 --> 00:03:33.667 จากผู้สอนที่มีคุณภาพที่สุด ในสถาบันที่มีคุณภาพที่สุด 00:03:33.667 --> 00:03:37.695 ไปให้ทุกคนรอบโลกได้เรียนฟรีๆ 00:03:37.695 --> 00:03:40.295 ตอนนี้เรามี 43 วิชาอยู่ในโครงการ 00:03:40.295 --> 00:03:43.494 จากมหาวิทยาลัย 4 แห่ง ในสาขาวิชาหลากหลาย 00:03:43.494 --> 00:03:45.327 และฉันขอเปิดให้ดูนิดนึง เป็นภาพคร่าวๆ 00:03:45.327 --> 00:03:48.605 ว่าหน้าตาสิ่งนี้เป็นอย่างไร NOTE Paragraph 00:03:48.605 --> 00:03:49.818 (วิดีโอ) โรเบิร์ต กริสต์: ยินดีต้อนรับสู่แคลคูลัส NOTE Paragraph 00:03:49.818 --> 00:03:51.698 เอสเซเกียล อีมานูเอล: คน 50 ล้านคนไม่มีประกันชีวิต NOTE Paragraph 00:03:51.698 --> 00:03:54.969 สก๊อต เพจ: แบบจำลองช่วยให้เราออกแบบหน่วยงานและนโยบายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น 00:03:54.969 --> 00:03:57.377 เราได้การแบ่งแยกเชื้อชาติที่ไม่น่าเชื่อ NOTE Paragraph 00:03:57.377 --> 00:03:59.169 สก๊อต เคลมเมอร์: บุชจินตนาการว่าในอนาคต 00:03:59.169 --> 00:04:01.547 เราจะใส่กล้องถ่ายรูปไว้ที่กลางหัวของเรา NOTE Paragraph 00:04:01.547 --> 00:04:05.801 มิทเชล ดันเนียน: มิลส์ต้องการนักเรียนสาขาสังคมวิทยาเพื่อพัฒนาคุณภาพความคิด NOTE Paragraph 00:04:05.801 --> 00:04:09.466 โรเบิร์ต กริสต์: สายไฟห้อยเป็นรูปร่างเหมือน ไฮเปอร์โบลิคโคไซน์ (hyperbolic cosine) NOTE Paragraph 00:04:09.466 --> 00:04:12.537 นิก พาเรียนเท: สำหรับแต่ละพิกเซลในภาพ ตั้งค่าสีแดงเป็นศูนย์ NOTE Paragraph 00:04:12.537 --> 00:04:15.514 พอล ออฟฟิต: วัคซีนทำให้เราสามารถกำจัดไวรัสปอลิโอ NOTE Paragraph 00:04:15.514 --> 00:04:19.137 แดน จูราฟสกี้: ลูฟแทนซ่าบริการอาหารเช้า และ แซน โจสด้วยเหรอ? อืม นั่นฟังดูตลกดี NOTE Paragraph 00:04:19.137 --> 00:04:22.753 แดฟนี่ โคลเลอร์: แล้วเราจะเลือกเหรียญไหนดี และนี่เป็นการโยนสองครั้ง NOTE Paragraph 00:04:22.753 --> 00:04:26.440 แอนดรู อิ้ง: ดังนั้น ในการเรียนรู้ของเครื่องระดับกว้าง เราต้องการหาวิธีคำนวณ... NOTE Paragraph 00:04:26.440 --> 00:04:32.049 (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:04:32.049 --> 00:04:34.323 แดฟนี่ โคลเลอร์: ปรากฏว่า อาจจะไม่น่าแปลกใจนัก 00:04:34.323 --> 00:04:36.561 ว่านักเรียนได้รับเนื้อหาที่ดีที่สุด 00:04:36.561 --> 00:04:39.448 จากมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดฟรีๆ 00:04:39.448 --> 00:04:41.970 ตั้งแต่เราเปิดเว็ปไซต์ในเดือนกุมภาพันธ์ 00:04:41.970 --> 00:04:46.328 ตอนนี้ เรามีนักเรียน 640,000 คน จาก 190 ประเทศ 00:04:46.328 --> 00:04:48.480 มีการลงทะเบียนเรียน 1.5 ล้านครั้ง 00:04:48.480 --> 00:04:51.330 มีนักเรียนทำแบบทดสอบ 6 ล้านชุด ใน 15 ชั้นเรียนที่เราเปิดสอน 00:04:51.330 --> 00:04:56.246 มีการดูวิดีโอถึง 14 ล้านครั้ง NOTE Paragraph 00:04:56.246 --> 00:04:58.764 แต่เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข 00:04:58.764 --> 00:05:00.405 แต่เป็นเรื่องของผู้คนด้วยเช่นกัน 00:05:00.405 --> 00:05:03.381 ไม่ว่าจะเป็นอะคาชที่มาจากเมืองเล็กๆในอินเดีย 00:05:03.381 --> 00:05:05.556 ที่ไม่เคยมีโอกาสได้เข้าถึง 00:05:05.556 --> 00:05:07.045 ชั้นเรียนคุณภาพอย่างของแสตนฟอร์ด 00:05:07.045 --> 00:05:09.560 และไม่มีทางที่จะจ่ายค่าเรียนได้ 00:05:09.560 --> 00:05:11.598 หรือเจนนี่ แม่ตัวคนเดียวที่เลี้ยงลูกสองคน 00:05:11.598 --> 00:05:13.565 ที่ต้องการเคาะสนิมทักษะต่างๆ 00:05:13.565 --> 00:05:16.700 เพื่อจะได้กลับไปเรียนปริญญาโทให้จบ 00:05:16.700 --> 00:05:19.836 หรือไรอัน ที่ไม่สามารถไปมหาวิทยาลัยได้ 00:05:19.836 --> 00:05:21.701 เพราะลูกสาวที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง 00:05:21.701 --> 00:05:25.084 ไม่สามารถเสี่ยงที่จะอยู่กับเชื้อโรคในบ้านได้ 00:05:25.084 --> 00:05:26.924 ทำให้เขาออกจากบ้านไม่ได้ 00:05:26.924 --> 00:05:28.556 ฉันดีใจมากที่จะบอกว่า -- 00:05:28.556 --> 00:05:30.808 ไม่นานมานี้ เราติดต่อกับไรอัน -- 