1 00:00:06,966 --> 00:00:08,830 เราทุกคนรู้จักไดโนเสาร์ 2 00:00:08,830 --> 00:00:10,714 ที่เคยครองโลกใบนี้ 3 00:00:10,714 --> 00:00:12,966 แต่หลังไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปแล้ว 4 00:00:12,966 --> 00:00:15,380 มีสัตว์ขนาดใหญ่หรือเมกะเฟานา (megafauna) 5 00:00:15,380 --> 00:00:17,964 อาศัยอยู่ทุกทวีป 6 00:00:17,964 --> 00:00:21,843 ในทวีปอเมริกา สลอธบกที่มีขนาดเท่าช้าง 7 00:00:21,843 --> 00:00:24,216 โค่นต้นไม้ด้วยกรงเล็บของมัน 8 00:00:24,216 --> 00:00:26,799 เสือเขี้ยวดาบขนาดเท่าหมีสีน้ำตาล 9 00:00:26,799 --> 00:00:28,266 ออกล่าเป็นฝูง 10 00:00:28,266 --> 00:00:30,300 แต่พวกมันก็ไม่อาจเทียบได้กับหมีหน้าสั้น 11 00:00:30,300 --> 00:00:33,216 ที่เมื่อยืนสองขาแล้วจะมีความสูงสิบสามฟุต 12 00:00:33,216 --> 00:00:35,131 และน่าจะสามารถไล่ตะเพิดเสือเขี้ยวดาบ 13 00:00:35,131 --> 00:00:36,690 ให้ห่างจากเหยื่อของมัน 14 00:00:36,690 --> 00:00:39,610 อีกยังมีตัวนิ่มที่มีขนาดเท่ากับรถคันย่อม ๆ 15 00:00:39,610 --> 00:00:41,131 บีเวอร์ยาวแปดฟุต 16 00:00:41,131 --> 00:00:44,324 และนกที่ปีกกว้าง 26 ฟุต 17 00:00:44,324 --> 00:00:46,909 แทบทุกมุมโลก เมกะเฟานา 18 00:00:46,909 --> 00:00:50,381 ถูกทำให้สูญพันธุ์ ส่วนใหญ่เป็นเพราะการล่าโดยมนุษย์ 19 00:00:50,381 --> 00:00:54,298 แต่ยังมีบางสายพันธุ์ที่ยังมีชีวิตและ อาศัยอยู่ในทวีปแอฟริกาและเอเชีย 20 00:00:54,298 --> 00:00:59,005 ในสถานที่อื่น ๆ เรายังเห็นมรดกที่ สัตว์เหล่านี้ทิ้งไว้ 21 00:00:59,005 --> 00:01:00,882 ต้นไม้ส่วนใหญ่งอกใหม่ได้ 22 00:01:00,882 --> 00:01:02,547 เมื่อลำต้นถูกโค่น 23 00:01:02,547 --> 00:01:04,965 เพื่อเป็นการตอบสนอง ต่อเปลือกไม้ที่สูญเสียไปมาก 24 00:01:04,965 --> 00:01:07,798 และเพื่อให้รอดจากการถูกผ่า บิด หรือเหยียบย่ำ 25 00:01:07,798 --> 00:01:12,132 ส่วนหนึ่งก็เพราะพวกมันมีวิวัฒนาการ เพื่อให้รอดจากเงื้อมมือของช้าง 26 00:01:12,132 --> 00:01:14,632 พรองฮอร์นอเมริกันวิ่งได้เร็วมาก 27 00:01:14,632 --> 00:01:17,799 เพราะมันวิวัฒนาการมาเพื่อหนีชีตาห์อเมริกัน 28 00:01:17,799 --> 00:01:21,029 สัตว์ที่รอดชีวิต อาศัยในระบบนิเวศโบราณ 29 00:01:21,029 --> 00:01:25,215 พวกมันเคยปรับตัวให้พ้นภัย จากสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว 30 00:01:25,215 --> 00:01:28,381 ทุกวันนี้ มันอาจเป็นไปได้ ที่เราอาจปลุกผีเหล่านั้นให้ฟื้นคืนชีพ 31 00:01:28,381 --> 00:01:31,163 นำสัตว์ที่สูญพันธุ์เหล่านี้กับมาโดยใช้ยีน 32 00:01:31,163 --> 00:01:33,216 เช่น นักวิทยาศาสตร์ได้วิจัย 33 00:01:33,216 --> 00:01:36,716 การโคลนช้างแมมมอธจากซากแช่แข็ง 34 00:01:36,716 --> 00:01:38,466 แต่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ 35 00:01:38,466 --> 00:01:41,340 เราก็ยังสามารถฟื้นระบบนิเวศหลาย ๆ แห่ง 36 00:01:41,340 --> 00:01:43,217 ที่สูญหายไปแล้วได้ 37 00:01:43,217 --> 00:01:47,095 อย่างไรน่ะหรือ ก็ด้วยการใช้ไร่นาที่ถูกทิ้งร้างไงล่ะ 38 00:01:47,095 --> 00:01:49,133 เมื่อตลาดอาหารโยงใยทั่วโลก 39 00:01:49,133 --> 00:01:51,966 พื้นที่แห้งแล้งไม่สามารถถูกใช้งาน ได้ดีเท่ากับที่อื่น ๆ 40 00:01:51,966 --> 00:01:54,186 ชาวนาในที่แล้งไม่อาจต่อกร 41 00:01:54,186 --> 00:01:57,382 กับคนที่ปลูกพืชไร่บนพื้นที่ที่ดินดีกว่าได้ 42 00:01:57,382 --> 00:02:01,360 ด้วยเหตุนี้ ไร่นาจึงเริ่มหดหายในหลายพื้นที่ 43 00:02:01,360 --> 00:02:03,988 และต้นไม้ก็เริ่มหวนคืนกลับมา 44 00:02:03,988 --> 00:02:07,116 การประมาณการณ์หนึ่งกล่าวว่า พื้นที่สองในสามของสหรัฐอเมริกา 45 00:02:07,116 --> 00:02:09,827 ที่เคยเป็นป่าและถูกถางเพื่อทำไร่ 46 00:02:09,827 --> 00:02:11,632 จะกลับมาเป็นป่าอีกครั้ง 47 00:02:11,632 --> 00:02:13,832 อีกการประมาณการณ์หนึ่งกล่าวว่า ภายในปี ค.ศ. 2030 48 00:02:13,832 --> 00:02:16,166 พื้นที่ในยุโรปขนาดเท่ากับประเทศโปแลนด์ 49 00:02:16,166 --> 00:02:18,299 จะถูกชาวนาทิ้งให้รกร้าง 50 00:02:18,299 --> 00:02:20,670 ฉะนั้น ถึงแม้ว่าเราจะใช้ดีเอ็นเอฟื้นคืนชีพ 51 00:02:20,670 --> 00:02:23,173 สลอธบกและตัวนิ่มยักษ์ไม่ได้ 52 00:02:23,173 --> 00:02:25,509 แต่เราสามารถนำหมี หมาป่า สิงโตภูเขา 53 00:02:25,509 --> 00:02:27,466 แมวลิงซ์ กวางมูส และควายไบสัน 54 00:02:27,466 --> 00:02:29,382 กลับสู่ที่ที่มันเคยอาศัยได้ 55 00:02:29,382 --> 00:02:32,019 สัตว์บางสายพันธุ์เหล่านี้สามารถเปลี่ยน สภาพแวดล้อมรอบ ๆ พวกมัน 56 00:02:32,019 --> 00:02:35,518 ซึ่งเป็นการสร้างสภาวะ ที่ทำให้สายพันธุ์อื่นเติบโตได้ 57 00:02:35,518 --> 00:02:37,049 เมื่อหมาป่าถูกนำกลับมา 58 00:02:37,049 --> 00:02:39,938 สู่อุทยานแห่งชาติเยลโล่ว์สโตน ในปี ค.