0:00:00.998,0:00:03.001 ทำไมจักรวาลถึงมีอยู่ 0:00:03.001,0:00:06.996 ทำไมมันถึงมี - เอาล่ะครับ (เสียงหัวเราะ) 0:00:06.996,0:00:09.838 นี่มันเป็นปริศนาจักรวาลนะครับ [br]กรุณาอยู่ในความสงบด้วย 0:00:09.838,0:00:13.414 ทำไมถึงมีโลก ทำไมพวกเราถึงอยู่ที่นี่ 0:00:13.414,0:00:15.293 และทำไมจึงมีอะไร แทนที่จะไม่มีอะไรเลย 0:00:15.293,0:00:19.939 ผมหมายถึง นี่มันเป็นสุดยอดคำถาม "ทำไม" 0:00:19.939,0:00:22.174 ฉะนั้น ผมกำลังจะพูดถึงปริศนาของการมีอยู่ 0:00:22.174,0:00:23.730 ภาพปะติดปะต่อของการมีอยู่ 0:00:23.730,0:00:26.644 ที่เราอยู่ตอนนี้เพื่อที่จะกล่าวถึงมัน 0:00:26.644,0:00:28.894 และทำไมเราจะต้องใส่ใจ 0:00:28.894,0:00:30.810 และผมหวังว่าคุณจะใส่ใจ 0:00:30.810,0:00:33.636 นักปรัชญา อาเทอร์ โชเพนเฮอร์ บอกว่า 0:00:33.636,0:00:37.416 ผู้ที่ไม่นึกสงสัยถึงความมีอยู่ของตัวเขาเอง 0:00:37.416,0:00:40.273 หรือความมีอยู่ของโลก 0:00:40.273,0:00:41.936 เป็นผู้สติไม่ครบถ้วน 0:00:41.936,0:00:45.883 พูดแบบนั้นออกจะใจร้ายไปหน่อย แต่มันก็จริง[br](เสียงหัวเราะ) 0:00:45.883,0:00:47.560 มันถูกเรียกว่าเป็นปริศนา 0:00:47.560,0:00:49.854 ที่สูงค่าที่สุดและน่าทึ่งที่สุด 0:00:49.854,0:00:52.523 เป็นคำถามที่ลูกที่สุด และไกลเอื้อมที่สุด 0:00:52.523,0:00:53.583 เท่าที่คนจะถามได้ 0:00:53.583,0:00:55.297 มันครอบงำนักคิดผู้ยิ่งใหญ่ 0:00:55.297,0:00:56.901 ลุดวิก วิทเจนสเตน ซึ่งอาจเป็น 0:00:56.901,0:00:59.231 นักปรัชญาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 20 0:00:59.231,0:01:01.714 ตกตะลึงว่ามันควรจะมีโลก 0:01:01.714,0:01:05.718 เขาเขียนใน "ทราคทาทัส" หัวข้ออภิปราย 4.66 0:01:05.718,0:01:08.408 "มันไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับว่า [br]สิ่งต่าง ๆ ในโลกเป็นอย่างไร 0:01:08.408,0:01:09.760 ปริศนามันอยู่ที่ 0:01:09.760,0:01:12.095 การมีอยู่ของโลกนี้ต่างหาก" 0:01:12.095,0:01:14.313 และถ้าคุณไม่ชอบคำคม 0:01:14.313,0:01:17.224 จากนักปรัชญา ก็ลองนักวิทยาศาสตร์ดู 0:01:17.224,0:01:19.825 จอห์น อาร์คิบัล วีลเลอร์ หนึ่งในนักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่ 0:01:19.825,0:01:21.051 แห่งศตวรรษที่ 20 0:01:21.051,0:01:22.976 ผู้เป็นอาจารย์ของริชาร์ด เฟห์นแมน 0:01:22.976,0:01:25.636 ผู้ให้กำเนิดคำว่า "หลุมดำ" 0:01:25.636,0:01:28.059 เขาพูดว่า "ผมอยากที่จะรู้ 0:01:28.059,0:01:29.792 ว่าควอนตัมมาได้อย่างไร 0:01:29.792,0:01:32.936 จักรวาลมาได้อย่างไร ความมีอยู่มาได้อย่าไร" 0:01:32.936,0:01:34.935 และเพื่อนของผม มาร์ติน อมิส -- 0:01:34.935,0:01:37.612 ขอโทษด้วย เพราะผมจะเอ่ยชื่อคนมากมาย[br]สำหรับการบรรยายนี้ 0:01:37.612,0:01:38.987 ทำความคุ้นเคยกันไว้นะครับ -- 0:01:38.987,0:01:43.963 เพื่อของผม มาร์ติน อมิส[br]กล่าวไว้ครั้งหนึ่งว่า 0:01:43.963,0:01:47.183 เราตามหลังอยู่ประมาณห้าไอน์สไตน์[br]สำหรับการได้คำตอบ 0:01:47.183,0:01:49.219 ของปริศนาที่ว่าจักรวาลมาจากไหน 0:01:49.219,0:01:51.200 และผมไม่ประหลาดใจเลยที่จะมีสักห้าไอน์ไตน์ 0:01:51.200,0:01:53.387 ในกลุ่มผู้ฟังคืนนี้ 0:01:53.387,0:01:54.890 มีไอสไตน์ไหมครับ ยกมือหน่อย[br]ไม่ ไม่ ไม่ 0:01:54.890,0:01:56.052 ไม่มีไอสไตน์ โอเคครับ 0:01:56.052,0:02:00.274 ดังนั้นคำถามนี้ ทำไมจึงมีแทนที่จะไม่มี 0:02:00.274,0:02:02.242 คำถามสุดเจ๋งนี้ ถูกถามขึ้นมาไม่นาน 0:02:02.242,0:02:04.552 ในยุคประวัติศาสตร์แห่งความรู้ 0:02:04.552,0:02:07.031 ประมาณช่วงท้ายศตวรรษที่ 17 0:02:07.031,0:02:09.993 