00:05:30.808 --> 00:05:32.740 และพบว่าเรื่องนี้จบลงด้วยดี 00:05:32.740 --> 00:05:34.643 ทารกแชนนอน ที่อยู้ซ้ายมือนี้ 00:05:34.643 --> 00:05:35.994 อาการดีขึ้นมากแล้วตอนนี้ 00:05:35.994 --> 00:05:40.192 และไรอันได้งานเพราะได้ลงเรียนบางวิชาของเราไป NOTE Paragraph 00:05:40.192 --> 00:05:42.436 แล้วอะไรที่ทำให้วิชาเรียนเหล่านี้แตกต่าง? 00:05:42.436 --> 00:05:46.156 จะว่าไป การเรียนออนไลน์ ก็เป็นสื่อที่แพร่หลายมานาน 00:05:46.156 --> 00:05:49.868 แต่สิ่งที่ต่างคือประสบการณ์การเรียนที่เหมือนจริง 00:05:49.868 --> 00:05:51.594 เราเริ่มต้นในวันที่กำหนด 00:05:51.594 --> 00:05:55.228 แล้วนักเรียนจะดูวิดีโอทุกอาทิตย์ 00:05:55.228 --> 00:05:57.083 และทำการบ้าน 00:05:57.083 --> 00:05:58.874 และนี่เป็นการบ้านจริงๆ 00:05:58.874 --> 00:06:02.178 เพื่อเกรดจริงๆ มีกำหนดส่งจริงๆ 00:06:02.178 --> 00:06:04.234 คุณลองดูกราฟวันกำหนดส่งกับปริมาณการใช้สิ 00:06:04.234 --> 00:06:06.322 ยอดแหลมๆนี้ชี้ว่า 00:06:06.322 --> 00:06:10.111 การผลัดวันประกันพรุ่ง เป็นปรากฏการณ์เกิดขึ้นทั่วโลก NOTE Paragraph 00:06:10.111 --> 00:06:12.687 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:06:12.687 --> 00:06:14.359 หลังจากจบวิชาเรียนแล้ว 00:06:14.359 --> 00:06:16.215 นักเรียนจะได้รับประกาศนียบัตร 00:06:16.215 --> 00:06:18.375 พวกเขาสามารถแสดงใบประกาศนี้ 00:06:18.375 --> 00:06:20.528 ต่อนายจ้างในอนาคตและหางานที่ดีขึ้น 00:06:20.528 --> 00:06:22.588 และเรารู้ว่านักเรียนจำนวนมากทำอย่างนั้น 00:06:22.588 --> 00:06:24.507 นักเรียนบางคนเอาใบประกาศไป 00:06:24.507 --> 00:06:27.629 แสดงต่อสถาบันการศึกษาที่เข้าเรียน 00:06:27.629 --> 00:06:29.470 เพื่อหน่วยกิตในมหาวิทยาลัย 00:06:29.470 --> 00:06:31.684 นักเรียนเหล่านี้ได้รับอะไรที่มีความหมาย 00:06:31.684 --> 00:06:34.518 กับการลงทุนเวลาและความพยายามจริงๆ NOTE Paragraph 00:06:34.518 --> 00:06:37.073 มาพูดถึงองค์ประกอบต่างๆ 00:06:37.073 --> 00:06:38.965 ที่เกี่ยวกับวิชาเหล่านี้กันสักหน่อย 00:06:38.965 --> 00:06:41.593 องค์ประกอบแรกคือ เมื่อเราหลบออกจาก 00:06:41.593 --> 00:06:43.890 ข้อจำกัดของห้องเรียนที่เป็นกายภาพ 00:06:43.890 --> 00:06:46.730 และออกแบบบทเรียนเพื่อนำเสนอในรูปแบบออนไลน์ 00:06:46.730 --> 00:06:49.258 คุณสามารถแหวกออกจากตัวอย่างเช่น 00:06:49.258 --> 00:06:51.673 เลกเชอร์ความยาวหนึ่งชั่วโมงรวด 00:06:51.673 --> 00:06:53.458 เราสามารถแบ่งเนื้อหา 00:06:53.458 --> 00:06:56.834 ออกเป็นช่วงสั้นๆ เป็นหน่วยย่อยความยาว 8-12 นาที 00:06:56.834 --> 00:06:59.808 แต่ละอันนำเสนอชุดความคิดที่เชื่อมโยงกัน 00:06:59.808 --> 00:07:02.378 นักเรียนสามารถเดินทางผ่านเนื้อหาเหล่านี้ได้หลายทาง 00:07:02.378 --> 00:07:06.082 ขึ้นอยู่กับภูมิหลัง ทักษะ และความสนใจ 00:07:06.082 --> 00:07:08.602 ตัวอย่างเช่น นักเรียนบางคนอาจจะได้ประโยชน์ 00:07:08.602 --> 00:07:11.362 จากเนื้อหาพื้นฐานเพื่อเตรียมพร้อม 00:07:11.362 --> 00:07:13.433 ที่นักเรียนคนอื่นอาจจะรู้อยู่แล้ว 00:07:13.433 --> 00:07:15.873 ส่วนคนอื่นอาจจะสนใจเนื้อหาเสริมเฉพาะเรื่อง 00:07:15.873 --> 00:07:18.959 ที่นักเรียนสามารถเลือกเรียนได้ตามใจชอบ 00:07:18.959 --> 00:07:22.194 ดังนั้น รูปแบบนี้จึงช่วยให้เราแหวกออกจาก 00:07:22.194 --> 00:07:25.018 รูปแบบการศึกษาแบบไซส์เดียวฟิตทุกคน 00:07:25.018 --> 00:07:29.010 และช่วยให้นักเรียนสามารถ เลือกหลักสูตรที่เหมาะกับตัวเองได้ NOTE Paragraph 00:07:29.010 --> 00:07:31.353 แน่นอน ในฐานะนักการศึกษา เรารู้ว่า 00:07:31.353 --> 00:07:34.713 นักเรียนไม่ได้เรียนรู้จากการนั่งนิ่งๆดูวิดีโอ 00:07:34.713 --> 00:07:37.658 บางทีองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด ของความพยายามนี้ 00:07:37.658 --> 00:07:40.250 คือเราต้องให้นักเรียน 00:07:40.250 --> 00:07:42.659 ฝึกฝนเนื้อหาบทเรียน 00:07:42.659 --> 00:07:45.815 เพื่อให้เข้าใจจริงๆ 00:07:45.815 --> 00:07:49.083 