WEBVTT 00:00:00.703 --> 00:00:03.515 นี่คือลักษณะการเกิดสงคราม 00:00:03.515 --> 00:00:06.781 วันหนึ่ง คุณใช้ชีวิตตามปรกติ 00:00:06.781 --> 00:00:09.297 วางแผนจะไปปาร์ตี้ 00:00:09.297 --> 00:00:11.681 ส่งลูกไปโรงเรียน 00:00:11.681 --> 00:00:14.394 นัดหมอฟัน 00:00:14.394 --> 00:00:18.020 รู้ตัวอีกที โทรศัพท์ก็ถูกตัด 00:00:18.020 --> 00:00:21.957 ทีวีงดออกอากาศ มีคนถืออาวุธอยู่ตามถนน 00:00:21.957 --> 00:00:24.273 มีเครื่องกีดขวางบนถนน 00:00:24.273 --> 00:00:28.750 ชีวิตที่คุณรู้จัก เหมือนถูกกดปุ่มพอส 00:00:28.750 --> 00:00:30.955 มันหยุด NOTE Paragraph 00:00:30.955 --> 00:00:33.513 ฉันจะยืมเรื่องจากเพื่อนคนหนึ่งมาเล่าให้ฟังค่ะ 00:00:33.513 --> 00:00:36.491 เพื่อนชาวบอสเนียของฉัน และเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ 00:00:36.491 --> 00:00:40.868 เพราะมันจะทำให้คุณรู้ชัดว่า ความรู้สึกนั้นเป็นอย่างไร 00:00:40.868 --> 00:00:44.962 วันหนึ่งในเดือนเมษายน ปี 1992 เธอกำลังเดินไปทำงาน 00:00:44.962 --> 00:00:48.110 ใส่กระโปรงสั้น รองเท่้าส้นสูง เธอเป็นพนักงานธนาคาร 00:00:48.110 --> 00:00:51.634 เธอเป็นคุณแม่ยังสาว แล้วก็เป็นคนชอบเฮฮาปาร์ตี้ 00:00:51.634 --> 00:00:53.468 เธอเป็นคนน่ารัก 00:00:53.468 --> 00:00:56.775 ทันใดนั้นเธอก็เห็นรถถัง 00:00:56.775 --> 00:00:59.981 กำลังเคลื่อนมาบนถนนเส้นหลักของกรุงซาราเยโว 00:00:59.981 --> 00:01:03.533 ชนทุกอย่างที่ขวางทางมัน 00:01:03.533 --> 00:01:07.564 เธอคิดว่าเธอฝันไป แต่ไม่ใช่เลย 00:01:07.564 --> 00:01:10.309 เธอวิ่ง แบบเดียวกับที่เราทุกคนคงจะทำ 00:01:10.309 --> 00:01:14.326 เธอหลบหลังถังขยะ 00:01:14.326 --> 00:01:16.925 ทั้งรองเท้าส้นสูงกับกระโปรงสั้น 00:01:16.925 --> 00:01:21.144 ในขณะที่เธอหลบอยู่นั้น เธอรู้สึกว่ามันช่างไร้สาระ 00:01:21.144 --> 00:01:23.840 แต่เธอก็มองเห็นรถถังวิ่งผ่านไปพร้อมทหาร 00:01:23.840 --> 00:01:26.200 มีคนเต็มไปหมด แล้วทุกอย่างก็วุ่นวาย 00:01:26.200 --> 00:01:30.827 เธอคิดว่า "เหมือนเป็นอลิซในแดนมหัศจรรย์เลยเรา" 00:01:30.827 --> 00:01:33.162 ไถลลงไปในโพรงกระต่าย 00:01:33.162 --> 00:01:36.230 ลงไป ลงไป พบกับความวุ่นวาย 00:01:36.230 --> 00:01:41.631 แล้วชีวิตของฉันก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป NOTE Paragraph 00:01:41.631 --> 00:01:45.418 อีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เพื่อนของฉันคนนี้อยู่ในฝูงชนกลุ่มใหญ่ 00:01:45.418 --> 00:01:50.368 ที่กำลังผลักกัน