WEBVTT 00:00:03.034 --> 00:00:06.541 ผมเติบโตมากับคู่แฝดเหมือนของผม 00:00:06.541 --> 00:00:09.708 ซึ่งเป็นพี่ชายที่ผมรักมาก 00:00:09.708 --> 00:00:14.115 การที่คุณมีคู่แฝด จะทำให้คุณเชี่ยวชาญ 00:00:14.115 --> 00:00:16.730 ว่า มีการลำเอียงเกิดขึ้นเมื่อไหร่ 00:00:16.730 --> 00:00:22.500 เช่น ถ้าคู่แฝดผมได้คุ้กกี้ที่ ใหญ่กว่าผมนิดนึง ผมก็จะมีคำถาม 00:00:22.500 --> 00:00:26.920 ทั้งที่จริงๆ ผมก็ไม่ได้หิวอะไรนัก 00:00:26.929 --> 00:00:28.955 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:00:28.955 --> 00:00:34.403 เมื่อผมได้เป็นนักจิตวิทยา ผมได้เห็นความลำเอียงในรูปแบบต่างออกไป 00:00:34.403 --> 00:00:40.283 นั่นคือ เราให้ความสำคัญกับร่างกายเรา มากกว่าจิตใจของเราเท่าไหร่ 00:00:40.283 --> 00:00:46.340 ผมใช้เวลา 9 ปีในมหาวิทยาลัย เพื่อที่จะได้ปริญญาเอกด้านจิตวิทยา 00:00:46.340 --> 00:00:50.760 ผมบอกคุณไม่ได้หรอกว่ามีกี่คน ที่ดูนามบัตรของผมแล้วเอ่ยว่า 00:00:50.768 --> 00:00:55.304 "อ่อ นักจิตวิทยา.... ไม่ใช่หมอจริง ๆ นี่" 00:00:55.304 --> 00:00:58.781 เหมือนกับที่เขียนบนนามบัตรผมหละ (นามบัตรเขียน : นักจิตวิทยา ไม่ใช่หมอ) 00:00:58.781 --> 00:01:03.372 (เสียงหัวเราะ) 00:01:03.372 --> 00:01:08.935 ผมเห็นความลำเอียงที่เราให้กับร่างกาย มากกว่าจิตใจ ทุกที่เลยละ NOTE Paragraph 00:01:09.535 --> 00:01:11.409 ผมเพิ่งไปแวะบ้านเพื่อนมา 00:01:11.409 --> 00:01:14.209 และ ลูกห้าขวบของเขา กำลังจะไปนอน 00:01:14.209 --> 00:01:17.982 ลูกเขากำลังยืนบนม้านั่งหน้าอ่างล้างมือ แปรงฟันอยู่ 00:01:17.982 --> 00:01:21.661 ตอนที่เขาตก แล้วขาของเขาถลอก กับม้านั่งที่เขาตกลงมา 00:01:21.661 --> 00:01:24.397 เขาร้องไห้ประมาณนาทีนึง แต่ก็กลับมายืนใหม่ 00:01:24.397 --> 00:01:31.543 บนม้านั่ง และยื่นมือไปหากล่องพยาบาลเพื่อ เอาพลาสเตอร์มาปิดแผล 00:01:31.543 --> 00:01:35.392 เด็กคนนี้ผูกเชือกรองเท้าเองแทบจะยังไม่ได้ 00:01:35.392 --> 00:01:39.590 แต่เขารู้ว่าต้องปิดแผล เพื่อไม่ให้ติดเชื้อ 00:01:39.590 --> 00:01:43.425 และ รู้ด้วยว่าคุณต้องแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง เพื่อรักษาฟันของตัวเอง 00:01:43.425 --> 00:01:46.369 พวกเราทุกคนรู้ว่าควรดูแลร่างกายเราอย่างไร 00:01:46.369 --> 00:01:48.908 เช่น จะดูแลรักษาฟันตัวเองอย่างไร ใช่ไหม? 00:01:48.908 --> 00:01:52.998 เรารู้เรื่องนี้ตั้งแต่เราห้าขวบเลยด้วยซ้ำ 00:01:52.998 --> 00:01:57.646 แต่ เรารู้หรือปล่าวว่าเราจะดูแล สุขภาพจิตของเราอย่างไร? 00:01:57.646 --> 00:01:59.778 เราไม่รู้เลย 00:01:59.778 --> 00:02:03.568 แล้วเราสอนอะไรเด็ก ๆ บ้าง ให้ดูแลสุขอนามัยทางอารมณ์? 00:02:04.621 --> 00:02:06.257 ไม่มีเลย 00:02:06.767 --> 00:02:11.239 ทำไมเราใช้เวลาดูแลฟันของเรา 00:02:11.239 --> 00:02:14.385 มากกว่าเวลาดูแลจิตใจเราละ? 00:02:14.385 --> 00:02:18.682 ทำไมสุขภาพของร่างกายถึงสำคัญกว่า 00:02:18.682 --> 00:02:21.393 สุขภาพจิตของเราอย่างมากล่ะ? NOTE Paragraph 00:02:21.393 --> 00:02:26.719 คุณรู้ไหม? ..