[Script Info] Title: [Events] Format: Layer, Start, End, Style, Name, MarginL, MarginR, MarginV, Effect, Text Dialogue: 0,0:00:06.81,0:00:09.16,Default,,0000,0000,0000,,ทำไมขนมปังถึงฟูนุ่ม Dialogue: 0,0:00:09.16,0:00:11.06,Default,,0000,0000,0000,,ทำไมเนยแข็งสวิสถึงมีรู Dialogue: 0,0:00:11.06,0:00:13.67,Default,,0000,0000,0000,,และอะไรที่ทำให้น้ำสมสายชูมีรสเปรี้ยว Dialogue: 0,0:00:13.67,0:00:16.12,Default,,0000,0000,0000,,อาหารเหล่านี้อาจมีรสชาติต่างกันไป Dialogue: 0,0:00:16.12,0:00:21.30,Default,,0000,0000,0000,,แต่ปรากฏการณ์ทั้งหมด เกิดจากการย่อยน้ำตาล\Nของสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ Dialogue: 0,0:00:21.30,0:00:24.45,Default,,0000,0000,0000,,และการพ่นผลิตภัณฑ์ข้างเคียง\Nที่เป็นอาหารออกมา Dialogue: 0,0:00:24.45,0:00:26.96,Default,,0000,0000,0000,,เรามาเริ่มกันที่ยีส Dialogue: 0,0:00:26.96,0:00:32.24,Default,,0000,0000,0000,,ยีสเป็นราเซลล์เดียว\Nที่ใช้ในการผลิตขนมปัง เบียร์ และไวน์ Dialogue: 0,0:00:32.24,0:00:33.88,Default,,0000,0000,0000,,และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ Dialogue: 0,0:00:33.88,0:00:36.42,Default,,0000,0000,0000,,ยีสย่อยคาร์โบไฮเดรต เช่น น้ำตาล Dialogue: 0,0:00:36.42,0:00:39.74,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อให้ได้พลังงาน และโมเลกุล\Nที่พวกมันต้องการในการดำรงชีพ Dialogue: 0,0:00:39.74,0:00:41.67,Default,,0000,0000,0000,,พวกมันสามารถทำได้สองวิธีการ Dialogue: 0,0:00:41.67,0:00:44.80,Default,,0000,0000,0000,,คือแบบที่ใช้ออกซิเจน หรือแอโรบิก Dialogue: 0,0:00:44.80,0:00:48.24,Default,,0000,0000,0000,,และแบบไม่ใช้ออกซิเจน หรือแอนาโรบิก Dialogue: 0,0:00:48.24,0:00:50.84,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งยังถูกเรียกอีกชื่อว่า การหมัก Dialogue: 0,0:00:50.84,0:00:53.80,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อคุณอบขนมปัง\Nยีสสามารถใช้ได้ทั้งสองวิธี Dialogue: 0,0:00:53.80,0:00:58.87,Default,,0000,0000,0000,,แต่ตามปกติพวกมันชอบที่จะเริ่มด้วย\Nกระบวนการแอนาโรบิก กระบวนการหมัก Dialogue: 0,0:00:58.87,0:01:03.30,Default,,0000,0000,0000,,ในกระบวนการนี้ เอธานอลถูกผลิตขึ้น\Nแทนที่จะเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ Dialogue: 0,0:01:03.30,0:01:05.27,Default,,0000,0000,0000,,ไม่ ขนมปังไม่ใช่ของมึนเมา Dialogue: 0,0:01:05.27,0:01:09.78,Default,,0000,0000,0000,,แอลกอฮอล์ปริมาณเพียงเล็กน้อยที่ถูกหลั่งออกมา\Nระเหยไประหว่างการอบ Dialogue: 0,0:01:09.78,0:01:12.77,Default,,0000,0000,0000,,ในแอโรบิก หรือวิธีการที่ใช้ออกซิเจน Dialogue: 0,0:01:12.77,0:01:14.64,Default,,0000,0000,0000,,ยีสกินน้ำตาลไปบ้าง Dialogue: 0,0:01:14.64,0:01:19.66,Default,,0000,0000,0000,,และผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์\Nหรือ CO2 และน้ำ Dialogue: 0,0:01:19.66,0:01:24.75,Default,,0000,0000,0000,,ในทั้งสองกระบวนการ CO2 สะสม\Nและสร้างฟองอากาศเล็ก ๆ Dialogue: 0,0:01:24.75,0:01:29.08,Default,,0000,0000,0000,,ฟองอากาศเหล่านี้ถูกขังอยู่ในกลูเตน\Nและสร้างโครงสร้างที่คล้ายกับฟองน้ำ Dialogue: 