WEBVTT

00:00:00.488 --> 00:00:02.738
นี่คือ เจมส์ ไรเซน

00:00:03.174 --> 00:00:05.924
คุณอาจจะรู้จักเขา
ในฐานะผู้รายงานข่าวรางวัลพูลิตเซอร์

00:00:05.948 --> 00:00:07.640
ประจำหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทมส์

00:00:07.664 --> 00:00:10.418
ยาวนานก่อนหน้าที่ใคร ๆ จะรู้จัก
ชื่อของ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน

00:00:10.442 --> 00:00:13.358
ไรเซนเขียนหนังสือชื่อดัง
ที่เขาได้ตีแผ่เรื่องราวที่

00:00:13.382 --> 00:00:17.318
สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) ดักฟัง
โทรศัทพ์ของชาวสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย

00:00:17.842 --> 00:00:19.612
แต่ยังมีอีกบทหนึ่งในหนังสือเล่มนี้

00:00:19.636 --> 00:00:21.651
ที่อาจจะส่งผลกระทบที่ยาวนานกว่านั้น

00:00:22.405 --> 00:00:27.223
ในบทนั้น เขาได้บรรยายถึงปฏิบัติแห่งหายนะ
ของหน่วยข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA)

00:00:27.247 --> 00:00:30.336
ที่ CIA แทบจะได้ส่งมอบพิมพ์เขียว

00:00:30.360 --> 00:00:32.146
เกี่ยวกับระเบิดปรมาณูให้กับอิหร่านถึงมือ

00:00:32.662 --> 00:00:34.457
ถ้านั่นฟังดูบ้าบอ ก็ลองไปอ่านดูสิครับ

00:00:34.481 --> 00:00:35.972
นั่นเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ

NOTE Paragraph

00:00:36.456 --> 00:00:38.520
แต่คุณรู้ไหม ใครที่ไม่ชอบบทนั้น

00:00:38.893 --> 00:00:40.043
รัฐบาลสหรัฐอเมริกา

00:00:40.592 --> 00:00:42.806
เกือบจะหนึ่งทศวรรษให้หลัง

00:00:42.830 --> 00:00:46.083
ไรเซนได้ตกอยู่ภายใต้การสืบสวน
ของรัฐบาลสหรัฐฯ

00:00:46.107 --> 00:00:48.476
โดยอัยการได้เรียกให้เขามาให้การแย้ง

00:00:48.500 --> 00:00:50.404
ต่อหนึ่งในแหล่งข่าวที่เขาอ้างถึง

00:00:50.829 --> 00:00:54.904
และตลอดมา เขาได้ถูกหมายหัว
โดยแผนล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ

00:00:54.928 --> 00:00:57.947
สำหรับดำเนินคดีต่อผู้เปิดเผยข้อมูล 
และสอดแนมสื่อมวลชน

NOTE Paragraph

00:00:58.681 --> 00:01:00.349
เห็นไหมครับ ว่าในบทบัญญัติ
แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตราที่หนึ่ง

00:01:00.373 --> 00:01:04.000
สื่อมีสิทธิที่จะตีพิพิมพ์ข้อมูลลับ
เพื่อประโยชน์สาธารณะ

00:01:04.024 --> 00:01:09.158
แต่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้สิทธินั้น
หากสื่อไม่สามารถรวบรวมข่าวสารนั้น ๆ

00:01:09.182 --> 00:01:12.438
และคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ของเหล่าชายหญิงผู้กล้าหาญ

00:01:12.462 --> 00:01:13.612
ที่ได้นำข้อมูลนั้นมาให้พวกเขา

00:01:14.087 --> 00:01:16.119
ดังนั้น เมื่อรัฐบาลติดต่อมา

00:01:16.143 --> 00:01:19.184
ไรเซนได้ทำสิ่งที่ผู้สื่อข่าวที่กล้าหาญทั้งหลาย
ได้เคยทำมาก่อนหน้านี้

00:01:19.208 --> 00:01:20.393
เขาได้ปฏิเสธ

00:01:20.417 --> 00:01:22.088
และบอกเขาว่า เขายอมติดคุกเสียดีกว่า

00:01:22.611 --> 00:01:25.594
ดังนั้น แต่ตั้งปี ค.ศ. 2007 ถึง 2015

00:01:25.618 --> 00:01:28.412
ไรเซนอยู่อย่างสุ่มเสียงที่จะถูกส่งไปเรือนจำ

NOTE Paragraph

00:01:28.976 --> 00:01:33.023
จนกระทั่งไม่กี่วันก่อนหน้าการพิจารณาคดี
ก็มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น

00:01:33.912 --> 00:01:37.713
ทันใดนั้น หลังจากหลายปี
ที่มีการอ้างว่าเขาคือส่วนสำคัญของคดี