เราปล่อยแผลทางจิตใจเรา ทิ้งไว้บ่อยกว่าแผลของร่างกายเรา 00:02:26.719 --> 00:02:31.483 แผล เช่น ความผิดพลาด การโดนปฏิเสธ หรือ ความเหงา 00:02:31.483 --> 00:02:34.055 และ แผลเหล่านี้ยิ่งร้ายแรง ถ้าเราทิ้งไว้อย่างนั้น 00:02:34.055 --> 00:02:37.285 และ อาจมีผลกระทบอย่างมาก กับชีวิตเรา 00:02:37.285 --> 00:02:41.371 ถึงแม้จะมีวิธีที่มีการยืนยันทาง วิทยาศาสตร์มากมาย 00:02:41.371 --> 00:02:45.740 ที่ช่วยรักษาแผลทางจิตใจเหล่านี้ได้ 00:02:45.740 --> 00:02:47.132 แต่เราก็ไม่ใช้มัน 00:02:47.132 --> 00:02:50.434 เราไม่เคยรักษาจิตใจตัวเอง อย่างที่ควร 00:02:50.434 --> 00:02:54.947 "โอ้ คุณรู้สึกเศร้ามาใช่ไหม? เอามันออกไปสิ มันแค่อยู่ในหัวคุณนั่นแหละ" 00:02:54.947 --> 00:02:58.215 คุณลองจินตนาการสิครับ ถ้ามีคนขาหักเข้ามา 00:02:58.215 --> 00:03:01.479 "โอ้ แค่เดินให้มันออกไปสิ มันแค่อยู่บนขาคุณนั่นแหละ" 00:03:01.479 --> 00:03:03.448 (เสียงหัวเราะ) 00:03:03.448 --> 00:03:09.101 ถึงเวลาแล้วที่เราความลำเอียงระหว่าง ร่างกาย กับ จิตใจของเรา 00:03:09.101 --> 00:03:12.197 ถึงเวลาแล้วที่เราควรให้ความสำคัญเท่ากัน 00:03:12.197 --> 00:03:15.063 เหมือนคู่แฝด NOTE Paragraph 00:03:15.063 --> 00:03:18.709 นอกจากนั้น คู่แฝดของผมก็เป็นนักจิตวิทยาเหมือนกัน 00:03:18.709 --> 00:03:21.897 เขาก็ไม่ใช่หมอจริง ๆ เหมือนกัน 00:03:21.897 --> 00:03:23.649 (เสียงหัวเราะ) 00:03:23.649 --> 00:03:25.704 แต่เราไม่ได้เรียนด้วยกันนะครับ 00:03:25.704 --> 00:03:29.845 ที่จริงแล้วสิ่งที่ยากที่สุด ที่ผมเคยทำมาในชีวิต 00:03:29.845 --> 00:03:32.831 คือการย้ายข้ามฝั่งแอตแลนติก เพื่อมานิวยอร์ค 00:03:32.831 --> 00:03:35.817 เพื่อจะได้ปริญญาเอกด้านจิตวิทยา 00:03:35.817 --> 00:03:38.803 เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เราถูกแยกออกจากกัน 00:03:38.803 --> 00:03:42.295 ตอนแยกจากกัน เราทั้งคู่รู้สึกแย่มาก 00:03:42.295 --> 00:03:45.464 แต่ในขณะที่เขาอยู่กับครอบครัวและเพื่อน 00:03:45.464 --> 00:03:48.680 ผมอยู่คนเดียวในประเทศใหม่ 00:03:48.680 --> 00:03:50.146 เราคิดถึงกันมากๆ 00:03:50.146 --> 00:03:53.473 แต่ในตอนนั้นโทรศัพท์ข้ามประเทศ แพงเหลือเกิน 00:03:53.473 --> 00:03:57.799 และเงินที่เรามี ก็ใช้คุยกันได้แค่ 5 นาทีต่อสัปดาห์ 00:03:57.799 --> 00:04:00.403 ช่วงที่วันเกิดของเราใกล้เข้ามา 00:04:00.403 --> 00:04:02.840 เป็นครั้งแรกที่เราไม่ได้ใช้เวลาร่วมกัน 00:04:02.840 --> 00:04:05.629 อาทิตย์นั้น เราวางแผนจะใช้เงินเยอะเกินตัว เราจะคุยกัน 10 นาที 00:04:07.328 --> 00:04:10.839 ผมเดินวนไปมารอบห้อง รอเขาโทรมา 00:04:11.209 --> 00:04:17.692 รอแล้วรออีก แต่โทรศัพท์ก็ไม่ดังสักที 00:04:17.692 --> 00:04:20.167 คงเป็นเรื่องเวลาที่ต่างกัน ผมคิด 00:04:20.167 --> 00:04:22.808 "โอเค เขาอาจจะอยู่กับเพื่อน เขาคงโทรมาทีหลังละ" 00:04:22.808 --> 00:04:24.853 แต่ก็ไม่มีโทรศัพท์มาเลย 00:04:24.853 --> 00:04:27.038 เขาไม่ได้โทรมา 00:04:27.038 --> 00:04:32.023 แล้วผมก็เริ่มคิดว่าหลังจากที่ เราห่างกันมา 