เมื่อเรานึกถึงการทำแผนที่
เรามักนึกถึงถนนหนทางและตึก
และเรื่องเล่าเกี่ยวกับการตั้งรกราก
ซึ่งนำไปสู่การสร้างเมืองเหล่านั้น
หรือคุณอาจนึกถึงทัศนวิสัยที่ชัดเจน
ของนักออกแบบเมือง
แต่ยังมีอีกทางหนึ่งในการคิดถึงการทำแผนที่
และวิธีที่จะสร้างมันขึ้นมา
วันนี้ผมอยากจะแสดงแผนที่รูปแบบใหม่
นี่ไม่ใช่แผนที่ทางภูมิศาสตร์
นี่คือแผนที่ที่แสดงความสัมพันธ์
ระหว่างผู้คนในบ้านเกิดของผม
เมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์
และที่คุณเห็นตรงนี้คือ
จุดแต่ละจุดจะแสดงถึงคนหนึ่งคน
เส้นแต่ละเส้นจะแสดงถึง
ความสัมพันธ์ระหว่างคนเหล่านั้น
และสีแต่ละสีแสดงถึงชุมชนในเครือข่าย
ผมอยู่ทางฝั่งสีเขียว ตรงมุมขวาล่าง
บริเวณที่คนคงแก่เรียนอยู่
และ TEDx ก็อยู่ตรงมุมขวาล่างนี้เช่นกัน
ในส่วนอีกฝั่งของเครือข่าย
แนวโน้มส่วนใหญ่จะเป็น
คนแอฟริกัน-อเมริกันและคนละติน
ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีความสนใจแตกต่าง
ออกไปจากเหล่าคนคงแก่เรียน
แต่เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น
ส่วนสีเขียวของเครือข่ายเราเรียกว่า สมอลล์ติมอร์
สำหรับคนที่อยู่ในบริเวณนั้น
เพราะมันดูเหมือนว่าเรากำลังอยู่ในเมืองขนาดเล็ก
เราเจอผู้คนเดิมๆ ซ้ำๆ
แต่นั่นเพราะว่าเราไม่ได้ทำการสำรวจ
เมืองอย่างทั่วถึง
ในอีกฝั่งหนึ่งของเครือข่าย
จะมีคนที่สนใจในเพลงอย่างฮิปฮอป
และพวกเขายังมีแนวโน้มอยากอยู่ใน
รัฐวอชิงตันดีซี รัฐแมริแลนด์ และรัฐเวอร์จิเนีย
แทนที่จะเป็นเมืองบัลติมอร์ที่พวกเขาอยู่
แต่ในตรงกลาง คุณจะเห็นว่า
มีบางอย่างเชื่อมระหว่างสองชุมชนเข้าด้วยกัน
และนั่นคือกีฬา
เรามี บัลติมอร์ โอริโอลส์
ทีมฟุตบอลบัลติมอร์ ราเวนส์
นักกีฬาโอลิมปิค ไมเคิล เฟลป์ส
อันเดอร์ อาร์เมอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในบัลติมอร์
และชุมชนของกีฬาเป็นเพียงสะพานแห่งเดียวที่เชื่อม
ระหว่างสองฝั่งของเครือข่าย
มาดูในส่วนของซานฟรานซิสโก
คุณจะเห็นสิ่งแตกต่างกันเล็กน้อย
ในซานฟรานซิสโก
ในทางหนึ่ง คุณจะเห็นสื่อ การเมือง และข่าว
ที่มีแนวโน้มจะปรากฏอยู่ในบัลติมอร์ และเมืองอื่นๆ
แต่คุณก็ยังมีกลุ่มที่ใหญ่มากอีกกลุ่ม
ของคนคงแก่เรียนและผู้ชำนาญการต่างๆ
ที่ครอบคลุมอยู่ครึ่งบนของเครือข่าย
และยังมีอีกหนึ่งกลุ่มที่แตกต่างและชัดเจน
ที่เราสามารถจำแนกได้ว่า
เป็นพนักงานของบริษัททวิตเตอร์
ซึ่งอยู่ข้างๆ คนคงแก่เรียน
และอยู่ระหว่างนักเล่นเกมและคนคงแก่เรียน
โดยอยู่ตรงข้ามอีกฝั่งของแถบสีเพลงฮิปฮอป
อย่างไรก็ตาม คุณจะเห็นว่า
ความตึงเครียดที่เราเคยได้ยินเกี่ยวกับซานฟรานซิสโก
เรื่องที่ผู้คนตระหนักเกี่ยวกับการปรับพื้นที่
และเรื่องที่บริษัทเทคโนโลยีต่างๆ
ได้นำความเจริญเข้ามา
และเรื่องการตั้งรกรากนั้นต่างเป็นความจริง
และคุณยังเห็นจากหลักฐานนี้
ว่าชุมชนของกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ
จริงๆ แล้วเข้ากันกับชุมชนของคนคงแก่เรียนได้ไม่ดีขนาดนั้น
