0:00:08.014,0:00:10.825 พวกมันบางตัวมีขนาดยาวกว่าวาฬสีน้ำเงิน 0:00:10.825,0:00:14.625 บางตัวแทบจะมีขนาดเท่ากับเม็ดทราย 0:00:14.625,0:00:18.804 สายพันธุ์หนึ่งสามารถปล่อยพิษ[br]ที่ร้ายแรงที่สุดในโลกได้ 0:00:18.804,0:00:24.424 อีกสายพันธุ์หนึ่งกุมความลับเบื้องหลัง[br]ความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทางชีววิทยา 0:00:24.424,0:00:27.797 พวกมันอาศัยอยู่ในมหาสมุทร[br]มาอย่างน้อยห้าร้อยล้านปี 0:00:27.797,0:00:31.835 และพวกมันก็ยังคงเจริญเติบโตอยู่ในทะเล[br]ที่มีความเปลี่ยนแปลง 0:00:31.835,0:00:36.436 แมงกะพรุนเป็นสัตว์ทะเลที่มีร่างกายอ่อนนุ่ม[br]แต่พวกมันไม่ใช่ปลา 0:00:36.436,0:00:40.466 พวกมันเป็นแพลงก์ตอนสัตว์[br]จำพวกที่มีลักษณะคล้ายเจล 0:00:40.466,0:00:44.386 ซึ่งแพลงก์ตอนสัตว์[br]เป็นสัตว์ที่ลอยละล่องอยู่ในมหาสมุทร 0:00:44.386,0:00:47.467 แมงกะพรุนมีมากกว่า 1,000 สายพันธุ์ 0:00:47.467,0:00:50.717 และมีสัตว์อีกมามาย[br]ที่มักจะถูกเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกมัน 0:00:50.717,0:00:54.310 ลักษณะเด่นของแมงกะพรุน[br]คือมีลักษณะเป็นระฆังโปร่งแสง 0:00:54.310,0:00:58.497 ที่สร้างขึ้นมาจากผิวบอบบาง[br]ที่เรียกว่า มีโซเกลีย (Mesoglea) 0:00:58.497,0:01:00.915 ที่ถูกประกบอยู่ระหว่างชั้นผิวหนังสองชั้น 0:01:00.915,0:01:07.276 มีโซเกลียนี้มีน้ำเป็นส่วนประกอบกว่า[br]ร้อยละ 95 ซึ่งถูกกักเอาไว้ด้วยเยื่อโปรตีน 0:01:07.276,0:01:12.418 แมงกะพรุนสามารถหดและคลาย[br]ระฆังของมันเพื่อแหวกว่ายไปมา 0:01:12.418,0:01:14.547 พวกมันไม่มีสมองหรือกระดูกสันหลัง 0:01:14.547,0:01:17.187 แต่มีเครือข่ายประสาทรอบ ๆ ของระฆังด้านใน 0:01:17.187,0:01:19.837 ที่ประกอบกันเป็นระบบประสาทพื้นฐาน 0:01:19.837,0:01:24.618 ที่สามารถรับสัมผัสต่อกระแสน้ำทะเล[br]และสัมผัสกับสัตว์อื่น ๆ ได้ 0:01:24.618,0:01:28.707 แมงกะพรุนไม่มีระบบย่อยอาหาร[br]ในแบบทั่วไปที่เราคุ้นเคยกัน 0:01:28.707,0:01:34.008 สัตว์กินเนื้อตัวเด้งดึ๋งเหล่านี้กิน[br]แพลงก์ตอนและสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ในทะเล 0:01:34.008,0:01:37.598 ผ่านช่องที่อยู่ด้านล่างของระฆัง 0:01:37.598,0:01:41.101 สารอาหารต่าง ๆ ถูกดูดซึม[br]โดยเซลล์ที่อยู่ชั้นใน 0:01:41.101,0:01:45.407 และของเสียจะถูกกำจัด[br]กลับออกมาทางปาก 0:01:45.407,0:01:47.938 แต่ลักษณะทางกายวิภาค[br]ที่เรียบง่ายของแมงกะพรุนนี้ 0:01:47.938,0:01:51.795 ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความสามารถ[br]อันน่าทึ่งของมัน 0:01:51.795,0:01:55.408 แมงกะพรุนกล่องชนิดหนึ่งมีตาถึง 24 ดวง 0:01:55.408,0:02:02.538 นักวิทยาศาสตร์คิดว่ามันสามารถเห็นสี[br]และภาพด้วยระบบประสาทง่าย ๆ ที่มีอยู่ในตัว 0:02:02.538,0:02:06.218 ตาสี่ดวงของมันโค้งขึ้นอยู่บนรยางค์ 0:02:06.218,0:02:10.217 นั่นทำให้แมงกะพรุนสามารถแอบดู[br]สิ่งต่าง ๆ บนผิวน้ำได้ 0:02:10.217,0:02:14.508 เพื่อมองหาร่มเงาของต้นโกงกาง[br]ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของมัน 0:02:14.508,0:02:17.268 อันที่จริง นี่อาจเป็น[br]สิ่งมีชีวิตเพียงอย่างเดียว 0:02:17.268,0:02:21.581 ที่สามารถมองสิ่งแวดล้อมรอบตัวมัน[br]ได้ 360 องศา 0:02:21.581,0:02:25.939 เข็มพิษของแมงกะพรุนซึ่งช่วยมัน[br]ในการดักจับเหยื่อและป้องกันตัวเอง 0:02:25.939,0:02:28.880 เป็นไพ่ไม้ตายของมัน 0:02:28.880,0:02:30.499 ในผิวชั้นเอพิเดอร์มิส (epidermis) [br]ของแมงกะพรุน 0:02:30.499,0:02:36.150 เซลล์ที่เรียกว่าเข็มพิษ (nematocysts)[br]ถูกขดเอาไว้ราวกับฉมวกพิษ 0:02:36.150,0:02:40.629 เมื่อมันถูกกระตุ้นด้วยการสัมผัส[br]พวกมันก็จะยิงออกมาด้วยแรงระเบิด 0:02:40.629,0:02:46.530 อานุภาพของมันมากกว่าแรงชกสูงสุด[br]ของไมค์ ไทสันถึง 550 เท่า 0:02:46.530,0:02:50.000 ในการฉีดพิษเข้าสู่ร่างเหยื่อ 0:02:50.000,0:02:52.380 เข็มพิษของแมงกะพรุนบางชนิด[br]อาจให้ความรู้สึกเพียงเสี้ยนตำ 0:02:52.380,0:02:55.720 แต่สำหรับบางชนิด มันก่อให้เกิด[br]ความเสียหายรุนแรงต่อผิวหนังได้ 0:02:55.720,0:03:01.209 พิษของแมงกะพรุนกล่องตัวหนึ่ง[br]สามารถฆ่าคนได้ภายในห้านาที 0:03:01.209,0:03:06.689 ทำให้มันเป็นหนึ่งในพิษที่ร้ายแรงที่สุด[br]ในบรรดาสัตว์โลก 0:03:06.689,0:03:09.679 แมงกะพรุนจอมพลังชนิดอื่น ๆ[br]ไม่ทำให้ถึงกับตาย 0:03:09.679,0:03:13.350 แมงกะพรุนสายพันธุ์หนึ่ง[br]จะเรืองแสงสีเขียวเมื่อมันถูกรบกวน 0:03:13.350,0:03:18.120 ส่วนใหญ่แล้วต้องขอบคุณสารเรืองแสงชีวภาพ[br]ที่เรียกว่า "โปรตีนเรืองแสงสีเขียว" 0:03:18.120,0:03:19.779 หรือ "GFP" 0:03:19.779,0:03:22.289 นักวิทยาศาสตร์ได้แยกยีนของ GFP ออกมา 0:03:22.289,0:03:27.431 และพบว่าจะแทรกมันเข้าไป[br]ในดีเอ็นเอของเซลล์อื่นอย่างไร 0:03:27.431,0:03:30.192 ที่นั่น มันจะทำหน้าที่[br]ประหนึ่งเป็นประภาคารเคมีชีวภาพ 0:03:30.192,0:03:32.240 สำหรับการดัดแปลงทางพันธุกรรม 0:03:32.240,0:03:36.522 หรือการเปิดเผยวิถีของโมเลกุลที่สำคัญ 