1 00:00:07,281 --> 00:00:12,713 มันมีคำสาปที่เกาะกุมมนุษยชาติ มาตั้งแต่โบราณกาล 2 00:00:12,713 --> 00:00:16,080 ชาวกรีกต่อสู้กับมันด้วยการเคี้ยว ยางไม้ที่มีกลิ่นหอม 3 00:00:16,080 --> 00:00:19,331 ขณะที่ชาวจีนใช้หันไปพึ่งเปลือกไข่ 4 00:00:19,331 --> 00:00:21,385 ในคัมภีร์ยิวโบราณทัลมุด (Talmud) 5 00:00:21,385 --> 00:00:25,465 มันถึงกับเป็นเหตุผลทางกฏหมาย ที่ใช้ในการขอหย่าเลยทีเดียว 6 00:00:25,465 --> 00:00:31,828 หายนะอันน่าสยดสยองนี้คือ ฮาลิโทสิส หรือที่รู้จักกันในนาม ปากเหม็น 7 00:00:31,828 --> 00:00:36,165 แต่อะไรเป็นสาเหตุของมัน และทำไมมันเป็นที่หวาดกลัวกันไปทั่ว 8 00:00:36,165 --> 00:00:39,281 เอาละ ลองคิดถึงกลิ่นที่แย่สุดๆ ที่คุณสามารถจินตนาการได้ 9 00:00:39,281 --> 00:00:43,621 อย่างเช่น ขยะ อึ หรือเนื้อเน่า 10 00:00:43,621 --> 00:00:48,312 กลิ่นทั้งหมดนี้มาจากการกิจกรรมของจุลชีพ 11 00:00:48,312 --> 00:00:50,211 โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบคทีเรีย 12 00:00:50,211 --> 00:00:52,487 มันฟังดูน่าขยะแขยงอย่างนั้นแหละ 13 00:00:52,487 --> 00:00:58,789 แบคทีเรียที่คล้ายกันนี้ อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ชุ่มชื้นในปากคุณ 14 00:00:58,789 --> 00:01:00,234 อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป 15 00:01:00,234 --> 00:01:03,386 การที่ร่างกายของคุณมีแบคทีเรีย ไม่เพียงแต่จะเป็นเรื่องปกติ 16 00:01:03,386 --> 00:01:05,920 ที่จริงแล้ว มันจำเป็นสำหรับอะไรอย่าง 17 00:01:05,920 --> 00:01:08,778 เช่น การย่อยอาหาร หรือการป้องกันโรค 18 00:01:08,778 --> 00:01:12,751 แต่เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย แบคทีเรียก็ต้องกิน 19 00:01:12,751 --> 00:01:15,882 แบคทีเรียในปากคุณกินเยื่อเมือก 20 00:01:15,882 --> 00:01:17,322 เศษอาหาร 21 00:01:17,322 --> 00:01:19,694 และเซลล์เนื้อเยื่อที่ตายแล้ว 22 00:01:19,694 --> 00:01:22,817 เพื่อที่จะดูดซึมสารอาหารผ่านทาง เยื่อหุ้มเซลล์ของมัน 23 00:01:22,817 --> 00:01:26,834 มันต้องทำให้สารอินทรีย์สลายเป็น โมเลกุลเล็กๆ ก่อน 24 00:01:26,834 --> 00:01:31,682 ตัวอย่างเช่น มันจะทำให้โปรตีน สลายเป็นกรดอะมิโน 25 00:01:31,682 --> 00:01:35,804 และสลายพวกมัน ออกเป็นสารประกอบอื่นหลายชนิด 26 00:01:35,804 --> 00:01:38,879 ผลพลอยได้บางอย่างจากปฏิกิริยาพวกนี้ มีกลิ่นเหม็น 27 00:01:38,879 --> 00:01:42,190 เช่น แก๊ซไข่เน่า และคาดาเวอรีน 28 00:01:42,190 --> 00:01:43,954 เล็ดลอดออกมาในอากาศ 29 00:01:43,954 --> 00:01:47,565 และล่องลอยไปเข้าจมูกที่ไม่ทันตั้งตัว 30 00:01:47,565 --> 00:01:52,253 ความไวต่อกลิ่นพวกนี้ของเรา และการตีความมันว่ากลิ่นเหม็น 31 00:01:52,253 --> 00:01:56,876 อาจมาจากกลไกวิวัฒนาการ ที่เตือนเราถึงอาหารที่เน่าบูด 32 00:01:56,876 --> 00:01:58,809 หรือการปรากฏอยู่ของโรค 33 00:01:58,809 --> 00:02:02,020 กลิ่นเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสที่ เก่าแก่และละเอียดอ่อนที่สุด 34 00:02:02,020 --> 00:02:06,485 มันมีบทบาทมหาศาลในการดึงดูด คนที่อาจจะเป็นคู่เรา 35 00:02:06,485 --> 00:02:10,693 