00:01:37.737 --> 00:01:40.427
รัฐบาลได้ถอนฟ้องคดีทั้งหมดต่อไรเซน
ในคราวเดียว

00:01:40.912 --> 00:01:43.460
กลายเป็นว่า ในยุคของการตรวจตรา
ทางอิเล็กทรอนิกส์

00:01:43.484 --> 00:01:46.372
มีสถานที่เพียงไม่กี่แห่ง 
ที่ผู้รายงานข่าวและแหล่งข่าวจะซ่อนตัวได้

00:01:46.959 --> 00:01:50.554
และแทนที่จะพยายามนำไรเซน
มาให้การเป็นพยานและล้มเหลว


00:01:50.578 --> 00:01:53.625
พวกเขาสามารถนำร่องรอยดิจิทัลของเขา
มาใช้พิสูจน์แย้งต่อเขาแทน

00:01:54.585 --> 00:01:57.101
อัยการเอาบันทึกโทรศัทพ์ของไรเซนมา

00:01:57.125 --> 00:01:59.395
อย่างความลับโดยสิ้นเชิง
และไม่ได้รับความยินยอมจากเขา

00:01:59.903 --> 00:02:04.419
พวกเขามีทั้งบันทึกอีเมล
ข้อมูลการเงินการธนาคารของเขา

00:02:04.443 --> 00:02:06.196
รายการใช้บัตรเครดิตของเขา

00:02:06.220 --> 00:02:08.990
หรือแม้แต่บันทึกการเดินทาง 
พร้อมรายการเที่ยวบินที่เขาเดินทาง

00:02:09.808 --> 00:02:13.593
และนี่เป็นหนึ่งในข้อมูลที่พวกเขาใช้
ในการตัดสินความผิดของ เจฟฟรีย์ สเตอร์ลิง

00:02:13.617 --> 00:02:16.736
ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลที่ไรเซนอ้างถึง 
และเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลของ CIA

NOTE Paragraph

00:02:18.035 --> 00:02:20.450
น่าเศร้า นี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายกรณี

00:02:21.152 --> 00:02:24.759
ประธานาธิบดีโอบามาสัญญาว่า
จะคุ้มครองผู้ให้ข้อมูล

00:02:24.783 --> 00:02:28.045
แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น 
กระทรวงยุติธรรมของเขากลับดำเนินคดี

00:02:28.069 --> 00:02:30.560
มากกว่าในสมัยของประธานาธิบดีคนอื่น ๆ 
รวมกัน

00:02:31.179 --> 00:02:33.283
ตอนนี้ คุณคงจะเห็นได้ว่านี่เป็นปัญหาอย่างไร

00:02:33.307 --> 00:02:37.774
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพราะว่ารัฐบาล
เห็นแก่ความลับเป็นอย่างมาก


00:02:38.758 --> 00:02:43.258
ตั้งแต่เหตุการณ์ 9/11 แทบทุกเรื่องราวสำคัญ
ที่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ

00:02:43.282 --> 00:02:46.202
เป็นผลมาจากบุคคลที่เปิดเผยให้ข้อมูล
แก่นักข่าว

00:02:46.670 --> 00:02:49.568
ดังนั้น เราเสี่ยงต่อการมีสื่อ
ที่ไม่สามารถทำงานของตัวเองได้

00:02:49.592 --> 00:02:51.791
สิ่งที่บทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
มาตราที่หนึ่งควรจะคุ้มครอง

00:02:51.815 --> 00:02:54.822
เพราะว่า รัฐบาลได้ขยายความสามารถ
ในการสอดแนมทุก ๆ คน

NOTE Paragraph

00:02:55.487 --> 00:02:57.940
แต่ขณะเดียวกัน
ที่เทคโนโลยีได้ช่วยให้รัฐบาล

00:02:57.964 --> 00:03:00.671
ก้าวล่วงสิทธิของผู้สื่อข่าว

00:03:00.695 --> 00:03:02.869
สื่อเองก็สามารถใช้เทคโนโลยี

00:03:02.893 --> 00:03:05.233
ในการคุ้มรองแหล่งข่าวของพวกเขา
ได้ดีกว่าที่เคยเป็นมาได้เช่นกัน

00:03:05.698 --> 00:03:08.810
และพวกเขาก็สามารถเริ่มได้เลย
ในขณะที่พวกเขาเริ่มพูดกับแหล่งข่าว

00:03:08.834 --> 00:03:11.261
แทนที่จะมาเป็นพยานยืนยันหลังเกิดเหตุ

00:03:12.197 --> 00:03:14.289
ตอนนี้มีซอฟท์แวร์เพื่อการสื่อสาร

00:03:14.313 --> 00:03:16.845
ที่ยังไม่มี 
ในตอนที่ไรเซนเขียนหนังสือของเขา

00:03:16.869 --> 00:03:20.868
ซึ่งทันต้านทานต่อการตรวจตรา
มากกว่าอีเมลและการโทรศัพท์ทั่วไป

00:03:21.789 --> 00:03:26.007
ยกตัวอย่างเช่น เครื่องมือหนึ่งที่ชื่อว่า
ซีเคียวดรอป (SecureDrop)