นักปรัชญานามลิบนิสซึ่งเป็นผู้ตั้งคำถาม 0:02:09.993,0:02:11.736 เขาเป็นชายที่ฉลาดมาก 0:02:11.736,0:02:13.886 เป็นผู้ประดิษฐ์ศาสตร์แคลคูลัส 0:02:13.886,0:02:16.740 อย่างอิสระจากไอแซค นิวตัน[br]ในเวลาเดียวกัน 0:02:16.740,0:02:19.342 แต่สำหรับลิบนิส [br]ผู้ซึ่งถามว่าทำไมจึงมีแทนที่จะไม่มี 0:02:19.342,0:02:21.535 มันไม่ใช่ปริศหายิ่งใหญ่อะไร 0:02:21.535,0:02:23.931 เขาเป็น หรืออาจทำเป็นว่า 0:02:23.931,0:02:26.687 เขาเป็นชาวคริสนิกายออโธดอกซ์[br]ในทัศนคติทางอภิปรัชญาของเขา 0:02:26.687,0:02:29.702 และเขาบอกว่า มันชัดเจนว่าทำไมโลกจึงมีอยู่ 0:02:29.702,0:02:32.164 เพราะว่าพระเจ้าสร้างมันขึ้นมาไงล่ะ 0:02:32.164,0:02:35.449 และแน่นอนพระเจ้าก็สร้างมันขึ้น[br]จากความว่างเปล่า 0:02:35.449,0:02:36.960 นั่นแหละความทรงฤทธิ์ของพระเจ้า 0:02:36.960,0:02:40.602 พระองค์ไม่ต้องการวัสดุที่ปรากฎอยู่แล้วใดๆ[br]ในการออกแบบสร้างโลก 0:02:40.602,0:02:42.762 พระองค์สามารถสร้างมันขึ้นจากความว่างเปล่า 0:02:42.762,0:02:44.236 creation ex nihilo[br][ลาติน: การสร้างจากความว่างเปล่า] 0:02:44.236,0:02:45.181 และจะว่าไป 0:02:45.181,0:02:48.020 นี่คือสิ่งที่คนอเมริกันส่วนหใญ่ตอนนี้เชื่อ 0:02:48.020,0:02:49.734 ไม่มีปริศนาใดสำหรับพวกเขา 0:02:49.734,0:02:51.302 ก็พระเจ้าทรงสร้างมัน 0:02:51.302,0:02:53.888 เอาล่ะ ลองนำมันเข้าไปในสมการ 0:02:53.888,0:02:56.515 ผมไม่มีสไลด์[br]ดังนั้นผมจะเลียนแบบภาพที่ผมเห็ย 0:02:56.515,0:02:57.950 ฉะนั้นใช้จินตนาการของคุณ 0:02:57.950,0:03:03.804 ฉะนั้น พระเจ้า + ความว่างเปล่า = โลก 0:03:03.804,0:03:07.118 โอเคนะครับ นี่คือสมการ 0:03:07.118,0:03:08.851 และบางทีคุณอาจไม่เชื่อในพระเจ้า 0:03:08.851,0:03:10.681 บางทีคุณเป็นชาวอเทวนิยมแนววิทยาศาสตร์ 0:03:10.681,0:03:14.015 หรือชาวอเทวนิยมที่ไม่ใช่แนววิทยาศาสตร์[br]และคุณไม่เชื่อในพระเจ้า 0:03:14.015,0:03:15.433 และคุณก็จะไม่ชอบใจ 0:03:15.433,0:03:18.137 แต่อย่างไรก็ดี แม้ว่าคุณจะมีสมการ 0:03:18.137,0:03:20.039 พระเจ้า + ความว่างเปล่า = โลก 0:03:20.039,0:03:21.725 มันก็มีปัญหาแล้ว: 0:03:21.725,0:03:24.759 ทำไมพระเจ้าจึงมีอยู่ 0:03:24.759,0:03:26.962 พระเจ้าไม่ได้มีอยู่ด้วยตรรกะอย่างเดียว 0:03:26.962,0:03:28.775 เว้นแต่ว่าคุณเชื่อการให้เหตุผลทางภววิทยา[br](ontological argument) 0:03:28.775,0:03:31.102 และผมหวังว่าคุณจะไม่ [br]เพราะว่ามันไม่ใช่การให้เหตุผลที่ดีเลย 0:03:31.102,0:03:34.263 ดังนั้นเป็นที่เข้าใจได้[br]ถ้าพระเจ้านั้นมีอยู่ 0:03:34.263,0:03:37.413 พระองค์อาจนึกสงสัย ข้าเป็นอมตะ[br]ข้าทรงพลัง 0:03:37.413,0:03:39.843 แต่ข้ามาจากไหนนะ 0:03:39.843,0:03:42.013 (เสียงหัวเราะ) 0:03:42.013,0:03:43.432 ข้ามาจากหนใดกัน 0:03:43.432,0:03:46.640 พระเจ้าพูดภาษาอังกฤษแบบเป็นทางการ 0:03:46.640,0:03:48.629 (เสียงหัวเราะ) 0:03:48.629,0:03:51.677 และทฤษฎีหนึ่งก็คือ พระเจ้าเบื่อหนักหนา 0:03:51.677,0:03:53.466 กับการครุ่นคิดปริศนาการมีอยู่ของตัวเอง 0:03:53.466,0:03:56.388 และ "พระองค์" สร้างโลก [br]ก็เพื่อละความสนใจจากตัวเอง 0:03:56.388,0:03:58.500 แต่ว่านะ ลืมเรื่องพระเจ้าไปเถอะครับ 0:03:58.500,0:03:59.857 เอาพระเจ้าออกจากสมการ เราก็จะได้ 0:03:59.857,0:04:02.980 ________ + ความว่างเปล่า = โลก 0:04:02.980,0:04:04.761 ทีนี้ ถ้าคุณเป็นชาวพุทธ 0:04:04.761,0:04:06.505 คุณอาจต้องการหยุดตรงนี้ 0:04:06.505,0:04:08.474 เพราะว่าใจความสำคัญที่คุณได้ก็คือ 0:04:08.474,0:04:10.050 ความว่างเปล่า = โลก 0:04:10.050,0:04:11.563 และด้วยคุณสมบัติความเหมือนกัน