โดยมีลูกชายของเธอที่ยังเป็นทารกอยู่ในอ้อมแขน 00:01:50.368 --> 00:01:52.904 เพื่อยี่นเขาให้กับคนแปลกหน้่าบนรถ 00:01:52.904 --> 00:01:55.928 รถคันท้ายๆ ที่ออกจากซาราเยโว 00:01:55.928 --> 00:01:59.093 เพื่อพาเด็กๆ ออกไป เพื่อที่พวกเขาจะได้ปลอดภัย 00:01:59.093 --> 00:02:03.203 ในขณะที่เธอกำลังพยายาม โดยมีแม่ของเธออยู่ข้างหน้า 00:02:03.203 --> 00:02:06.629 ท่ามกลางฝูงชน "เอาลูกฉันไป เอาลูกฉันไป" 00:02:06.629 --> 00:02:12.682 แล้วเธอก็ส่งลูกชายของเธอให้กับใครคนนึงผ่านทางหน้าต่าง 00:02:12.682 --> 00:02:15.550 แล้วก็ไม่ได้พบลูกชายของเธออีกหลายปี 00:02:15.550 --> 00:02:19.269 การโจมตีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสามปีครึ่ง 00:02:19.269 --> 00:02:21.558 เป็นสามปีครึ่งที่ไม่มีน้ำ 00:02:21.558 --> 00:02:26.847 ไม่มีกระแสไฟฟ้า ไม่มีเครื่องทำความร้อน ไม่มีอาหาร 00:02:26.847 --> 00:02:32.202 กลางทวีปยุโรป ในศตวรรษที่ 20 NOTE Paragraph 00:02:32.202 --> 00:02:36.004 ฉันได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในกลุ่มนักข่าว 00:02:36.004 --> 00:02:38.423 ที่ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ถูกโจมตีนั้น 00:02:38.423 --> 00:02:41.461 ฉันรู้สึกว่าเป็นเกียรติ และเป็นความโชคดีที่ได้อยู่ที่นั่น 00:02:41.461 --> 00:02:43.651 เพราะมันสอนฉันทุกเรื่อง 00:02:43.651 --> 00:02:47.780 ไม่ใช่แค่การเป็นนักข่าว แต่มันสอนการเป็นมนุษย์ 00:02:47.780 --> 00:02:50.135 ฉันได้รู้จัก การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น 00:02:50.135 --> 00:02:53.946 ได้เรียนรู้ว่า คนธรรมดาก็สามารถเป็นวีรบุรุษได้ 00:02:53.946 --> 00:02:58.317 ได้รู้จัก การแบ่งปัน ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน 00:02:58.317 --> 00:03:01.228 และที่สำคัญที่สุด ฉันได้เห็น ความรัก 00:03:01.228 --> 00:03:06.507 ภายในท่ามกลางการทำลายล้าง ความตาย และความวุ่นวาย 00:03:06.507 --> 00:03:09.643 ฉันได้เห็น คนธรรมดาก็สามารถช่วยเพื่อนบ้านของเขาได้ 00:03:09.643 --> 00:03:12.287 แบ่งอาหารกัน ช่วยกันเลี้ยงดูเด็กๆ 00:03:12.287 --> 00:03:15.539 ช่วยลากคนที่ถูกยิงออกมาจากถนน 00:03:15.539 --> 00:03:18.396 ถึงแม้ว่าจะต้องเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงก็ตาม 00:03:18.396 --> 00:03:21.647 ช่วยพาคนเจ็บขึ้นแท๊กซี่ 00:03:21.647 --> 00:03:24.268 ช่วยพาคนไปส่งโรงพยาบาล NOTE Paragraph 00:03:24.268 --> 00:03:27.487 ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวฉันเองมากมาย 00:03:27.487 --> 00:03:30.512 มาร์ธา เกลฮอร์น ฮีโร่คนนึงของฉันเคยพูดว่า 00:03:30.512 --> 00:03:35.710 "คุณรักสงครามได้แค่หนเดียวเท่านั้น ครั้งต่อๆไปเป็นเพียงความรับผิดชอบ" 00:03:35.710 --> 00:03:39.246 แล้วฉันก็ได้ทำข่าวสงครามอีกมากมายหลายๆแห่งหลังจากนั้น 00:03:39.246 --> 00:03:41.875 มากจนกระทั่งฉันนับไม่ไหว 00:03:41.875 --> 00:03:44.958 แต่ก็ไม่มีที่ไหนเหมือนที่ ซาราเยโว NOTE Paragraph 00:03:44.958 --> 00:03:48.913 เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ฉันกลับไปร่วม 00:03:48.913 --> 00:03:52.687 งานเลี้ยงรุ่นแบบประหลาดๆ ฉันเรียกมันว่างั้นนะ 00:03:52.687 --> 00:03:57.030 มันเป็นวันครบรอบ 20 ปีของการโจมตี 00:03:57.030 --> 00:03:59.502 วันที่เริ่มการโจมตี ซาราเยโว 00:03:59.502 --> 00:04:03.942 ฉันไม่ค่อยชอบคำว่า "ครบรอบ" เท่าไหร่ เพราะมันให้ความรู้สึกของการเฉลิมฉลอง 00:04:03.942 --> 00:04:05.345 งานนี้ไม่ใช่งานฉลอง 00:04:05.345 --> 00:04:09.333 มันเป็นการรวมตัวกันของนักข่าวที่โศกเศร้า 00:04:09.333 --> 00:04:12.724 รวมทั้งคนที่ทำงานที่นั่นในช่วงสงคราม ทั้งนักมนุษยชน 00:04:12.724 --> 00:04:17.193 และแน่นอน รวมทั้งผู้คนที่กล้าหาญทั้งหลายที่ซาราเยโว 00:04:17.193 --> 00:04:19.612 สิ่งที่ติดตาฉันมากที่สุด 00:04:19.612 --> 00:04:21.353 และทำให้ฉันสะเทือนใจมาก 00:04:21.353 --> 00:04:23.523 คือตอนที่ฉันกำลังเดินไปบนถนนสายหลักของเมือง ซาราเยโว 00:04:23.523 --> 00:04:27.598 ที่เดียวกันกับที่ ไอด้า เพื่อนของฉัน เห็นรถถังวิ่งมา เมื่อ 20 ปีที่แล้ว 00:04:27.598 --> 00:04:34.295 บนถนนเส้นนั้น มีเก้าอี้สีแดง ตั้งอยู่มากกว่า 12,000 ตัว 00:04:34.295 --> 00:04:35.921 เก้าอี้เหล่านั้นว่างเปล่า 00:04:35.921 --> 00:04:38.190 เก้าอี้แต่ละตัว เป็นสัญลักษณ์ 00:04:38.190 --> 00:04:41.907 แทนผู้คนที่เสียชีวิตในระหว่างการโจมตี 00:04:41.907 --> 00:04:46.194 เฉพาะคนในซาราเยโว ไม่นับรวมทั้งประเทศบอสเนีย 00:04:46.194 --> 00:04:48.781 แถวเก้าอี้นั้นยาวจากฝากหนึ่งของเมือง 00:04:48.781 --> 00:04:51.055 และยาวครอบครุมส่วนใหญ่ของเมือง 00:04:51.055 --> 00:04:54.558 สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดสำหรับฉันก็คือ เก้าอี้ตัวเล็กๆ 00:04:54.558 --> 00:04:57.414 ที่แทนเด็กๆ ที่เสียชีวิต NOTE Paragraph 00:04:57.414 --> 00:05:00.541 ตอนนี้ฉันกำลังทำข่าวซีเรีย 00:05:00.541 --> 00:05:03.731 และฉันเริ่มรายงานข่าว เพราะฉันเชื่อว่า 00:05:03.731 --> 00:05:05.987 มันจำเป็นต้องมีใครซักคนทำเรื่องนี้ 