ที่ผ่านมามีงานวิจัยมากมาย ที่ชี้ถึงความสำคัญของสิ่งนี้ 00:07:49.083 --> 00:07:51.615 อันหนึ่งที่ลงในนิตยสาร Science ปีที่แล้ว เป็นตัวอย่าง 00:07:51.615 --> 00:07:54.447 ชี้ให้เห็นว่าแม้แต่แบบฝึกหัด ทบทวนความจำแบบพื้นฐาน 00:07:54.447 --> 00:07:57.239 ที่นักเรียนแค่ต้องพูดซ้ำ 00:07:57.239 --> 00:07:58.639 สิ่งที่เพิ่งเรียนไป 00:07:58.639 --> 00:08:00.559 ทำให้นักเรียนทำคะแนนได้ดีกว่ามาก 00:08:00.559 --> 00:08:02.828 ในการทดสอบมาตรฐานหลายๆอย่างหลังจากนั้น 00:08:02.828 --> 00:08:07.132 ให้ผลมากกว่าการแทรกแซงอื่นๆ NOTE Paragraph 00:08:07.132 --> 00:08:10.094 เราได้ลองสร้างแบบฝึกหัดทบทวนความจำเข้าไปในนี้ 00:08:10.094 --> 00:08:12.348 รวมไปถึงแบบทดสอบรูปแบบอื่นๆด้วย 00:08:12.348 --> 00:08:16.492 ตัวอย่างเช่น แม้แต่วิดีโอของเราไม่ได้เป็นแค่วิดีโอ 00:08:16.492 --> 00:08:18.535 ทุก 2-3 นาที วิดีโอจะหยุด 00:08:18.535 --> 00:08:20.686 และนักเรียนจะต้องตอบคำถาม NOTE Paragraph 00:08:20.686 --> 00:08:22.907 (วิดีโอ) สก๊อต เพจ: ... สี่สิ่งนี้ Prospect Theory, hyperbolic discounting, 00:08:22.907 --> 00:08:25.999 status quo bias, base rate bias มีการศึกษาสนับสนุนมาก 00:08:25.999 --> 00:08:28.766 ทั้งสี่อย่างเป็นพฤติกรรมเบี่ยงเบนจากความเป็นเหตุเป็นผล ที่ได้รับการสนับสนุน NOTE Paragraph 00:08:28.766 --> 00:08:30.390 แดฟนี่ โคลเลอร์: แล้วตอนนี้วิดีโอก็จะหยุด 00:08:30.390 --> 00:08:32.646 และนักเรียนพิมพ์คำตอบเข้าไปในกล่อง 00:08:32.646 --> 00:08:35.869 และกดส่ง อย่างที่เห็น พวกเขาไม่ได้ตั้งใจฟังอยู่ NOTE Paragraph 00:08:35.884 --> 00:08:36.753 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:08:36.753 --> 00:08:38.763 พวกเขาเลยต้องลองอีกครั้ง 00:08:38.763 --> 00:08:41.299 และครั้งนี้พวกเขาตอบถูก 00:08:41.299 --> 00:08:43.492 มีตัวเลือกให้เปิดดูคำอธิบาย ถ้านักเรียนต้องการ 00:08:43.492 --> 00:08:47.749 และทีนี้วิดีโอเลื่อนไปเลกเชอร์ในส่วนต่อไป 00:08:47.749 --> 00:08:49.627 นี่เป็นคำถามประเภทพื้นฐาน 00:08:49.627 --> 00:08:51.708 ประเภทที่ฉันถามเวลาฉันสอนในชั้นเรียนจริง 00:08:51.708 --> 00:08:54.208 แต่เวลาที่ฉันถามคำถามอย่างนั้นในชั้นเรียน 00:08:54.208 --> 00:08:55.508 ร้อยละ 80 ของนักเรียน 00:08:55.508 --> 00:08:57.374 ยังจดสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดจบไป ยิกๆ 00:08:57.374 --> 00:09:00.695 ร้อยละ 15 ใจลอยไปกับ Facebook 00:09:00.695 --> 00:09:03.151 และก็ มีเด็กแถวหน้าที่รู้ทุกอย่าง 00:09:03.151 --> 00:09:04.510 ที่ตะโกนคำตอบออกมา 00:09:04.510 --> 00:09:06.717 ก่อนที่คนอื่นๆในห้อง้รียนมีโอกาสที่จะคิดสักหน่อย 00:09:06.717 --> 00:09:09.589 และฉันในฐานะคนสอนก็ดีใจล้นเหลือ 00:09:09.589 --> 00:09:11.237 ที่บางคนรู้คำตอบ 00:09:11.237 --> 00:09:14.029 และการบรรยายดำเนินต่อไป ก่อนที่ ในความเป็นจริง 00:09:14.029 --> 00:09:17.558 นักเรียนสาวนใหญ่จะรู้ตัวว่ามีการถามคำถามเกิดขึ้น 00:09:17.558 --> 00:09:20.165 ที่นี่ นักเรียนทุกคน 00:09:20.165 --> 00:09:22.949 ต้องมีส่วนร่วมไปกับเนื้อหา NOTE Paragraph 00:09:22.949 --> 00:09:24.885 และแน่นอนว่าคำถามทบทวนความจำพื้นฐานเหล่านี้ 00:09:24.885 --> 00:09:26.547 ไม่ได้เป็นตอนจบของเรื่อง 00:09:26.547 --> 00:09:29.517 เราต้องเติมคำถามที่มีความหมายลึกซึ้งกว่านั้นเข้าไปด้วย 00:09:29.517 --> 00:09:31.870 และเราก็ต้องให้ผลตอบกลับกับนักเรียน 00:09:31.870 --> 00:09:33.533 ในคำถามเหล่านั้น 00:09:33.533 --> 00:09:36.421 ทีนี้ ทำอย่างไรเราจะตรวจการบ้านของนักเรียน 100,000 คนได้ 00:09:36.421 --> 00:09:39.503 โดยที่ไม่ต้องมีผู้ช่วยสอน 10,000 คน? 00:09:39.503 --> 00:09:41.857 คำตอบคือ เราต้องใช้เทคโนโลยี 00:09:41.857 --> 00:09:43.352 ให้ทำงานให้เรา 00:09:43.352 --> 00:09:46.000 ทีนี้ โชคดีหน่อย ที่เทคโนโลยีพัฒนามาไกลแล้ว 00:09:46.000 --> 00:09:49.268 และตอนนี้เราสามารถตรวจการบ้านในรูปแบบที่น่าสนใจหลากหลายได้ 00:09:49.268 --> 00:09:50.795 นอกเหนือไปจากแบบฝึกหัดแบบปรนัย 00:09:50.795 --> 00:09:53.948 และประเภทคำตอบสั้นๆ แบบที่คุณเห็นไปแล้วในวิดีโอ 00:09:53.948 --> 00:09:57.208 เราสามารถตรวจวิชาคณิตศาสตร์ สมการทางคณิตศาสตร์ 00:09:57.208 --> 00:09:59.160 และการพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์ด้วย 00:09:59.160 --> 00:10:02.034 เราสามารถตรวจแบบจำลอง ไม่ว่าจะเป็น 00:10:02.034 --> 00:10:04.210 แบบจำลองทางการเงินในวิชาธุรกิจ 00:10:04.210 --> 00:10:07.194 หรือแบบจำลองทางกายภาพในวิชาวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรม 00:10:07.194 --> 00:10:10.938 และเราสามารถตรวจงานเขียนโปรแกรมที่ซับซ้อนได้ NOTE Paragraph 00:10:10.938 --> 00:10:12.857 ฉันจะให้คุณดูตัวอย่างหนึ่งที่เรียบง่ายมาก 00:10:12.857 --> 00:10:14.337 และเห็นภาพง่าย 00:10:14.337 --> 00:10:16.814 ตัวอย่างนี้มาจากชั้นเรียนวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ 101 ของแสตนฟอร์ด 00:10:16.814 --> 00:10:18.418 และนักเรียนต้องปรับสี 00:10:18.418 --> 00:10:20.010 ภาพสีแดงเบลอๆนั้น 00:10:20.010 --> 00:10:22.028 พวกเขาพิมพ์โปรแกรมเข้ามาในหน้าเว็บ 00:10:22.028 --> 00:10:26.086 และคุณจะเห็นว่าเขายังทำไม่ถูกนัก เทพีเสรีภาพยังเมาเรืออยู่ 00:10:26.086 --> 00:10:29.842 นักเรียนเลยต้องลองอีกครั้ง และครั้งนี้พวกเขาทำได้ถูกต้อง และเขารู้ว่าเขาทำถูก 00:10:29.842 --> 00:10:32.201 และพวกเขาได้เลื่อนไปทำคำถามต่อไป 00:10:32.201 --> 00:10:35.349 ความสามารถที่จะได้มีปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหา 00:10:35.349 --> 00:10:37.033 และได้รับรู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ถูกหรือผิด 00:10:37.033 --> 00:10:40.159 เป็นหัวใจสำคัญของการเรียนรู้ของนักเรียน NOTE Paragraph 00:10:40.159 --> 00:10:42.434 ที่นี้ แน่นอน ว่าเรายังไม่สามารถตรวจ 00:10:42.434 --> 00:10:45.268 งานทุกรูปแบบหลากหลายที่เราต้องการสำหรับทุกวิชา 00:10:45.268 --> 00:10:48.569 โดยเฉพาะ สิ่งที่ขาดไปคืองานประเภททักษะการคิดวิเคราะห์ 00:10:48.569 --> 00:10:50.491 ที่เป็นหัวใจสำคัญของแขนงวิชา 00:10:50.491 --> 00:10:54.088 อย่างมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ ธุรกิจ และอื่นๆ 00:10:54.088 --> 00:10:56.337 ดังนั้น เราเลยลองโน้มน้าว 00:10:56.337 --> 00:10:57.953 อาจารย์สายมนุษยศาสตร์บางคน 00:10:57.953 --> 00:11:00.649 ว่าแบบฝึกหัดปรนัยไม่ใช่กลยุทธ์ที่แย่ขนาดนั้น 00:11:00.649 --> 00:11:02.840 แต่มันไม่ได้ผ่านไปด้วยดีเท่าไหร่ NOTE Paragraph 00:11:02.840 --> 00:11:05.273 เราเลยต้องคิดค้นทางแก้ที่แตกต่างออกไป 00:11:05.273 --> 00:11:08.347 และทางแก้ที่เราลงเอย ก็คือการให้นักเรียนตรวจงานกันเอง 00:11:08.347 --> 00:11:10.769 ปรากฏว่า งานวิจัยที่ผ่านมาชี้ว่า 00:11:10.769 --> 00:11:12.441 เช่นชิ้นนี้ โดยแซดเลอร์และกู้ด 00:11:12.441 --> 00:11:14.929 การให้นักเรียนตรวจงานกันเองเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลดี อย่างน่าประหลาดใจ 00:11:14.929 --> 00:11:18.143 สำหรับการให้คะแนนที่สอดคล้องกัน 00:11:18.143 --> 00:11:19.913 วิธีนี้ถูกทดลองในชั้นเรียนขนาดเล็ก 00:11:19.913 --> 00:11:21.400 และมันชี้ให้เห็นว่า ตัวอย่างเช่น 00:11:21.400 --> 00:11:23.882 เกรดที่นักเรียนให้ ในแกน y 00:11:23.882 --> 00:11:25.193 ที่จริงแล้วสอดคล้องอย่างมาก 00:11:25.193 --> 00:11:27.489 กับเกรดที่อาจารย์ให้ ในแกน x 00:11:27.489 --> 00:11:30.649 สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งไปกว่านั้นคือ เกรดที่นักเรียนให้ตัวเอง 00:11:30.649 --> 00:11:32.960 ในเวลาที่นักเรียนตรวจงานของตัวเองอย่างมีวิจารญาณ -- 00:11:32.960 --> 00:11:34.697 แต่คือเราต้องให้แรงจูงใจอย่างเหมาะสม 00:11:34.697 --> 00:11:36.635 เพื่อนักเรียนจะได้ไม่ให้ตัวเองได้คะแนนเต็ม -- 00:11:36.635 --> 00:11:39.826 นั้นสอดคล้องกับคะแนนที่อาจารย์ให้มากกว่าเสียอีก 00:11:39.826 --> 00:11:41.433 