10 เดือน 00:04:32.023 --> 00:04:35.833 เขาไม่ได้คิดถึงผมแล้วเหมือนที่ผมคิดถึงเขา 00:04:35.833 --> 00:04:37.709 ผมคิดว่าเขาจะโทรมาตอนเช้า 00:04:37.709 --> 00:04:44.585 แต่ คืนนั้นเป็นคืนที่เศร้า และ ยาวนานที่สุดในชีวิตของผม 00:04:44.585 --> 00:04:46.862 ผมตื่นขึ้นมาเช้าวันถัดมา 00:04:46.862 --> 00:04:51.137 ผมมองไปที่โทรศัพท์ แล้วเพิ่งรู้ว่าตัวว่าผม เผลอไปเตะให้สายมันหลุด 00:04:51.137 --> 00:04:54.613 ตอนที่เดินไปเดินมาวันก่อน 00:04:54.613 --> 00:04:56.476 ผมรีบลุกจากเตียง 00:04:56.476 --> 00:04:59.633 วางหูโทรศัพท์กลับไปที่เครื่อง แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังทันที 00:04:59.633 --> 00:05:03.606 เป็นคู่แฝดผมอยู่ในสาย เขาโกรธมาก 00:05:03.606 --> 00:05:05.528 (เสียงหัวเราะ) 00:05:05.528 --> 00:05:08.968 มันก็เป็นคืนที่เศร้าและยาวนานที่สุด ของเขาเช่นกัน 00:05:08.968 --> 00:05:11.560 ผมพยายามอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาพูดว่า 00:05:11.560 --> 00:05:14.588 "เราไม่เข้าใจว่า ถ้านายเห็นว่าเราไม่โทรหา 00:05:14.588 --> 00:05:19.399 แล้วทำไมนายไม่โทรมาหาเราละ?" 00:05:19.399 --> 00:05:23.544 เขาพูดถูกนะ ทำไมผมไม่โทรหาเขา? 00:05:23.544 --> 00:05:26.587 วันนั้นผมไม่มีคำตอบ แต่วันนี้ผมได้คำตอบแล้ว 00:05:26.587 --> 00:05:31.642 คำตอบสั้นๆคำเดียวคือ : ความเหงา NOTE Paragraph 00:05:31.642 --> 00:05:35.926 ความเหงาทำให้เกิดบาดแผลลึกทางจิตใจ 00:05:35.926 --> 00:05:39.883 เปลี่ยนแปลงการรับรู้ของเรา ปั่นความคิดของเราปนกันไปหมด 00:05:39.883 --> 00:05:45.522 ให้เราเชื่อว่าคนรอบตัวใส่ใจเรา น้อยกว่าความเป็นจริง 00:05:45.522 --> 00:05:48.352 ทำให้เรากลัวที่จะเข้าหาพวกเขา 00:05:48.352 --> 00:05:51.802 เพราะฉะนั้นทำให้คุณเจอแต่ การปฏิเสธและเรื่องปวดใจ 00:05:51.802 --> 00:05:56.274 ในขณะที่ใจของคุณก็เจ็บปวดเกินทนอยู่แล้ว? 00:05:56.274 --> 00:05:59.538 ผมถูกความเหงาครอบงำไปในตอนนั้น 00:05:59.538 --> 00:06:04.039 แต่ถ้า ผมอยู่รายล้อมไปด้วยผู้คนทั้งวัน มันก็คงไม่เกิดขึ้นกับผม 00:06:04.039 --> 00:06:08.694 แต่ความเหงาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วแต่บุคคล 00:06:08.694 --> 00:06:11.539 มันขึ้นอยู่กับความรู้สึกของคุณเองว่า 00:06:11.539 --> 00:06:15.114 คุณถูกตัดขาดทางอารมณ์และ สังคมจากคนรอบข้างคุณหรือไม่? 00:06:15.114 --> 00:06:16.899 ซึ่งใช่สำหรับผมตอนนั้น 00:06:16.899 --> 00:06:23.363 มีงานวิจัยหลายชิ้นเกี่ยวกับความเหงา และทุกชิ้นล้วนน่ากลัว 00:06:23.363 --> 00:06:27.515 ความเหงาไม่ได้ทำให้คุณเป็นทุกข์นะ มันจะฆ่าคุณเลยละ 00:06:27.515 --> 00:06:28.933 ผมไม่ได้พูดเล่นนะ 00:06:28.933 --> 00:06:32.667 ภาวะเหงาเรื้อรังจะเพิ่ม โอกาสของการตายก่อนวัยอันควร 00:06:32.667 --> 00:06:36.658 ถึง 14 เปอร์เซนต์ 00:06:36.658 --> 00:06:40.681 ความเหงา ทำให้ความดันโลหิตสูง คลอเรสเตอรอลสูง 00:06:40.681 --> 00:06:44.557 ซ้ำยังไปกดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน 00:06:44.557 --> 