นั่นหมายถึง 0:04:11.563,0:04:13.918 โลก = ความว่างเปล่า โอเคไหมครับ 0:04:13.918,0:04:16.337 และสำหรับชาวพุทธแล้ว [br]โลกก็เป็นความไร้ตัวตนอันไพศาล 0:04:16.337,0:04:19.443 มันเป็นแค่ความว่างเปล่าในเอกภพ 0:04:19.443,0:04:21.995 และเราคิดว่ามีอะไรข้างนอกนั่นมากมาย 0:04:21.995,0:04:24.560 แต่นั่นเป็นเพราะว่าเราเป็นทาสของกิเลส 0:04:24.560,0:04:27.271 ถ้าเราทำให้กิเลสของเราหลอมละลายไป 0:04:27.271,0:04:30.151 เราจะเห็นโลกในแบบที่แท้จริง 0:04:30.151,0:04:32.131 ความว่างเปล่า ความไม่มีอะไร 0:04:32.131,0:04:34.313 และเราก็จะหลุดไปสู่สถานะแห่งความสุข[br]ของนิพพาน 0:04:34.313,0:04:36.136 ซึ่งถูกให้ความหมายว่า 0:04:36.136,0:04:39.454 มีชีวิตอยู่อย่างพอเพียง[br]ที่จะยินดีกับการตาย (เสียงหัวเราะ) 0:04:39.454,0:04:41.333 นั่นคือสิ่งที่ชาวพุทธคิด 0:04:41.333,0:04:44.832 ผมเป็นชาวตะวันตก และผมก็ยังกังวล 0:04:44.832,0:04:46.815 กับปริศนาของการมีอยู่ ผมก็เลยได้ 0:04:46.815,0:04:48.423 ________ + — 0:04:48.423,0:04:50.581 เรากำลังจะจริงจังในอีกอึดใจนี้ล่ะ 0:04:50.581,0:04:53.607 ________ + ความว่างเปล่า = โลก 0:04:53.607,0:04:54.830 เราจะเอาอะไรใส่ในช่องว่าง 0:04:54.830,0:04:56.678 แล้ววิทยาศาสตร์ล่ะ 0:04:56.678,0:05:00.229 วิทยาศาสตร์เป็นคู่มือที่ดีที่สุดของเรา[br]สู่ธรรมชาติแห่งความจริง 0:05:00.229,0:05:03.244 และวิทยาศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานที่สุด[br]คือฟิสิกส์ 0:05:03.244,0:05:06.214 มันบอกเราว่าความเป็นจริงแบบหมดเปลือก[br]นั้นคืออะไร 0:05:06.214,0:05:08.840 และเปิดเผยสิ่งที่ผมเรียกว่า TAUFOTU[br] 0:05:08.840,0:05:11.830 เครื่องตกแต่งจักรวาลอันจริงแท้[br]และเป็นที่สุด 0:05:11.830,0:05:14.482 ดังนั้น บางที[br]ฟิสิกส์อาจเติมช่องว่างนี้ให้เราได้ 0:05:14.482,0:05:19.544 และแน่นอน ตั้งแต่ประมาณช่วงยุค 1960 ตอนปลาย[br]หรือราว ๆ ยุค 1970 0:05:19.544,0:05:23.207 นักฟิสิกส์ได้อ้างว่าจะให้ 0:05:23.207,0:05:26.327 คำอธิบายทางวิทยาศาสตร์แท้ ๆ 0:05:26.327,0:05:29.322 ว่าเอกภพของเรานั้น กำเนิดขึ้นมา 0:05:29.322,0:05:31.201 จากความว่างเปล่าได้อย่างไร 0:05:31.201,0:05:34.281 ความผันผวนทางควอนตัม[br]จากความว่างเปล่า 0:05:34.281,0:05:36.339 สตีเฟน ฮอว์คิง เป็นหนึ่งในนักฟิสิกส์เหล่านี้ 0:05:36.339,0:05:38.645 แลพเร็ว ๆ นี้ก็คือ อเล็ก ไวเลนคิน[br] 0:05:38.645,0:05:40.378 และเรื่องนั้นก็ได้รับความนิยม 0:05:40.378,0:05:42.571 โดยนักฟิสิกส์คนเก่งอีกคนที่เป็นเพื่อนของผม 0:05:42.571,0:05:45.103 ลอว์แรนซ์ เคราส์ ผู้เขียนหนังสือ 0:05:45.103,0:05:47.229 "เอกภพจากความว่างเปล่า" 0:05:47.229,0:05:49.445 และลอว์แรนซ์คิดว่าเขาให้ - 0:05:49.445,0:05:51.526 เขาเป็นชาวอเทวนิยมตัวจริง 0:05:51.526,0:05:53.150 เขานำพระเจ้าออกจากภาพ 0:05:53.150,0:05:55.531 กฎของทฤษฎีสนามควอนตัม 0:05:55.531,0:05:57.432 ฟิสิกส์ล้ำยุคสามารถแสดงได้ว่า 0:05:57.432,0:05:58.750 จากความว่างเปล่า 0:05:58.750,0:06:00.975 ไม่มีพื้นที่ ไม่มีเวลา [br]ไม่มีสสาร ไม่มีอะไร 0:06:00.975,0:06:04.420 การดึงดูดที่ผิดพลาดเพียงเสี้ยวเล็กน้อย 0:06:04.420,0:06:06.393 สามารถผันผวนไปสู่ความมีอยู่ 0:06:06.393,0:06:08.375 และจากนั้น ด้วยความอัศจรรย์ของการขยายตัว 0:06:08.375,0:06:11.460 ระเบิดออกเป็นจักรวาลอันกว้างใหญ่[br]อันหลากหลาย 0:06:11.460,0:06:13.215 ซึ่งพวกเราเห็นอยู่รอบตัว 0:06:13.215,0:06:16.769 เอาล่ะ นี่มันเป็นฉากสุดล้ำจินตนาการ 0:06:16.769,0:06:19.537 มันฟังดูเป็นแนวทฤษฎี มันน่าสนใจ 