และนี่เป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลดีมาก 00:11:41.433 --> 00:11:43.537 ที่สามารถใช้ในการให้คะแนน 00:11:43.537 --> 00:11:46.273 และยังเป็นกลยุทธ์การเรียนรู้ที่เป็นประโยชน์มากอีกด้วย 00:11:46.273 --> 00:11:48.528 เพราะนักเรียนสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ตรวจงาน 00:11:48.528 --> 00:11:53.177 ตอนนี้เรามีระบบการตรวจงานกันเองของนักเรียน ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา 00:11:53.177 --> 00:11:55.681 ที่มีนักเรียนเป็นหมื่นคน 00:11:55.681 --> 00:11:56.879 ตรวจงานกันเอง 00:11:56.879 --> 00:11:59.948 และฉันต้องบอกว่า ไปได้สวยมากด้วย NOTE Paragraph 00:11:59.948 --> 00:12:02.208 แต่นี่ไม่ได้เป็นแค่นักเรียน 00:12:02.208 --> 00:12:05.249 นั่งอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่น แก้โจทย์ปัญหาไปเรื่อยๆ 00:12:05.249 --> 00:12:07.056 ในทุกๆวิชาเรียน 00:12:07.056 --> 00:12:09.216 ชุมชนของนักเรียนถูกสร้างขึ้น 00:12:09.216 --> 00:12:11.096 ชุมชนที่ครอบคลุมคนจากทั่วโลก 00:12:11.096 --> 00:12:13.628 ที่มีจุดมุ่งหมายด้านปัญญาร่วมกัน 00:12:13.628 --> 00:12:16.280 สิ่งที่คุณเห็นอยู่นี้คือแผนที่ที่สร้างขึ้นเอง 00:12:16.280 --> 00:12:19.241 โดยนักเรียนในชั้นเรียนสังคมวิทยา 101 ของปรินตัน 00:12:19.241 --> 00:12:22.000 ที่นักเรียนต้องปักหมุดตัวเองในแผนที่โลก 00:12:22.000 --> 00:12:24.960 และคุณจะเห็นได้ว่าความพยายามนี้ไปถึงทั่วทุกมุมโลก NOTE Paragraph 00:12:24.960 --> 00:12:29.527 นักเรียนทำงานร่วมกันในวิชาเรียนในวิธีต่างๆหลากหลาย 00:12:29.527 --> 00:12:32.166 แรกที่สุด เรามีพื้นที่สำหรับคำถามและคำตอบ 00:12:32.166 --> 00:12:34.310 ที่นักเรียนไปถามคำถาม 00:12:34.310 --> 00:12:36.734 แล้วนักเรียนคนอื่นมาตอบคำถามเหล่านั้น 00:12:36.734 --> 00:12:38.447 และสิ่งที่น่าประทับใจมากๆก็คือ 00:12:38.447 --> 00:12:40.117 เพราะเรามีนักเรียนเยอะมาก 00:12:40.117 --> 00:12:42.482 มันหมายความว่าแม้ว่านักเรียนจะถามคำถาม 00:12:42.482 --> 00:12:44.114 ตอนตีสาม 00:12:44.114 --> 00:12:45.696 สักที่บนโลกนี้ 00:12:45.696 --> 00:12:47.770 จะมีใครสักคนที่ยังตื่นอยู่ 00:12:47.770 --> 00:12:50.083 และกำลังทำโจทย์ข้อเดียวกันนี้ 00:12:50.083 --> 00:12:52.041 ดังนั้น ในหลายวิชาที่เราเปิดสอน 00:12:52.041 --> 00:12:54.370 ค่ามัธยฐานของเวลาที่ใช้ตอบคำถาม 00:12:54.370 --> 00:12:57.788 ในพื้นที่คำถามคำตอบนั้น คือ 22 นาที 00:12:57.788 --> 00:13:02.365 ซึ่งเป็นการบริการเหนือระดับชนิดที่เราไม่มีที่แสตนฟอร์ด NOTE Paragraph 00:13:02.365 --> 00:13:03.706 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:13:03.706 --> 00:13:05.648 และคุณจะเห็นได้จากความในใจจากนักเรียน 00:13:05.648 --> 00:13:07.335 ว่านักเรียนพบว่า 00:13:07.335 --> 00:13:09.856 เพราะชุมชนออนไลน์ขนาดใหญ่นี้ 00:13:09.856 --> 00:13:12.455 พวกเขามีโอกาสมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นอย่างหลากหลาย 00:13:12.455 --> 00:13:16.648 ในรูปแบบที่ลึกซึ้งกว่าในห้องเรียนปกติทั่วไป 00:13:16.648 --> 00:13:18.992 นักเรียนรวมกลุ่มกันเอง 00:13:18.992 --> 00:13:20.855 โดยที่ราไม่ต้องเข้าไปแทรกแซง 00:13:20.855 --> 00:13:22.758 เป็นกลุ่มช่วยกันเรียนย่อยๆ 00:13:22.758 --> 00:13:25.120 บางกลุ่มก็มาพบปะกันจริงๆ 00:13:25.120 --> 00:13:26.946 ตามข้อจำกันทางภูมิศาสตร์จะเอื้ออำนวย 00:13:26.946 --> 00:13:29.668 และพบกันทุกสัปดาห์ เพื่อทำการบ้านด้วยกัน 00:13:29.668 --> 00:13:31.568 นี่เป็นกลุ่มช่วยกันเรียนในซานฟรานซิสโก 00:13:31.568 --> 00:13:33.887 มีกลุ่มอย่างนี้กระจายทั่วโลก 00:13:33.887 --> 00:13:35.919 บางกลุ่มก็เป็นกลุ่มออนไลน์ 00:13:35.919 --> 00:13:38.908 แบ่งตามภาษา หรือกลุ่มก้อนทางวัฒนธรรม 00:13:38.908 --> 00:13:40.352 และในมุมซ้ายล่างนี้ 00:13:40.352 --> 00:13:44.148 คุณจะเห็นกลุ่มช่วยกันเรียนที่หลากหลายทางวัฒนธรรม 00:13:44.148 --> 00:13:45.911 ที่สมาชิกมีความต้องการเฉพาะที่จะติดต่อ 