WEBVTT 00:00:00.556 --> 00:00:04.573 อารมณ์ของเรามีอิทธิพลต่อเรา ในทุกด้านของชีวิต 00:00:04.573 --> 00:00:08.149 ตั้งแต่สุขภาพและการเรียนรู้ ไปจนถึงการทำธุรกิจและตัดสินใจ 00:00:08.149 --> 00:00:09.922 ไม่ว่าเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก 00:00:10.672 --> 00:00:14.162 อารมณ์ของเรายังมีอิทธิพลต่อ ความสัมพันธ์ที่คนเรามีต่อกันด้วย 00:00:15.132 --> 00:00:19.108 คนเรามีวิวัฒนาการมา ให้มีชีวิตอยู่ในโลกแบบนี้ 00:00:19.108 --> 00:00:23.427 แต่แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เรากำลังใช้ชีวิตแบบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ 00:00:23.427 --> 00:00:26.561 นี่คือข้อความจากลูกสาวของฉันเมื่อคืนนี้ 00:00:26.561 --> 00:00:29.301 ในโลกที่ขาดไร้ซึ่งอารมณ์ 00:00:29.301 --> 00:00:31.252 ฉันเลยมีภารกิจที่จะเปลี่ยนแปลงมัน 00:00:31.252 --> 00:00:35.343 ฉันต้องการนำอารมณ์ กลับมาสู่ประสบการณ์ดิจิตอลของเรา NOTE Paragraph 00:00:36.223 --> 00:00:39.300 ฉันเริ่มต้นเส้นทางนี้เมื่อ 15 ปีที่แล้ว 00:00:39.300 --> 00:00:41.366 ฉันเป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ในอียิปต์ 00:00:41.366 --> 00:00:45.871 และเพิ่งได้รับตอบรับเข้าเรียนปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ 00:00:45.871 --> 00:00:47.984 นั่นคือ ฉันทำอะไรที่ประหลาดมาก 00:00:47.984 --> 00:00:52.209 สำหรับหญิงสาวมุสลิมในอียิปต์ ที่เพิ่งแต่งงาน 00:00:53.599 --> 00:00:56.598 แต่ด้วยการสนับสนุนจากสามีของฉัน ซึ่งต้องอยู่ที่อียิปต์ 00:00:56.598 --> 00:00:59.616 ฉันก็เก็บกระเป๋าและย้ายไปอังกฤษ 00:00:59.616 --> 00:01:02.844 ที่เคมบริดจ์ หลายพันไมล์ไกลจากบ้าน 00:01:02.844 --> 00:01:06.257 ฉันเริ่มรู้ตัวว่าฉันใช้เวลา อยู่กับคอมพิวเตอร์แล็บท็อปของฉัน 00:01:06.257 --> 00:01:08.486 มากกว่าใช้เวลากับมนุษย์คนอื่น 00:01:08.486 --> 00:01:13.339 แม้จะใกล้ชิดกันขนาดนั้น แล็บท็อปของฉัน ก็ไม่รู้เลยว่าฉันกำลังรู้สึกอย่างไร 00:01:13.339 --> 00:01:16.550 มันไม่รู้เลยว่าฉันกำลังมีความสุข 00:01:16.550 --> 00:01:19.538 เจอวันที่เลวร้าย หรือเครียด หรือสับสน 00:01:19.538 --> 00:01:22.460 ฉันก็เลยเกิดคับข้องใจขึ้นมา 00:01:23.600 --> 00:01:28.831 ที่แย่กว่านั้น เวลาฉันสื่อสาร กับครอบครัวของฉันที่อยู่ที่บ้าน 00:01:29.421 --> 00:01:32.703 ฉันรู้สึกว่าอารมณ์ทั้งหมดของฉัน มันอันตรธานหายไปในโลกไซเบอร์ 00:01:32.703 --> 00:01:37.858 ฉันคิดถึงบ้าน ฉันเหงา และบางวันฉันก็ร้องไห้ 00:01:37.858 --> 00:01:42.786 แต่วิธีที่ฉันใช้สื่อสารอารมณ์เหล่านี้ได้ มีทั้งหมดก็แค่นี้ 00:01:42.786 --> 00:01:44.806 (เสียงหัวเราะ) 00:01:44.806 --> 00:01:48.890 เทคโนโลยีในปัจจุบันนี้ มี ไอ.