0:06:19.537,0:06:21.865 แต่ผมมีปัญหาใหญ่กับมัน 0:06:21.865,0:06:23.750 และปัญหานั้นคือ 0:06:23.750,0:06:25.221 มันเป็นแนวคิดคล้ายหลักศาสนา 0:06:25.221,0:06:27.217 ทีนี้ ลอว์แรนซ์คิดว่าเขาเป็นชาวอเทวนิยม 0:06:27.217,0:06:29.965 แต่เขายังคงเป็นทาสของแนวคิดทางศาสนาของโลก 0:06:29.965,0:06:34.734 เขาเห็นกฎทางฟิสิกส์เป็นดั่งบัญชาแห่งเทพ 0:06:34.734,0:06:36.784 กฎของสนามควอนตัมสำหรับเขา 0:06:36.784,0:06:39.395 เป็นเหมือนโองการสุดหรู [br]"จงมีแสงสว่าง" 0:06:39.395,0:06:43.834 กฎเหล่านั้นมีพลังหรือแรงทางภววิทยา 0:06:43.834,0:06:45.941 ที่พวกเขาสามารถสร้างหุบเหว 0:06:45.941,0:06:47.781 ที่ตั้งครรภ์กับการมีอยู่ 0:06:47.781,0:06:50.688 พวกเขาเรียกโลก[br]ให้มาบังเกิดจากความว่างเปล่า 0:06:50.688,0:06:52.635 แต่นั่นเป็นแนวคิดแรก ๆ 0:06:52.635,0:06:54.108 ของกฎทางฟิสิกส์ ใช่ไหมครับ 0:06:54.108,0:06:57.363 เรารู้ว่ากฎทางฟิสิกส์นั้นที่จริงแล้ว 0:06:57.363,0:07:00.407 เป็นการอธิบายแบบกว้าง[br]ของรูปแบบและการเกิดซ้ำ 0:07:00.407,0:07:01.612 ในโลก 0:07:01.612,0:07:03.985 พวกมันไม่ได้เกิดขึ้นนอกโลก 0:07:03.985,0:07:05.965 พวกมันไม่ได้มีเมฆแห่งภววิทยาของมันเอง 0:07:05.965,0:07:07.960 พวกมันไม่ได้ให้กำเนิดโลก 0:07:07.960,0:07:09.278 จากความว่างเปล่า 0:07:09.278,0:07:10.809 นั่นเป็นแนวคิดแรกๆ 0:07:10.809,0:07:12.993 ที่กฎทางวิทยาศาสตร์เป็น 0:07:12.993,0:07:14.988 และถ้าคุณไม่เชื่อผม 0:07:14.988,0:07:16.790 ลองฟังสตีเฟน ฮอว์คิง 0:07:16.790,0:07:20.825 ผู้ที่ผลักดันแบบจำลองของจักรวาล 0:07:20.825,0:07:21.901 ว่ามันพึ่งพาตัวเอง 0:07:21.901,0:07:25.539 ไม่ต้องการอะไรจากภายนอก[br]จากผู้สร้าง 0:07:25.539,0:07:27.267 และหลังจากที่เสนอสิ่งนี้ 0:07:27.267,0:07:29.681 ฮอว์คิงยอมรับว่าเขายังคงฉงน 0:07:29.681,0:07:32.993 เขาบอกว่า แบบจำลองนี้เป็นแค่สมการ 0:07:32.993,0:07:35.852 อะไรกันที่เติมเชื้อไฟให้กับสมการเหล่านี้ 0:07:35.852,0:07:38.774 และสร้างโลกสำหรับให้พวกมันอธิบาย 0:07:38.774,0:07:39.907 เขายังคงฉงนกับสิ่งนี้ 0:07:39.907,0:07:43.712 ฉะนั้นสมการเองคงไม่สามารถทำสิ่งอัศจรรย์ได้ 0:07:43.712,0:07:45.850 ไม่สามารถแก้ปริศนาของการมีอยู่ได้ 0:07:45.850,0:07:48.763 และนอกจากนั้น แม้ว่ากฎอาจทำได้ 0:07:48.763,0:07:50.586 ทำไมต้องเป็นกฎชุดนี้ด้วย 0:07:50.586,0:07:53.150 ทำไมต้องเป็นทฤษฎีสนามควอนตัมที่อธิบาย 0:07:53.150,0:07:54.850 เอกภพด้วยตัวเลขจำเพาะของแรง 0:07:54.850,0:07:55.899 และอนุภาค และอื่นๆ 0:07:55.899,0:07:58.190 ทำไมไม่เป็นกฎชุดอื่นๆ ที่แตกต่างไป 0:07:58.190,0:08:01.478 มันมีกลุ่มค่าคงที่ทางคณิตศาสตร์ของกฎมากมาย 0:08:01.478,0:08:04.917 ทำไมต้องมีกฎด้วย [br]ทำไมไม่มีอะไรเลยไม่ได้หรือ 0:08:04.917,0:08:06.649 เชื่อหรือไม่ครับ ปัญหานี้แหละ 0:08:06.649,0:08:09.647 ที่นักฟิสิกส์ครุ่นคิดถึงมันมาก ๆ 0:08:09.647,0:08:12.755 และ ณ จุดนี้ พวกเขาหันเข้าหาอภิปรัชญา 0:08:12.755,0:08:14.970 หรือบอกได้ว่า ชุดของกฎ 0:08:14.970,0:08:16.217 ที่อธิบายเอกภพของเรา 0:08:16.217,0:08:17.952 มันเป็นแค่กฎชุดหนึ่ง 0:08:17.952,0:08:19.988 และมันอธิบายส่วนหนึ่งของความจริง 0:08:19.988,0:08:22.784 แต่บางที กฎทุกชุดซึ่งคงที่ 0:08:22.784,0:08:24.570 อธิบายอีกส่วนหนึ่งของความจริง 0:08:24.570,0:08:28.503 และที่จริงแล้ว [br]โลกทางกายภาพที่เป็นไปได้ทั้งหมด 0:08:28.503,0:08:30.954 มีอยู่จริงๆ[br]พวกมันอยู่ข้างนอกนั่น 0:08:30.954,0:08:33.237 เราแค่เห็นส่วนเล็ก ๆ ของความจริง 0:08:33.237,0:08:35.780 