1
00:00:06,792 --> 00:00:10,501
คนมีสิทธิอะไรบ้าง และพวกมันมาจากไหน

2
00:00:10,501 --> 00:00:14,310
ใครกันที่เป็นผู้กำหนดตัดสินใจให้คนอื่น ๆ 
และในบริบทอำนาจใด

3
00:00:14,310 --> 00:00:19,209
และเราจะจัดระเบียบสังคมได้อย่างไร
ให้เข้ากับความต้องการของคนในสังคม

4
00:00:19,209 --> 00:00:21,868
คำถามเหล่านี้สร้างความท้าทายระดับประเทศ

5
00:00:21,868 --> 00:00:25,019
ระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดปัญหา
ของการปฏิวัติฝรั่งเศส

6
00:00:25,019 --> 00:00:27,409
ช่วงปลายศตวรรษที่ 18

7
00:00:27,409 --> 00:00:31,441
ยุโรปได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงมากมาย
ทางปัญญาและทางวัฒนธรรม

8
00:00:31,441 --> 00:00:33,800
ที่รู้จักกันในชื่อ ยุคเรืองปัญญา

9
00:00:33,800 --> 00:00:37,409
นักปรัชญาและศิลปินเชิดชูเหตุผล
และอิสรภาพของมนุษยชาติ

10
00:00:37,409 --> 00:00:40,070
เหนือกว่าขนบธรรมเนียมและศาสนา

11
00:00:40,070 --> 00:00:42,830
การลุกฮือขึ้นมาของชนชั้นกลาง
และสื่อสิ่งพิมพ์

12
00:00:42,830 --> 00:00:45,209
ส่งเสริมให้เกิดความตระหนักถึงการเมือง

13
00:00:45,209 --> 00:00:48,749
และการปฏิวัติอเมริกาได้เปลี่ยน
อาณานิคมเดิมของอังกฤษ

14
00:00:48,749 --> 00:00:51,450
ให้กลายเป็นสาธารณรัฐอิสระ

15
00:00:51,450 --> 00:00:55,259
แต่ถึงกระนั้น ฝรั่งเศส หนึ่งในประเทศ
ที่ใหญ่และมั่งคั่งที่สุดในยุโรป

16
00:00:55,259 --> 00:00:59,969
ยังคงถูกปกครองโดยแนวทางปฏิบัติดั้งเดิม
ที่ประกอบด้วยสามชนชั้นทางสังคม

17
00:00:59,969 --> 00:01:02,052
เรียกว่า ฐานันดร

18
00:01:02,052 --> 00:01:06,769
ราชวงศ์อย่างพระเจ้าหลุยส์ที่สิบหก
มีฐานอำนาจตามสิทธิสมมุติเทพ

19
00:01:06,769 --> 00:01:11,040
และประทานสิทธิพิเศษให้กับ
ผู้ที่มีฐานันดรขั้นที่หนึ่งและสอง

20
00:01:11,040 --> 00:01:13,781
ได้แก่ นักบวชคาธอลิก และขุนนาง

21
00:01:13,781 --> 00:01:17,021
ระดับฐานันดรที่สาม คือพ่อค้าชนชั้นกลาง
และช่างฝีมือ

22
00:01:17,021 --> 00:01:21,390
เช่นเดียวกันกับประชาชนกว่า 20 ล้านคน
ที่มีอำนาจน้อยกว่า

23
00:01:21,390 --> 00:01:24,461
และพวกเขาเป็นเพียงคนกลุ่มเดียว
ที่ต้องจ่ายภาษี

24
00:01:24,461 --> 00:01:28,632
ไม่ใช่แค่ให้กับกษัตริย์เท่านั้น
แต่ยังต้องให้กับผู้ที่มีฐานันดรอื่น ๆ อีกด้วย

25
00:01:28,632 --> 00:01:30,013
ในปีที่การเก็บเกี่ยวไม่สู้ดี

26
00:01:30,013 --> 00:01:33,370
การเก็บภาษีอาจทำให้ประชาชน
สิ้นเนื้อประดาตัว

27
00:01:33,370 --> 00:01:39,190
ในขณะที่กษัตริย์และชนชั้นสูงสามารถใช้จ่าย
อย่างฟุ่มเฟือยจากความร่ำรวยของพวกเขา

28
00:01:39,190 --> 00:01:43,272
แต่ฝรั่งเศสได้จมอยู่ในกองหนี้เนื่องจาก
พวกเขาสนับสนุนการปฏิวัติอเมริกา

29
00:01:43,272 --> 00:01:45,680
และการทำสงครามอย่างยาวนานกับอังกฤษ

30
00:01:45,680 --> 00:01:47,542
จำต้องมีการเปลี่ยนแปลง

31
00:01:47,542 --> 00:01:50,767
พระเจ้าหลุยส์แต่งตั้งรัฐมนตรีคลัง
ฌาค เนคแกร์

32
00:01:50,767 --> 00:01:52,381
ผู้ส่งเสริมให้มีการปฏิรูปการเก็บภาษี

33
00:01:52,381 --> 00:01:57,432
และได้รับการสนับสนุนจากสังคมให้มี
การเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของรัฐบาล

34
00:01:57,432 --> 00:02:00,713
แต่บรรดาที่ปรึกษาของกษัตริย์คัดค้าน
แนวทางใหม่นี้อย่างสุดตัว

35
00:02:00,713 --> 00:02:05,132
พระเจ้าหลุยส์ทรงประสงค์ที่จะหาข้อยุติ
จึงเรียกประชุมสภาฐานันดร

36
00:02:05,132 --> 00:02:07,902
ซึ่งคือองค์ประชุมของตัวแทน
จากทั้งสามฐานันดร

37
00:02:07,902 --> 00:02:12,091
เป็นครั้งแรกในรอบ 175 ปี

38
00:02:12,091 --> 00:02:16,583
แม้ว่าระดับฐานันดรที่สามจะประกอบด้วย
ร้อยละ 98 ของประชากรทั้งหมด

39
00:02:16,583 --> 00:02:20,102
การลงคะแนนของพวกเขา
มีค่าเท่ากับฐานันดรอื่นแต่ละคน

40
00:02:20,102 --> 00:02:25,462
และไม่น่าแปลกใจเลยที่ทั้งสองฐานันดร
ที่สูงศักดิ์กว่า อยากที่จะคงสิทธิพิเศษเอาไว้

41
00:02:25,462 --> 00:02:28,021
เมื่อตระหนักว่าพวกเขา
ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบตัวแทน

42
00:02:28,021 --> 00:02:29,913
ระดับฐานันดรที่สามก็ประกาศ

43
00:02:29,913 --> 00:02:32,003
แต่งตั้งพวกตนขึ้นเป็นสภาผู้แทนราษฎร

44
00:02:32,003 --> 00:02:37,503
และให้คำมั่นว่าจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่
โดยมีหรือไม่มีฐานันดรอื่น ๆ เข้าร่วมก็ได้

45
00:02:37,503 --> 00:02:39,972
พระเจ้าหลุยส์ทรงมีรับสั่งให้ฐานันดร
ที่หนึ่งและสอง

46
00:02:39,972 --> 00:02:41,782
เข้าประชุมกับสภาผู้แทนราษฎร

47
00:02:41,782 --> 00:02:45,912
แต่ยังปลดเนคแกร์ รัฐมนตรีคลัง
ผู้โด่งดังของพระองค์ด้วย

48
00:02:45,912 --> 00:02:48,833
ผลลัพธ์ก็คือ
ชาวปารีสนับพันที่โกรธแค้น

49
00:02:48,833 --> 00:02:53,183
ร่วมด้วยทหารที่เห็นพ้องกัน
ก็รุดไปยังคุกบัสตีย์

50
00:02:53,183 --> 00:02:57,447
สัญลักษณ์ของอำนาจราชวงศ์
และคลังอาวุธขนาดใหญ่

51
00:02:57,447 --> 00:03:00,103
การปฏิวัติได้เริ่มขึ้นแล้ว

52
00:03:00,103 --> 00:03:02,385
เมื่อการก่อกบฎได้แผ่ขยายออกไป
ทั่วทั้งประเทศ

53
00:03:02,385 --> 00:03:04,724
ระบบศักดินาก็ถูกทำลาย

54
00:03:04,724 --> 00:03:07,994
คำประกาศของรัฐสภา
เกี่ยวกับสิทธิของมนุษย์และพลเมือง

55
00:03:07,994 --> 00:03:10,614
สถาปนาแนวคิดอย่างสุดโต่ง
ในเวลานั้น

56
00:03:10,614 --> 00:03:15,675
ว่าสิทธิและเสรีภาพของแต่ละบุคคลนั้น
เป็นพื้นฐานตามธรรมชาติของมนุษย์

57
00:03:15,675 --> 00:03:19,494
และรัฐบาลนั้นดำรงอยู่เพียงเพื่อปกป้องมัน

58
00:03:19,494 --> 00:03:22,775
เมื่อสิทธิพิเศษของพวกเขาหมดไป
เหล่าชนชั้นสูงมากมายก็หนีไปต่างประเทศ

59
00:03:22,775 --> 00:03:26,864
ขอร้องให้เหล่าผู้ปกครองต่างแดน
โจมตีฝรั่งเศสและฟื้นฟูกฎเกณฑ์เก่า

60
00:03:26,864 --> 00:03:30,694
และในขณะที่พระเจ้าหลุยส์
ยังทรงดำรงตำแหน่งกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ

61
00:03:30,694 --> 00:03:32,984
พระองค์ก็ทรงตระหนักถึงอนาคตที่น่ากลัว

62
00:03:32,984 --> 00:03:37,135
ในปี ค.ศ. 1791 ทรงพยายามหนี
ออกนอกประเทศ แต่ถูกจับได้

63
00:03:37,135 --> 00:03:41,126
ความพยายามในการหลบหนี ทำให้ศรัทธา
ของประชาชนในตัวพระเจ้าหลุยส์สลายสิ้น

