ดิฉันได้รับการแนะนำตัวว่าเป็น อดีตผู้ว่าการรัฐมิชิแกน แต่จริงๆแล้ว ดิฉันเป็นนักวิทยาศาสตร์ จริงๆ แล้วฉันเป็นนักรัฐศาสตร์ ซึ่งจริงๆแล้วไม่นับว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่ห้องทดลองของฉัน คือ ห้องทดลองของประชาธิปไตย นั่นคือ มิชิแกน และก็เหมือนๆกับนักวิทยาศาสตร์ที่ดีทั่วไป ฉันทำการทดลองกับนโยบาย เกี่ยวกับว่า อะไรจะทำสำเร็จได้ดีสูงสุด ให้กับคนจำนวนมากที่สุด แต่มีปัญหาสามเรื่อง หรือปริศนาสามประการ ที่ฉันไม่สามารถแก้ได้ และดิฉันขอเล่าสู่กันฟังกับท่าน ถึงปัญหาเหล่านั้น แต่ที่สำคัญที่สุด ดิฉันคิดว่า ได้ขบคิดข้อเสนอวิธีแก้ปัญหาได้แล้ว ปัญหาแรก คือ ไม่ใช่แค่มิชิแกน แต่ทุกๆรัฐ กำลังเผชิญกับปัญหาที่ว่า คุณจะสร้างงานดีๆในอเมริกาได้อย่างไร ในระดับเศรษฐกิจโลก ขอให้ดิฉันแบ่งปันข้อมูลจากการสังเกต จากห้องทดลองของฉัน ดิฉันได้รับการเลือกตั้งในปี 2002 และ ในปลายปี 2003 ปีแรกที่ทำงาน ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากทีมงานของฉันคนหนึ่ง ซึ่งบอกว่า "ผู้ว่าฯ เรามีปัญหาใหญ่แล้ว เรามีชุมชนเล็กๆ ชื่อว่า กรีนวิลล์ ในมิชิแกน ประชากร 8,000 คน และพวกเขาใกล้จะสูญเสีย ผู้จ้างงานคนสำคัญของเขา คือ โรงงานตู้เย็นที่ดำเนินกิจการ โดยอีเลคโทรลักซ์" ฉันจึงถามว่า "เอ มีคนกี่คนทำงานที่อีเลคโทรลักซ์หรือคะ" เขาก็บอกว่า "3,000 คน จากจำนวนคน 8,000 คนที่อยู่ในเมืองกรีนวิลล์" มันเป็นเมืองของบริษัทเดียวเลยก็ว่าได้ และอีเลคโทรลักซ์ก็กำลังจะย้ายไปเม็กซิโก ฉันจึงบอกว่า "อย่ากังวลไปเลยคะ ดิฉันเป็นผู้ว่าฯคนใหม่ เราแก้ไขปัญหานี้ได้ เราจะไปที่เมืองกรีนวิลล์ พร้อมกับที่ปรึกษาทั้งคณะ และเราจะเพียงแค่ ยื่นข้อเสนอแก่อีเลคโทรลักซ์ ที่พวกเขาจะปฏิเสธไม่ได้" ดิฉันจึงนำที่ปรึกษาทั้งคณะไป และเราก็ได้พบกับผู้มีตำแหน่งหน้าที่ ของเมืองกรีนวิลล์เล็กๆนี้ นายกเทศมนตรี เทศมนตรี หัวหน้าวิทยาลัยชุมชน ง่ายๆก็คือ เราเทกระเป๋า และวางเบี้ยพนันทั้งหมดลงไปบนโต๊ะ ให้รางวัลจูงใจ อะไรก็ตามบอกมาเถอะ เพื่อจูงใจให้อีเลคโทรลักซ์อยู่ และในขณะที่เรากองเบี้ยเดิมพันของเรา เราได้ไสเดิมพันพวกนั้นข้ามโต๊ะ ไปยังคณะผู้บริหารของอิเล็คโทรลักซ์ ในกองเบี้ยเดิมพันนั้น เป็นของเช่น ภาษีศูนย์เปอร์เซ็นต์นาน20 ปี หรือ เราจะช่วยสร้างโรงงานใหม่ให้กับบริษัท เราจะช่วยบริษัทด้านการเงิน ส่วนสหภาพแรงงานที่เป็นตัวแทนของคนงาน กล่าวว่า พวกเขาเสนอ จะยอมอ่อนข้อให้ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จะยอมเสียสละ เพียงเพื่อให้งานนั้นยังอยู่ในกรีนวิลล์ ฝ่ายบริหารของอีเล็กโทรลักซ์ รับฟังข้อเสนอของเรา ซึ่งก็คือ รายการรางวัลจูงใจที่เราจะให้ และพวกเขาก็ออกจากห้องไป นาน 17 นาที พวกเขากลับเข้ามาแล้วพูดว่า "ว้าว นี่คือข้อเสนอที่เอื้อเฟื้อที่สุด ที่ชุมชนใดๆเคยพยายามทำ เพื่อรักษางานไว้ที่นี่ แต่คุณไม่สามารถทำอะไร เพื่อมาชดเชยกับข้อเท็จจริงที่ว่า เราสามารถจ่ายค่าแรง 1.57 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง ที่เมืองฮัวเรส ในเม็กซิโก ดังนั้นเราจะย้ายโรงงาน และพวกเขาก็ย้ายไป ตอนที่พวกเขาย้ายไป มันเหมือนกับว่า ระเบิดปรมาณูลงที่เมืองกรีนวิลล์เล็กๆนี้ อันที่จริง พวกเขาระเบิดทำลายโรงงานทิ้ง นั่นคือชายที่กำลังเดินอยู่ ในวันสุดท้ายของการทำงาน และในเดือนที่ตู้เย็นตู้สุดท้าย ออกมาจากสายพานผลิต คนงานของอิเล็คโทรลักซ์ในเมืองกรีนวิลล์ มิชิแกน ก็มาชุมนุมกันเพื่อสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า อาหารเย็นมื้อสุดท้าย จัดขึ้นที่ศาลาใหญ่ในเมือง เป็นพลับพลาภายในอาคาร ดิฉันไปที่นั่น ก็เพราะว่ารู้สึกท้อแท้ใจมาก ในฐานะเป็นผู้ว่าการรัฐ ที่ไม่สามารถหยุดยั้ง การไหลออกไปของงานเหล่านี้ และดิฉันอยากจะร่วมเสียใจกับพวกเขาด้วย เมื่อดิฉันเข้าไปในห้อง มีคนอยู่ที่นั่นหลายพันคน มันเป็นงานที่ใหญ่โต แต่คนกำลังทานอาหารจากกล่องอาหารกลางวัน บนโต๊ะกลม และก็มีวงดนตรีเศร้าๆ กำลังเล่นดนตรีอยู่ หรือเป็นวงดนตรีเล่นเพลงเศร้าๆอยู่ อาจจะเป็นทั้งสองอย่างเลยก็ได้ และชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาดิฉัน เขามีรอยสัก และไว้ผมหางม้า และใส่หมวกเบสบอล และเขาก็มากับลูกสาวสองคน และพูดว่า "ผู้ว่าฯ ครับ นี่ลูกสาวสองคนของผม" เขากล่าวว่า "ผมอายุ 48 ปี" และผมทำงานที่โรงงานนี้มาได้ 30 ปีแล้ว พอจบมัธยม ผมก็มาเข้าโรงงานเลย พ่อผมก็ทำงานที่โรงงานนี้" เขาบอก "ปู่ผมก็ทำงานที่โรงงานนี้ ทุกเรื่องที่ผมรู้ก็คือ จะทำตู้เย็นอย่างไร" แล้วเขาก็มองดูลูกสาวของเขา และก็เอามือไปวางบนทรวงอก และกล่าวว่า "แล้วผู้ว่าฯ ครับ ช่วยบอกผมหน่อย ใครจะมาจ้างงานผมอีก? ใครจะมาจ้างงานผมอีก?" และนั่นไม่ได้ถูกถาม โดยชายคนนี้เท่านั้น แต่โดยทุกๆคนในศาลานั้น พูดตรงๆ คือถูกถามโดยคนงานทุกคน ที่ทำงานในโรงงานหนึ่งใน 50,000 โรง ที่ได้ปิดตัวลงในทศวรรษแรกของศตวรรษนี้ ปริศนาข้อหที่นึ่ง เราจะสร้างงาน ในอเมริกาได้อย่างไรในเศรษฐกิจระดับโลก? ข้อสอง ไปอย่างเร็วนะคะ คุณจะแก้ปัญหา การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกได้อย่างไร เมื่อเราไม่มีแม้แต่นโยบายพลังงานระดับชาติ ในประเทศนี้ และเมื่อการชะงักงันในสภาคองเกรส เกิดบ่อยจนเรื่องปกติ ตามจริงแล้ว มีโพลที่ทำเมื่อไม่นานมานี้ และผู้ทำโพลได้เปรียบเทียบการจัดอันดับ การยอมรับของสภาคองเกรส กับสิ่งที่ไม่น่าพอใจหลายอย่าง และความจริงได้พบว่า การจัดอันดับของสภาคองเกรส เลวร้ายยิ่งกว่าแมลงสาบ เหา วงดนตรีนิเคิลแบ็ก โรคคลองรากฟัน และ โดแนล ทรัมพ์ (เสียงหัวเราะ) แต่เดี๋ยวก่อน ข่าวดีคือ อย่างน้อยก็ยังดีกว่า ห้องแล็บทำยาไอซ์ และโรคหนองใน (เสียงหัวเราะ) เรามีปัญหาแล้ว เพื่อนเอ๋ย ดังนั้น มันทำให้ฉันต้องมาคิด ว่ามันคืออะไรหรือ อะไรในห้องแล็บ ที่ฉันเห็นอยู่ข้างนอกนั้น ห้องแล็บของประชาธิปไตย มันเกิดอะไรขึ้น นโยบายไหนที่เราเคยวางไว้ แล้วสามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และได้รับการยอมรับจากทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล? ตัวอย่างเช่น ถ้าดิฉันถามคุณว่า นโยบายอะไรของคณะบริหารโอบามา ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นทั่วประเทศ คุณจะบอกว่าอะไร คุณอาจจะบอกว่า นโยบายโอบามาแคร์ ยกเว้นพวกที่เลือกไม่ยอมเปลี่ยน ก็อย่างที่เรารู้ เพียงครึ่งเดียวของรัฐต่างๆ เลือกที่จะยอมเปลี่ยน เราอาจบอกว่าเป็นเพราะ พรบ.ฟื้นฟู (Recovery Act) แต่นั่นไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนนโยบาย สิ่งที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้อย่างกว้างขวาง ก็คือ การแข่งไปให้ถึงยอดสุด (Race to the Top) ในเรื่องการศึกษา ทำไมหรือ? รัฐบาลทุ่มเงินถึง 45,000 ล้านดอลลาร์ และบอกผู้ว่าการรัฐทั้งประเทศให้แข่งขันกัน ให้ผู้ว่าการรัฐสี่สิบแปดคนแข่งกัน โน้มน้าวให้สภานิติบัญญัติของรัฐทั้ง 48 แห่ง ยกมาตรฐานของนักเรียนมันธยมให้สูงขึ้น เพื่อให้พวกเขาทุกคน เข้าเรียนหลักสูตรเตรียมอุดมศึกษา สี่สิบแปดรัฐเข้าร่วมด้วย สร้างนโยบายการศึกษาระดับชาติ จากล่างขึ้นบน ดังนั้น ดิฉันจึงคิดว่า ทำไมเราไม่ทำแบบเดียวกันนี้บ้าง และสร้างงานด้านพลังงานที่สะอาด แข่งไปให้ถึงยอดสุด เพราะจะอย่างไรก็ตาม ถ้าเราดูที่เนื้อหาสาระ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ ได้ถูกนำไปใช้ลงทุนในช่วงแปดปีที่ผ่านมา จากภาคเอกชนทั่วโลก และทุกๆดออลลาร์ก็หมายถึงงาน และงานเหล่านั้นไปไหนเล่า อ๋อ มันก็ไปยังที่ที่มีนโยบาย อย่างเช่น จีน ตามจริงแล้ว ดิฉันไปเยือนจีน เพื่อไปดูว่าพวกเขาทำอะไรกัน พวกเขาแสดงการสาธิตให้ดู กลุ่มดิฉันก็ดูอยู่ด้วย ฉันยืนดูอยู่ด้านหลังห้อง ในช่วงการแสดงสาธิตนั้น และยืนถัดจากข้าราชการจีนคนหนึ่ง และขณะที่เรากำลังดูอยู่นั้น เขาก็ถามว่า "คุณผู้ว่าฯ คุณคิดว่าเมื่อไหร่ สหรัฐฯจะมีนโยบายระดับชาติเรื่องพลังงาน" ดิฉันตอบว่า "โอ้ พระเจ้า สภาคองเกรสตอนนี้ ติดขัดไปหมด ใครจะไปทราบได้คะ" และนี่คือสิ่งที่เขาทำ เขาทำแบบนี้แล้วพูดว่า "ไม่ต้องรีบหรอกครับ ตามสบาย" เพราะว่าเขาเห็นการอยู่เฉยๆของเรา เป็นโอกาสของพวกเขา ดังนั้น ถ้าเราตัดสินใจสร้าง ความท้าทายให้เกิดกับผู้ว่าการรัฐต่างๆของประเทศ และค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าแข่งขันนี้ ก็เท่ากับจำนวนเงินที่ กลุ่มสมาชิกสภาคองเกรสทั้งสองพรรค อนุมัติเห็นชอบ สำหรับการแข่งให้ไปถึงยอดสุด ในเรื่องของการศึกษา คือ 45,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งฟังดูเหมือนจะเป็นเงินจำนวนมาก แต่จริงๆแล้วน้อยกว่า 0.1 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณของรัฐบาลกลาง มันแทบเป็นเลขปัดเศษทิ้งในมุมมองของรัฐบาลกลาง แต่ค่าตอบแทนที่จะเข้าไปร่วมการแข่งขันนั้นน่าจะเป็น คุณแค่ใช้ เป้าหมายของประธานาธิบดี ท่านต้องการให้สภาคองเกรสเปลี่ยนมาใช้ มาตรฐานพลังงานที่สะอาด ให้ได้ 80 เปอร์เซ็น ก่อนปี 2030 พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ คุณต้องให้ได้ 80 เปอร์เซ็นต์ ของพลังงานที่ได้จากแหล่งที่สะอาด ก่อนปี 2030 ทำไมไม่ขอให้รัฐต่างๆทำ แทนที่จะทำเองเล่า ลองจินตนาการดูซิว่า อาจจะเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าแต่ละภูมิภาค ล้วนมีบางอย่างที่จะนำเสนอให้พิจารณา คุณอาจจะเอารัฐไอโอวาและโอไฮโอ เป็นตัวอย่าง อ้อ สองรัฐนี้เป็นรัฐทางการเมืองที่สำคัญมากนะคะ ผู้ว่าการรัฐทั้งสอง ก็อาจจะบอกว่า เราจะนำประเทศในเรื่องของการผลิต กังหันลม และพลังงานจากลม คุณอาจจะพูดถึงรัฐที่ใช้แสงอาทิตย์ ในแนวเข็มขัดตะวัน ทางตอนใต้ที่มีแดดจัด เราจะเป็นรัฐที่ผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ ให้กับประเทศ บางที เจอร์รี่ บราวน์ จะบอกว่า "เอาละ ผมจะสร้าง กลุ่มอุตสาหกรรมในแคลิฟอร์เนีย เพื่อให้สามารถผลิตแผงพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อที่ว่าเราจะไม่ต้องซื้อจากจีน แต่เราจะซื้อแผงเหล่านี้จากสหรัฐฯ" ตามความจริงแล้ว ทุกภูมิภาคของประเทศสามารถทำสิ่งนี้ได้ จริงไหม คุณมีแสงอาทิตย์ และลม เป็นโอกาสอยู่แล้วทั่วประเทศ ความจริงแล้ว ถ้าคุณมองดูแค่รัฐทางตอนบนและทางเหนือ ทางตะวันตก พวกเขาสามารถผลิตพลังงาน จากความร้อนใต้พิภพได้ หรือคุณอาจดูรัฐเท็กซัส และบอกว่า เราจะเป็นผู้นำของประเทศในเรื่อง การใช้โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (smart grid) รัฐทางตะวันออกตอนกลาง ซึ่งสามารถเข้าถึงป่าไม้ และเข้าถึงของเสียจากการเกษตรกรรมอาจจะบอกว่า เราจะนำประเทศในเรื่องของเชื้อเพลิงชีวภาพ สำหรับรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เราจะนำประเทศ ในเรื่องการแก้ปัญหาประสิทธิภาพพลังงาน ตามชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก เราจะนำประเทศ ในเรื่องลมจากทะเล คุณอาจดู มิชิแกน และบอกว่า เราจะนำประเทศ ในการผลิตชิ้นส่วนรถไฟฟ้า อย่างเช่น แบตเตอรีลิเธียมไอออน ทุกภูมิภาคมีบางอย่างที่เสนอมาให้พิจารณา และถ้าคุณก่อให้เกิดการแข่งขัน นั่นเป็นการเคารพรัฐทั้งหลาย และเคารพระบอบสหพันธรัฐ นั่นการเลือกที่จะเข้าร่วม คุณอาจได้แม้กระทั่งเท็กซัส และเซาธ์แคโรไลนา ซึ่งเป็นรัฐไม่ได้เข้าร่วมใน โครงการแข่งไปให้ถึงยอดสุดทางการศึกษา คุณก็อาจได้พวกเขาเข้ามาร่วมด้วย ทำไมหรือ? เพราะว่าผู้ว่าการรัฐจากทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ชอบตัดริบบิ้น เราต้องการให้มีงานเข้ามา พูดเฉยๆนะคะ และมันจะส่งเสริมนวตกรรมในระดับของรัฐ ในห้องทดลองประชาธิปไตยนี้ ทีนี้ ใครที่กำลังเฝ้าดูเรื่องอะไรก็ตาม ที่เกี่ยวกับการเมืองเร็วๆนี้อยู่บ้าง อาจจะบอกว่า "ใช่ เป็นความคิดที่เยี่ยม แต่จริงๆหรือ สภาคองเกรสทุ่มเงินสี่หมื่นห้าพันล้านดอลลาร์ วางเป็นเดิมพันบนโต๊ะหรือ พวกเขาไม่เห็นจะตกลงกันได้สักเรื่อง" ดังนั้นคุณอาจคอยให้มันผ่านสภาคองเกรส แต่คุณอาจจะต้องแทบหมดความอดทน หรือไม่คุณก็เปลี่ยนแนวทาง เราสามารถเลี่ยงสภาคองเกรสไป เลี่ยงสภาคองเกรสไปเสีย ถ้าหากว่า เราสร้างความท้าทายจากภาคเอกชน ให้กับผู้ว่าการรัฐทั้งหลาย? ถ้าหากว่าบริษัทมูลค่าสูงหลายบริษัท และบุคคลต่างๆใน TED นี้ตัดสินใจ ว่าพวกเขาจะร่วมกันเป็นกลุ่ม แค่สองคนก็พอคะ และสร้างการแข่งขันขึ้นในระดับชาติ กับผู้ว่าการรัฐ เพื่อให้มีการแข่งไปให้ถึงยอดสุด และดูซิว่า ผู้ว่าการรัฐจะตอบรับอย่างไร ถ้าเผื่อทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นที่ TED ตรงนี้ ถ้าเผื่อคุณอยู่ที่นี่ เมื่อเราคิดออกว่า จะถอดรหัสนี้ได้อย่างไร เพื่อสร้างงานที่จ่ายเงินดีในอเมริกา (เสียงปรบมือ) และได้นโยบายพลังงานระดับชาติ และเราสร้างกลยุทธ์ทางพลังงานชาติ จากล่างขึ้นบน เพราะว่า ชาว TED ที่รัก ถ้าคุณใจร้อนเหมือนกับดิฉัน คุณก็จะทราบว่าคู่แข่งทางเศรษฐกิจของเรา ประเทศอื่นๆของเรา ก็ยู่ในเกมแข่งขันนี้ด้วย และกำลังรุมกินโต๊ะเราอยู่ และเราจะเข้าไปอยู่ในเกมนี้ได้หรือไม่ เราจะอยู่ที่โต๊ะก็ได้ หรือเราจะอยู่บนโต๊ะก็ได้ ดิฉันไม่รู้ว่าคุณจะคิดอย่างไร แต่ฉันชอบจะรับประทานมากกว่า ขอบคุณทุกท่านอย่างสูง (เสียงปรบมือ)