และอธิบายโดยทฤษฎีกฎของสนามควอนตัม 0:08:35.780,0:08:37.512 แต่มันยังมีโลกอีกมากมาย 0:08:37.512,0:08:39.278 ส่วนของความจริงที่ถูกอธิบาย 0:08:39.278,0:08:41.235 โดยทฤษฎีที่แสนหลากหลาย 0:08:41.235,0:08:44.251 ที่แตกต่างจากของเรา [br]แบบที่เราจินตนาการไม่ออก 0:08:44.251,0:08:47.996 แบบที่แปลกประหลาดเหลือเชื่อ 0:08:47.996,0:08:49.733 สตีเฟน ไวน์เบอร์ก 0:08:49.733,0:08:52.174 บิดาแห่งแบบจำลองมาตราฐาน[br]ของฟิสิกส์อนุภาค 0:08:52.174,0:08:55.000 ได้โผเข้าหาความคิดนี้ 0:08:55.000,0:08:59.243 ที่ว่าความจริงทั้งหมดที่เป็นไปได้นั้น[br]มีอยู่จริง ๆ 0:08:59.243,0:09:02.332 นอกจากนี้ นักฟิสิกส์หนุ่ม[br]แม๊ก เทกมาร์ค 0:09:02.332,0:09:06.708 ผู้เชื่อว่าโครงสร้าง[br]ทางคณิตศาสตร์ทั้งหมดมีอยู่จริง 0:09:06.708,0:09:08.845 และความมีอยู่ทางคณิตศาสตร์[br]เป็นอย่างเดียวกัน 0:09:08.845,0:09:10.612 กับความมีอยู่ทางฟิสิกส์ 0:09:10.612,0:09:12.930 ดังนั้น เรามีพหุภพต่าง ๆ มากมาย 0:09:12.930,0:09:16.371 ที่อัดรวมความน่าจะเป็นที่เป็นตรรกะทุกอย่าง 0:09:16.371,0:09:19.881 ทีนี้ เพื่อหาทางออกโดยอภิปรัชญา 0:09:19.881,0:09:22.153 จริงๆ แล้ว นักฟิสิกส์เหล่านี้ และนักปรัชญา 0:09:22.153,0:09:24.675 ย้อนกลับไปหาความคิดที่เก่ามาก ๆ 0:09:24.675,0:09:26.132 ย้อนกลับไปหาพลาโต 0:09:26.132,0:09:29.330 มันเป็นพื้นฐานของความอุดมสมบูรณ์[br]และความคิดสร้างสรรค์ 0:09:29.330,0:09:31.243 หรือโซ่ใหญ่แห่งการเป็นอยู่ 0:09:31.243,0:09:35.110 ที่ความจริงมีความเป็นได้อย่างสูงสุด 0:09:35.110,0:09:36.811 เท่าที่เป็นมา [br]มันกำจัดความว่างเปล่าออกไป 0:09:36.811,0:09:39.706 อย่างที่ควรจะเป็น 0:09:39.706,0:09:42.200 ดังนั้น เรามีสองแนวคิดสุดโต่ง 0:09:42.200,0:09:45.499 เรามีความไม่มี ในฝั่งหนึ่ง 0:09:45.499,0:09:47.997 และเรามีแนวคิดแห่งความจริงนี้ 0:09:47.997,0:09:51.180 ที่อัดรวมเอาทุกโลกที่สามารถเข้าใจได้ 0:09:51.180,0:09:53.909 ในอีกสุดฝั่งหนึ่ง[br]ความจริงที่เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด 0:09:53.909,0:09:56.802 ความว่างเปล่า [br]ความจริงที่เป็นไปได้อย่างง่ายที่สุด 0:09:56.802,0:09:59.681 ทีนี้ [br]อะไรที่อยู่ระหว่างสองแนวคิดสุดโต่งนี้ 0:09:59.681,0:10:01.708 มันมีสารพัดความจริงที่อยู่ตรงกลาง 0:10:01.708,0:10:04.655 ที่รวมถึงบางอย่าง และละทิ้งบางอย่าง 0:10:04.655,0:10:06.251 ฉะนั้นหนึ่งในความจริงตรงกลางเหล่านี้ 0:10:06.251,0:10:11.946 คือความจริงที่มีความอลังการทางคณิตศาสตร์[br]อย่างที่สุด 0:10:11.946,0:10:13.621 ที่ละทิ้งส่วนที่ไม่หรูหรา 0:10:13.621,0:10:16.267 ส่วนที่น่าเกลียดไม่สมมาตร และอื่นๆ 0:10:16.267,0:10:18.593 ทีนี้ จะมีนักฟิสิกส์ซึ่งจะบอกคุณ 0:10:18.593,0:10:22.227 ว่าแท้จริงแล้ว [br]เราอยู่ในความจริงที่อลังการที่สุด 0:10:22.227,0:10:25.174 ผมคิดว่า ไบรอัน กรีน อยู่ในที่นี้ด้วย 0:10:25.174,0:10:28.787 และเขาได้เขียนหนังสือ[br]"เอกภพสุดอลังการ" (The Elegant Universe) 0:10:28.787,0:10:31.058 เขาอ้างว่าเอกภพที่เราอยู่ 0:10:31.058,0:10:32.767 มีความอลังการทางคณิตศาสตร์อย่างมาก 0:10:32.767,0:10:34.450 อย่าได้เชื่อเขาครับ (เสียงหัวเราะ) 0:10:34.450,0:10:37.537 มันเป็นความหวังแห่งศรัทธา[br]ผมก็หวังว่ามันจะจริง 0:10:37.537,0:10:39.450 แต่วันก่อนผมคิดถึงสิ่งที่เขาสารภาพกับผม 0:10:39.450,0:10:42.514 ว่ามันเป็นเอกภพที่อัปลักษณ์จริง ๆ 0:10:42.514,0:10:43.890 มันถูกสร้างมาอย่างน่าเกลียดโง่เง่า 0:10:43.890,0:10:47.144 มันมีค่าคงที่ควบคู่เบ็ดเตล็ด[br]และอัตราส่วนมวล 0:10:47.144,0:10:48.810 