00:13:45.911 --> 00:13:48.917 กับผู้คนจากวัฒนธรรมอื่น NOTE Paragraph 00:13:48.917 --> 00:13:51.028 มีโอกาสต่างๆมหาศาล 00:13:51.028 --> 00:13:54.353 ที่จะเกิดขึ้นในโครงสร้างประเภทนี้ 00:13:54.353 --> 00:13:58.007 อย่างแรกคือ สิ่งนี้มีศักยภาพที่จะช่วยให้เรา 00:13:58.007 --> 00:14:00.441 เข้าใจอย่างที่ไม่เคยเข้าใจมาก่อน 00:14:00.441 --> 00:14:02.730 เกี่ยวกับการเรียนรู้ของมนุษย์ 00:14:02.730 --> 00:14:06.193 เพราะข้อมูลที่เราเก็บได้ที่นี่เป็นเอกลักษณ์มาก 00:14:06.193 --> 00:14:10.202 เราสามารถเก็บข้อมูลทุกคลิ๊ก ทุกการบ้าน ทุกการส่งงาน 00:14:10.202 --> 00:14:14.565 ทุกคำถามที่โพสต์จากนักเรียนเป็นหมื่นๆคน 00:14:14.565 --> 00:14:16.908 ดังนั้น เราสามารถเปลี่ยนการเรียนรู้ของมนุษย์ 00:14:16.908 --> 00:14:18.841 ที่อยู่บนฐานของสมมติฐาน 00:14:18.841 --> 00:14:21.699 ให้อยู่บนฐานของข้อมูล การเปลี่ยนแปลที่ 00:14:21.699 --> 00:14:24.740 ปฏิวัติวิชาชีววิทยามาแล้ว เป็นต้น 00:14:24.740 --> 00:14:28.164 เราสามารถใช้ข้อมูลนี่เพื่อเข้าใจคำถามที่เป็นรากฐาน 00:14:28.164 --> 00:14:30.044 เช่น อะไรคือกลยุทธ์การเรียนรู้ที่ดี 00:14:30.044 --> 00:14:32.740 ที่มีประสิทธิผลดี และอันไหนที่ไม่ดี? 00:14:32.740 --> 00:14:34.980 และในบริบทของวิชาใดวิชาหนึ่ง 00:14:34.980 --> 00:14:36.517 เราสามารถถามคำถาม 00:14:36.517 --> 00:14:39.772 เช่น อะไรเป็นความเข้าใจผิดที่พบบ่อย 00:14:39.772 --> 00:14:41.949 และเราจะช่วยให้นักเรียนแก้มันได้อย่างไร? NOTE Paragraph 00:14:41.949 --> 00:14:43.373 และนี่เป็นตัวอย่างของสิ่งนั้น 00:14:43.373 --> 00:14:45.389 มาจากวิชาการเรียนรู้ของเครื่องโดยแอนดรูเช่นกัน 00:14:45.389 --> 00:14:47.597 นี่เป็นการกระจายตัวของคำตอบที่ผิด 00:14:47.597 --> 00:14:49.207 ในการบ้านอันหนึ่งของแอนดรู 00:14:49.207 --> 00:14:51.100 และคำตอบบังเอิญเป็นตัวเลขที่เป็นคู่ 00:14:51.100 --> 00:14:53.371 เราสามารถวาดผังสองมิติออกมา 00:14:53.371 --> 00:14:57.149 กากบาทเล็กๆแต่ละอันแทนคำตอบที่ผิดแต่ละอัน 00:14:57.149 --> 00:14:59.555 กากบาทอันใหญ่ๆที่มุมซ้ายบน 00:14:59.555 --> 00:15:01.703 เป็นคำตอบที่นักเรียน 2,000 คน 00:15:01.703 --> 00:15:04.748 ตอบผิดเหมือนกันเป๊ะ 00:15:04.748 --> 00:15:07.075 ทีนี้ ถ้าเรียนมีนักเรียนในชั้น 100 คน 00:15:07.075 --> 00:15:08.362 ตอบคำตอบผิดแบบเดียวกัน 00:15:08.362 --> 00:15:09.713 เราไม่จะไม่ทันได้สังเกต 00:15:09.713 --> 00:15:12.273 แต่เวลาที่นักเรียน 2,000 คนตอบผิดแบบเดียวกัน 00:15:12.273 --> 00:15:13.970 มันก็ยากที่จะพลาดไป 00:15:13.970 --> 00:15:16.162 แอนดรูและนักเรียนของเขาจึงเข้าไป 00:15:16.162 --> 00:15:17.682 ดูการบ้านบางส่วนนั้น 00:15:17.682 --> 00:15:21.770 เข้าใจต้นตอของปัญหาของความเข้าใจผิดนั้น 00:15:21.770 --> 00:15:24.290 แล้วจัดทำคำอธิบายอย่างเฉพาะเจาะจงขึ้นมา 00:15:24.290 --> 00:15:26.539 ที่จะแสดงให้นักเรียนทุกคน 00:15:26.539 --> 00:15:28.718 ที่ตอบคำถามด้วยคำตอบนั้นเห็น 00:15:28.718 --> 00:15:30.802 ซึ่งก็แปลว่า นักเรียนที่ทำผิดอย่างเดียวกันนั้น 00:15:30.802 --> 00:15:32.828 จะได้รับผลตอบรับที่เฉพาะเจาะจง 00:15:32.828 --> 00:15:37.227 บอกพวกเขาว่าจะแก้ความเข้าใจผิดนั้นได้อย่างไร อย่างตรงประเด็น NOTE Paragraph 00:15:37.227 --> 00:15:41.038 การทำบทเรียนให้เหมาะเป็นรายบุคคลนี้ เราทำได้ 00:15:41.038 --> 00:15:44.178 เพราะข้อดีจากการที่เรามีนักเรียนจำนวนมาก 00:15:44.178 --> 00:15:46.490 การทำบทเรียนให้เหมาะเป็นรายบุคคลนี้ บางที 00:15:46.490 --> 00:15:48.913 เป็นหนึ่งในโอกาสที่สำคัญที่สุดที่นี่ด้วยเหมือนกัน 00:15:48.913 --> 00:15:51.258 เพราะนี่แสดงถึงศักยภาพที่เราจะ 00:15:51.258 --> 00:15:53.948 แก้ปัญหาที่มีอายุกว่า 30 ปีได้ 00:15:53.948 --> 00:15:57.297 นักวิจัยทางการศึกษา เบนจามิน บลูม ในปี 1984 00:15:57.297 --> 00:15:59.548 ตั้งคำถามที่เขาเรียกว่าปัญหาสองซิกม่า 00:15:59.548 --> 00:16:02.610 