ในการสำรวจความคิดเห็นครั้งหนึ่ง ผู้ชาย 59% และ ผู้หญิง 70% 36 00:02:10,693 --> 00:02:14,710 บอกว่าพวกเขาจะไม่ยอมมีนัดกับคนที่ปากเหม็น 37 00:02:14,710 --> 00:02:16,898 นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมแค่อเมริกา เพียงประเทศเดียว 38 00:02:16,898 --> 00:02:21,816 ก็ใช้เงินถึง 1 พันล้านเหรียญต่อปี กับผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นปาก 39 00:02:21,816 --> 00:02:25,062 โชคดีที่กลิ่นปากส่วนใหญ่จัดการได้ง่าย 40 00:02:25,062 --> 00:02:29,301 กลิ่นที่เหม็นที่สุดมากจากแบคทีเรียแกรมลบ 41 00:02:29,301 --> 00:02:32,190 ที่อาศัยอยู่ในช่องว่างระหว่างเหงือกและฟัน 42 00:02:32,190 --> 00:02:34,219 และด้านหลังของลิ้น 43 00:02:34,219 --> 00:02:36,238 ด้วยการแปรงและขัดฟันด้วยไหมขัดฟัน 44 00:02:36,238 --> 00:02:39,137 ใช้น้ำยาบ้วนปากฆ่าแบคทีเรียก่อนนอน 45 00:02:39,137 --> 00:02:42,577 ทำความสะอาดด้านหลังของลิ้นอย่างนุ่มนวล ด้วยที่ขูดลิ้นพลาสติก 46 00:02:42,577 --> 00:02:45,685 และแม้กระทั่งการรับประทานอาหารเช้า ที่มีประโยชน์ 47 00:02:45,685 --> 00:02:49,832 เราก็สามารถกำจัดแบคทีเรียส่วนใหญ่ และแหล่งอาหารของพวกมันได้ 48 00:02:49,832 --> 00:02:53,017 ในบางกรณี วิธีแค่นี้อาจจะไม่พอ 49 00:02:53,017 --> 00:02:57,197 เนื่องจากปัญหาเรื่องฟัน สภาพของจมูก หรือโรคที่พบได้ยากกว่านั้น 50 00:02:57,197 --> 00:03:00,987 เช่น โรคตับ หรือเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ 51 00:03:00,987 --> 00:03:03,849 พฤติกรรมอย่างเช่น การสูบบุหรี่ หรือการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป 52 00:03:03,849 --> 00:03:07,343 ยังทำให้มีกลิ่นเฉพาะด้วย 53 00:03:07,343 --> 00:03:08,918 ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด 54 00:03:08,918 --> 00:03:12,488 กลิ่นปากมักจะมีที่มาจากในปากเกือบทั้งนั้น 55 00:03:12,488 --> 00:03:15,600 และไม่ได้เกิดมาจากกระเพาะอาหาร หรือที่อื่นในร่างกาย 56 00:03:15,600 --> 00:03:17,430 แต่สิ่งที่ท้าทายที่สุดก็คือ 57 00:03:17,430 --> 00:03:21,765 การตรวจว่าลมหายใจของเรา มีกลิ่นจริงๆ เป็นอย่างไร 58 00:03:21,765 --> 00:03:23,604 และมันก็ยังไม่ชัดเจนว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น 59 00:03:23,604 --> 00:03:25,622 อาจเป็นไปได้ว่าเราอาจชินมาก 60 00:03:25,622 --> 00:03:29,193 กับการได้กลิ่นภายในปากเราเอง เกินกว่าจะตัดสินว่ากลิ่นเป็นอย่างไร 61 00:03:29,193 --> 00:03:32,021 และวิธีอย่างการเอามือป้องปาก 62 00:03:32,021 --> 00:03:36,102 หรือเลียและดมข้อมือของตัวเอง ก็ไม่ได้ผลดีสมบูรณ์แบบเหมือนกัน 63 00:03:36,102 --> 00:03:38,736 การศึกษาหนึ่งแสดงให้เห็นว่า แม้แต่ตอนที่คนทำอย่างนั้น 64 00:03:38,736 --> 00:03:41,212 พวกเขาก็มีแนวโน้ม ที่จะประเมินกลิ่นแตกต่างกันไป 65 00:03:41,212 --> 00:03:44,772 ขึ้นกับว่าเขาคิดว่ากลิ่นมันแย่แค่ไหน 66 00:03:44,772 --> 00:03:47,791 แต่มีวิธีง่ายๆ ที่อาจจะทำยากในหมู่เพื่อน 67 00:03:47,791 --> 00:03:50,551 ในการหาว่ากลิ่นปากของคุณเป็นอย่างไร 68 00:03:50,551 --> 00:03:54,282 ก็แค่หายใจเข้าลึกๆ แล้วถามเพื่อนสิ