มากมายเกินไป 0:10:48.810,0:10:51.588 และกลุ่มที่มากมายเกินไปของอนุภาคพื้นฐาน 0:10:51.588,0:10:53.736 และพลังงานมืดบ้าบอนี่มันคืออะไรกัน 0:10:53.736,0:10:57.135 นี่มันอุปกรณ์ที่ทำจากไม้กับหมากฝรั่ง 0:10:57.135,0:11:01.138 ไม่ใช่เอกภพสุดอลังการเลยแม้แต่น้อย[br](เสียงหัวเราะ) 0:11:01.138,0:11:03.881 และจากนั้นมันมีโลกทั้งหมดที่เป็นไปได้[br]ที่ดีที่สุด 0:11:03.881,0:11:05.471 ในมุมมองทางจริยธรรม 0:11:05.471,0:11:06.650 คุณควรจะสงบได้แล้ว 0:11:06.650,0:11:09.845 เพราะโลกที่สิ่งที่มีความรู้สึก 0:11:09.845,0:11:11.465 ไม่ต้องทุกข์ทรมานอย่างไม่จำเป็น 0:11:11.465,0:11:13.334 ซึ่งไม่มีเรื่องแย่ ๆ อย่างเช่น 0:11:13.334,0:11:15.549 มะเร็งในเด็ก หรือการสังหารหมู่ 0:11:15.549,0:11:16.800 นี่เป็นแนวคิดหลักทางจริยศาสตร์ 0:11:16.800,0:11:18.865 อย่างไรก็ดี ระหว่างความว่างเปล่า 0:11:18.865,0:11:20.498 และความจริงที่เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ 0:11:20.498,0:11:22.043 ความจริงพิเศษอันหลากหลาย 0:11:22.043,0:11:24.323 ความว่างเปล่านั้นพิเศษ มันเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด 0:11:24.323,0:11:27.833 จากนั้น มันก็มีความจริงที่เป็นไปได้ที่อลังการที่สุด 0:11:27.833,0:11:29.197 นั่นก็พิเศษ 0:11:29.197,0:11:31.849 ความจริงที่เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ นั่นก็พิเศษ 0:11:31.849,0:11:33.365 แต่อะไรกันที่เรากำลังใช้ชีวิตกันตรงนี้ 0:11:33.365,0:11:36.101 มันยังมีความจริงทั่วไป 0:11:36.101,0:11:37.856 ธรรมดาดาด ๆ 0:11:37.856,0:11:40.477 ที่ไม่พิเศษอะไรเลย 0:11:40.477,0:11:42.029 ที่เป็นอะไรแบบสุ่ม ๆ 0:11:42.029,0:11:44.756 พวกมันถูกกำจัดออกจากความว่างเปล่าแน่ 0:11:44.756,0:11:48.682 แต่พวกมันก็ไม่ใช่ความสมบูรณ์ครบถ้วน 0:11:48.682,0:11:51.202 พวกมันเป็นการผสมระหว่างความยุ่งเหยิง[br]กับความเป็นระเบียบ 0:11:51.202,0:11:55.400 ของความอลังการ[br]และความอัปลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ 0:11:55.400,0:11:57.185 ดังนั้นผมอยากจะอธิบายความจริงเหล่านี้ 0:11:57.185,0:12:01.312 ว่าเป็นความยุ่งเหยิงที่ไม่สมบูรณ์[br]ธรรมดาทั่วไป และมีอยู่อย่างเป็นอนันต์ 0:12:01.312,0:12:04.692 ของความจริงทั่วๆ ไป [br]เหมือนกับการลองของจักรวาลแบบมั่วๆ 0:12:04.692,0:12:06.876 และความจริงทั้งหลายเหล่านี้ 0:12:06.876,0:12:09.142 มันมีเทพอยู่ในความจริงเหล่านี้หรือเปล่า 0:12:09.142,0:12:11.553 บางที แต่เทพเหล่านี้ไม่ได้สมบูรณ์ 0:12:11.553,0:12:13.889 เหมือนกับเทพของยูดา-คริสเตียน 0:12:13.889,0:12:17.196 และเทพก็ไม่ได้ดีทั้งหมดและทรงอำนาจทั้งหมด 0:12:17.196,0:12:20.527 มันอาจจะร้ายไปเลย 100 เปอร์เซ็นต์ 0:12:20.527,0:12:22.630 แต่มี 80 เปอร์เซ็นต์ที่มีประสิทธิภาพ 0:12:22.630,0:12:28.767 ซึ่งอธิบายโลกได้ค่อนข้างดี[br]เราก็เห็น ๆ อยู่รอบตัวเรา ผมว่านะ (เสียงหัวเราะ) 0:12:28.767,0:12:31.499 ผมอยากจะเสนอว่า การแก้ 0:12:31.499,0:12:33.335 ปริศนาการมีอยู่ 0:12:33.335,0:12:37.425 ก็คือว่า ในความจริง เรามีตัวตน 0:12:37.425,0:12:39.481 อยู่ในความจริงโดยทั่วไป 0:12:39.481,0:12:42.136 ความจริงที่จะต้องกลายเป็นอะไรสักอย่าง 0:12:42.136,0:12:44.206 มันสามารถเป็นความว่างเปล่า 0:12:44.206,0:12:47.887 หรือทุกสิ่งทุกอย่าง หรืออะไรสักอย่างระหว่างนั้น 0:12:47.887,0:12:51.578 ดังนั้น ถ้ามันมีคุณลักษณะพิเศษ 0:12:51.578,0:12:53.768 เช่นมีความซับซ้อนอลังการ หรือสมบูรณ์ 0:12:53.768,0:12:55.376 หรือธรรมดา ๆ เช่นว่างเปล่า 0:12:55.376,0:12:57.177 