0,0:01:29.08,0:01:32.30,Default,,0000,0000,0000,,ที่ทำให้ขนมปังมีเนื้อที่นุ่ม Dialogue: 0,0:01:32.30,0:01:34.43,Default,,0000,0000,0000,,ไวน์ก็ต้องพึ่งพายีสเหมือนกัน Dialogue: 0,0:01:34.43,0:01:37.71,Default,,0000,0000,0000,,แต่สถานที่ทำไวน์\Nมีการควบคุมระดับออกซิเจนให้อยู่ในระดับต่ำ Dialogue: 0,0:01:37.71,0:01:40.67,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อที่ยีสจะได้กินน้ำตาล\Nโดยใช้การหมัก Dialogue: 0,0:01:40.67,0:01:42.87,Default,,0000,0000,0000,,หรือวิธีแอนาโรบิก Dialogue: 0,0:01:42.87,0:01:48.20,Default,,0000,0000,0000,,กระบวนการนี้ มักเริ่มต้นด้วยยีสในธรรมชาติ\Nที่มีอยู่ในองุ่นอยู่แล้ว Dialogue: 0,0:01:48.20,0:01:49.94,Default,,0000,0000,0000,,แต่เพื่อให้ได้ผลลัพท์\Nที่มีความแน่นอนสม่ำเสมอ Dialogue: 0,0:01:49.94,0:01:54.09,Default,,0000,0000,0000,,ผู้ผลิตไวน์ส่วนใหญ่ยังเติมสายพันธุ์ยีส\Nที่ทนต่อแอลกอฮอล์ระดับสูงได้ Dialogue: 0,0:01:54.09,0:01:57.08,Default,,0000,0000,0000,,ลงไปอย่างระมัดระวัง Dialogue: 0,0:01:57.08,0:01:59.63,Default,,0000,0000,0000,,ยีสกินน้ำตาลในน้ำองุ่น Dialogue: 0,0:01:59.63,0:02:01.05,Default,,0000,0000,0000,,และเมื่อระดับน้ำตาลตก Dialogue: 0,0:02:01.05,0:02:03.56,Default,,0000,0000,0000,,ระดับแอลกอฮอล์ก็สูงขึ้น Dialogue: 0,0:02:03.56,0:02:07.03,Default,,0000,0000,0000,,นั่นไม่ได้หมายความว่า\Nไวน์ที่หวานกว่าจะมีแอลกอฮอล์น้อยกว่าเสมอไป Dialogue: 0,0:02:07.03,0:02:10.18,Default,,0000,0000,0000,,องุ่นชนิดต่าง ๆ \Nมีปริมาณน้ำตาลเริ่มต้นที่ต่างกัน Dialogue: 0,0:02:10.18,0:02:12.12,Default,,0000,0000,0000,,และน้ำตาลก็ยังสามารถถูกเติมลงไปได้ Dialogue: 0,0:02:12.12,0:02:14.21,Default,,0000,0000,0000,,แล้วเกิดอะไรขึ้นกับคาร์บอนไดออกไซด์ Dialogue: 0,0:02:14.21,0:02:16.37,Default,,0000,0000,0000,,มันก็แค่ลอยเป็นฟองอากาศออกไปผ่านช่อง Dialogue: 0,0:02:16.37,0:02:19.75,Default,,0000,0000,0000,,ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีคาร์บอนไดออกไซด์\Nเช่นแชมเปญหรือเบียร์ Dialogue: 0,0:02:19.75,0:02:23.93,Default,,0000,0000,0000,,ภาชนะที่ถูกปิดถูกใช้เป็น\Nที่หมักครั้งแรกหรือครั้งที่สอง Dialogue: 0,0:02:23.93,0:02:27.18,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อรักษาคาร์บอนไดออกไซด์เอาไว้ในขวด Dialogue: 0,0:02:27.18,0:02:32.15,Default,,0000,0000,0000,,ไวน์ยังนำเราไปสู่\Nจุลชีพที่ผลิตอาหารประเภทที่สอง Dialogue: 0,0:02:32.15,0:02:33.39,Default,,0000,0000,0000,,แบคทีเรีย Dialogue: 0,0:02:33.39,0:02:34.84,Default,,0000,0000,0000,,แบคทีเรียสายพันธุ์จำเพาะ Dialogue: 0,0:02:34.84,0:02:39.68,Default,,0000,0000,0000,,เปลี่ยนองค์ประกอบรสเปรี้ยวจัดในน้ำองุ่น\Nให้มีรสอ่อนลง Dialogue: 0,0:02:39.68,0:02:44.57,Default,,0000,0000,0000,,ที่ทำให้เกิดรสชาติบางส่วนของไวน์แดง\Nและชาร์ดองเนย์ (Chardonnay) Dialogue: 0,0:02:44.57,0:02:47.68,Default,,0000,0000,0000,,แบคทีเรียอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า\Nแบคทีเรียกรดอะซิติก Dialogue: 0,0:02:47.68,0:02:49.81,Default,,0000,0000,0000,,ไม่เป็นที่ต้องการในไวน์ Dialogue: 