00:05:05.987 --> 00:05:08.992 ฉันเชื่อว่าเรื่องราวเหล่านี้ต้องถูกบอกต่อ 00:05:08.992 --> 00:05:12.962 ฉันได้เห็น ภาพลักษณะเดียวกันกับสงครามในบอสเนียอีกครั้ง 00:05:12.962 --> 00:05:15.191 ในตอนแรกที่ฉันไปถึงดามัสกัส 00:05:15.191 --> 00:05:17.593 ฉันเห็น ช่วงเวลาแปลกประหลาด 00:05:17.593 --> 00:05:21.153 ที่ผู้คนไม่อยากเชื่อว่าสงครามจะเกิด 00:05:21.153 --> 00:05:23.088 เหมือนกันกับในบอสเนีย 00:05:23.088 --> 00:05:25.902 และในทุกๆประเทศที่ฉันได้เห็นสงคราม 00:05:25.902 --> 00:05:28.445 ผู้คนไม่อยากจะเชื่อว่ามันกำลังจะเกิดขึ้น 00:05:28.445 --> 00:05:31.912 ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อพยพ ไม่อพยพออกมาในตอนที่ยังทำได้ 00:05:31.912 --> 00:05:33.582 พวกเขาไม่ได้ถอนเงินออกมา 00:05:33.582 --> 00:05:37.477 พวกเขาอยู่ เพราะพวกเขาอยากอยู่บ้าน 00:05:37.477 --> 00:05:41.516 แล้วสงคราม และความวุ่นวายก็เกิดขึ้น NOTE Paragraph 00:05:41.516 --> 00:05:45.319 รวันดา เป็นที่ ที่หลอกหลอนความรู้สึกฉันมากที่สุด 00:05:45.319 --> 00:05:51.473 ในปี 1994 ฉันเดินทางออกจากซาราเยโวช่วงนึง เพื่อรายงานข่าวการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในรวันดา 00:05:51.473 --> 00:05:56.322 ในระหว่างเดือนเมษายน ถึงสิงหาคม 1994 00:05:56.322 --> 00:06:00.523 คนหนึ่งล้านคนถูกฆ่าสังหาร 00:06:00.523 --> 00:06:05.750 ถ้าเก้าอี้ 12,000 ตัวเมื่อสักครู่ที่ให้ฉันตกใจ 00:06:05.750 --> 00:06:07.822 แต่มันเทียบกันไม่ได้เลยกับตัวเลขมหาศาลอย่างนั้น 00:06:07.822 --> 00:06:11.453 ฉันอยากให้คุณลองนึกถึง คนหนึ่งล้านคน 00:06:11.453 --> 00:06:13.990 เพื่อเป็นตัวอย่างของภาพเหล่านั้น ฉันจำได้ว่า 00:06:13.990 --> 00:06:19.071 ฉันกำลังยืนอยู่บนถนนแล้วมองไปตามถนนจนสุดสายตา 00:06:19.071 --> 00:06:25.160 น่าจะเป็นระยะประมาณหนึ่งไมล์ ตลอดทางมีแต่กองศพ สูงเป็นสองเท่าของตัวฉัน 00:06:25.160 --> 00:06:26.884 ร่างของผู้เสียชีวิตที่ฉันเห็นนั้น 00:06:26.884 --> 00:06:30.219 เป็นแค่จำนวนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 00:06:30.219 --> 00:06:32.188 ในจำนวนนั้นยังมีแม่ที่ยังกอดลูกอยู่ 00:06:32.188 --> 00:06:35.529 แม่และลูกที่ถูกฆ่าตาย NOTE Paragraph 00:06:35.529 --> 00:06:38.859 สรุปได้ว่า เราได้เรียนรู้อะไรมากมายจากสงคราม 00:06:38.859 --> 00:06:41.211 และที่ฉันพูดถึง รวันดา 00:06:41.211 --> 00:06:45.329 เพราะมันเป็นสถานที่หนึ่ง เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆในแอฟริกาใต้ 