คิว. สูงมาก แต่ไม่มี อี.คิว. 00:01:48.890 --> 00:01:52.956 ฉลาดทางปัญญามาก แต่ไม่ฉลาดทางอารมณ์ 00:01:52.956 --> 00:01:55.153 นั่นจึงทำให้ฉันคิดขึ้นมาว่า 00:01:55.153 --> 00:01:58.777 มันจะเป็นยังไงนะ ถ้าเทคโนโลยีรับรู้อารมณ์ของเราได้ 00:01:58.777 --> 00:02:02.853 ถ้าอุปกรณ์ทั้งหลายของเรารับรู้ได้ว่า เรารู้สึกอย่างไรและตอบสนองได้อย่างเหมาะสม 00:02:02.853 --> 00:02:05.866 เหมือนที่เพื่อนของเรา ที่มีความฉลาดทางอารมณ์จะตอบสนอง 00:02:06.666 --> 00:02:10.230 คำถามเหล่านี้นำพาฉันและทีม 00:02:10.230 --> 00:02:14.607 ให้สร้างเทคโนโลยีที่สามารถอ่าน และตอบสนองต่ออารมณ์ของเราได้ 00:02:14.607 --> 00:02:17.697 และจุดเริ่มต้นของเราคือใบหน้าของมนุษย์ NOTE Paragraph 00:02:18.577 --> 00:02:21.750 ใบหน้าของมนุษย์ เป็นช่องทางที่มีพลังที่สุดช่องทางหนึ่ง 00:02:21.750 --> 00:02:25.766 ที่เราใช้สื่อสารสภาวะทางอารมณ์และสังคม 00:02:25.766 --> 00:02:28.776 ทุกๆ อย่างตั้งแต่ความรื่นรมย์ ประหลาดใจ 00:02:28.776 --> 00:02:32.979 เห็นอกเห็นใจ และสงสัยใคร่รู้ 00:02:32.979 --> 00:02:37.907 ในศาสตร์ด้านอารมณ์ เรียกการเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อใบหน้าแต่ละมัดว่าหน่วยเคลื่อนไหว 00:02:37.907 --> 00:02:40.832 เช่น หน่วยเคลื่อนไหวที่ 12 00:02:40.832 --> 00:02:42.870 ไม่ใช่ชื่อหนังฮอลลีวูดนะ 00:02:42.870 --> 00:02:46.312 มันคือการดึงมุมปากขึ้น ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของการยิ้ม 00:02:46.312 --> 00:02:49.300 ทุกคนลองดูนะคะ มาเรามายิ้มกันเถอะ 00:02:49.300 --> 00:02:51.954 อีกตัวอย่างหนึ่งคือหน่วยเคลื่อนไหวที่ 4 คือการขมวดคิ้ว 00:02:51.954 --> 00:02:54.192 เมื่อคุณดึงคิ้วเข้าหากัน 00:02:54.192 --> 00:02:56.459 ทำให้เกิดพื้นผิวรอยย่นแบบนี้ ซึ่งเราไม่ชอบเลย 00:02:56.459 --> 00:02:59.774 แต่มันเป็นตัวบ่งชี้อารมณ์ทางลบที่ชัดเจน 00:02:59.774 --> 00:03:02.680 คนเรามีหน่วยการเคลื่อนไหวแบบนี้ 45 หน่วย 00:03:02.680 --> 00:03:06.350 และมันทำงานร่วมกันเพื่อแสดงอารมณ์นับร้อยๆ NOTE Paragraph 00:03:06.350 --> 00:03:10.251 การสอนให้คอมพิวเตอร์ อ่านอารมณ์ทางสีหน้าพวกนี้เป็นเรื่องยาก 00:03:10.251 --> 00:03:13.223 เพราะหน่วยการเคลื่อนไหวเหล่านี้ เกิดขึ้นเร็ว มองไม่ค่อยออก 00:03:13.223 --> 00:03:15.777 