1 00:00:06,999 --> 00:00:09,034 อะไรคือสติสัมปชัญญะ 2 00:00:09,034 --> 00:00:11,828 เครื่องจักรกลสามารที่จะคิดได้หรือเปล่า 3 00:00:11,828 --> 00:00:15,114 ความคิดของเราเป็นแค่การรวมกัน ของเส้นประสาทในสมองหรือเปล่า 4 00:00:15,114 --> 00:00:18,757 หรือมันมีอะไรบางอย่างที่ยากต่อการอธิบาย ซ่อนอยู่ในหัวใจสำคัญของมัน 5 00:00:18,757 --> 00:00:21,325 สำหรับใครหลาย ๆ คน นี่เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณา 6 00:00:21,325 --> 00:00:24,352 เพื่ออนาคตของจักรกลอัฉริยะ 7 00:00:24,352 --> 00:00:29,539 แต่นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอังกฤษ อลัน ทัวริง ตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อคำถามเหล่านี้ 8 00:00:29,539 --> 00:00:31,850 เพื่อคำถามที่ง่ายกว่าคือ 9 00:00:31,850 --> 00:00:35,269 คอมพิวเตอร์สามารถพูดได้อย่างมนุษย์หรือเปล่า 10 00:00:35,269 --> 00:00:39,265 คำถามนั้นนำไปสู่แนวคิดเพื่อการวัด จักรกลอัฉริยะ 11 00:00:39,265 --> 00:00:43,316 ที่ต่อมาเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ว่า การทดสอบแบบทัวริง 12 00:00:43,316 --> 00:00:47,341 ในเอกสารทางวิทยาศาสตร์ปี ค.ศ. 1950 "เครื่องกลคอมพิวเตอร์และอัฉริยภาพ" 13 00:00:47,341 --> 00:00:49,814 ทัวริงเสนอเกมส์ดังต่อไปนี้ 14 00:00:49,814 --> 00:00:53,906 กรรมการมนุษย์มีการสื่อสารทางข้อความ กับผู้เล่นที่มองไม่เห็น 15 00:00:53,906 --> 00:00:56,382 และประเมินการตอบสนองของผู้เล่นนั้น 16 00:00:56,382 --> 00:01:00,409 เพื่อที่จะผ่านการทดสอบ คอมพิวเตอร์ จะต้องสามารถแทนที่ผู้เล่นสักคนหนึ่ง 17 00:01:00,409 --> 00:01:03,857 โดยไม่ทำให้เกิดผลลัพท์ ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ 18 00:01:03,857 --> 00:01:06,816 หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ คอมพิวเตอร์จะถูกพิจารณาว่ามีอัฉริยภาพ 19 00:01:06,816 --> 00:01:12,513 ถ้าหากการสนทนาของมัน ไม่สามารถถูกบ่งบอกได้โดยง่ายโดยมนุษย์ 20 00:01:12,513 --> 00:01:14,667 ทัวริงคาดว่าพอถึงปี ค.ศ. 2000 21 00:01:14,667 --> 00:01:20,622 เครื่องจักรที่มีหน่วยความจำ 100 เมกะไบต์ จะสามารถผ่านการทดสอบนี้ได้โดยง่าย 22 00:01:20,622 --> 00:01:22,786 แต่เขาอาจจะคิดล่วงหน้าไกลไปสักหน่อย 23 00:01:22,786 --> 00:01:25,840 แม้ว่าคอมพิวเตอร์ทุกวันนี้ จะมีความจำมากกว่านั้นมาก 24 00:01:25,840 --> 00:01:27,643 ก็มีเป็นส่วนน้อยเท่านั้นที่ผ่านการทดสอบ 25 