เถาไม้ที่ปกคลุมทางตอนใต้ ของสหรัฐอเมริกา ไต่เลื้อยสูงขึ้นเป็นจนถอนรากถอนโคน ต้นไม้ใหญ่ และกลืนตึกไปทั้งหลัง งูจอมตะกละที่สามารถกินจระเข้ได้ ประชากรกระต่าย ที่กร่อนกินพวกเดียวกันจนอดตาย นี่ไม่ใช่แนวคิดหนังสยองขวัญ พวกมันคือเรื่องจริง แต่สถานการณ์ที่ว่านี้ เกิดขึ้นในธรรมชาติได้อย่างไรกัน ทั้งสามเหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่าง ของสายพันธุ์ต่างถิ่นที่ลุกล้ำเข้ามา มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตราย ไม่ใช่เพราะว่าพวกมันเป็นอย่างนั้น แต่เป็นเพราะสถานที่ ซึ่งเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นต่างหาก ยกตัวอย่างเช่น ไม้เลื้อยคัดซู (kudzu) ที่เติบโตอยู่ถิ่นดั้งเดิมของมัน ในเอเชียตะวันออก ถูกกินโดยแมลงต่าง ๆ และตายไปในช่วงฤดุหนาว แต่ชะตาของมันเปลี่ยนไป เมื่อมันถูกนำเข้ามายังทางตะวันออกเฉียงใต้ ของสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นไม้ประดับสวย ๆ และเป็นอาหารของวัว การปลูกพืชชนิดนี้ยังได้รับการสนับสนุนโดย รัฐบาล เพื่อป้องกันการพังทลายของหน้าดิน ด้วยพื้นที่ที่มีแดด อากาศดี และ ไม่มีศัตรูตามธรรมชาติในบ้านใหม่ ไม้เถานี้ก็เติบโตอย่างไม่สามารถควบคุมได้ จนกระทั่งมันการเป็นที่รู้จักกันว่า พืชที่กินทางใต้ ขณะเดียวกันหนองน้ำในฟอริดา งูเหลือมพม่า ที่คาดว่าถูกปล่อยหลุดออกมา โดยเจ้าของสัตว์เลี้ยง เป็นสาเหตุของการลดลง ของประชากรสิ่งมีชีวิต พวกมันประสบความสำเร็จ ในการแย่งปัจจัยของผู้ล่าสูงสุด เช่น จระเข้ และเสือ ทำให้แหล่งอาหารของพวกมัน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ พวกมันไม่ได้สร้างปัญหา ในถิ่นดั้งเดิมของมันในเอเชีย เพราะว่าโรค ปรสิต และผู้ล่า ช่วยควบคุมขนาดประชากรของมัน และในออสเตรเลีย กระต่ายยุโรป กินพืชมากมาย จนพวกมันกินแหล่งอาหารของพวกมัน และสัตว์กินพืชอื่น ๆ เสียโกร๋น พวกมันเพิ่งจะถูกนำเข้ามาในทวีปนี้ไม่นาน ด้วยความตั้งใจของชายคนหนึ่ง ที่ชอบล่าพวกมัน เช่นเดียวกับงูเหลือมพม่า ปัจจัยต่าง ๆ ในแหล่งดั้งเดิมของพวกมัน ควบคุมจำนวนของพวกมันเอาไว้ แต่ในออสเตรเลีย การที่ไม่มีผู้ล่า และอากาศที่เหมาะสมต่อการสืบพันธุ์ทั้งปี ทำให้ประชากรของพวกมันพุ่งพรวด แล้วทำไมมันจึงเกิดขึ้นอยู่เรื่อยล่ะ ระบบนิเวศส่วนใหญ่ของโลก เป็นผลลัพธ์มาของเวลาหลายล้านปี ในการอยู่รวมกันของสิ่งมีชีวิต การปรับตัวต่อสิ่งแวดล้อมของพวกมัน และต่อกันและกัน จนกระทั่งถึงจุดสมดุลที่เสถียร ระบบนิเวศที่ดีจะคงสมดุลนี้ไว้ได้ ผ่านปัจจัยจำกัด ซึ่งก็คือสภาวะทางสิ่งแวดล้อม ที่จำกัดขนาดหรือชนิดของสายพันธุ์ นั่นรวมถึงสิ่งต่าง ๆ อย่างเช่น ภูมิศาสตร์ทางธรรมชาติ และสภาพอากาศ ความสมบูรณ์ของอาหาร และการปรากฏหรือไม่ปรากฏของผู้ล่า ยกตัวอย่างเช่น การเติบโตของพืช ขึ้นอยู่กับระดับแสง และธาตุอาหารในดิน ปริมาณของพืชที่กินได้ ส่งผลต่อประชากรของสัตว์กินพืช ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสัตว์กินเนื้อ ที่กินพวกมันอีกที และประชากรผู้ล่าที่เหมาะสมจะควบคุม สัตว์กินพืชไม่ให้มีจำนวนมากเกินไป และกินพืชจนหมด แต่แม้แต่ปัจจัยหนึ่งเปลี่ยนแปลง เพียงเล็กน้อย ก็สามารถกระทบสมดุลนี้ได้ และการนำสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้อยู่ในถิ่นนั้นแต่เดิม เข้ามาอย่างทันทีทันใด ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างมาก สายพันธุ์ที่มีวิวัฒนาการ มาจากต่างแหล่งที่อยู่อาศัย จะไวต่อปัจจัยจำกัดที่ต่างกัน ผู้ล่าที่ต่างกัน แหล่งพลังงานที่ต่างกัน และสภาพอากาศที่ต่างกัน ถ้าหากปัจจัยจำกัดของแหล่งที่อยู่ใหม่ ไม่สามารถจำกัดการเติบโตของสายพันธุ์นี้ได้ มันจะเพิ่มจำนวนไปเรื่อย ๆ แก่งแย่งปัจจัยกับสิ่งมีชีวิตประจำถิ่น และรบกวนระบบนิเวศทั้งระบบ บางครั้งสายพันธุ์ต่าง ๆ ถูกนำเข้าไป ยังแหล่งที่อยู่ใหม่โดยปัจจัยทางธรรมชาติ เช่น พายุฝน กระแสน้ำในมหาสมุทร หรือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทว่า สิ่งมีชีวิตที่รุกล้ำเข้ามาส่วนใหญ่ มาจากฝีมือของมนุษย์ บ่อยครั้งที่มันเกิดจากความไม่ตั้งใจ อย่างเช่นตอนที่หอยกาบลายเสือถูกนำไปยัง ทะเลสาบอีรีโดยเรือสินค้าโดยบังเอิญ แต่เมื่อมนุษย์อพยพไปทั่วโลก เราก็ยังเอาพืชและสัตว์ต่าง ๆ ไปกับเราด้วย อย่างจงใจ โดยไม่ค่อยจะได้คิดถึงผลที่จะตามมา แต่ตอนนี้ เราได้เรียนรู้มากขึ้นแล้ว ถึงผลกระทบของสายพันธุ์ต่างถิ่น ที่มีต่อระบบนิเวศ รัฐบาลหลายแห่งติดตามการขนส่ง พืชและสัตว์อย่างใกล้ชิด และสั่งห้ามการนำเข้าสิ่งมีชีวิตบางชนิด แต่สายพันธุ์ที่มีผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก จะเป็นกลุ่มของลิงไม่มีหางที่มีกำเนิดจาก แอฟริกาและกระจายไปทั่วโลกหรือเปล่า เราเป็นสายพันธุ์คุกคามหรือเปล่านะ