และยังประกอบกันได้หลายรูปแบบ 00:03:15.777 --> 00:03:19.515 ตัวอย่างเช่น การยิ้ม กับการยิ้มเยาะ 00:03:19.515 --> 00:03:23.268 มันดูคล้ายๆ กัน แต่มันมีความหมายต่างกันมาก 00:03:23.268 --> 00:03:24.986 (เสียงหัวเราะ) 00:03:24.986 --> 00:03:27.160 การยิ้มนี่ความหมายทางบวก 00:03:27.160 --> 00:03:29.120 การยิ้มเยาะนี่มักจะมีความหมายแง่ลบ 00:03:29.120 --> 00:03:33.136 บางครั้งการยิ้มเยาะ อาจทำให้คุณกลายเป็นคนดังขึ้นมา 00:03:33.136 --> 00:03:35.960 แต่เอาจริงๆ นะ นี่เป็นเรื่องสำคัญ ที่คอมพิวเตอร์ต้องสามารถ 00:03:35.960 --> 00:03:38.485 แยกแยะความแตกต่างระหว่างสีหน้าสองแบบนี้ได้ NOTE Paragraph 00:03:38.485 --> 00:03:40.627 แล้วเราทำยังไงล่ะ 00:03:40.627 --> 00:03:42.414 เราให้ชุดคำสั่งของเรา 00:03:42.414 --> 00:03:46.524 ได้เรียนรู้ตัวอย่างคนนับหมื่นๆ ที่เรารู้อย่างแน่นอนว่ากำลังยิ้มอยู่ 00:03:46.524 --> 00:03:49.589 จากทุกเชื้อชาติ อายุ เพศ 00:03:49.589 --> 00:03:52.200 แล้วเราก็ทำอย่างเดียวกันกับการยิ้มเยาะ 00:03:52.200 --> 00:03:53.954 แล้วหลังจากการเรียนรู้ที่ลึกซึ้ง 00:03:53.954 --> 00:03:56.810 ชุดคำสั่งของเราก็มองหาพื้นผิว รอยย่น 00:03:56.810 --> 00:03:59.050 และการเปลี่ยนแปลงรูปร่างเหล่านี้ บนใบหน้าของเรา 00:03:59.050 --> 00:04:02.592 และเรียนรู้ว่า การยิ้มทุกๆ ตัวอย่าง มีลักษณะอะไรร่วมกัน 00:04:02.592 --> 00:04:05.773 และการยิ้มเยาะทุกตัวอย่าง มีลักษณะที่แตกต่างไปเล็กน้อยอย่างไร 00:04:05.773 --> 00:04:08.141 ครั้งต่อไปที่มันเห็นใบหน้าใหม่ 00:04:08.141 --> 00:04:10.440 มันก็จะเรียนรู้ว่า 00:04:10.440 --> 00:04:13.473 ใบหน้านี้มีลักษณะเหมือนการยิ้ม 00:04:13.473 --> 00:04:17.751 แล้วก็บอกว่า "อะฮ้า ฉันจำได้ละ นี่คือการยิ้ม" NOTE Paragraph 00:04:18.381 --> 00:04:21.181 ทีนี้ การสาธิตที่ดีที่สุด ว่าเทคโนโลยีนี้ทำงานอย่างไร 00:04:21.181 --> 00:04:23.317 คือการทดลองกับคนจริงๆ 00:04:23.317 --> 00:04:27.230 เอาล่ะ ฉันอยากได้อาสาสมัครสักคน ขอให้เป็นคนที่มีใบหน้านะคะ 00:04:27.230 --> 00:04:29.564 (เสียงหัวเราะ) 00:04:29.564 --> 00:04:32.335 โคลอี้จะเป็นอาสาสมัครให้เราวันนี้ค่ะ NOTE Paragraph 00:04:33.325 --> 00:04:37.783 คือ ห้าปีที่ผ่านมา เราก้าวจากการเป็นโครงการวิจัยที่เอ็มไอที 00:04:37.783 --> 00:04:38.939 มาเป็นบริษัท 00:04:38.939 --> 00:04:42.131 ซึ่งทีมของฉันทำงานกันหนักมาก เพื่อให้เทคโนโลยีนี้ทำงานได้ 00:04:42.131 --> 00:04:44.540 ในสภาพการใช้งานจริง 00:04:44.540 --> 00:04:47.210 