0:03:36.522,0:03:41.681 นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้การเรืองแสงของ GFP นี้[br]เพื่อติดตามการเพิ่มจำนวนของเซลล์มะเร็ง 0:03:41.681,0:03:43.892 ติดตามพัฒนาการของภาวะสมองเสื่อม 0:03:43.892,0:03:48.501 และแสดงกระบวนการทางชีววิทยา[br]อื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน 0:03:48.501,0:03:51.370 การพัฒนาเครื่องมือและเทคนิคต่าง ๆ [br]จาก GFP 0:03:51.370,0:03:55.350 ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทั้งสาม[br]ได้รับรางวัลโนเบลประจำปี ค.ศ. 2008 0:03:55.350,0:03:58.543 และนักวิทยาศาสตร์อีกสามท่าน[br]ในปี ค.ศ. 2014 0:03:58.543,0:04:03.640 แต่แมงกะพรุนนี่แหละที่เป็นสิ่งมีชีวิต[br]ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก 0:04:03.640,0:04:06.811 ฟอสซิลโบราณพิสูจน์ว่า[br]แมงกะพรุนอาศัยอยู่ในทะเล 0:04:06.811,0:04:09.896 เป็นเวลากว่า 500 ล้านปีมาแล้ว 0:04:09.896,0:04:13.471 และอาจย้อนกลับไปไกลได้ถึง 700 ล้านปี 0:04:13.471,0:04:17.552 ซึ่งเนิ่นนานกว่า[br]สิ่งมีชีวิตที่มีหลายอวัยวะใด ๆ ทั้งมวล 0:04:17.552,0:04:20.462 และเช่นเดียวกับสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ [br]ที่ดิ้นรนเอาชีวิตรอด 0:04:20.462,0:04:23.061 ในมหาสมุทรที่อุ่นขึ้นและเป็นกรดมากขึ้น 0:04:23.061,0:04:25.153 แมงกะพรุนก็กำลังเจริญเติบโต 0:04:25.153,0:04:28.702 และบางทีอาจเพิ่มจำนวนมากขึ้น 0:04:28.702,0:04:35.500 บางตัวสามารถวางไข่ 45,000 ฟอง[br]ภายในคืนเดียว โดยไม่ลำบากอะไร 0:04:35.500,0:04:38.042 และแมงกะพรุนบางชนิด[br]ก็มีทีเด็ดในการเอาตัวรอด 0:04:38.042,0:04:40.542 ที่ราวกับโลดแล่นออกมา[br]จากนิยายวิทยาศาสตร์ 0:04:40.542,0:04:44.491 เมื่อแมงกะพรุนที่เป็นอมตะนี้เจ็บป่วย[br]แก่ตัว หรืออยู่ในภาวะความเครียด 0:04:44.491,0:04:48.202 เซลล์สู้ชีวิตของมัน[br]ก็สามารถเปลี่ยนตัวตนได้ 0:04:48.202,0:04:51.102 ระฆังน้อย ๆ และหนวดทั้งหลาย[br]ต่างค่อย ๆ ลดรูป 0:04:51.102,0:04:53.462 และกลายเป็นหน่อที่ยังไม่เจริญเต็มที่ 0:04:53.462,0:04:56.982 ที่จะแพร่กระจายโคลนใหม่[br]ของพ่อแม่เดิมออกไป 0:04:56.982,0:05:01.103 เท่าที่เรารู้ นี่เป็นสิ่งมีชีวิต[br]ชนิดเดียวที่พบทางออกนี้ 0:05:01.103,0:05:03.742 เมื่อกำลังเผชิญหน้ากับความตาย 0:05:03.742,0:05:07.653 มันค่อนข้างน่าอัศจรรย์[br]สำหรับสายพันธุ์ที่ร้อยละ 95 ประกอบด้วยน้ำ 0:05:07.653,0:05:10.062 และกำเนิดมาก่อนไดโนเสาร์