ศ. 1995 59 00:02:39,938 --> 00:02:42,382 พวกมันพลิกโฉมระบบนิเวศอย่างรวดเร็ว 60 00:02:42,382 --> 00:02:44,987 ที่ใดที่หมาป่าลดประชากรกวาง ที่หนาแน่นเกินไป 61 00:02:44,987 --> 00:02:47,071 พืชพรรณก็เริ่มฟื้นฟูกลับมา 62 00:02:47,071 --> 00:02:51,299 ต้นไม้บางต้นสูงขึ้นห้าเท่าในเวลาแค่หกปี 63 00:02:51,299 --> 00:02:54,632 เมื่อป่าฟื้นคืนกลับมา นกร้องเพลงก็กลับมาเช่นกัน 64 00:02:54,632 --> 00:02:57,706 บีเวอร์ที่กินต้นไม้ก็เพิ่มจำนวนขึ้นในแม่น้ำ 65 00:02:57,706 --> 00:02:59,582 และเขื่อนที่มันสร้างก็เป็นบ้าน 66 00:02:59,582 --> 00:03:04,049 ให้กับตัวนาก หนูมัสก์แรท เป็ด กบ และปลา 67 00:03:04,049 --> 00:03:06,630 หมาป่ายังฆ่าไคโยตี ซึ่งทำให้กระต่าย 68 00:03:06,630 --> 00:03:08,426 และหนูเพิ่มจำนวนขึ้น 69 00:03:08,426 --> 00:03:11,011 เป็นอาหารแก่เหยี่ยว วีเซิล 70 00:03:11,011 --> 00:03:12,930 จิ้งจอก และแบดเจอร์ 71 00:03:12,930 --> 00:03:15,766 ส่วนอินทรีหัวล้านและกากินซาก 72 00:03:15,766 --> 00:03:17,603 ที่หมาป่าเหลือทิ้งไว้เป็นอาหาร 73 00:03:17,603 --> 00:03:19,632 เช่นเดียวกับหมี ที่กินเบอร์รี่ 74 00:03:19,632 --> 00:03:21,966 จากพุ่มไม้ที่หวนกลับมา 75 00:03:21,966 --> 00:03:23,966 จำนวนควายไบสันก็เพิ่มขึ้น 76 00:03:23,966 --> 00:03:26,153 เมื่อพืชที่เป็นอาหารของพวกมัน ถูกทำให้ฟื้นคืนกลับมา 77 00:03:26,153 --> 00:03:29,549 หมาป่าพลิกโฉมแทบทุกสิ่ง 78 00:03:29,549 --> 00:03:32,382 นี่คือตัวอย่างของลำดับการบริโภค 79 00:03:32,382 --> 00:03:34,410 หรือการเปลี่ยนแปลงที่ยอดโซ่อาหาร 80 00:03:34,410 --> 00:03:36,799 ที่ส่งผลกระทบตกทอดลงมา ถึงส่วนล่างของห่วงโซ่อาหาร 81 00:03:36,799 --> 00:03:38,466 และส่งผลต่อทุกระดับ 82 00:03:38,466 --> 00:03:41,295 การค้นพบลำดับการบริโภคที่แผ่ขยายออกไป 83 00:03:41,295 --> 00:03:44,085 อาจเป็นหนึ่งในการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ ที่น่าตื่นเต้นที่สุด 84 00:03:44,085 --> 00:03:45,920 ในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา 85 00:03:45,920 --> 00:03:48,131 เพราะมันทำให้เรารู้ว่า ระบบนิเวศที่สูญเสีย 86 00:03:48,131 --> 00:03:50,633 สิ่งมีชีวิตใหญ่ เพียงแค่หนึ่งหรือสองสายพันธุ์ 87 00:03:50,633 --> 00:03:53,215 อาจมีลักษณะที่ต่างไปโดยสิ้นเชิง 88 00:03:53,215 --> 00:03:54,931 จากระบบนิเวศที่ยังมีพวกมันอยู่ 89 00:03:54,931 --> 00:03:56,851 ทั่วโลกจึงมีกระแสใหม่ 90 00:03:56,851 --> 00:03:59,215 เพื่อเร่งการฟื้นฟูธรรมชาติ 