00:06:48.808 ทำให้คุณอ่อนแอต่อความเจ็บป่วยและโรคภัย 00:06:48.808 --> 00:06:52.369 นักวิทยาศาสตร์ได้ข้อสรุปว่า 00:06:52.369 --> 00:06:55.990 การเหงาต่อเนื่องเป็นภัยต่อสุขภาพระยะยาว 00:06:55.990 --> 00:07:00.381 ไม่ต่างกับการสูบบุหรี่ 00:07:00.381 --> 00:07:05.033 ปัจจุบันข้างซองบุหรี่จะเขียนว่า "บุหรี่อาจฆ่าคุณได้" 00:07:05.033 --> 00:07:07.405 แต่ ความเหงาไม่มีการเตือนทั้งสิ้น 00:07:07.405 --> 00:07:11.907 และนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญว่า ทำไมเราถึงให้ความสำคัญกับสุขภาพร่างกาย 00:07:11.907 --> 00:07:15.310 มากกว่าสุขภาพทางจิตใจของเรา 00:07:15.310 --> 00:07:18.282 เพราะคุณไม่สามารถจะรักษาแผลทางใจได้ 00:07:18.282 --> 00:07:21.512 ถ้าคุณไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังมีแผลอยู่ (อย่าลืมสำรวจความเจ็บป่วยทางจิตใจ) 00:07:22.153 --> 00:07:24.944 ความเหงาไม่ใช่แผลทางจิตใจ เพียงประเภทเดียว 00:07:24.944 --> 00:07:28.412 ที่เปลี่ยนการรับรู้และทำให้เราไขว้เขว NOTE Paragraph 00:07:28.412 --> 00:07:31.818 ความล้มเหลวก็เช่นกัน 00:07:31.818 --> 00:07:34.000 ครั้งหนึ่ง ผมไปสถานเลี้ยงเด็กภาคกลางวัน 00:07:34.000 --> 00:07:39.204 ผมเห็นเด็กตัวเล็กๆสามคน กำลังเล่นของเล่นที่เหมือนกัน 3 ชิ้น 00:07:39.204 --> 00:07:43.904 ถ้าคุณเลื่อนปุ่มสีแดง จะมีหมาน่ารักโผล่ออกมา 00:07:43.905 --> 00:07:48.555 เด็กผู้หญิงคนนึงพยายามจะดึงปุ่มสีม่วง และก็ดันมันเข้าไป 00:07:48.555 --> 00:07:52.917 และ เธอก็นั่งเอนหลัง มองที่กล่อง ด้วยริมฝีปากสั่น 00:07:52.917 --> 00:07:56.104 เด็กชายข้างๆเธอเห็นเหตุการณ์ 00:07:56.104 --> 00:08:01.364 แล้วกลับมาที่กล่องตัวเอง แล้วก็ร้องไห้ใหญ่ ทั้งๆที่ยังไม่ได้แตะอะไรเลย 00:08:01.364 --> 00:08:04.607 ขณะเดียวกัน เด็กหญิงอีกคนกำลังพยายามทุกทาง 00:08:04.607 --> 00:08:06.415 จนกระทั่งเธอเลื่อนปุ่มสีแดง 00:08:06.415 --> 00:08:10.532 หมาที่น่ารักก็ออกมา และ เธอก็ร้องด้วยความยินดี! 00:08:10.532 --> 00:08:13.925 เพราะฉะนั้นถึงแม้เด็กทั้งสามจะเล่น ของเล่นที่เหมือนกัน 00:08:13.925 --> 00:08:17.957 แต่กลับมีปฏิกิริยาต่างกันต่อความล้มเหลว 00:08:17.957 --> 00:08:22.278 สองคนแรกมีความสามารถจะเลื่อนปุ่มสีแดง อยู่แล้วแหละครับ 00:08:22.278 --> 00:08:25.590 มีอย่างเดียวเท่านั้นละครับที่หยุดไม่ให้ เขาประสบความสำเร็จ 00:08:25.590 --> 00:08:29.920 นั่นก็คือว่าจิตใจของพวกเขาตกหลุมพราง ว่าพวกเขาทำไม่ได้ 00:08:29.920 --> 00:08:33.970 ผู้ใหญ่เองก็ตกหลุมนี้เหมือนกันตลอดเวลา 00:08:33.970 --> 00:08:40.185 ซึ่งแท้จริงแล้ว พวกเรามีความรู้สึกพื้นฐาน และความเชื่อที่พร้อมจะผุดขึ้นมา 00:08:40.380 --> 00:08:43.585 เมื่อเราเผชิญความผิดหวังและย่อท้อ NOTE Paragraph 00:08:43.585 --> 00:08:46.704 คุณรู้สึกตัวไหมว่าคุณตอบสนองกับ ความล้มเหลวอย่างไร? 00:08:46.704 --> 00:08:48.033 คุณจำเป็นต้องรู้สึกนะครับ 00:08:48.033 --> 00:08:52.314 เพราะถ้าจิตใจของคุณพยายามกล่อมว่า คุณไม่สามารถทำอะไรบางอย่างได้ 00:08:52.314 --> 00:08:53.963 