00:01:27,643 --> 00:01:29,438 และพวกที่ทำได้ดี 26 00:01:29,438 --> 00:01:33,208 ก็มุ่งความสนใจไปยังวิธีการที่ชาญฉลาด ในการหลอกกรรมการ 27 00:01:33,208 --> 00:01:36,174 มากไปกว่าจะใช้ความสามารถอันทรงพลัง ของคอมพิวเตอร์ 28 00:01:36,174 --> 00:01:39,096 แม้ว่ามันจะไม่เคยถูกทดสอบจริง ๆ 29 00:01:39,096 --> 00:01:43,865 โปรแกรมแรกที่มีการกล่าวอ้างว่า ประสบความสำเร็จ มีชื่อว่า อิไลซา (ELIZA) 30 00:01:43,865 --> 00:01:46,412 ด้วยข้อความที่ค่อนข้างสั้นและง่าย 31 00:01:46,412 --> 00:01:50,434 มันสามารถที่จะทำให้คนหลายคนเข้าใจผิด โดยเลียนแบบนักจิตวิทยา 32 00:01:50,434 --> 00:01:52,395 คือทำให้พวกเขาพูดมากขึ้น 33 00:01:52,395 --> 00:01:55,905 และสะท้อนคำถามของพวกเขา ให้ย้อนกับไปหาตัวพวกเขา 34 00:01:55,905 --> 00:01:59,412 อีกหนึ่งข้อความ PARRY ใช้วิธีการที่ตรงข้ามกัน 35 00:01:59,412 --> 00:02:02,213 โดยเลียนแบบผู้ป่วยจิตเภทที่หวาดระแวง 36 00:02:02,213 --> 00:02:07,939 ผู้ที่คอยกำกับการสนทนา ให้กลับมายังหัวข้อที่เขาหมกมุ่น 37 00:02:07,939 --> 00:02:12,803 ความสำเร็จของพวกมันในการหลอกคน บ่งบอกถึงจุดอ่อนหนึ่งที่สำคัญของการทดสอบนี้ 38 00:02:12,803 --> 00:02:17,433 โดยทั่วไปคนมักจะให้คุณสมบัติของอัฉริยภาพ กับสิ่งต่าง ๆ มากมาย 39 00:02:17,433 --> 00:02:21,076 ที่อันที่จริงแล้วไม่ได้มีอัฉริยภาพ 40 00:02:21,076 --> 00:02:24,289 ไม่ว่าอย่างไรก็ดี การแข่งขันประจำปี อย่าง ลอบเนอร์ ไพรซ์ (Loebner Prize) 41 00:02:24,289 --> 00:02:26,009 ได้ทำให้การทดสอบเป็นทางการมากขึ้น 42 00:02:26,009 --> 00:02:28,155 โดยทำให้กรรมการรู้ตัวก่อนการทดสอบ 43 00:02:28,155 --> 00:02:32,019 ว่าคู่สนทนาบางคนของพวกเขา เป็นจักรกล 44 00:02:32,019 --> 00:02:33,920 แต่ในขณะที่คุณภาพได้รับการปรับปรุงพัฒนา 45 00:02:33,920 --> 00:02:39,096 โปรแกรมหุ่นยนต์สนทนาบางโปรแกรม ได้ใช้แนวทางเดียวกับ ELIZA และ PARRY 46 00:02:39,096 --> 00:02:41,132 แคทรีน ผู้ชนะประจำปี ค.ศ. 1997 47 00:02:41,132 --> 00:02:45,213 สามารถมีสมาธิจดจ่อได้อย่างน่าทึ่ง และมีการสนทนาที่มีอัฉริยภาพ 48 00:02:45,213 --> 00:02:49,175 แต่ส่วนใหญ่จะเป็นตอนที่ กรรมการพูดเรื่องบิล คลินตัน 49 00:02:49,175 --> 00:02:51,813 และผู้ชนะล่าสุด ยูจีน กอสแมน 50 00:02:51,813 --> 00:02:55,549 ได้ให้บุคลิกของเด็กชายชาวยูเครน อายุ 13 ปี 51 00:02:55,549 --> 00:02:59,570 กรรมการก็เลยตีความคำพูดที่ไม่มีเหตุผล และไวยากรณ์ที่ตะกุกตะกัก 