WEBVTT 00:00:07.213 --> 00:00:09.972 ย้อนไปในสมัยของโสเครติส เป็นอย่างน้อย 00:00:09.972 --> 00:00:13.263 ในสังคมยุคแรก การตัดสินปัญหา ข้อพิพาทบางอย่าง 00:00:13.263 --> 00:00:16.173 อย่างเช่นเรื่องบุคคลมีความผิดอาญาหรือไม่ 00:00:16.173 --> 00:00:18.832 จะต้องได้รับการพิจารณาจากประชาชนกลุ่มหนึ่ง 00:00:18.832 --> 00:00:23.053 หลายศตวรรษต่อมา การพิจารณาคดีโดยคณะลูกขุน ถูกนำมาใช้ในประเทศอังกฤษ 00:00:23.053 --> 00:00:26.842 และได้กลายมาเป็นองค์ประกอบสำคัญ ของระบบกฎหมายที่นั่น 00:00:26.842 --> 00:00:30.954 ทั้งเป็นการถ่วงดุลอำนาจรัฐ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสิน 00:00:30.954 --> 00:00:34.164 คณะลูกขุนจะเป็นผู้ตัดสิน ว่าจำเลยจะถูกดำเนินคดีอาญาหรือไม่ 00:00:34.164 --> 00:00:37.462 ตัดสินว่าจำเลยจะมีความผิดจริงหรือไม่ 00:00:37.462 --> 00:00:40.453 และตัดสินข้อพิพาทในเรื่องเงิน 00:00:40.453 --> 00:00:44.123 เมื่ออาณานิคมอเมริกาได้แยกตัว ออกจากการปกครองของอังกฤษ 00:00:44.123 --> 00:00:46.834 ก็ได้รับเอาระบบการใช้คณะลูกขุนมาด้วย 00:00:46.834 --> 00:00:49.844 รัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกา ได้ให้อำนาจคณะลูกขุนคณะใหญ่ 00:00:49.844 --> 00:00:52.594 ในการตัดสินว่าจะมีการดำเนินคดีอาญา ต่อไปหรือไม่ 00:00:52.594 --> 00:00:56.134 กำหนดให้มีคณะลูกขุนในการพิจารณาคดีอาญา ยกเว้นคดีฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ระดับสูง 00:00:56.134 --> 00:00:59.282 และได้ให้อำนาจในคดีแพ่งด้วย 00:00:59.282 --> 00:01:03.004 แต่ปัจจุบันในสหรัฐอเมริกา มีการใช้คณะลูกขุนคณะใหญ่ไม่บ่อยนัก 00:01:03.004 --> 00:01:06.864 และจำนวนคดีที่คณะลูกขุนตัดสิน มีไม่ถึง 4% ในคดีอาญา 00:01:06.864 --> 00:01:10.354 และไม่ถึง 1% ของคดีแพ่งที่มีการยื่นต่อศาล 00:01:10.354 --> 00:01:14.424 ในขณะที่ระบบลูกขุนในประเทศอื่นกำลังเติบโต 00:01:14.424 --> 00:01:16.885 เกิดอะไรขึ้นในอเมริกา 00:01:16.885 --> 00:01:21.895 สาเหตุหนึ่งคือการที่ศาลฎีกาตีความรัฐธรรมนูญ 00:01:21.895 --> 00:01:23.657 อนุญาตให้มีการต่อรองเพื่อรับสารภาพได้ 00:01:23.657 --> 00:01:26.520 ซึ่งนำมาใช้กับคดีอาญาเกือบทุกคดีในตอนนี้ 00:01:26.520 --> 00:01:29.817 วิธีการก็คือทางอัยการจะยื่นข้อเสนอ ให้กับผู้ต้องหา 00:01:29.817 --> 00:01:32.236 ว่าจะตัดสินใจรับสารภาพหรือไม่ 00:01:32.236 --> 00:01:35.582 หากรับสารภาพ คดีก็จะไปไม่ถึงคณะลูกขุน 00:01:35.582 --> 00:01:37.751 และจำเลยจะถูกจำคุกสั้นลง 00:01:37.751 --> 00:01:40.841 กว่าที่พวกเขาจะได้รับ หากคณะลูกขุนตัดสินว่าผิด 00:01:40.841 --> 00:01:43.671 ความเสี่ยงที่จะได้รับโทษหนักขึ้น ภายหลังการพิจารณา 00:01:43.671 --> 00:01:47.511 ทำให้แม้แต่จำเลยที่บริสุทธิ์ก็ยังหวาดกลัว จนต้องยอมรับสารภาพ 00:01:47.511 --> 00:01:49.992 ระหว่างศตวรรษที่ 19 และศตวรรษที่ 21 00:01:49.992 --> 00:01:55.522 สัดส่วนของการรับสารภาพ เพิ่มขึ้นจาก 20% มาเป็น 90% 00:01:55.522 --> 00:01:57.617 และยังจะเพิ่มขึ้นอีก 00:01:57.617 --> 00:02:00.503 ศาลฎีกายังได้อนุญาตให้นำกระบวนการ อีกอย่างหนึ่งมาใช้ 00:02:00.503 --> 00:02:02.313 ซึ่งเป็นการแทรกแซงอำนาจของคณะลูกขุน 00:02:02.313 --> 00:02:04.044 เรียกว่า การพิพากษาโดยรวบรัด 00:02:04.044 --> 00:02:08.143 