0,0:02:49.81,0:02:51.77,Default,,0000,0000,0000,,แต่พวกมันก็มีหน้าที่เหมือนกัน Dialogue: 0,0:02:51.77,0:02:53.35,Default,,0000,0000,0000,,ถ้ามีออกซิเจนอยู่ Dialogue: 0,0:02:53.35,0:02:58.55,Default,,0000,0000,0000,,พวกมันจะเปลี่ยนเอธานอลในไวน์\Nเป็นกรดอะซิติก Dialogue: 0,0:02:58.55,0:03:02.78,Default,,0000,0000,0000,,ให้กระบวนการนี้ดำเนินต่อไป\Nและในที่สุด คุณจะได้น้ำส้มสายชู Dialogue: 0,0:03:02.78,0:03:06.19,Default,,0000,0000,0000,,แบคทีเรียเป็นกุญแจสำคัญของเนยแข็งด้วย Dialogue: 0,0:03:06.19,0:03:09.64,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อทำเนยแข็ง\Nแบคทีเรียถูกเติมลงในนม Dialogue: 0,0:03:09.64,0:03:13.08,Default,,0000,0000,0000,,แบคทีเรียกินแลคโตส\Nซึ่งเป็นน้ำตาลชนิดหนึ่ง Dialogue: 0,0:03:13.08,0:03:16.98,Default,,0000,0000,0000,,และสร้างกรดแลคติก\Nกับสารเคมีอื่น ๆ Dialogue: 0,0:03:16.98,0:03:19.100,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อนมเป็นกรดมากขึ้นและมากขึ้น\N Dialogue: 0,0:03:19.100,0:03:22.88,Default,,0000,0000,0000,,โปรตีนของมันเริ่มที่จะเกาะกัน\Nและกลายเป็นก้อน Dialogue: 0,0:03:22.88,0:03:26.60,Default,,0000,0000,0000,,นั่นเป็นเหตุว่าทำไมนมบูดจึงดูเป็นลิ่ม ๆ Dialogue: 0,0:03:26.60,0:03:29.24,Default,,0000,0000,0000,,ผู้ผลิตชีสมักเติมเอนไซม์\Nที่เรียกว่า เรนเนท Dialogue: 0,0:03:29.24,0:03:33.42,Default,,0000,0000,0000,,ที่พบได้ตามธรรมชาติในวัว แกะ \Nและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิด Dialogue: 0,0:03:33.42,0:03:35.52,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อช่วยในกระบวนการนี้ Dialogue: 0,0:03:35.52,0:03:38.86,Default,,0000,0000,0000,,ในที่สุด ลิ่มเล็ก ๆ พวกนั้น\Nก็จะกลายเป็นก้อนใหญ่ Dialogue: 0,0:03:38.86,0:03:41.56,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งจะถูกบีบอัดเอาน้ำออก Dialogue: 0,0:03:41.56,0:03:43.91,Default,,0000,0000,0000,,และกลายเป็นเนยที่มีเนื้อแข็ง Dialogue: 0,0:03:43.91,0:03:47.11,Default,,0000,0000,0000,,แบคทีเรียสายพันธุ์ที่ต่างกัน\Nจะให้เนยแข็งที่ไม่เหมือนกัน Dialogue: 0,0:03:47.11,0:03:51.16,Default,,0000,0000,0000,,ยกตัวอย่างเช่น แบคทีเรีย\Nที่ให้คาร์บอนไดออกไซด์ Dialogue: 0,0:03:51.16,0:03:55.12,Default,,0000,0000,0000,,คือสายพันธุ์ที่ทำให้เนยแข็งสวิส\Nมีรูที่เป็นเอกลักษณ์ Dialogue: 0,0:03:55.12,0:04:00.20,Default,,0000,0000,0000,,เนยแข็งบางอย่าง เช่น บรี และกามองแบร์\Nใช้จุลชีพชนิดอื่นด้วย Dialogue: 0,0:04:00.20,0:04:01.74,Default,,0000,0000,0000,,เชื้อรานั้นเอง Dialogue: 0,0:04:01.74,0:04:05.96,Default,,0000,0000,0000,,ฉะนั้นห้องครัวของคุณ\Nทำงานในแบบห้องทดลองเทคโนโลยีชีวภาพ Dialogue: 0,0:04:05.96,0:04:10.22,Default,,0000,0000,0000,,ที่กำกับโดยจุลชีพ\Nที่สร้างรายการอาหารให้กับคุณ Dialogue: 0,0:04:10.22,0:04:13.88,Default,,0000,0000,0000,,โยเกิร์ต, ซอสถั่วเหลือง, ซาวครีม,\Nผักกาดดอง, Dialogue: 0,0:04:13.88,0:04:19.91,Default,,0000,0000,0000,,คีเฟอร์, กิมจิ, คอมบูชา,\Nเชดดาชีส, ขนมปังชัลลาห์, ปิต้า และนานน์ Dialogue: 0,0:04:19.91,0:04:22.47,Default,,0000,0000,0000,,แต่คงไม่กินหมดนี่ในคราวเดียวนะ