และเราก็ย่อส่วนมัน ให้โปรแกรมหลักที่ใช้วิเคราะห์อารมณ์ 00:04:47.210 --> 00:04:50.530 ทำงานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มีกล้องได้ เช่นไอแพด 00:04:50.530 --> 00:04:53.316 เรามาลองกันนะคะ NOTE Paragraph 00:04:54.756 --> 00:04:58.680 คุณจะเห็นว่าชุดคำสั่งพบใบหน้าของโคลอี้แล้ว 00:04:58.680 --> 00:05:00.372 คือกล่องที่มีเส้นกรอบสีขาวนี่ 00:05:00.372 --> 00:05:02.943 แล้วมันก็ติดตามการเคลื่อนไหว ของจุดหลักๆ บนหน้าของเธอ 00:05:02.943 --> 00:05:05.799 คิ้ว ตา ปาก และจมูก 00:05:05.799 --> 00:05:08.786 คำถามคือ มันจะรู้ไหมว่าเธอแสดงสีหน้าอะไร 00:05:08.786 --> 00:05:10.457 เราจะมาทดสอบเจ้าเครื่องนี้กัน 00:05:10.457 --> 00:05:14.643 ก่อนอื่น ทำหน้าเฉยหน่อยซิ อ่ะ เจ๋งเลย (เสียงหัวเราะ) 00:05:14.643 --> 00:05:17.456 ทีนี้ พอโคลอี้ยิ้ม นี่คือยิ้มที่จริงใจ เยี่ยมมาก 00:05:17.456 --> 00:05:19.756 คุณจะเห็นแท่งสีเขียวเพิ่มขึ้นตอนที่เธอยิ้ม 00:05:19.756 --> 00:05:20.978 นั่นคือการยิ้มกว้าง 00:05:20.978 --> 00:05:24.021 ลองยิ้มน้อยๆ ได้ไหม ดูซิว่าคอมพิวเตอร์จะจับได้ไหม 00:05:24.021 --> 00:05:26.352 มันรับรู้ยิ้มจางๆ ได้ด้วยเช่นกัน 00:05:26.352 --> 00:05:28.477 เราทำงานกันหนักมากเพื่อให้มันทำได้ 00:05:28.477 --> 00:05:31.439 ทีนี้ เลิกคิ้ว ตัวบ่งชี้ว่าประหลาดใจ 00:05:31.439 --> 00:05:35.688 คิ้วขมวด ซึ่งบ่งชี้ความสับสน 00:05:35.688 --> 00:05:39.695 หน้าบึ้ง ใช่เลย เยี่ยม 00:05:39.695 --> 00:05:43.188 นี่คือหน่วยการเคลื่อนไหวต่างๆ ยังมีอีกหลายแบบมาก 00:05:43.188 --> 00:05:45.220 นี่คือการสาธิตสั้นๆ เท่านั้น 00:05:45.220 --> 00:05:48.368 เราเรียกการอ่านข้อมูลแต่ละจุดบนใบหน้า ว่าหน่วยข้อมูลอารมณ์ 00:05:48.368 --> 00:05:51.337 และมันก็ทำงานร่วมกัน เพื่อแสดงอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป 00:05:51.337 --> 00:05:55.990 ตรงด้านขวาของจอ ดูเหมือนเธอมีความสุขอยู่นะ 00:05:55.990 --> 00:05:57.444 นั่นคือความสุข มันสว่างขึ้นมา 00:05:57.444 --> 00:05:59.371 ทีนี้ ทำหน้าขยะแขยงซิ 00:05:59.371 --> 00:06:03.643 ทีนี้ นึกถึงความรู้สึกตอนที่เซย์น ลาออกจากวง วัน ไดเร็กชัน ซิ 00:06:03.643 --> 00:06:05.153 (เสียงหัวเราะ) 00:06:05.153 --> 00:06:09.495 ใช่ จมูกย่นเลย แจ๋ว 00:06:09.495 --> 00:06:13.226 และทิศทางอารมณ์ค่อนข้างลบมาก นี่เป็นแฟนพันธุ์แท้วงนี้ล่ะสิ 00:06:13.226 --> 00:06:15.926 ทิศทางอารมณ์คือความเป็นบวก หรือลบของประสบการณ์นั้น 00:06:15.926 --> 00:06:18.712 