91 00:03:59,215 --> 00:04:01,716 ด้วยกระบวนการที่เรียกว่า การคืนสัตว์สู่ป่า 92 00:04:01,716 --> 00:04:04,523 อันหมายถึงการแก้ไขความเสียหาย ที่เราสร้างเอาไว้ 93 00:04:04,523 --> 00:04:07,049 ด้วยการคืนสายพันธุ์ ที่ถูกขับออกจากพื้นที่ 94 00:04:07,049 --> 00:04:08,737 แล้วถอยหลังออกมา 95 00:04:08,737 --> 00:04:11,882 ไม่ใช่การพยายาม สร้างระบบนิเวศในอุดมคติ 96 00:04:11,882 --> 00:04:15,243 หรือสร้างท้องทุ่ง ป่าฝน หรือแนวปะการัง 97 00:04:15,243 --> 00:04:17,786 การคืนสัตว์สู่ป่าคือการคืนสายพันธุ์ 98 00:04:17,786 --> 00:04:19,966 ที่ขับเคลื่อนกระบวนการพลวัต 99 00:04:19,966 --> 00:04:22,337 แล้วปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ 100 00:04:22,337 --> 00:04:25,134 แต่ที่สำคัญคือต้องไม่ใช้การคืนสัตว์สู่ป่า 101 00:04:25,134 --> 00:04:27,967 เป็นข้ออ้างในการขับไล่ผู้คนออกจากพื้นที่ 102 00:04:27,967 --> 00:04:29,716 และมันควรจะเกิดก็ต่อเมื่อคนในพื้นที่ 103 00:04:29,716 --> 00:04:32,548 เห็นชอบและเต็มใจเท่านั้น 104 00:04:32,548 --> 00:04:35,015 ลองจินตนาการว่าคุณกำลังยืน อยู่บนหน้าผาในอังกฤษ 105 00:04:35,015 --> 00:04:38,049 ดูวาฬสเปิร์มไล่ฝูงปลาแฮร์ริง 106 00:04:38,049 --> 00:04:40,216 อย่างที่มันเคยทำในบริเวณ ที่ไม่ไกลจากฝั่ง 107 00:04:40,216 --> 00:04:41,881 จนถึงศตวรรษที่ 18 108 00:04:41,881 --> 00:04:43,549 ด้วยการสร้างพื้นที่คุ้มครองทางทะเล 109 00:04:43,549 --> 00:04:45,382 ซึ่งห้ามการทำประมงเชิงพาณิชย์ 110 00:04:45,382 --> 00:04:46,900 ภาพแบบนี้ก็หวนคืนกลับมาอีกครั้ง 111 00:04:46,900 --> 00:04:48,984 จินตนาการถึงทุ่งเซเรนเกติในยุโรป 112 00:04:48,984 --> 00:04:51,322 ที่เต็มไปด้วยสัตว์ที่เคยอาศัยอยู่ 113 00:04:51,322 --> 00:04:54,947 ทั้งฮิปโป แรด ช้าง ไฮยีนา และสิงโต 114 00:04:54,947 --> 00:04:57,132 นอกจากสัตว์และพืชที่ถูกฟื้นฟูกลับมาแล้ว 115 00:04:57,132 --> 00:05:00,163 การคืนสัตว์สู่ป่านำอีกสิ่งหนึ่งกลับมาด้วย 116 00:05:00,163 --> 00:05:02,882 นั่นก็คือสายพันธุ์หายากนามว่า ความหวัง 117 00:05:02,882 --> 00:05:05,001 มันบอกให้เรารู้ว่าการเปลี่ยนแปลงทางนิเวศ 118 00:05:05,001 --> 00:05:07,921 ไม่จำเป็นต้องดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน 119 00:05:07,921 --> 00:05:11,633 ฤดูใบไม้ผลิที่เงียบสงัดอาจตามมา ด้วยฤดูร้อนอันโลดโผนก็เป็นได้