WEBVTT 00:00:07.335 --> 00:00:09.329 เมื่อไม่กี่ร้อยปีมานี้เอง 00:00:09.329 --> 00:00:12.088 ที่อารยธรรมตะวันตก เริ่มจัดแสดงงานศิลป์ในพิพิธภัณฑ์ 00:00:12.088 --> 00:00:13.803 อย่างน้อยก็ในรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน 00:00:13.803 --> 00:00:17.231 กับองค์กรสาธารณะที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ 00:00:17.231 --> 00:00:21.049 ก่อนหน้านั้น งานศิลป์ทำหน้าที่อย่างอื่น 00:00:21.049 --> 00:00:23.094 สิ่งที่เราเรียกว่างานศิลป์ในปัจจุบันนี้ 00:00:23.094 --> 00:00:25.430 ที่จริงแล้ว คือวิธีแรก ๆ ที่คนจะได้สัมผัส 00:00:25.430 --> 00:00:28.223 กับแง่มุมที่ลึกซึ้งของศาสนา 00:00:28.223 --> 00:00:31.810 ภาพเขียน ประติมากรรม สิ่งทอ และ การให้แสงสว่าง 00:00:31.810 --> 00:00:33.720 เป็นสื่อที่ใช้กันในยุคก่อน 00:00:33.720 --> 00:00:35.357 เพื่อแสดงภาพที่ชัดเจน 00:00:35.357 --> 00:00:39.293 ในการบอกเล่าเรื่องราวในยุคนั้น 00:00:39.293 --> 00:00:41.116 อาจกล่าวได้ว่า ศิลป์ตะวันตก 00:00:41.116 --> 00:00:42.862 มีจุดประสงค์ด้านการใช้สอย 00:00:42.862 --> 00:00:44.612 เช่นเดียวกันกับวัฒนธรรมอื่น ๆ ทั่วโลก 00:00:44.612 --> 00:00:50.048 ที่ภาษาของบางวัฒนธรรมนั้น บังเอิญไม่มีคำที่แปลว่างานศิลป์ 00:00:50.048 --> 00:00:53.379 แล้วเรากำหนดนิยามอย่างไร ต่อสิ่งที่เราเรียกว่างานศิลป์ 00:00:53.379 --> 00:00:55.167 โดยทั่วไป สิ่งที่เรากำลังพูดถึงในตอนนี้ 00:00:55.167 --> 00:00:57.112 คือผลงานที่สื่อสารความหมายด้วยภาพ 00:00:57.112 --> 00:00:58.753 ในแบบที่มากกว่าภาษา 00:00:58.753 --> 00:01:00.466 ไม่ว่าจะด้วยวิธีการผ่านการแสดง 00:01:00.466 --> 00:01:03.769 หรือการจัดองค์ประกอบที่มองเห็นได้บนพื้นที่ 00:01:03.769 --> 00:01:06.179 หลักฐานของอิทธิพลของสัญลักษณ์ตัวแทน 00:01:06.179 --> 00:01:08.613 หรือความสามารถของภาพ ในการถ่ายทอดความหมาย 00:01:08.613 --> 00:01:10.391 สามารถพบได้มากมาย 00:01:10.391 --> 00:01:11.727 ถ้าเรามองดูงานศิลป์ 00:01:11.727 --> 00:01:14.279 จากประวัติศาสตร์ศาสนาหลักของโลก 00:01:14.279 --> 00:01:16.814 ในช่วงใดช่วงหนึ่งตามประวัติศาสตร์ ศาสนาเกือบทั้งหมด 00:01:16.814 --> 00:01:19.817 ได้ผ่านช่วงเวลาที่ไม่มีการใช้สัญลักษณ์ตัวแทน 00:01:19.817 --> 00:01:24.584 แนวคิดเรื่องการไม่มีสัญลักษณ์ตัวแทน ทำให้ไม่มีการพรรณาถึงเทพเจ้าใดออกมาเป็นภาพ 00:01:24.584 --> 00:01:26.991 ซึ่งก็เพื่อหลีกเลี่ยง การกราบไหว้บูชาอย่างไม่เข้าใจ 00:01:26.991 --> 00:01:31.413 หรือป้องกันความสับสน ระหว่างสัญลักษณ์ตัวแทนเทพเจ้าจริง ๆ 00:01:31.413 --> 00:01:33.029 เรียกได้ว่า เอาแต่ที่เป็นเรื่องจริง 00:01:33.029 --> 00:01:36.917 ในส่วนที่เป็นความสัมพันธ์ ระหว่างสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับตัวบุคคล 00:01:36.917 --> 00:01:38.946 อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงท้าทายที่จะคงรักษามันไว้ 00:01:38.946 --> 00:01:41.379 เนื่องด้วยความต้องการที่จะแสดงให้เห็นภาพ และตีความ 00:01:41.379 --> 00:01:42.861 โลกที่อยู่รอบตัวเรานั้น 00:01:42.861 --> 00:01:45.768 เป็นสิ่งเร้าที่ยากต่อการจะระงับไว้ได้ 00:01:45.768 --> 00:01:47.802 ยกตัวอย่างเช่น แม้แต่ในปัจจุบัน 00:01:47.802 --> 00:01:50.888 ในขณะที่สัญลักษณ์ตัวแทนของพระอัลเลาะห์ หรือศาสดามูฮัมหมัดเป็นสิ่งต้องห้าม 00:01:50.888 --> 00:01:53.268 และการเฉลิมฉลองเชิงนามธรรมต่อเทพเจ้า 00:01:53.268 --> 00:01:57.692 ก็ยังสามารถพบได้ในลวดลายอาหรับของ การออกแบบผ้าอิสลาม 00:01:57.692 --> 00:01:59.563 ที่ตกแต่งด้วยฝีแปรงจากความเชี่ยวชาญ 00:01:59.563 --> 00:02:00.843 และอักษรวิจิตรอาหรับ 00:02:00.843 --> 00:02:02.107 ที่ซึ่งถ้อยคำของศาสดา 00:02:02.107 --> 00:02:05.570 ทำหน้าที่เป็นทั้งวรรณกรรมและทัศนศิลป์ 00:02:05.570 --> 00:02:08.114 ในทำนองเดียวกัน งานศิลป์ในยุคแรกเริ่ม 00:02:08.114 --> 00:02:10.300 ของศาสนาคริสต์และศาสนาพุทธ 00:02:10.300 --> 00:02:12.245 รูปลักษณ์ของเทพเจ้าของคริสต์กับพุทธ 00:02:12.245 --> 00:02:13.913 ไม่ปรากฎในอยู่ในรูปแบบมนุษย์ 00:02:13.913 --> 00:02:16.113 แต่ถูกแทนด้วยสัญลักษณ์ 00:02:16.113 --> 00:02:17.165 แล้วแต่ละกรณี 00:02:17.165 --> 00:02:19.112 การอ้างอิงทางประติมานวิทยาถูกใช้ 00:02:19.112 --> 00:02:20.977 ในฐานะรูปแบบหนึ่งของการให้ความเคารพ 00:02:20.977 --> 00:02:23.088 ตัวแทนของมานุษยรูปนิยม 00:02:23.088 --> 00:02:25.090 หรือสัญลักษณ์ตัวแทนในรูปแบบมนุษย์ 00:02:25.090 --> 00:02:27.647 ในที่สุดกลายเป็นได้แพร่หลายออกไป ในศาสนาเหล่านี้ 00:02:27.647 --> 00:02:29.263 ในอีกไม่กี่ศตวรรษต่อมา 00:02:29.263 --> 00:02:33.638 ภายใต้อิทธิพลของประเพณีวัฒนธรรม ที่อยู่รอบ ๆ พวกมัน 00:02:33.638 --> 00:02:34.612 ถ้าพูดในเชิงประวัติศาสตร์ 00:02:34.612 --> 00:02:36.645 ความนิยมของสาธารณชนที่มีต่อทัศนศิลป์ 00:02:36.645 --> 00:02:39.730 ในแบบอื่นนอกเหนือจากประเพณี ศาสนา หรือบทบาทในทางสังคม 00:02:39.730 --> 00:02:41.564 ค่อนข้างที่จะเป็นแนวคิดใหม่ 00:02:41.564 --> 00:02:45.110 ทุกวันนี้ เรียกได้ว่า เราคลั่งไคล้ของขลัง 00:02:45.110 --> 00:02:47.197 เราไปพิพิธภัณฑ์เพื่อดูงานศิลป์ในอดีต 00:02:47.197 --> 00:02:48.862 แต่ประสบการณ์ของเราที่มีต่อมันในที่นั้น 00:02:48.862 --> 00:02:50.529 ช่างห่างไกลจากบริบทดังกล่าว 00:02:50.529 --> 00:02:53.361 ที่เป็นจุดประสงค์แต่ดั้งเดิมของมัน เป็นอย่างมาก 00:02:53.361 --> 00:02:55.446 หรืออยากจะพูดได้ว่าผู้ชมยุคใหม่ 