ที่เขาสังเกตได้จากการศึกษาประชากร 3 กลุ่ม 00:16:02.610 --> 00:16:06.218 กลุ่มแรกเป็นประชากรนักเรียนที่เรียนในห้องเรียนแบบเลกเชอร์ 00:16:06.218 --> 00:16:08.995 กลุ่มที่สองเป็นประชากรนักเรียนที่เรียน 00:16:08.995 --> 00:16:10.714 โดยใช้ห้องเรียนเลกเชอร์แบบมาตรฐาน 00:16:10.714 --> 00:16:12.794 แต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อความเชี่ยวชาญเป็นหลัก 00:16:12.794 --> 00:16:14.714 คือนักเรียนไม่สามารถผ่านไปเรียนหัวข้อต่อไปได้ 00:16:14.714 --> 00:16:18.068 ถ้ายังไม่แสดงความเชี่ยวชาญในหัวข้อก่อนหน้า 00:16:18.068 --> 00:16:20.362 และสุดท้าย คือกลุ่มประชากรนักเรียนที่ 00:16:20.362 --> 00:16:24.890 เรียนแบบตัวต่อตัวกับผู้สอนส่วนตัว 00:16:24.890 --> 00:16:28.162 กลุ่มประชากรที่เน้นความเชี่ยวชาญ ทำคะแนนสอบได้ดีกว่า 00:16:28.162 --> 00:16:30.450 หนึ่งส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน หรือ หนึ่งซิกม่า 00:16:30.450 --> 00:16:32.844 กว่านักเรียนในห้องเรียนแบบเลกเชอร์ 00:16:32.844 --> 00:16:34.988 และนักเรียนแบบตัวต่อตัวทำได้ดีว่า 2 ซิกม่า 00:16:34.988 --> 00:16:36.818 ในคะแนนพัฒนาการ NOTE Paragraph 00:16:36.818 --> 00:16:38.281 เพื่อจะเข้าใจว่ามันแปลว่าอะไร 00:16:38.281 --> 00:16:40.114 ลองมาดูห้องเรียนแบบเลกเชอร์ 00:16:40.114 --> 00:16:43.033 และลองเลือกค่ามัธยฐานเป็นเกณฑ์ผ่าน 00:16:43.033 --> 00:16:44.371 ฉะนั้น ในห้องเรียนเลกเชอร์ 00:16:44.371 --> 00:16:48.250 ครึ่งหนึ่งของนักเรียนสูงกว่าเกณฑ์นั้น และครึ่งหนึ่งต่ำกว่า 00:16:48.250 --> 00:16:50.348 ในการเรียนแบบตัวต่อตัว 00:16:50.348 --> 00:16:55.149 ร้อยละ 98 ของนักเรียนจะผ่านเกณฑ์นั้น 00:16:55.149 --> 00:16:59.069 ลองคิดดูว่าถ้าเราสามารถสอนในแบบที่นักเรียนร้อยละ 98 00:16:59.069 --> 00:17:01.267 จะได้สูงกว่าเกณฑ์ผ่านได้ไหม 00:17:01.267 --> 00:17:04.690 เราเจอปัญหาสองซิกม่า NOTE Paragraph 00:17:04.690 --> 00:17:07.089 เพราะสังคมเราไม่มีปัญญาจ่าย 00:17:07.089 --> 00:17:10.161 ให้นักเรียนทุกคนมีผู้สอนส่วนตัวได้ 00:17:10.161 --> 00:17:12.410 แต่บางทีเราอาจจะสามารถจัดให้นักเรียนทุกคน 00:17:12.410 --> 00:17:14.429 มีคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนได้ 00:17:14.429 --> 00:17:16.618 ดังนั้น คำถามก็คือ ทำอย่างไรเราจะใช้เทคโนโลยี 00:17:16.618 --> 00:17:19.993 เพื่อดันฝั่งซ้ายของกราฟ จากเส้นสีน้ำเงิน 00:17:19.993 --> 00:17:22.731 ไปอยู่ฝั่งขวา แบบเส้นสีเขียวได้? 00:17:22.731 --> 00:17:25.068 ความเชี่ยวชาญทำได้ง่ายจากการใช้คอมพิวเตอร์ 00:17:25.068 --> 00:17:26.473 เพราะคอมพิวเตอร์ไม่เคยจะเบื่อ 00:17:26.473 --> 00:17:29.546 ที่จะเปิดวิดีโอเดิมๆ 5 ครั้ง 00:17:29.546 --> 00:17:32.797 และมันก็ไม่เคยเบื่อที่จะตรวจการบ้านเดิมๆหลายๆครั้ง 00:17:32.802 --> 00:17:35.828 เราได้เห็นตัวอย่างหลายๆอันที่ฉันเสนอไปแล้ว 00:17:35.828 --> 00:17:37.682 แม้แต่การทำบทเรียนให้เหมาะเป็นรายบุคคล 00:17:37.682 --> 00:17:39.818 เป็นสิ่งที่เราเริ่มเห็นจุดเริ่มต้น 00:17:39.818 --> 00:17:43.010 ไม่ว่าจะเป็นผ่านการสร้างเส้นทางหลักสูตรที่เหมาะกับแต่ละคน 00:17:43.010 --> 00:17:46.274 หรือการเลือกผลตอบกลับที่เหมาะกับแต่ละคนที่ฉันให้ดูไปแล้ว 00:17:46.274 --> 00:17:48.762 ดังนั้น จุดมุ่งหมายคือการพยายามดัน 00:17:48.762 --> 00:17:52.259 แล้วมาดูกันว่าเราจะเข้าใกล้เส้นสีเขียวได้มากแค่ไหน NOTE Paragraph 00:17:52.259 --> 00:17:57.618 ดังนั้น ถ้าสิ่งนี่ประเสริฐขนาดนี้ มหาวิทยาลัยจะตกยุคไปแล้วหรือ? 00:17:57.618 --> 00:18:00.610 อืม มาร์ก ทเวน คิดอย่างนั้นแน่ๆ 00:18:00.610 --> 00:18:03.155 เขาบอกว่า "มหาวิทยาลัยเป็นสถานที่ที่บทบรรยายของศาสตราจารย์ 00:18:03.155 --> 00:18:04.858 ตรงเข้าสู่สมุดจดบรรยายของนักเรียน 00:18:04.858 --> 00:18:07.234 โดยไม่ผ่านสมองของทั้งคู่" NOTE Paragraph 00:18:07.234 --> 00:18:11.281 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:18:11.281 --> 00:18:13.949 แต่ฉันขอคิดต่างจากมาร์ก