และ คุณเชื่อมัน 00:08:53.963 --> 00:08:57.261 คุณก็จะเหมือนเด็กสองคน คุณจะรู้สึกทำอะไรไม่ได้เลย 00:08:57.261 --> 00:09:00.859 และ คุณก็จะหยุดพยายาม หรือหนักกว่านั้นก็คือไม่พยายามแต่แรก 00:09:00.859 --> 00:09:03.967 จากนั้นคุณจะยิ่งเชื่อว่า คุณประสบความสำเร็จไม่ได้ 00:09:03.967 --> 00:09:08.585 คุณเห็นไหม ว่าทำไมหลายคนถึงทำงานได้ ต่ำกว่าความสามารถที่แท้จริงของเขา 00:09:08.585 --> 00:09:12.259 เพราะ เมื่อทุกอย่างผ่านไป บางที แค่ความล้มเหลวอันใดอันหนึ่ง 00:09:12.259 --> 00:09:15.889 ก็สามารถทำให้เขาเชื่อว่าเขาไม่สามารถ ประสบความสำเร็จและเชื่ออย่างนั้น NOTE Paragraph 00:09:15.893 --> 00:09:21.966 เมื่อเราเชื่อไปแล้วว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งยาก มันก็ยากที่จะเปลี่ยนความคิดคืน 00:09:21.966 --> 00:09:26.031 ผมเรียนรู้บทเรียนบนความยากลำบาก ช่วงที่ผมเป็นวัยรุ่นกับคู่แฝดของผม 00:09:26.031 --> 00:09:29.390 เราขับรถกับเพื่อนบนถนนที่มืดตอนกลางคืน 00:09:29.390 --> 00:09:30.932 ตอนนั้นตำรวจหยุดรถของเรา 00:09:30.932 --> 00:09:34.344 เพิ่งมีการปล้นในย่านนั้น และ เขากำลังตามหาผู้ต้องสงสัย 00:09:34.344 --> 00:09:38.287 เจ้าหน้าเข้ามาที่รถของเราและ เขาก็เอาไฟฉายส่องมาที่คนขับ 00:09:38.287 --> 00:09:42.571 แล้วก็เลื่อนมาที่พี่ชายของผมด้านหน้า แล้วก็มาที่ผม 00:09:42.571 --> 00:09:44.774 ทันใดนั้นตาเขาก็โต และพูดว่า 00:09:44.774 --> 00:09:46.977 "ผมเคยเห็นคุณที่ไหนมาก่อนนะ?" 00:09:46.977 --> 00:09:49.250 (เสียงหัวเราะ) 00:09:50.643 --> 00:09:53.796 ผมก็ตอบว่า "ก็พี่ชายที่นั่งเบาะหน้าไงครับ" 00:09:53.796 --> 00:09:56.307 (เสียงหัวเราะ) 00:09:56.307 --> 00:09:58.813 แต่ คำพูดนั้นเหมือนว่าไม่สมเหตุสมผลกับเขา 00:09:58.813 --> 00:10:01.137 เขาเลยคิดว่าผมกำลังเมายาอยู่ 00:10:01.137 --> 00:10:02.271 (เสียงหัวเราะ) 00:10:02.271 --> 00:10:04.795 เขาลากผมออกมาจากรถ แล้วก็ค้นตัวผม 00:10:04.795 --> 00:10:06.800 พาผมเดินไปยังรถตำรวจ 00:10:06.800 --> 00:10:09.765 แล้ว ตอนที่เขาตรวจเสร็จแล้ว ว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิด 00:10:09.765 --> 00:10:14.231 ผมถึงมีโอกาสบอกเขาว่าผมมี คู่แฝดนั่งหน้ามาด้วย 00:10:14.231 --> 00:10:17.648 แต่ ถ้าแม้ตอนเรากำลังขับออกไป คุณก็จะเห็นใบหน้าของเขาว่า 00:10:17.648 --> 00:10:22.654 เขายังคงเชื่อว่าผมซ่อนสิ่งของบางอย่างไว้ NOTE Paragraph 00:10:22.655 --> 00:10:26.669 ความคิดของเรายากที่จะเปลี่ยน เมื่อเราเชื่อไปแล้ว 00:10:26.669 --> 00:10:31.431 ดังนั้นเป็นธรรมชาติที่คุณอาจรู้สึก เสียขวัญ พ่ายแพ้ เมื่อคุณล้มเหลว 00:10:31.431 --> 00:10:36.242 แต่คุณต้องไม่ปล่อยให้ตัวเองยอมรับว่า คุณไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ 00:10:36.242 --> 00:10:38.832 คุณจะต้องสู้กับความรู้สึกเหล่านั้น 00:10:38.832 --> 00:10:42.393 แล้วกลับมาควบคุมตัวเอง ให้อยู่เหนือเหตุการณ์ 00:10:42.393 --> 00:10:46.901 และ คุณจะต้องหยุดวงจรความรู้สึกลบ เหล่านี้ก่อนที่มันจะเริ่มต้น 00:10:48.191 --> 00:10:50.536 ความคิดและจิตใจของเรา 00:10:50.536 --> 00:10:53.641 ไม่ใช่เพื่อนที่ไว้ใจได้อย่างที่เราคิด 00:10:53.641 --> 00:10:56.366 มันเหมือนเพื่อนที่อารมณ์แปรปรวน 00:10:56.366 --> 00:11:01.811 ซึ่งอาจจะช่วยเหลือเราในนาทีแรก แล้วก็เปลี่ยนเป็นเลวร้ายในนาทีให้หลัง 00:11:01.811 --> 00:11:03.686 ผมเคยทำงานกับผู้หญิงคนนึง 00:11:03.686 --> 00:11:07.973 ที่แต่งงานกว่า 20 ปี แล้วเพิ่งหย่าด้วยสภาวะที่แย่มาก 00:11:07.973 --> 00:11:10.326 จนที่สุดก็พร้อมที่จะมีเดทครั้งแรก 00:11:10.326 --> 00:11:14.958 เธอเจอผู้ชายคนนึงผ่านออนไลน์ และ เขาก็ดูดี ประสบความสำเร็จ 00:11:14.958 --> 00:11:18.513 และที่สำคัญ เขาดูชอบเธอมาก 00:11:18.513 --> 00:11:21.584 เธอเลยตื่นเต้นมาก เธอไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ 00:11:21.584 --> 00:11:25.667 พวกเขาก็นัดพบกันที่ บาร์หรูแห่งหนึ่งในนิวยอร์ค 00:11:25.667 --> 00:11:29.238 สิบนาทีหลังจากพบกัน ผู้ชายกลับยืนขึ้นแล้วบอกว่า 00:11:29.238 --> 00:11:33.318 "ผมไม่สนใจ" แล้วก็เดินหนีไป 00:11:33.318 --> 00:11:37.572 การปฏิเสธนั้นเจ็บปวดมาก 00:11:37.572 --> 00:11:42.017 ผู้หญิงคนนั้นเจ็บปวดมาก เธอไปไหนไม่ได้ เธอทำได้แค่โทรหาเพื่อน 00:11:42.017 --> 00:11:46.749 นี่คือที่เพื่อนบอก: "แล้ว เธอคาดหวังอะไรละ? 00:11:46.749 --> 00:11:50.222 เธอมีสะโพกที่ใหญ่ เธอไม่มีอะไรที่น่าสนใจให้พูดถึง 00:11:50.222 --> 00:11:52.846 แล้วทำไมผู้ชายหล่อ ประสบความสำเร็จ จะมา 00:11:52.846 --> 00:11:56.930 ออกเดทกับคนขี้แพ้แบบเธอละ?" 00:11:56.930 --> 00:12:00.025 น่าตกใจครับ เพื่อนช่างโหดร้ายขนาดนี้เชียว? 00:12:00.025 --> 00:12:02.680 แต่คุณจะบอกว่ามันไม่ได้น่าตกใจเท่าไหร่ 00:12:02.680 --> 00:12:05.557 ถ้าผมบอกคุณว่า คนที่พูดนั้นไม่ใช่เพื่อน 00:12:05.557 --> 00:12:08.512 แต่เป็นสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูดกับตัวเอง 00:12:08.512 --> 00:12:13.010 และ นั่นเป็นบางอย่างที่เราทำ โดยเฉพาะหลังจากถูกปฏิเสธ 00:12:13.010 --> 00:12:16.557 เราจะเริ่มคิดถึง จุดที่เราทำผิด ข้อเสียของเรา 00:12:16.557 --> 00:12:18.791 เราน่าจะเป็นแบบนี้ เราไม่น่าจะเป็นแบบนี้ 00:12:18.791 --> 00:12:20.169 แล้วก็ต่อว่าตัวเอง 00:12:20.169 --> 00:12:23.529 มันอาจจะไม่ได้ร้ายแรง แต่พวกเราทำกันทุกคน 00:12:23.529 --> 00:12:28.380 ที่น่าสนใจคือเราทำแบบนี้ เพราะ ความมั่นใจตัวเองของเรากำลังสั่นคลอน 00:12:28.380 --> 00:12:31.340 แต่ทำไมเราต้องทำให้เสียหายมากกว่าเดิม? 00:12:31.340 --> 00:12:33.981 เราไม่เคยตั้งใจทำให้บาดแผลทางร่างกายเรา แย่ลง 00:12:33.981 --> 00:12:36.910 คุณไม่น่าจะมีรอยแผลบนแขน แล้วตัดสินใจว่า 00:12:36.910 --> 00:12:40.519 "ผมรู้ละ! ผมจะไปเอามีดมากรีดต่อ อยากรู้ว่าจะลึกได้แค่ไหน" NOTE Paragraph 00:12:40.519 --> 00:12:43.973 แต่เราทำแบบนี้กับบาดแผลทางจิตใจตลอดเวลา 00:12:43.973 --> 00:12:47.665 ทำไม? เพราะสุขอนามัยด้านจิตใจเราแย่ 00:12:47.665 --> 00:12:50.387 เพราะเราไม่ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของเรา 00:12:50.387 --> 00:12:55.199 เรารู้จากงานวิจัยเป็นสิบๆชิ้นว่า เมื่อความภูมิใจในตนเองลดลง 00:12:55.411 --> 00:12:57.923 คุณจะอ่อนแอต่อความเครียด และความกังวลมากขึ้น 00:12:57.923 --> 00:13:03.146 ความล้มเหลว การโดนปฏิเสธ ยิ่งทำให้เจ็บขึ้น และใช้เวลานานกว่าจะฟื้น 00:13:03.146 --> 00:13:06.325 เพราะฉะนั้น ถ้าคุณถูกปฏิเสธ สิ่งแรกที่คุณทำ 00:13:06.325 --> 00:13:12.554 คือเอาความมั่นใจคุณกลับมา ไม่ใช่ซ้ำเติมตัวเองให้จิตใจแหลกละเอียด 00:13:12.554 --> 00:13:15.459 ถ้าคุณมีความเจ็บปวดทางใจ 00:13:15.459 --> 00:13:21.572 ให้รางวัลตัวเองด้วยความเห็นใจ แบบที่คุณจะได้จากเพื่อนแท้ของคุณ 00:13:23.122 --> 00:13:27.558 คุณต้องจับให้ได้ว่าอะไรเป็นพฤติกรรมทางจิต ที่ไม่ดีของคุณ แล้วเปลี่ยนมัน 00:13:27.558 --> 00:13:32.228 สิ่งหนึ่งที่แย่ที่สุดและพบบ่อยที่สุดคือ การรำพึง 00:13:32.228 --> 00:13:34.989 การที่คุณรำพึง หมายถึง ครุ่นคิด 00:13:34.989 --> 00:13:39.360 เมื่อหัวหน้าคุณตะโกนใส่คุณ หรือ อาจารย์ ทำให้คุณรู้สึกโง่ในห้องเรียน 00:13:39.360 --> 00:13:41.551 หรือ เมื่อคุณโต้เถียงกับเพื่อน 00:13:41.551 --> 00:13:45.968 และ คุณไม่สามารถหยุดนึกถึงเรื่องเก่า เป็นเวลาหลายวัน 00:13:45.968 --> 00:13:47.937 หรือบางทีหลายสัปดาห์ 00:13:47.937 --> 00:13:53.645 การรำพึงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เราผิดหวัง จะกลายเป็นนิสัยได้ง่าย 00:13:53.645 --> 00:13:55.733 ซึ่งจะเสียหายมาก 00:13:55.733 --> 00:13:59.922 เพราะ ถ้าใช้เวลามากไปกับเรื่องเสียอารมณ์ และความคิดด้านลบ 00:13:59.922 --> 00:14:02.894 คุณจะพาตัวเองไปเสี่ยงอย่างมาก 00:14:02.894 --> 00:14:07.426 ต่อภาวะความเครียดสูง ติดเหล้า กินอาหารไม่ปกติ 00:14:07.426 --> 00:14:10.149 หรือ อาจเป็นโรคหัวใจ ก็ได้ NOTE Paragraph 00:14:10.149 --> 00:14:16.019 ปัญหาคือสิ่งเร้าที่ให้เกิดการรำพึงมัก เป็นสิ่งที่รุนแรงและสำคัญมาก 00:14:16.019 --> 00:14:18.429 ทำให้ยากที่จะหยุดพฤติกรรมนี้ 00:14:18.429 --> 00:14:21.801 ผมรู้ความจริงข้อนี้เพราะเมื่อไม่นานนี้ ประมาณปีเศษๆ 00:14:21.801 --> 00:14:24.350 ผมมีพฤติกรรมเหล่านี้เช่นเดียวกัน 00:14:24.350 --> 00:14:30.829 คุณรู้ไหม? พี่คู่แฝดของผมได้รับการวินิจฉัย ว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองขั้นที่ 3 00:14:30.829 --> 00:14:33.133 มะเร็งของเขาร้ายแรงมาก 00:14:33.133 --> 00:14:36.904 เขามีเนื้อร้ายที่มองเห็นได้เลยตามร่างกาย 00:14:36.904 --> 00:14:41.835 และเขาเริ่มเข้ารับการฉายรังสีบำบัด อย่างเข้มข้น 00:14:41.835 --> 00:14:46.497 ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า เขาต้องผ่านอะไรบ้าง 00:14:46.497 --> 00:14:49.732 อดคิดไม่ได้ว่า เขาจะทรมานแค่ไหน 00:14:49.732 --> 00:14:54.332 กระนั้น เขาก็ไม่เคยบ่นเลยสักครั้ง 00:14:54.332 --> 00:14:56.750 เขาก็ยังมีทัศนคติที่ดีแบบนี้ 00:14:56.750 --> 00:15:00.379 สุขภาพจิตของเขาน่าทึ่งมาก 00:15:00.379 --> 00:15:04.518 ผมมีสุขภาพกายที่ดี แต่สุขภาพจิตผมยับเยิน 00:15:04.518 --> 