00:02:55.446 --> 00:02:57.162 ขาดความสมบูรณ์ในการเข้าถึง 00:02:57.162 --> 00:02:58.918 ที่ว่าเธอมีต่องานศิลป์ร่วมยุคของเธอ 00:02:58.918 --> 00:03:01.060 ที่ถูกสร้างขึ้นให้เกี่ยวข้องกับช่วงเวลาของเธอ 00:03:01.060 --> 00:03:03.780 และสื่อสารกับเธอในภาษาวัฒนธรรมของเธอ 00:03:03.780 --> 00:03:06.091 มันอาจยังพูดได้อีกว่า ประวัติศาสตร์ของสิ่งที่เราเรียกว่างานศิลป์ 00:03:06.091 --> 00:03:08.634 คือการสนทนาที่ยังไม่จบสิ้น 00:03:08.634 --> 00:03:10.947 ในขณะที่ปัจจุบันที่สมัยของเรา ผ่านเข้าสู่สิ่งที่กำลังจะเป็น 00:03:10.947 --> 00:03:14.196 สิ่งที่เป็นอดีตแบบดั้งเดิมของคนรุ่นถัดไป 00:03:14.196 --> 00:03:15.807 มันคือการสนทนาที่สะท้อน 00:03:15.807 --> 00:03:20.104 อุดมคติ เทวตำนาน ระบบความเชื่อ และข้อห้าม 00:03:20.104 --> 00:03:23.294 และอื่น ๆ อีกมากมายในโลกที่ได้สร้างมันขึ้นมา 00:03:23.294 --> 00:03:25.715 แต่มันไม่อาจพูดได้ว่าผลงานจากอีกยุคหนึ่ง 00:03:25.715 --> 00:03:28.488 ที่ถูกทำขึ้นมา เพื่อสนองต่อหน้าที่จำเพาะในเวลานั้น 00:03:28.488 --> 00:03:31.779 ตายแล้วหรือไม่มีอะไร ที่จะให้กับผู้ชมในยุคใหม่ 00:03:31.779 --> 00:03:33.612 แม้แต่ในการจัดวางของพิพิธภัณฑ์ 00:03:33.612 --> 00:03:35.779 งานศิลป์จากต่างสถานที่และต่างเวลา 00:03:35.779 --> 00:03:37.529 ก็ถูกนำเสนอเคียงข้างกัน 00:03:37.529 --> 00:03:39.447 เป็นเอกเทศจากรูปแบบการจัดวางดั้งเดิม 00:03:39.447 --> 00:03:41.749 การวางติดกันเพื่อเทียบเคียงนั้นมีประโยชน์ 00:03:41.749 --> 00:03:44.624 นิทรรศการถูกจัดการโดยภัณฑรักษ์ 00:03:44.624 --> 00:03:45.861 หรือคนที่มีอาชีพ 00:03:45.861 --> 00:03:48.696 ที่ใช้ความสามารถในการวางโครงสร้างใหม่ หรือผสมผสาน 00:03:48.696 --> 00:03:52.676 ผลงานศิลป์วัฒนธรรมในการแสดงแบบองค์รวม 00:03:52.676 --> 00:03:55.472 ในฐานะผู้ชม เราจะสามารถพิจารณางานศิลป์ 00:03:55.472 --> 00:03:57.774 ในรูปแบบสาระสำคัญทั่วไป ที่อาจไม่ปรากฏชัดเจน 00:03:57.774 --> 00:03:59.298 ในบางชิ้นงานได้ 00:03:59.298 --> 00:04:01.529 จนกว่าคุณจะเห็นมันวางอยู่เคียงข้างอีกงานหนึ่ง 00:04:01.529 --> 00:04:06.024 และความใหม่ก็จะถูกดัดแปรและสะท้อนออกมา 00:04:06.024 --> 00:04:07.234 ถ้าเรามีความสนใจจริง ๆ 00:04:07.234 --> 00:04:09.196 เราอาจเริ่มมองงานศิลป์ทุก ๆ ชิ้น 00:04:09.196 --> 00:04:12.768 เป็นส่วนหนึ่ง ของประสบการณ์ของมนุษย์ในอดีต 00:04:12.768 --> 00:04:14.742 ที่ไม่ได้ถูกให้นิยาม ไม่ได้มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน 00:04:14.742 --> 00:04:17.159 เส้นทางที่ตรงเข้ามาหาเรา 00:04:17.159 --> 00:04:19.270 และทอดยาวต่อเนื่องไปกับเรา 00:04:19.270 --> 00:04:22.582 ที่เปิดกว้างให้กับใครก็ตาม ที่ต้องการสำรวจมัน