1 00:00:06,915 --> 00:00:08,824 ปริศนาของเรามีอยู่ว่า: 2 00:00:08,824 --> 00:00:11,970 แฝดแท้เกิดมาจากดีเอ็นเอเดียวกัน 3 00:00:11,970 --> 00:00:14,323 แล้วทำไมพวกเขาจึงแตกต่างกัน 4 00:00:14,323 --> 00:00:17,816 แม้แต่ในลักษณะที่มีองค์ประกอบ ทางพันธุกรรมอย่างมีนัยสำคัญ 5 00:00:17,816 --> 00:00:21,792 ยกตัวอย่างเช่น ทำไมแฝดคนหนึ่ง ถึงเป็นโรคหัวใจตอนอายุ 55 6 00:00:21,792 --> 00:00:25,377 ในขณะที่น้องสาวของเขาที่วิ่งมาราธอน มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง 7 00:00:25,377 --> 00:00:27,889 ธรรมชาติและการเลี้ยงดู มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อสิ่งนี้ 8 00:00:27,889 --> 00:00:33,131 คำตอบที่ลึกซึ้งกว่านั้น สามารถถูกพบได้ ในสิ่งที่เรียกว่า เอพิเจเนติกส์ 9 00:00:33,131 --> 00:00:35,719 มันคือการศึกษาว่า ดีเอ็นเอมีปฏิสัมพันธ์ 10 00:00:35,719 --> 00:00:39,187 กับโมเลกุลเล็ก ๆ ทั้งหลายในเซลล์ได้อย่างไร 11 00:00:39,187 --> 00:00:43,291 ซึ่งมันสามารถกระตุ้นหรือยับยั้งยีนได้ 12 00:00:43,291 --> 00:00:45,572 ถ้าคุณลองจินตนาการเปรียบเทียบดีเอ็นเอ กับตำราอาหาร 13 00:00:45,572 --> 00:00:49,697 โมเลกุลส่วนใหญ่เหล่านั้นคือสิ่งที่กำหนดว่า อะไรจะถูกปรุงตอนไหน 14 00:00:49,697 --> 00:00:53,692 พวกมันไม่ได้ทำการตัดสินใจด้วยตัวมันเอง 15 00:00:53,692 --> 00:00:58,388 แต่การปรากฏอยู่และความเข้มข้นของพวกมัน ภายในเซลล์ต่างหากที่สร้างความแตกต่าง 16 00:00:58,388 --> 00:01:00,099 แล้วมันทำงานได้อย่างไร 17 00:01:00,099 --> 00:01:05,645 ยีนในดีเอ็นเอถูกแสดงออกเมื่อพวกมันถูกอ่าน และลอกรหัสไปเป็นอาร์เอ็นเอ 18 00:01:05,645 --> 00:01:10,579 ซึ่งจะถูกแปลรหัสไปเป็นโปรตีน โดยโครงสร้างที่ชื่อว่า ไรโบโซม 19 00:01:10,579 --> 00:01:15,256 และโปรตีนก็เป็นส่วนสำคัญ ในการกำหนดลักษณะและหน้าที่ของเซลล์ 20 00:01:15,256 --> 00:01:21,752 การเปลี่ยนแปลงเอพิเจเนติกส์สามารถเร่ง หรือรบกวนการลอกรหัสของบางยีน 21 00:01:21,752 --> 00:01:25,001 วิธีการรบกวนที่พบได้ทั่วไปที่สุด ก็คือดีเอ็นเอ 22 00:01:25,001 --> 00:01:27,252 หรือโปรตีนที่มันพันไปโดยรอบ 23 00:01:27,252 --> 00:01:30,100 ถูกติดฉลากด้วยฉลากสารเคมีเล็ก ๆ 24 00:01:30,100 --> 00:01:33,665 ชุดของฉลากสารเคมีทั้งหมด ที่ติดอยู่กับจีโนม 25 00:01:33,665 --> 00:01:35,037 ของเซลล์หนึ่ง ๆ 26 00:01:35,037 --> 00:01:37,442 เรียกว่า เอพิจีโนม 27 00:01:37,442 --> 00:01:41,508 พวกมันบางตัว อย่างเช่น หมู่เมธิล ยับยั้งการแสดงออกของยีน 28 00:01:41,508 --> 00:01:44,316 โดยการเบี่ยงกลไกการลอกรหัสของเซลล์ 29 00:01:44,316 --> 00:01:48,002 หรือทำให้ดีเอ็นเอขดแน่นขึ้น 30 00:01:48,002 --> 00:01:49,694 ทำให้มันไม่สามารถถูกเข้าถึงได้ 31 00:01:49,694 --> 00:01:52,788 ยีนยังอยู่ตรงนั้น แต่มันไม่ทำงาน 32 00:01:52,788 --> 00:01:55,729 การเร่งการลอกรหัสนั้นตรงข้ามในส่วนสำคัญ 33 00:01:55,729 --> 00:02:00,828 บางฉลากเคมีจะคลายเกลียวดีเอ็นเอ ทำให้มันง่ายต่อการลอกรหัส 34 00:02:00,828 --> 00:02:04,507 ซึ่งเร่งการผลิตโปรตีนที่เกี่ยวข้อง 35 00:02:04,507 --> 00:02:07,788 การเปลี่ยนเอพิเจเนติกส์ ถูกรักษาไว้หลังจากการแบ่งเซลล์ 36 00:02:07,788 --> 00:02:11,827 ซึ่งหมายความว่า มันยังคงมีผล ต่อสิ่งมีชีวิตไปตลอดชีวิตของมัน 37 00:02:11,827 --> 00:02:13,634 บางครั้ง มันก็เป็นเรื่องดี 38 00:02:13,634 --> 00:02:16,377 การเปลี่ยนเอพิเจเนติกส์เป็นส่วนหนึ่ง ของการเจริญเติบโต 39 00:02:16,377 --> 00:02:19,639 เซลล์ในเอ็มบริโอเริ่มต้น ด้วยจีโนมหลักจีโนมเดียว 40 00:02:19,639 --> 00:02:22,486 เมื่อเซลล์แบ่งตัว บางยีนถูกกระตุ้นให้ทำงาน 41 00:02:22,486 --> 00:02:24,423 และบางยีนถูกยับยั้งการทำงาน 42 00:02:24,423 --> 00:02:27,187 เมื่อเวลาผ่านไป ด้วยกระบวนการจัดระบบใหม่ เชิงเอพิเจเนติกส์นี้ 43 00:02:27,187 --> 00:02:29,447 บางเซลล์จะเจริญไปเป็นเซลล์หัวใจ 44 00:02:29,447 --> 00:02:31,629 และเซลล์อื่นอาจกลายไปเป็นเซลล์ตับ 45 00:02:31,629 --> 00:02:34,799 เซลล์ประมาณ 200 ชนิดในร่างกายของคุณ 46 00:02:34,799 --> 00:02:37,064 แต่ละชนิดมีจีโนมเหมือนกันในส่วนสำคัญ 47 00:02:37,064 --> 00:02:39,866 แต่มีเอพิจีโนมที่ต่างกันออกไป 48 00:02:39,866 --> 00:02:43,170 เอพิจีโนมยังกำกับการสื่อสาร 49 00:02:43,170 --> 00:02:45,914 ระหว่างยีนกับสิ่งแวดล้อมไปตลอดชีวิต 50 00:02:45,914 --> 00:02:48,938 ฉลากสารเคมีที่เปิดและปิดยีน 51 00:02:48,938 --> 00:02:51,598 ถูกเปลี่ยนไปตามปัจจัยที่รวมถึง การบริโภค 52 00:02:51,598 --> 00:02:52,970 การสัมผัสต่อสารเคมี 53 00:02:52,970 --> 00:02:54,971 และการใช้ยา 54 00:02:54,971 --> 00:02:58,754 ผลจากการเปลี่ยนเอพิเจเนติกส์ สุดท้ายแล้วสามารถนำไปสู่การเกิดโรค 55 00:02:58,754 --> 00:03:04,324 ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากมันปิดการทำงาน ของยีนที่สร้างโปรตีนยับยั้งการเกิดเนื้องอก 56 00:03:04,324 --> 00:03:07,846 การเปลี่ยนแปลงเอพิเจเนติกส์ที่ถูกเหนี่ยวนำ โดยสิ่งแวดล้อมเป็นเหตุผลส่วนหนึ่ง 57 00:03:07,846 --> 00:03:13,101 ว่าทำไมแฝดที่มียีนเหมือนกัน ถึงเติบโตขึ้นมาโดยมีชีวิตที่แตกต่างกันมาก 58 00:03:13,101 --> 00:03:16,382 เมื่อแฝดทั้งคู่อายุมากขึ้น เอพิจีโนมของพวกเขาก็ยิ่งแตกต่าง 59 00:03:16,382 --> 00:03:20,820 ซึ่งส่งผลต่อการชราภาพของพวกเขา และความไวต่อโรคของพวกเขา 60 00:03:20,820 --> 00:03:24,628 แม้ว่าประสบการณ์ทางสังคม อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเอพิเจเนติกส์ 61 00:03:24,628 --> 00:03:26,378 ในการทดลองอันโด่งดังการทดลองหนึ่ง 62 00:03:26,378 --> 00:03:29,578 เมื่อแม่หนูไม่ได้ให้การดูแลลูก ๆ ของมัน อย่างเพียงพอ 63 00:03:29,578 --> 00:03:34,034 ยีนในลูกหนูที่ช่วยให้พวกมัน จัดการกับความเครียดถูกเติมหมู่เมธิล 64 00:03:34,034 --> 00:03:36,067 และปิดการทำงาน 65 00:03:36,067 --> 00:03:38,565 และมันอาจไม่ได้หยุดอยู่แต่ที่หนูรุ่นนั้น 66 00:03:38,565 --> 00:03:43,252 ร่องรอยเอพิเจเนติกส์ส่วนใหญ่ ถูกลบไปเมื่อไข่และสเปิร์มรวมุตัวกัน 67 00:03:43,252 --> 00:03:47,783 แต่ตอนนี้ นักวิจัยคิดว่าบางร่องรอยเหล่านั้น สามารถรอดต่อไปได้อีก 68 00:03:47,783 --> 00:03:51,751 และส่งต่อลักษณะทางเอพิเจเนติกต่อไป ยังรุ่นลูกหลาน 69 00:03:51,751 --> 00:03:55,098 ประสบการณ์วัยเด็กของแม่หรือพ่อของคุณ 70 00:03:55,098 --> 00:03:57,064 หรือการตัดสินใจเมื่อเป็นผู้ใหญ่ 71 00:03:57,064 --> 00:04:00,073 อาจปรับแต่งเอพิจีโนมของคุณ 72 00:04:00,073 --> 00:04:02,573 แต่แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงเอพิเจเนติกส์ จะติดหนึบไม่ยอมไปไหนง่าย ๆ 73 00:04:02,573 --> 00:04:04,879 พวกมันก็ไม่จำเป็นจะต้องอยู่อย่างถาวร 74 00:04:04,879 --> 00:04:07,638 การใช้ชีวิตอย่างสมดุลที่รวมถึง การบริโภคเพื่อสุขภาพ 75 00:04:07,638 --> 00:04:08,782 การออกกำลังกาย 76 00:04:08,782 --> 00:04:10,914 และการหลีกเลี่ยงต่อการสัมผัสสิ่งเจือปน 77 00:04:10,914 --> 00:04:14,630 อาจช่วยสร้างเอพิจีโนมที่สมบูรณ์แข็งแรง ในระยะยาว 78 00:04:14,630 --> 00:04:17,696 ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น ในการศึกษาเอพิเจเนติกส์ 79 00:04:17,696 --> 00:04:19,785 นักวิทยาศาสตร์เพิ่งจะเริ่มเข้าใจ 80 00:04:19,785 --> 00:04:24,632 ว่าเอพิเจเนติกส์จะอธิบายกลไกการพัฒนา และการแก่ชราของมนุษย์ได้อย่างไร 81 00:04:24,632 --> 00:04:26,469 เช่นเดียวกับจุดกำเนิดของมะเร็ง 82 00:04:26,469 --> 00:04:27,599 โรคหัวใจ 83 00:04:27,599 --> 00:04:28,750 โรคทางประสาท 84 00:04:28,750 --> 00:04:29,721 การเสพติด 85 00:04:29,721 --> 00:04:31,502 และอาการอื่น ๆ 86 00:04:31,502 --> 00:04:35,632 ตอนนี้ เทคโนโลยีใหม่ในการแก้ไขจีโนม ทำให้มันง่ายขึ้นมากต่อการบ่งบอก 87 00:04:35,632 --> 00:04:40,574 ว่าการเปลี่ยนแปลงเอพิเจเนติกส์ไหน ที่สำคัญต่อสุขภาพและการเกิดโรค 88 00:04:40,574 --> 00:04:44,218 เมื่อเราเข้าใจแล้วว่าเอพิจีโนมของเรา มีอิทธิพลต่อเราอย่างไร 89 00:04:44,218 --> 00:04:46,915 เราอาจจะสามารถมีอิทธิพลเหนือมันได้เช่นกัน