52 00:02:59,570 --> 00:03:02,916 ว่าเป็นอุปสรรคทางภาษาและวัฒนธรรม 53 00:03:02,916 --> 00:03:07,135 ในขณะเดียวกัน โปรแกรมอื่น ๆ อย่าง เคลเวอร์บอท ได้ใช้วิธีการอื่น 54 00:03:07,135 --> 00:03:11,740 โดยวิเคราะห์ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ในเชิงสถิติ ของการสนทนาจริง ๆ 55 00:03:11,740 --> 00:03:14,281 เพื่อกำหนดการตอบสนองที่ดีที่สุด 56 00:03:14,281 --> 00:03:17,530 บางโปรแกรมยังเก็บความทรงจำ ของการสนทนาครั้งก่อน ๆ เอาไว้ 57 00:03:17,530 --> 00:03:20,915 เพื่อที่จะพัฒนาปรับปรุงมันในครั้งต่อไป 58 00:03:20,915 --> 00:03:25,066 แต่ในขณะที่แต่ละตัวคำตอบของเคลเวอร์บอท ฟังดูคล้ายมนุษย์มาก 59 00:03:25,066 --> 00:03:27,092 มันขาดบุคลิกที่มีความสม่ำเสมอ 60 00:03:27,092 --> 00:03:30,245 และการที่มันไม่สามารถ จะประมวลผลเรื่องใหม่ ๆ ได้ 61 00:03:30,245 --> 00:03:32,858 เป็นการเผยไต๋หมดเปลือก 62 00:03:32,858 --> 00:03:36,112 ใครก็ตามที่อยู่ในช่วงเวลาของทัวริง จะไปคาดว่าคอมพิวเตอร์ในทุกวันนี้ 63 00:03:36,112 --> 00:03:38,201 จะสามารถควบคุมยานอวกาศ 64 00:03:38,201 --> 00:03:40,518 ทำการผ่าตัดที่ซับซ้อน 65 00:03:40,518 --> 00:03:42,807 และแก้ไขสมการได้มากมาย 66 00:03:42,807 --> 00:03:46,310 แต่แค่คุยเรื่องง่าย ๆ ก็ยังตะกุกตะกัก 67 00:03:46,310 --> 00:03:49,819 กลายเป็นว่าภาษาของมนุษย์ เป็นปรากฏการณ์ซับซ้อนที่น่าทึ่ง 68 00:03:49,819 --> 00:03:53,524 ที่ไม่สามารถจัดเก็บได้ โดยพจนานุกรมที่ใหญ่ที่สุด 69 00:03:53,524 --> 00:03:57,993 โปรแกรมหุ่นยนต์สนทนาอาจจนด้วยเกล้า ด้วยคำใช้เอื้อนเอ่ยอย่าง "อืม" 70 00:03:57,993 --> 00:04:00,415 หรือคำถามที่ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง 71 00:04:00,415 --> 00:04:02,315 และประโยคสนทนาธรรมดา ๆ 72 00:04:02,315 --> 00:04:05,595 อย่าง "ฉันเอาน้ำผลไม้ออกมาจากตู้เย็น แล้วให้กับเขาไป 73 00:04:05,595 --> 00:04:07,406 แต่ลืมตรวจสอบวันที่" 74 00:04:07,406 --> 00:04:12,872 ต้องการความรู้พื้นฐานค่อนข้างมาก และไหวพริบในการตีความ 75 00:04:12,872 --> 00:04:15,503 กลายเป็นว่าการจำลองการสนทนาของมนุษย์ 76 00:04:15,503 --> 00:04:19,112 ต้องใช้มากกว่าการเพิ่มความจำ และประสิทธิภาพในการประมวลผล 77 00:04:19,112 --> 00:04:21,623 และเมื่อเรายิ่งเข้าใกล้กับเป้าหมายของทัวริง 78 00:04:21,623 --> 00:04:26,483 เราอาจจะต้องเผชิญหน้ากับคำถามสำคัญ เกี่ยวกับสติสัมปชัญญะในท้ายที่สุด