64
00:03:41,126 --> 00:03:45,405
ราชวงศานุวงศ์ถูกจับ
และพระเจ้าหลุยส์ก็ถูกตั้งข้อหากบฎ

65
00:03:45,405 --> 00:03:46,561
ภายหลังการพิจารณาคดี

66
00:03:46,593 --> 00:03:49,889
กษัตริย์ผู้ทรงเคยเป็นที่เคารพศรัทธา
ก็ถูกตัดพระเศียรท่ามกลางสาธารณชน

67
00:03:49,921 --> 00:03:53,389
ซึ่งเป็นจุดบ่งบอกถึงกาลอวสาน
ของราชวงศ์ที่มีอายุยาวนานหนึ่งพันปี

68
00:03:53,421 --> 00:03:59,131
และเป็นจบลงที่การก่อตั้งสาธารณรัฐฝรั่งเศส
เป็นครั้งแรก ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน

69
00:03:59,179 --> 00:04:02,921
โดยมีคำขวัญที่ว่า "เสรีภาพ (liberté) 
เสมอภาค (égalité) ภราดรภาพ (fraternité)"

70
00:04:03,414 --> 00:04:04,614
เก้าเดือนต่อมา

71
00:04:04,640 --> 00:04:06,174
พระนางมารี อ็องตัวแน็ต

72
00:04:06,188 --> 00:04:09,121
ที่ได้รับฉายาจากชาวต่างชาติว่า
"มาดามหนี้ท่วมหัว (Madame Déficit)"

73
00:04:09,219 --> 00:04:11,219
จากพฤติกรรมฟุ้งเฟ้อของพระองค์

74
00:04:11,352 --> 00:04:12,906
ก็ถูกตัดพระเศียรเช่นกัน

75
00:04:13,415 --> 00:04:15,767
แต่การปฏิวัติไม่ได้จบลงที่ตรงนั้น

76
00:04:15,767 --> 00:04:18,889
ผู้นำบางคน ไม่หยุดอยู่แค่
การเปลี่ยนแปลงรัฐบาล

77
00:04:18,889 --> 00:04:22,186
แต่พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมฝรั่งเศส

78
00:04:22,186 --> 00:04:23,586
ศาสนา

79
00:04:23,586 --> 00:04:24,699
และชื่อของท้องถนนต่าง ๆ

80
00:04:24,699 --> 00:04:26,146
แม้กระทั่งปฏิทิน

81
00:04:26,146 --> 00:04:28,016
ในขณะที่ภาคส่วนต่าง ๆ 
เป็นรูปเป็นร่างขึ้น

82
00:04:28,016 --> 00:04:32,206
กลุ่มฌากอแบ็งผู้มีแนวคิดแบบสุดโต่ง
ที่นำโดย มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์

83
00:04:32,206 --> 00:04:34,516
ได้ทำให้เกิด สมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว

84
00:04:34,516 --> 00:04:39,016
ที่มีการสังหารฝ่ายตรงข้ามกว่า 20,000 คน

85
00:04:39,016 --> 00:04:41,816
ก่อนที่กลุ่มฌากอแบ็งเองจะมาถึงจุดเสื่อม

86
00:04:41,816 --> 00:04:45,607
ในขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสก็ต้องทำศึก
กับราชวงศ์ของประเทศเพื่อนบ้าน

87
00:04:45,607 --> 00:04:49,516
ที่ต้องการหยุดยั้งการปฏิวัติ
ก่อนที่มันจะขยายขอบเขตมากไปกว่านี้

88
00:04:49,516 --> 00:04:54,027
ท่ามกลางความโกลาหล นายพลที่มีชื่อว่า
นโปเลียน โบนาปาร์ต ก็เข้ามากุมอำนาจ

89
00:04:54,027 --> 00:04:59,327
ขึ้นเป็นจักรพรรดิ ปฏิญาณว่าจะปกป้อง
คุณค่าของประชาธิปไตยที่ได้จากการปฏิวัติ

90
00:04:59,327 --> 00:05:02,647
โดยสรุป การปฏิวัตินี้
ก่อให้เกิดรัฐธรรมนูญสามฉบับ

91
00:05:02,647 --> 00:05:05,666
และห้ารัฐบาลภายในสิบปี

92
00:05:05,666 --> 00:05:09,447
ตามด้วยหลายทศวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลง
ราชวงศ์และการปฏิวัติ

93
00:05:09,447 --> 00:05:12,717
ก่อนที่สาธารณรัฐใหม่จะเกิดขึ้น
ในปี ค.ศ. 1871

94
00:05:12,717 --> 00:05:15,506
และในขณะที่เราเฉลิมฉลองอุดมคติของ
การปฏิวัติฝรั่งเศส

95
00:05:15,506 --> 00:05:18,767
เราก็ยังคงต่อสู้กับคำถามพื้นฐานมากมาย
อย่างเดียวกันนี้

96
00:05:18,767 --> 00:05:21,288
ที่เกิดขึ้นมานานกว่าสองศตวรรษ