00:06:45.329 --> 00:06:49.311 ที่ภายในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมานี้ กำลังได้รับการเยียวยา 00:06:49.311 --> 00:06:52.779 56% ของสมาชิกสภาผู้แทนในประเทศนี้ เป็นผู้หญิง 00:06:52.779 --> 00:06:55.231 ซึ่งมันยอดเยี่ยมมาก 00:06:55.231 --> 00:06:59.257 และยังมีสมาชิกผู้หญิง อยู่ในสภาร่างรัฐธรรมนูญอีกด้วย 00:06:59.257 --> 00:07:02.430 ที่นั่นคุณห้ามพูดคำว่า ฮูตู หรือ ทุตซี่ 00:07:02.430 --> 00:07:06.299 คุณไม่ได้รับอนุญาตให้เรียกใครตามเผ่าพันธุ์ของเขา 00:07:06.299 --> 00:07:10.845 ซึ่ง การแบ่งเผ่านี่เอง ที่ทำให้เกิดการฆ่าล้างกันในครั้งนั้น 00:07:10.845 --> 00:07:13.952 เพื่อนของฉันที่เป็นนักสิทธิมนุษยชน เล่าเรื่องที่สวยงามที่สุดเรื่องหนึ่งให้ฉันฟัง 00:07:13.952 --> 00:07:15.435 ฉันคิดว่ามันสวยงาม 00:07:15.435 --> 00:07:20.352 มันเกี่ยวกับเด็กกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีทั้งเผ่าฮูตู และทุตซี่ผสมกัน 00:07:20.352 --> 00:07:23.066 และผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องการรับเลี้ยงดูเด็กๆเหล่านั้น 00:07:23.066 --> 00:07:27.000 พวกเขาเข้าแถวสองแถว แล้วเด็กแต่ละคนก็ถูกส่งให้กับผู้หญิงแต่ละคน 00:07:27.000 --> 00:07:30.166 โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติใดๆ ว่าเธอเป็นเผ่าทุตซี่ 00:07:30.166 --> 00:07:33.081 หรือ ฮูตู เธออาจจะเคยฆ่าแม่ฉัน 00:07:33.081 --> 00:07:34.927 หรืออาจจะฆ่าพ่อของฉันด้วย 00:07:34.927 --> 00:07:40.233 พวกเขาเพียงแค่ถูกนำมาพบกัน ภายใต้ลักษณะการปรองดองดังกล่าว 00:07:40.233 --> 00:07:43.817 ฉันคิดว่ามันยอดเยี่ยมมาก 00:07:43.817 --> 00:07:46.659 เวลาที่คนถามฉันว่า ทำไมยังคงทำข่าวสงคราม 00:07:46.659 --> 00:07:48.871 ทำไมยังเป็นผู้สื่อข่าวอยู่ 00:07:48.871 --> 00:07:50.340 นี่คือสาเหตุว่าทำไม NOTE Paragraph 00:07:50.340 --> 00:07:53.731 เวลาที่ฉันกลับไปที่ซีเรีย อาทิตย์หน้าก็จะไปอีก 00:07:53.731 --> 00:07:57.692 ฉันได้เห็นผู้คนที่มีความเป็นวีรบุรุษ 00:07:57.692 --> 00:07:59.965 หลายคนกำลังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย 00:07:59.965 --> 00:08:03.982 ต่อสู้เพื่อสิ่งที่เรารู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดา 00:08:03.982 --> 00:08:07.220 นี่คือสาเหตุว่าทำไมฉันยังทำงานนี้อยู่ NOTE Paragraph 00:08:07.220 --> 00:08:11.688 ในปี 2004 ฉันมีลูกชาย 00:08:11.688 --> 00:08:14.883 ฉันเรียกเขาว่า เด็กชายปาฏิหารย์ 00:08:14.883 --> 00:08:17.929 