ในการพิพากษาโดยรวบรัด ผู้พิพากษามีอำนาจ ตัดสินว่าการพิจารณาในคดีแพ่งนั้นไม่จำเป็น 00:02:08.143 --> 00:02:11.962 หากผู้ยื่นฟ้องคดีมีหลักฐานไม่เพียงพอ 00:02:11.962 --> 00:02:17.002 ซึ่งจะนำมาใช้เฉพาะในกรณี ที่คณะลูกขุนจะไม่คัดค้านอย่างไร้เหตุผล 00:02:17.002 --> 00:02:19.102 มันเป็นเรื่องยากที่จะหยั่งรู้ได้ 00:02:19.102 --> 00:02:21.982 และการพิพากษาโดยรวบรัดแบบนี้ ยังเป็นการทำให้เกิดประเด็น 00:02:21.982 --> 00:02:25.012 ว่าบางคนอาจโต้แย้งได้ว่าตน ไม่ได้รับความเป็นธรรม 00:02:25.012 --> 00:02:27.723 ตัวอย่างเช่น ในคดีเลือกปฏิบัติในการจ้างงาน 00:02:27.723 --> 00:02:30.367 กว่า 70% ของคำขอนายจ้างที่ขอให้ยกฟ้อง ได้รับอนุญาตจากศาล 00:02:30.367 --> 00:02:33.712 ไม่ว่าจะทั้งคดี หรือบางประเด็น 00:02:33.712 --> 00:02:38.114 ในคดีอื่น ๆ ทั้งฝ่ายที่ฟ้องคดี และฝ่ายที่ถูกฟ้อง 00:02:38.114 --> 00:02:40.683 อาจตกลงกันไม่ใช้สิทธิในการขึ้นศาล 00:02:40.683 --> 00:02:44.544 แต่ใช้วิธีการระงับข้อพิพาทโดย อนุญาโตตุลาการผู้เชี่ยวชาญ 00:02:44.544 --> 00:02:48.173 ซึ่งโดยปกติจะเป็นทนาย ศาสตราจารย์ หรืออดีตผู้พิพากษา 00:02:48.173 --> 00:02:51.044 การใช้อนุญาโตตุลาการ อาจเป็นการดัดสินใจที่ดีของทั้งสองฝ่าย 00:02:51.044 --> 00:02:53.984 ในการหลีกเลี่ยงการขึ้นศาล 00:02:53.984 --> 00:02:57.194 แต่บ่อยครั้งที่บางคน ตกลงลงนามยินยอมเพราะความไม่รู้ 00:02:57.194 --> 00:03:01.105 อย่างเช่น ในสัญญาจ้างและสัญญาผู้บริโภค 00:03:01.105 --> 00:03:02.575 นั่นอาจเป็นปัญหาได้ 00:03:02.575 --> 00:03:05.144 ตัวอย่างเช่น อนุญาโตตุลาการ อาจลำเอียงเข้าข้าง 00:03:05.144 --> 00:03:07.555 ฝ่ายบริษัทที่นำคดีมาให้พิจารณาก็ได้ 00:03:07.555 --> 00:03:10.725 นี่เป็นเพียงบางวิธีการ ที่ไม่มีคณะลูกขุนอยู่ในกระบวนการ 00:03:10.725 --> 00:03:13.765 แต่การไม่ใช้คณะลูกขุน จะเป็นเรื่องดีหรือไม่ 00:03:13.765 --> 00:03:15.685 จริง ๆ คณะลูกขุนก็ใช่ว่าจะไร้ที่ติ 00:03:15.685 --> 00:03:16.775 ทั้งมีค่าใช้จ่ายมาก 00:03:16.775 --> 00:03:17.765 กินเวลานาน 00:03:17.765 --> 00:03:19.275 และอาจมีข้อผิดพลาด 00:03:19.275 --> 00:03:21.255 พวกเขาไม่ได้จำเป็นในทุกกรณี 00:03:21.255 --> 00:03:24.684 อย่างในกรณีที่ผู้คนสามารถตกลง ยอมความกันได้ 00:03:24.684 --> 00:03:26.765 แต่คณะลูกขุนก็ยังมีข้อดีอยู่ คือ 00:03:26.765 --> 00:03:28.135 เมื่อเลือกสมาชิกอย่างเหมาะสม 00:03:28.135 --> 00:03:31.516 คณะลูกขุนก็จะมีสภาพเป็นตัวแทน ของประชาชนทั่วไปมากขึ้น 00:03:31.516 --> 00:03:34.366 และพวกเขาไม่มีแรงจูงใจอย่างอัยการ 00:03:34.366 --> 00:03:35.256 ผู้ร่างกฎหมาย 00:03:35.256 --> 00:03:36.256 หรือผู้พิพากษา 00:03:36.256 --> 00:03:38.315 ที่มักมองหาโอกาสหาเสียง หรือเลื่อนตำแหน่ง 00:03:38.315 --> 00:03:40.966 ผู้ก่อตั้งประเทศอเมริกาเชื่อในสติปัญญา 00:03:40.966 --> 00:03:42.845 ของพลเมืองที่มีความเป็นธรรม 00:03:42.845 --> 00:03:45.805 ในการตรวจสอบอำนาจอธิปไตยทั้งสามฝ่ายของรัฐ 00:03:45.805 --> 00:03:49.246 และการพิจารณาคดีโดยคณะลูกขุนนั้น ก็ได้ทำให้ประชาชนทั่วไป 00:03:49.246 --> 00:03:52.145 มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน โครงสร้างทางสังคม 00:03:52.145 --> 00:03:56.356 แล้วแบบนี้ ระบบลูกขุนในอเมริกา ควรจะอยู่รอดต่อไปหรือไม่