และความอิน คือ เธอแสดงออกมากขนาดไหน 00:06:18.712 --> 00:06:22.126 ลองจินตนาการดูสิคะ ถ้าโคลอี้เข้าถึง ข้อมูลอารมณ์แบบนี้ได้ทันทีตลอดเวลา 00:06:22.126 --> 00:06:24.935 และเธอสามารถแชร์ให้ใครก็ได้ที่เธอต้องการ 00:06:24.935 --> 00:06:27.858 ขอบคุณค่ะ 00:06:27.858 --> 00:06:32.479 (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:06:33.749 --> 00:06:39.019 ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ เราเก็บรวบรวม ข้อมูลอารมณ์ได้หนึ่งหมื่นสองพันล้านหน่วย 00:06:39.019 --> 00:06:41.630 เป็นฐานข้อมูลอารมณ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 00:06:41.630 --> 00:06:44.593 เราเก็บรวบรวมมาจากวิดีโอใบหน้า สองล้านเก้าแสนวิดีโอ 00:06:44.593 --> 00:06:47.193 ถ่ายจากคนที่ยินยอม ให้ข้อมูลอารมณ์ของเขาให้กับเรา 00:06:47.193 --> 00:06:50.398 จาก 75 ประเทศทั่วโลก 00:06:50.398 --> 00:06:52.113 และกำลังเพิ่มมากขึ้นทุกๆ วัน 00:06:52.603 --> 00:06:54.670 มันทำให้ฉันตื่นเต้นสุดๆ 00:06:54.670 --> 00:06:57.865 ที่ตอนนี้เราวัดปริมาณอะไรที่ เป็นประสบการณ์ส่วนตัวมากๆ อย่างอารมณ์ 00:06:57.865 --> 00:07:00.100 และเราสามารถทำได้ในขอบเขตใหญ่ขนาดนี้ NOTE Paragraph 00:07:00.100 --> 00:07:02.277 แล้วจากข้อมูลนี้เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง 00:07:03.057 --> 00:07:05.388 ความแตกต่างระหว่างเพศ 00:07:05.388 --> 00:07:09.034 ข้อมูลของเรายืนยันบางอย่าง ที่คุณอาจคาดไว้อยู่แล้ว 00:07:09.034 --> 00:07:10.891 ผู้หญิงแสดงอารมณ์มากกว่าผู้ชาย 00:07:10.891 --> 00:07:13.574 ไม่ใช่เพียงแค่ยิ้มมากกว่า แต่ยังยิ้มนานกว่า 00:07:13.574 --> 00:07:16.478 และเรายังสามารถวัดได้ด้วย ว่าอะไรที่ผู้หญิงกับผู้ชาย 00:07:16.478 --> 00:07:18.614 ตอบสนองต่างกัน 00:07:18.614 --> 00:07:20.904 ลองมาดูตามวัฒนธรรมกัน ในสหรัฐอเมริกา 00:07:20.904 --> 00:07:24.108 ผู้หญิงแสดงอารมณ์ มากกว่าผู้ชาย 40 เปอร์เซ็นต์ 00:07:24.108 --> 00:07:27.753 แต่น่าแปลกไหม ที่เราไม่เห็นความแตกต่าง ระหว่างชายหญิงในอังกฤษ 00:07:27.753 --> 00:07:30.259 (เสียงหัวเราะ) 00:07:31.296 --> 00:07:35.323 ส่วนอายุ คนที่อายุ 50 ปีขึ้นไป 00:07:35.323 --> 00:07:38.759 แสดงอารมณ์มากกว่าคนที่อายุน้อยกว่า 00:07:39.339 --> 00:07:43.751 ผู้หญิงในวัย 20 กว่า ยิ้มเยอะกว่าผู้ชายในวัยเดียวกันมาก 00:07:43.751 --> 00:07:47.590 บางทีอาจเป็นสิ่งจำเป็นในการออกเดท 00:07:47.590 --> 00:07:50.207 แต่สิ่งที่ทำให้เราประหลาดใจที่สุด จากข้อมูลชุดนี้ 00:07:50.207 --> 00:07:53.410 คือ จริงๆ คนเราแสดงอารมณ์ตลอดเวลา 00:07:53.410 --> 00:07:56.243 แม้เวลาที่เรานั่งอยู่คนเดียว หน้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเรา 00:07:56.243 --> 00:07:59.517 ไม่ใช่แค่ตอนที่เราดูวิดีโอแมวบนเฟซบุค 00:08:00.217 --> 00:08:03.227 แต่เราแสดงอารมณ์ตอนเราอีเมล์ ส่งข้อความ ซื้อของออนไลน์ 00:08:03.227 --> 00:08:05.527 หรือแม้แต่ยื่นแบบภาษี NOTE Paragraph 00:08:05.527 --> 00:08:07.919 วันนี้ เราเอาข้อมูลเหล่านี้ไปทำอะไรได้ 00:08:07.919 --> 00:08:10.682 ในการทำความเข้าใจการติดต่อสัมพันธ์กับสื่อ 00:08:10.682 --> 00:08:13.166 การแพร่กระจายข่าวสารแบบไวรัล พฤติกรรมการเลือกตั้ง 00:08:13.166 --> 00:08:15.906 เทคโนโลยีที่ให้อำนาจ หรือความสามารถทางอารมณ์ 00:08:15.906 --> 00:08:20.527 ฉันอยากเล่าตัวอย่าง ที่สำคัญกับฉันมากเป็นพิเศษ 00:08:21.197 --> 00:08:24.265 แว่นตาเพิ่มความสามารถในการรับรู้อารมณ์ 00:08:24.265 --> 00:08:27.493 ช่วยให้คนพิการทางสายตาอ่านใบหน้าคนอื่นได้ 00:08:27.493 --> 00:08:30.920 มันช่วยคนที่มีอาการออทิสซึม ให้ตีความอารมณ์คนอื่นได้ 00:08:30.920 --> 00:08:34.458 ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขามีปัญหา 00:08:35.468 --> 00:08:38.777 ในวงการการศึกษา ลองคิดดูสิคะ ถ้าแอปพลิเคชันการเรียนรู้ของคุณ 00:08:38.777 --> 00:08:41.587 รับรู้ได้ว่าคุณสับสนและทำงานช้าลง 00:08:41.587 --> 00:08:43.444 หรือรู้ว่าคุณเบื่อ จึงเร่งความเร็วขึ้น 00:08:43.444 --> 00:08:46.413 เหมือนที่ครูที่ยอดเยี่ยมจะทำในห้องเรียน 00:08:47.043 --> 00:08:49.644 จะเป็นยังไงถ้านาฬิกาข้อมือของคุณ เฝ้าติดตามอารมณ์ของคุณ 00:08:49.644 --> 00:08:52.337 หรือรถของคุณรับรู้ได้ว่าคุณเหนื่อย 00:08:52.337 --> 00:08:54.885 หรือตู้เย็นของคุณอาจจะรู้ว่าคุณเครียด 00:08:54.885 --> 00:08:59.311 มันเลยล็อกตัวเองอัตโนมัติ ป้องกันคุณกินอย่างไร้สติ (เสียงหัวเราะ) 00:08:59.311 --> 00:09:02.078 ฉันอยากได้นะ 00:09:03.668 --> 00:09:05.595 จะเป็นยังไง ถ้าตอนอยู่เคมบริดจ์ 00:09:05.595 --> 00:09:07.908 ฉันสามารถเข้าถึงกระแสอารมณ์ของฉัน แบบนาทีต่อนาที 00:09:07.908 --> 00:09:11.437 และฉันสามารถแชร์ความรู้สึกนั้น กับครอบครัวของฉันที่บ้านอย่างเป็นธรรมชาติ 00:09:11.437 --> 00:09:15.408 เหมือนกับเวลาที่เราทุกคนอยู่ในห้องเดียวกัน NOTE Paragraph 00:09:15.408 --> 00:09:18.550 ฉันคิดว่า อีกห้าปีข้างหน้า 00:09:18.550 --> 00:09:20.887 อุปกรณ์ทุกอย่างของเรา จะมีชิพตรวจจับอารมณ์ 00:09:20.887 --> 00:09:24.951 และเราจะลืมช่วงเวลาก่อนหน้านี้ไปเลย ที่เรายังไม่สามารถหน้าบึ้งใส่อุปกรณ์ของเรา 00:09:24.951 --> 00:09:29.200 แล้วอุปกรณ์ของเรามันจะพูดว่า "อืม คุณไม่ชอบใช่ไหมล่ะ" 00:09:29.200 --> 00:09:32.961 ความท้าทายสูงสุดของเราคือ การใช้งานเทคโนโลยีนี้มีได้หลากหลายมาก 00:09:32.961 --> 00:09:35.864 ฉันกับทีมของฉันรู้ว่า เราไม่สามารถสร้างทุกอย่างเองได้ทั้งหมด 00:09:35.864 --> 00:09:39.360 เราจึงเปิดเผยเทคโนโลยีนี้ เพื่อให้นักพัฒนาคนอื่น 00:09:39.360 --> 00:09:41.474 สามารถเอาไปพัฒนาและสร้างสรรค์ต่อ 00:09:41.474 --> 00:09:45.560 เราตระหนักว่ามันมีความเสี่ยง 00:09:45.560 --> 00:09:47.627 และอาจมีการเอาไปใช้ในทางที่ผิด 00:09:47.627 --> 00:09:50.576 แต่โดยส่วนตัวที่ทำเรื่องนี้มาหลายปี 00:09:50.576 --> 00:09:52.938 ฉันเชื่อว่า ประโยชน์ที่มีต่อมนุษยชาติ 00:09:52.938 --> 00:09:55.523 จากการมีเทคโนโลยีที่มีความฉลาดทางอารมณ์ 00:09:55.523 --> 00:09:58.869 มันมากกว่าโอกาสที่จะมีคนนำไปใช้ในทางไม่ควร 00:09:58.869 --> 00:10:01.830 และฉันอยากเชื้อเชิญทุกคน ให้เป็นส่วนหนึ่งในการสนทนานี้ 00:10:01.830 --> 00:10:04.314 ยิ่งมีคนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้มากเท่าใด 00:10:04.314 --> 00:10:08.381 เรายิ่งมีเสียงที่หลากหลายมากขึ้น ว่าเราเอามันไปใช้ทำอะไรได้บ้าง 00:10:09.081 --> 00:10:13.655 ชีวิตของเรา กลายเป็นชีวิตดิจิตอลมากขึ้นเรื่อยๆ 00:10:13.655 --> 00:10:17.153 เราพ่ายแพ้ในการต่อสู้เพื่อพยายาม ลดการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ 00:10:17.153 --> 00:10:19.382 เพื่อกู้อารมณ์ของเรากลับคืนมา 00:10:20.622 --> 00:10:24.536 แทนที่จะทำอย่างนั้น สิ่งที่ฉันพยายามทำคือ นำอารมณ์มาใส่ในเทคโนโลยี 00:10:24.536 --> 00:10:26.765 และทำให้เทคโนโลยีตอบสนองกับเรามากขึ้น 00:10:26.765 --> 00:10:29.435 ฉันอยากให้อุปกรณ์เหล่านั้น ที่เคยแยกเราให้ห่างกัน 00:10:29.435 --> 00:10:31.897 นำเรากลับมาใกล้กันอีกครั้ง 00:10:31.897 --> 00:10:36.485 การทำให้เทคโนโลยีมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น ทำให้เรามีโอกาสทอง 00:10:36.485 --> 00:10:39.782 ที่จะสร้างจินตนาการใหม่ ว่าเราจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ อย่างไร 00:10:39.782 --> 00:10:44.263 และเพื่อให้เรา มนุษยชาติ 00:10:44.263 --> 00:10:46.167 เชื่อมโยงสัมพันธ์กันมากขึ้น NOTE Paragraph 00:10:46.167 --> 00:10:48.327 ขอบคุณค่ะ NOTE Paragraph 00:10:48.327 --> 00:10:51.640 (เสียงปรบมือ)