เพราะหลังจากที่ฉันได้เห็นคนตายมากมาย 00:08:17.929 --> 00:08:22.106 ได้เห็นการทำลายล้าง ได้เห็นความวุ่นวาย และความมืดมนในชีวิต 00:08:22.106 --> 00:08:25.965 แสงแห่งความหวังคนนี้ก็บังเกิด 00:08:25.965 --> 00:08:30.162 ฉันเรียกเขาว่า "ลูก้า" ซึ่งแปลว่า "ผู้นำแสงสว่าง" 00:08:30.162 --> 00:08:35.085 เพราะเขานำแสงสว่างมาสู่ชีวิตฉันจริงๆ 00:08:35.085 --> 00:08:38.536 ที่ฉันพูดถึงเขา ก็เพราะว่าตอนเขาอายุสี่เดือน 00:08:38.536 --> 00:08:43.208 บรรณาธิการข่าวต่างประเทศ บอกให้ฉันกลับไปที่แบกแดด 00:08:43.208 --> 00:08:46.540 ที่ซึ่งฉันเคยทำข่าวมาตลอดช่วงการปกครองของซัดดัม 00:08:46.540 --> 00:08:49.419 และเคยทำข่าวในช่วงหลังจากแบกแดดแตก และช่วงหลังจากนั้น 00:08:49.419 --> 00:08:52.513 ฉันจำได้ว่า ฉันเดินขึ้นเครื่องบินทั้งน้ำตา 00:08:52.513 --> 00:08:55.499 ร้องไห้ เพราะว่าต้่องพรากจากลูกชาย 00:08:55.499 --> 00:08:57.732 ในขณะที่ฉันอยู่ที่แบกแดด 00:08:57.732 --> 00:09:00.467 นักการเมืองชาวอิรักที่มีชื่อเสียงท่านนึง ซึ่งเป็นเพื่อนของฉัน 00:09:00.467 --> 00:09:02.941 พูดกับฉันว่า "คุณมาทำอะไรที่นี่" 00:09:02.941 --> 00:09:04.782 "ทำไมคุณไม่อยู่บ้านกับ ลูก้า" 00:09:04.782 --> 00:09:08.567 แล้วฉันก็ตอบว่า "ก็ ฉันต้่องมาเห็นสิ่งเหล่านี้" ตอนนั้นเป็นปี 2004 00:09:08.567 --> 00:09:12.954 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น ของช่วงเวลานองเลือดในอิรัก 00:09:12.954 --> 00:09:16.194 "ฉันต้องมาเห็น ฉันต้องได้เห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นที่นี่ 00:09:16.194 --> 00:09:17.059 แล้วก็รายงานมัน" 00:09:17.059 --> 00:09:20.623 เขาตอบว่า "กลับบ้านเถอะ 00:09:20.623 --> 00:09:23.909 เพราะถ้าคุณพลาดฟันซี่แรกของเขา 00:09:23.909 --> 00:09:26.907 การเดินก้าวแรกของเขา คุณจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเลย 00:09:26.907 --> 00:09:30.770 แต่สงครามน่ะ จะยังคงเกิดขึ้นอีกเสมอ" NOTE Paragraph 00:09:30.770 --> 00:09:35.111 และเป็นเรื่องน่าเศร้ามากที่ สงครามจะยังคงเกิดขึ้นเสมอ 00:09:35.111 --> 00:09:38.965 ฉันคงจะหลอกตัวเองมากไป ถ้าคิดว่า ในฐานะนักข่าว 00:09:38.965 --> 00:09:40.731 ในการเป็นผู้ประกาศข่าว เป็นนักเขียน 00:09:40.731 --> 00:09:45.569 สิ่งที่ฉันทำนั้นสามารถหยุดสงครามได้ ฉันไม่สามารถทำได้ 00:09:45.569 --> 00:09:48.116 ฉันไม่ใช่ โคฟี่ อันนัน และเขาเองก็ไม่สามารถหยุดสงครามได้ 00:09:48.116 --> 00:09:51.093 เขาพยายามเจรจาก่อนการเกิดสงครามในซีเรีย แต่เขาทำไม่สำเร็จ 00:09:51.093 --> 00:09:55.089 ฉันไม่ใช่นักประนีประนอมความขัดแย้ง ขององค์การสหประชาชาติ 00:09:55.089 --> 00:09:57.372 ฉันไม่ได้เป็นแม้แต่หมออาสาสมัตร 00:09:57.372 --> 00:10:00.198 และฉันบอกไม่ถูกเลยว่า ฉันรู้สึกสิ้นหวังแค่ไหน 00:10:00.198 --> 00:10:03.469 เวลาที่มีคนตายต่อหน้าฉัน ฉันช่วยพวกเขาไม่ได้ 00:10:03.469 --> 00:10:07.304 ฉันเป็นได้แค่ พยาน 00:10:07.304 --> 00:10:12.358 บทบาทของฉันคือการเป็นสื่อกลาง ให้กับผู้คนที่ไม่มีสิทธิไม่มีเสียง 00:10:12.358 --> 00:10:15.591 เพื่อนร่วมงานของฉันเคยอธิบายว่า มันคือการส่องแสงสว่าง 00:10:15.591 --> 00:10:18.353 ไปยังมุมที่มืดมิดที่สุดบนโลกใบนี้ 00:10:18.353 --> 00:10:21.000 และนั่นคือสิ่งที่ฉันพยายามจะทำ 00:10:21.000 --> 00:10:24.036 ฉันไม่ได้ประสบความสำเร็จตลอดเวลา 00:10:24.036 --> 00:10:26.577 และบางครั้งมันก็น่าหงุดหงิดใจ 00:10:26.577 --> 00:10:28.783 เพราะคุณรู้สึกว่ากำลังเขียนอยู่ในความว่างเปล่า 00:10:28.783 --> 00:10:31.112 เหมือนไม่มีใครสนใจ 00:10:31.112 --> 00:10:33.361 ใครจะสนใจเรื่องซีเรีย ใครจะต้องสนใจเรื่องบอสเนีย 00:10:33.361 --> 00:10:35.374 ใครสนเรื่อง คองโก 00:10:35.374 --> 00:10:37.648 ไอวอรี่ โคส ไลบีเรีย เซียร่าลีโอน 00:10:37.648 --> 00:10:39.763 แต่ละส่วนของพื้นที่เล็กๆ เหล่านั้น 00:10:39.763 --> 00:10:43.736 ที่ฉันจะจดจำมันไปตลอดชีวิตทีเดียว 00:10:43.736 --> 00:10:46.989 แต่ การอุทิศตนของฉันก็คือ การเป็นพยาน 00:10:46.989 --> 00:10:50.171 มันเป็นหัวใจ เป็นสาระสำคัญ 00:10:50.171 --> 00:10:52.712 สำหรับนักข่าวอย่างเรา ที่ทำเรื่องราวเหล่านี้ 00:10:52.712 --> 00:10:56.303 สิ่งที่ฉันทำได้ก็แค่หวัง 00:10:56.303 --> 00:10:58.911 ไม่ใช่หวังที่มีต่อ นักวางนโยบาย หรือ นักการเมือง 00:10:58.911 --> 00:11:01.308 เพราะทั้งๆที่ฉันอยากจะเชื่อ 00:11:01.308 --> 00:11:03.773 ว่าพวกเขาคงจะได้อ่านงานของฉันแล้วทำอะไรซักอย่าง 00:11:03.773 --> 00:11:06.933 ฉันก็ไม่หลอกตัวเองอย่างนั้น NOTE Paragraph 00:11:06.933 --> 00:11:11.150 แต่สิ่งที่ฉันหวังก็คือ แค่พวกคุณจำเรื่องที่ฉันพูดได้ 00:11:11.150 --> 00:11:14.703 จำส่วนไหนก็ตามของเรื่องที่ฉันเล่า แล้วพรุ่งนี้ ตอนทานข้าวเช้า 00:11:14.703 --> 00:11:17.385 ถ้าคุณจำเรื่องราวของ ซาราเยโว 00:11:17.385 --> 00:11:20.876 เรื่องราวที่รวันดาได้ 00:11:20.876 --> 00:11:23.449 ถ้าเป็นเช่นนั้น งานของฉันก็สำเร็จแล้ว NOTE Paragraph 00:11:23.449 --> 00:11:25.487 ขอบคุณมากค่ะ NOTE Paragraph 00:11:25.487 --> 00:11:32.717 (เสียงปรบมือ)