00:15:06.748 แต่ผมรู้ว่าจะทำอะไร 00:15:06.748 --> 00:15:10.910 การศึกษามากมายบอกเราว่า ขอแค่เพียงมีเรื่องดึงความสนใจเราแค่ 2 นาที 00:15:10.910 --> 00:15:13.968 ก็เพียงพอที่จะหลุดพ้นจากอารมณ์รำพึงได้ 00:15:13.968 --> 00:15:17.465 ทุกครั้งที่ผมกังวล เสียใจ หรือ มีความคิดแง่ลบ 00:15:17.465 --> 00:15:22.257 ผมจะบังคับตัวเองให้มีสมาธิอยู่ กับสิ่งอื่นๆ จนความรู้สึกแย่ๆผ่านไป 00:15:22.257 --> 00:15:26.603 และ ภายในหนึ่งสัปดาห์ มุมมองของผมทั้งหมดก็เปลี่ยนไป 00:15:26.603 --> 00:15:30.113 กลายเป็นมองในแง่ดีมากขึ้น มีหวังมากขึ้น 00:15:31.569 --> 00:15:35.624 เก้าสัปดาห์หลังจากที่เขาเริ่มรับรังสีคีโม พี่ชายของผมก็ไปตรวจเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ 00:15:35.624 --> 00:15:39.260 ผมอยู่ข้างๆเขาจนกระทั่ง เขาได้รับผลตรวจ 00:15:39.260 --> 00:15:42.497 เนื้อร้ายทั้งหมดได้หายไป 00:15:42.497 --> 00:15:45.114 เขายังต้องผ่านการรับรังสีคีโมอีก 3 ครั้ง 00:15:45.114 --> 00:15:47.731 แต่พวกเรารู้ว่าเขาจะกลับมาดีเหมือนเดิม 00:15:47.731 --> 00:15:51.979 นี่เป็นรูปที่ถ่ายเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน NOTE Paragraph 00:15:53.759 --> 00:15:56.847 ถ้าคุณทำอะไรสักอย่างเมื่อคุณเหงา 00:15:56.847 --> 00:16:00.225 ถ้าคุณเปลี่ยนการตอบสนองต่อความล้มเหลว 00:16:00.225 --> 00:16:03.157 ถ้าปกป้องความมั่นใจของตนเอง 00:16:03.157 --> 00:16:05.189 ถ้าคุณสู้กับความรู้สึกเชิงลบ 00:16:05.189 --> 00:16:07.887 คุณจะไม่ได้แค่รักษาแผลทางจิตใจ 00:16:07.887 --> 00:16:11.569 คุณจะสร้างความมั่นคงทางอารมณ์ คุณจะเติบโต 00:16:12.871 --> 00:16:16.794 หลายร้อยปีก่อน ผู้คนเริ่มดูแลสุขนามัยของตนเอง 00:16:16.794 --> 00:16:21.119 ทำให้อายุขัยคนเพิ่มขึ้นกว่า 50 เปอร์เซนต์ 00:16:21.119 --> 00:16:23.577 โดยใช้เวลาแค่ไม่กี่สิบปีเอง 00:16:23.577 --> 00:16:27.922 ผมเชื่อว่าคุณภาพชีวิตของเรา จะดีขึ้นได้อย่างมาก 00:16:27.922 --> 00:16:31.569 ถ้าเราเริ่มดูแลสุขอนามัยทางอารมณ์ NOTE Paragraph 00:16:31.569 --> 00:16:33.762 คุณจินตนาการได้ไหมว่า โลกเราจะเป็นอย่างไร 00:16:33.762 --> 00:16:37.088 ถ้าทุกคนมีสุขภาพจิตดีขึ้น? 00:16:37.088 --> 00:16:40.383 มีความเหงาน้อยลง มีโรคซึมเศร้าน้อยลง? 00:16:40.383 --> 00:16:43.224 ถ้าผู้คนรู้วิธีเอาชนะความล้มเหลวได้? 00:16:43.224 --> 00:16:46.274 ถ้าพวกเขารู้สึกดีกับตัวเอง เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น? 00:16:46.274 --> 00:16:49.520 ถ้าพวกเขามีความสุขและเติมเต็มมากขึ้น? 00:16:49.520 --> 00:16:53.833 ผมจินตนาการได้ เพราะเป็นโลกที่ผมอยากอาศัยอยู่ 00:16:53.833 --> 00:16:58.419 และก็จะเป็นโลกที่พี่ชายผม อยากอยู่ด้วยเช่นกัน 00:16:58.419 --> 00:17:02.500 และถ้าพวกคุณรับรู้สิ่งเหล่านี้ และเปลี่ยนนิสัยพื้นฐานบางอย่าง 00:17:02.500 --> 00:17:06.382 ก็จะเป็นโลกที่เราทุกคนอยากอาศัยอยู่ NOTE Paragraph 00:17:06.382 --> 00:17:08.294 ขอบคุณมากครับ NOTE Paragraph 00:17:08.294 --> 00:17:11.267 (เสียงปรบมือ)