ทเวน 00:18:13.949 --> 00:18:16.614 ฉันคิดว่าสิ่งที่เขาบ่นถึงนั้นไม่ใช่ 00:18:16.614 --> 00:18:19.364 มหาวิทยาลัย แต่เป็นการเรียนแบบเลกเชอร์ 00:18:19.364 --> 00:18:22.148 ที่มหาวิทยาลัยจำนวนมากใช้เวลาส่วนใหญ่ทำ 00:18:22.148 --> 00:18:25.307 ลองย้อนกลับไปไกลกว่านั้น ถึงพลูทาร์ช 00:18:25.307 --> 00:18:27.534 ที่พูดว่า "ปัญญาไม่ใช่กล่องที่รอให้ใครมาเติมให้เต็ม 00:18:27.534 --> 00:18:29.557 แต่เป็นไม้ที่ต้องการเชื้อเพลิง" 00:18:29.557 --> 00:18:31.747 ดังนั้น บางทีเราควรจะลดเวลาในมหาวิทยาลัย 00:18:31.747 --> 00:18:34.318 ที่ใช้เพื่อเติมปัญญาของนักเรียนด้วยเนื้อหา 00:18:34.318 --> 00:18:38.118 โดยการเลกเชอร์ใส่นักเรียน และเพิ่มการจุดประกาย ความคิดสร้างสรรค์ 00:18:38.118 --> 00:18:41.373 จินตนาการ และทักษะการแก้ปัญหา 00:18:41.373 --> 00:18:43.871 โดยคุยกับนักเรียนจริงๆ NOTE Paragraph 00:18:43.871 --> 00:18:45.238 แล้วเราจะทำอย่างไร? 00:18:45.238 --> 00:18:48.669 เราทำอย่างนั้นโดยการเรียนการสอนแบบมีส่วนร่วมในชั้นเรียน 00:18:48.669 --> 00:18:51.118 และมีงานวิจัยมากมาย รวมถึงงานนี้ 00:18:51.118 --> 00:18:53.198 ที่ชี้ว่าถ้าเราใช้การเรียนการสอนแบบมีส่วนร่วม 00:18:53.198 --> 00:18:55.614 มีปฏิสัมพันธ์กับนักเรียนในชั้นเรียน 00:18:55.614 --> 00:18:58.310 ผลการเรียนดีขึ้นในทุกเกณฑ์การวัด -- 00:18:58.310 --> 00:19:00.759 การเข้าชั้นเรียน การมีส่วนร่วม และการเรียนรู้ 00:19:00.759 --> 00:19:02.814 จากการวัดด้วยข้อสอบมาตรฐาน 00:19:02.814 --> 00:19:04.678 คุณสามารถเห็นได้ ตัวอย่างเช่น จากคะแนนสอบวัดผล 00:19:04.678 --> 00:19:07.548 เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในการทดลองนี้ 00:19:07.548 --> 00:19:11.949 ดังนั้น บางทีนี่เป็นกิจกรรมที่เราควรทำในมหาวิทยาลัย NOTE Paragraph 00:19:11.949 --> 00:19:16.526 สรุปก็คือ ถ้าเราสามารถเสนอการศึกษาคุณภาพแนวหน้า 00:19:16.526 --> 00:19:18.429 ให้กับทุกๆคนรอบโลก แบบฟรี 00:19:18.429 --> 00:19:21.250 จะเกิดอะไรขึ้น? สามอย่าง 00:19:21.250 --> 00:19:24.671 อย่างแรก การศึกษาจะกลายเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน 00:19:24.671 --> 00:19:26.037 ที่คนทุกคนรอบโลก 00:19:26.037 --> 00:19:27.958 ที่มีความสามารถและแรงขับ 00:19:27.958 --> 00:19:29.909 สามารถเรียนรู้ทักษะที่ต้องการ 00:19:29.909 --> 00:19:31.494 เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นได้ สำหรับพวกเขา 00:19:31.494 --> 00:19:33.511 ครอบครัว และชุมชน NOTE Paragraph 00:19:33.511 --> 00:19:36.142 อย่างที่สอง จะทำได้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต 00:19:36.142 --> 00:19:38.093 มันน่าละอายสำหรับใครหลายคน 00:19:38.093 --> 00:19:41.405 ที่การเรียนรู้หยุดลงเมื่อเรียนจบชั้นมัธยม หรือเรียนจบมหาวิทยาลัย 00:19:41.405 --> 00:19:43.886 ด้วยการมีบทเรียนเหล่านี้ 00:19:43.886 --> 00:19:46.629 เราสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ 00:19:46.629 --> 00:19:47.765 ทุกครั้งที่เราต้องการ 00:19:47.765 --> 00:19:49.094 ไม่ว่าจะเพื่อขยายขอบเขตความรู้ 00:19:49.094 --> 00:19:51.053 หรือเพื่อเปลี่ยนชีวิต NOTE Paragraph 00:19:51.053 --> 00:19:54.198 และท้ายที่สุด นี่จะช่วยให้เกิดคลื่นลูกใหม่ของนวัตกรรม 00:19:54.198 --> 00:19:57.270 เพราะเราจะพบคนมีสามารถได้ทั่วไป 00:19:57.270 --> 00:20:00.278 บางทีอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์คนต่อไป หรือสตีฟ จอบส์คนต่อไป 00:20:00.278 --> 00:20:02.893 อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆในแอฟริกา 00:20:02.893 --> 00:20:05.549 และถ้าเราสามารถให้โอกาสการศึกษาแก่คนคนนั้น 00:20:05.549 --> 00:20:07.905 พวกเขาจะสามารถค้นพบความคิดที่ยิ่งใหญ่ 00:20:07.905 --> 00:20:10.309 และทำให้โลกนี้เป็นโลกที่ดีขึ้นสำหรับเราทุกคน NOTE Paragraph 00:20:10.309 --> 00:20:11.469 ขอบคุณมากค่ะ NOTE Paragraph 00:20:11.469 --> 00:20:19.052 (เสียงปรบมือ)