00:03:26.031 --> 00:03:28.716
ระบบการแจ้งเรื่องแบบโอเพนซอร์ส
สำหรับผู้ให้ข้อมูลการกระทำผิดภายในองค์กร

00:03:28.740 --> 00:03:32.788
ที่แต่เดิมถูกสร้างขึ้นโดยผู้มีชื่อเสียงผู้ล่วงลับ
แห่งวงการอินเทอร์เน็ต แอรอน สวาร์ทซ์

00:03:32.812 --> 00:03:35.477
และตอนนี้ก็ได้ถูกพัฒนาขึ้นโดย
องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ผมทำงานอยู่

00:03:35.501 --> 00:03:37.032
มูลนิธิเพื่อเสรีภาพสื่อ
(Freedom of the Press Foundation)

00:03:37.824 --> 00:03:39.476
แทนที่จะส่งอีเมล

00:03:39.500 --> 00:03:41.541
คุณไปที่เว็บไซต์ขององค์กรข่าว

00:03:41.565 --> 00:03:43.565
อย่างที่นี่ ของวอร์ชิงตัน โพสต์

NOTE Paragraph

00:03:44.010 --> 00:03:47.953
จากตรงนี้ คุณสามารถอัพโหลดเอกสาร
หรือส่งข้อมูล

00:03:47.977 --> 00:03:50.406
เหมือนกับที่คุณเติมแบบฟอร์มติดต่ออื่น ๆ

00:03:50.715 --> 00:03:53.334
หลังจากนั้นมันจะถูกเข้ารหัสลับ
และเก็บไว้ในเซอร์เวอร์

00:03:53.358 --> 00:03:55.906
ที่มีเพียงองค์กรข่าวเท่านั้น
ที่สามารถเข้าถึงได้

00:03:56.351 --> 00:03:59.724
ดังนั้น รัฐบาลไม่สามารถถามหาข้อมูล
แบบลับ ๆ ได้อีกต่อไป

00:03:59.748 --> 00:04:01.852
และส่วนใหญ่ ข้อมูลที่พวกเขาจะถามหา

00:04:01.876 --> 00:04:03.835
ก็ไม่มีตั้งแต่แรกแล้ว

NOTE Paragraph

00:04:04.475 --> 00:04:07.439
ซีเคียวดรอป เป็นเพียงชิ้นส่วนเล็ก ๆ

00:04:07.463 --> 00:04:10.410
ในการคุ้มครองเสรีภาพสื่อ
ในศตวรรษที่ 21

00:04:11.035 --> 00:04:13.408
โชคร้าย ที่บรรดารัฐบาลทั่วโลก

00:04:13.432 --> 00:04:15.932
กำลังพัฒนาเทคนิคการสอดแนม
อยู่อย่างสม่ำเสมอ

00:04:15.956 --> 00:04:17.360
นั่นทำให้พวกเราทุกคนตกอยู่ในความเสี่ยง

00:04:18.043 --> 00:04:20.741
และนั่นขึ้นอยู่กับพวกเรา 
ที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อให้แน่ใจว่า

00:04:20.765 --> 00:04:23.265
ไม่ใช่เพียงแค่ผู้ให้ข้อมูล
ที่เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี

00:04:23.289 --> 00:04:26.574
อย่างเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ที่จะมีช่องทาง
ในการเปิดโปงการกระทำอันมิชอบ

00:04:27.408 --> 00:04:32.155
มันสำคัญอย่างยิ่งเช่นกัน ที่เราจะคุ้มครอง
ผู้ให้ข้อมูลเรื่องบริการสุขภาพทหารผ่านศึก

00:04:32.179 --> 00:04:35.487
เตือนเราให้รู้ถึงโรงพยาบาลที่หนาแน่นเกินไป

00:04:35.511 --> 00:04:37.838
หรือคนงานด้านสิ่งแวดล้อม

00:04:37.862 --> 00:04:41.060
ที่ส่งเสียงเกี่ยวกับสถานการณ์
น้ำสกปรกในเมืองฟลินท์

00:04:41.084 --> 00:04:42.764
หรือคนวงในของวอลสตรีท

00:04:42.788 --> 00:04:44.965
ที่เตือนพวกเราเรื่องวิกฤติการเงินครั้งต่อไป

00:04:45.869 --> 00:04:49.997
อย่างไรก็ตาม เครื่องมือเหล่านี้ไม่ได้ถูกสร้าง
เพียงเพื่อช่วยเหลือเหล่าชายหญิงผู้กล้าหาญ

00:04:50.021 --> 00:04:51.559
ที่เปิดโปงอาชญากรรมเท่านั้น

00:04:51.583 --> 00:04:54.817
แต่มันมีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิของพวกเรา
ภายใต้รัฐธรรมนูญ

NOTE Paragraph

00:04:55.460 --> 00:04:56.611
ขอบคุณครับ

NOTE Paragraph

00:04:56.635 --> 00:04:59.944
(เสียงปรบมือ)