ที่ต้องการคำอธิบาย 0:12:57.177,0:13:00.336 แต่ถ้าความจริงทั่วไปเป็นหนึ่งในการสุ่มนี้ 0:13:00.336,0:13:02.486 มันก็ไม่มีคำอธิบายใดอีกสำหรับมัน 0:13:02.486,0:13:03.870 และแน่นอน ผมจะบอกว่า 0:13:03.870,0:13:05.850 นั่นเป็นความจริงที่เราใช้ชีวิตอยู่ 0:13:05.850,0:13:08.107 นั่นเป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์บอกเรา 0:13:08.107,0:13:09.438 ในตอนเริ่มแรกของสัปดาห์ 0:13:09.438,0:13:12.554 เราได้ข้อมูลที่น่าตื่นเต้น 0:13:12.554,0:13:15.693 ซึ่งทฤษฎีการขยายตัว ซึ่งทำนาย 0:13:15.693,0:13:19.663 ความจริงที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีที่สิ้นสุด[br]ยุ่งเหยิง ไร้เหตุผล ไร้จุดหมาย 0:13:19.663,0:13:23.488 มันเหมือนกับฟองแชมเปญ 0:13:23.488,0:13:26.172 ที่ออกมาจากขวดอย่างไม่หยุดหย่อน 0:13:26.172,0:13:28.264 เอกภพอันยิ่งใหญ่ ส่วนใหญ่แล้วว่างเปล่า 0:13:28.264,0:13:32.530 มีเสน่ห์ และความเป็นระเบียบ และความสงบ[br]เล็กๆ น้อยๆ 0:13:32.530,0:13:34.895 ที่ได้รับการยืนยัน 0:13:34.895,0:13:37.797 เหตุการขยายตัวนี้ จากการสังเกต 0:13:37.797,0:13:39.890 โดยใช้กล้องโทรทัศน์สัญญาณวิทยุ[br]ในแอนตาร์คติกา 0:13:39.890,0:13:42.713 มองไปยังคลื่นแรงดึงดูดที่เป็นเอกลักษณ์ 0:13:42.713,0:13:44.637 จากยุคก่อนบิ๊กแบงเพียงอึดใจ 0:13:44.637,0:13:46.482 ผมมั่นใจว่าคุณทุกคนรู้เกี่ยวกับสิ่งนี้ 0:13:46.482,0:13:49.306 อย่างไรก็ดี[br]ผมคิดว่ามันมีหลักฐาน 0:13:49.306,0:13:52.793 ว่านี่เป็นความจริง จริงๆ[br]ที่มีเราอยู่ในนั้น 0:13:52.793,0:13:55.900 ทีนี้ ทำไมเราต้องใส่ใจล่ะ 0:13:55.900,0:13:57.136 ก็นะ -- (เสียงหัวเราะ) 0:13:57.136,0:14:00.560 คำถามที่ว่า "ทำไมโลกจึงมีอยู่" 0:14:00.560,0:14:02.239 นั่นเป็นคำถามระดับจักรวาล[br]มันเป็นเหมือนความคล้องจอง 0:14:02.239,0:14:03.693 ที่มีคำถามที่คุ้นเคยกว่านั้น 0:14:03.693,0:14:06.776 ทำไมผมจึงมีตัวตน ทำไมคุณมีตัวตน 0:14:06.776,0:14:10.376 ความมีอยู่มีตัวตนของเรา[br]อาจนะเป็นความไม่น่าเชื่ออันอัศจรรย์ 0:14:10.376,0:14:14.695 เพราะมันมีความเป็นไปได้ทางพันธุศาสตร์[br]สำหรับมนุษย์หลายรูปแบบ 0:14:14.695,0:14:16.099 ถ้าคุณคำนวณโดยเน้นไปที่ 0:14:16.099,0:14:18.441 จำนวนของยีนและจำนวนของอัลลีล 0:14:18.441,0:14:20.737 และการคำนวณคร่าวๆ จะบอกคุณว่า 0:14:20.737,0:14:22.892 มีอยู่ประมาณ 10 ถึง 10,000 0:14:22.892,0:14:24.552 ความเป็นไปได้ทางพันธุศาสตร์สำหรับมนุษย์ 0:14:24.552,0:14:28.020 ระหว่างกูโกล และกูโกลเพลก 0:14:28.020,0:14:29.636 และจำนวนของมนุษย์ที่มีอยู่ 0:14:29.636,0:14:32.130 คือแสนล้าน หรือบางที ห้าหมื่นล้าน 0:14:32.130,0:14:34.195 ซึ่งเป็นเพียงปริมาณเล็กน้อย [br]ดังนั้นเราทุกคน 0:14:34.195,0:14:36.125 ชนะรางวัลสลากกินแบ่ง[br]แห่งจักรวาลอันน่าทึ่ง 0:14:36.125,0:14:38.244 เราอยู่กันตรงนี้ เอาล่ะ 0:14:38.244,0:14:41.165 แล้วความจริงแบบไหนกันที่เราอาศัยอยู่ 0:14:41.165,0:14:43.415 เราต้องการใช้ชีวิตในความจริง[br]แบบพิเศษหรือเปล่า 0:14:43.415,0:14:47.644 ถ้าเราอาศัยอยู่ในความจริง[br]ที่อาจอลังการยิ่งกว่า 0:14:47.644,0:14:50.153 ลองคิดถึงความกดดันของการมีอยู่ที่มีต่อเรา 0:14:50.153,0:14:51.992 ที่จะมีชีวิตแบบนั้น ที่จะมีความอลังการ 0:14:51.992,0:14:53.858 ไม่เป็นการทำให้มันเสื่อมชื่อ 0:14:53.858,0:14:56.939 หรือถ้าว่าเราอยู่ในความจริงที่สมบูรณ์สุด 0:14:56.939,0:14:58.950 ถ้าแบบนั้น การมีตัวตนอยู่ของเรา[br]คงจะได้รับการรับรอง 0:14:58.950,0:15:00.728 เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ 0:15:00.728,0:15:02.094 มีอยู่ในความจริงเช่นนั้น 0:15:02.094,0:15:04.255 แต่ทางเลือกของเราคงจะไร้ความหมาย 0:15:04.255,0:15:07.250 ถ้าผมมีปัญหาติดขัดทางด้านศีลธรรม 0:15:07.250,0:15:09.330 และผมตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้อง 0:15:09.330,0:15:10.525 มันจะแตกต่างอะไร 0:15:10.525,0:15:12.550 เพราะมันมีตัวผมอยู่หลายรูปแบบ 0:15:12.550,0:15:13.564 มากมายเป็นอนันต์ 0:15:13.564,0:15:14.961 ที่ยังทำสิ่งที่ถูกต้อง 0:15:14.961,0:15:16.616 และมีอีกเป็นอนันต์ที่ทำสิ่งที่ผิด 0:15:16.616,0:15:18.456 ฉะนั้น ทางเลือกของผมมันไร้ความหมาย 0:15:18.456,0:15:20.740 ดังนั้น เราไม่ต้องการที่จะใช้ชีวิต[br]ในความจริงแบบพิเศษ 0:15:20.740,0:15:23.327 และถ้าเรา[br]อยู่ในความจริงพิเศษของความว่างเปล่า 0:15:23.327,0:15:25.554 เราก็จะไม่ได้มาคุยกันแบบนี้ 0:15:25.554,0:15:32.489 ฉะนั้น ผมคิดว่าการอยู่ในความจริงทั่วๆ ไป[br]ที่ดูงั้นๆ ธรรมดาๆ 0:15:32.489,0:15:34.385 มีส่วนแย่ๆ และส่วนดีๆ 0:15:34.385,0:15:35.927 และเราสามารถทำให้ส่วนดีๆ มากขึ้นอีกนิด 0:15:35.927,0:15:38.266 และส่วนที่แย่ๆ น้อยลงอีกหน่อย 0:15:38.266,0:15:41.157 และนั่นทำให้เรามีความหมายในการใช้ชีวิต 0:15:41.157,0:15:42.563 เอกภพนั้นช่างไร้สาระ 0:15:42.563,0:15:44.290 แต่เราสามารถที่จะสร้างความหมาย 0:15:44.290,0:15:45.230 และนั่นก็เป็นสิ่งที่ดี 0:15:45.230,0:15:47.895 และความเรียบง่ายธรรมดาทั้งหมดของความจริง 0:15:47.895,0:15:50.500 เหมือนกับการสะท้อนที่ดีต่อความเรียบง่ายธรรมดา 0:15:50.500,0:15:52.812 เราทุกคนรู้สึกได้จากข้างใน 0:15:52.812,0:15:54.446 และผมรู้ว่าคุณสัมผัสถึงมันได้ 0:15:54.446,0:15:55.550 ผมรู้ว่าคุณทุกคนนั้นมีความพิเศษ 0:15:55.550,0:15:57.872 แต่คุณยังคงทำตัวธรรมดาแบบแอบๆ ซ่อนๆ 0:15:57.872,0:15:59.261 ใช่ไหมล่ะครับ 0:15:59.261,0:16:01.198 (เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ) 0:16:01.198,0:16:05.250 ฉะนั้น คุณอาจบอกว่า[br]ปริศนาความมีอยู่นี้ 0:16:05.250,0:16:06.668 มันเป็นแค่ปริศนาแผงลอย 0:16:06.668,0:16:10.535 คุณไม่ได้ที่งตะลึงกับการมีอยู่ของเอกภพ 0:16:10.535,0:16:12.170 และคุณก็มีเพื่อนที่คิดแบบเดียวกัน 0:16:12.170,0:16:14.386 เบอร์นาร์ด รัสเซล กล่าวว่า 0:16:14.386,0:16:18.041 "ผมควรบอกว่า เอกภพแค่อยู่ตรงนั้น [br]แค่นั้นแหละ" 0:16:18.041,0:16:19.442 แค่ความจริงดิบ ๆ 0:16:19.442,0:16:22.276 และศาสตราจารย์ของผมที่โคลัมเบีย[br]ซิดนีย์ มอร์เกนเบสเซอร์ 0:16:22.276,0:16:23.985 นักเคลื่อนไหวทางปรัชญา 0:16:23.985,0:16:25.602 เมื่อผมบอกท่านว่า[br]"ศาสตราจารย์ มอร์เกนเบสเซอร์ ครับ 0:16:25.602,0:16:28.098 ทำไมมันมีอะไรบางอย่างแทนที่จะว่างเปล่าครับ" 0:16:28.098,0:16:30.248 เขาบอกว่า "โอ ถึงแม้ว่ามันจะมีแต่ความว่างเปล่า 0:16:30.248,0:16:32.244 คุณก็ยังไม่พอใจอยู่ดีแหละ" 0:16:32.244,0:16:35.993 ดังนั้น-(เสียงหัวเราะ)-โอเค 0:16:35.993,0:16:38.355 ฉะนั้นคุณไม่ได้ทึ่งกับมัน ผมไม่สนใจหรอก 0:16:38.355,0:16:41.328 แต่ให้ผมบอกอะไรคุณสักอย่างเป็นการสรุป 0:16:41.328,0:16:43.606 ผมยืนยันได้เลยว่าคุณจะทึ่งตัวคุณเอง 0:16:43.606,0:16:46.273 เพราะมันทำให้ทุกสิ่งที่ยอดเยี่ยมดูน่าทึ่ง 0:16:46.273,0:16:48.586 ผู้คนที่น่าทึ่งที่ผมได้พบ[br]ในงานบรรยายของ TED 0:16:48.586,0:16:50.800 เมื่อผมบอกพวกเขาว่า 0:16:50.800,0:16:55.302 ในชีวิตนี้ ผมไม่เคยมีโทรศัพท์มือถือ 0:16:55.302,0:16:57.179 ขอบคุณครับ 0:16:57.179,0:17:01.179 (เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)