ชุมชนของคนที่ชื่นชอบศิลปะ
ชุมชนของคนชื่นชอบดนตรี
เลยนำไปสู่สิ่งต่างๆ เหล่านี้
[ขับไล่ทวิตเตอร์]
มีคนส่งรูปนี้มาให้ผมหลายสัปดาห์ก่อน
และมันแสดงถึงสิ่งที่
กำลังเกิดขึ้นจริงๆ ในซานฟรานซิสโก
และผมคิดว่าคุณสามารถเข้าใจสิ่งนั้น
จากการดูแผนที่นี้ได้
ลองมาดูริโอเดอจาเนโร
ผมใช้เวลาหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับริโอ
และสิ่งหนึ่งที่ผมเห็นได้ชัดจากเมืองนี้
คือทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะปนเปกันไปหมด
เมืองนี้เป็นเมืองที่ไม่เป็นเนื้อเดียวกัน
ในแง่ที่บัลติมอร์ หรือซานฟรานซิสโกไม่ได้เป็น
คุณยังมีกระจุกของกลุ่มคน
ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล หนังสือพิมพ์ การเมือง และนักเขียน
TEDxRio อยู่มุมขวาล่าง
ถัดจากคนเขียนบล็อกและนักเขียน
แต่คุณยังมีความหลากหลายที่สูงมากของกลุ่มคน
ที่สนใจในดนตรีหลายแขนง
แม้แต่แฟนคลับของจัสติน บีเบอร์ยังถูกแสดงในนี้
บอยแบนด์ นักร้องคันทรี
กอสเปล ฟังค์และแร็พ และเดี่ยวไมโครโฟน
และมันยังมีกลุ่มที่เกี่ยวกับยาเสพติด
และเรื่องตลกขบขัน
มันเจ๋งใช่มั้ยล่ะ
และทีมฟุตบอลฟลามิงโกก็ถูกแสดงไว้ด้วยเช่นกัน
คุณจึงมีการกระจายแบบเดียวกัน
ของกีฬา สังคม ศิลปะ และดนตรี
แต่มันถูกแสดงในวิธีที่แตกต่างออกไป
และผมคิดว่ามันน่าจะเข้ากันกับความเข้าใจ
ของพวกเราเกี่ยวกับริโอ
ในฐานะที่เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม
และความหลากหลายทางดนตรี
พวกเรามีข้อมูลทั้งหมด
มันเป็นชุดข้อมูลที่เรามีเกี่ยวกับเมืองต่างๆ
ที่มีคุณค่ามาก
บางทีอาจจะมีคุณค่ามากกว่าชุดข้อมูลใดๆ
ที่เราเคยมีด้วยซ้ำ
แล้วเราจะสามารถทำอะไรกับมันได้บ้าง
ผมคิดว่าอย่างแรกที่เราสามารถทำความเข้าใจได้
คือการแบ่งแยกเป็นโครงสร้างทางสังคมอย่างหนึ่ง
มันคือสิ่งที่เราเลือกที่จะทำ
และเราสามารถเลือกที่จะไม่ทำ
และถ้าคุณลองคิดดู
สิ่งที่เราทำกับชุดข้อมูลนี้
คือการเล็งกล้องโทรทรรศน์ไปยังเมืองนั้นๆ
และมองราวกับว่ามันเป็นโรงอาหาร
ในโรงเรียนมัธยมปลายขนาดใหญ่
และมองดูทุกคนหาที่นั่งให้ตัวเอง
นี่น่าจะเป็นเวลาที่ควรจัดตำแหน่งให้เข้าที่ซักเล็กน้อย
อีกสิ่งหนึ่งที่เราเริ่มตระหนัก
คือเชื้อชาติเป็นตัวแทนที่ไม่ดี
ของความหลากหลาย
เรามีกลุ่มคนจากเชื้อชาติต่างๆ ทั้งหมด
ที่แสดงลงบนแผนที่นี้
ซึ่งจริงๆ แล้วการมองดูแค่เชื้อชาตินั้น
ไม่ได้มีส่วนในการพัฒนาความหลากหลาย
ดังนั้นหากเราพยายามจะใช้ความหลากหลาย
มาเป็นวิธีในการต่อกรกับปัญหาที่แก้ได้ยาก
เราต้องเริ่มคิดเกี่ยวกับความหลากหลายในแนวทางใหม่
และท้ายที่สุด เรามีความสามารถที่จะสร้าง
การแทรกแซงเพื่อเริ่มแปลงโฉมเมืองของเรา
ในรูปแบบใหม่
และผมเชื่อว่าถ้าเรามีความสามารถนั้น
เราอาจมีความรับผิดชอบที่จะต้องทำสิ่งนั้น
แล้วเมืองคืออะไร
ผมคิดว่าบางคนอาจจะกล่าวว่า
พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ หรือการรวมตัวกัน
ของถนนและอาคาร
แต่ผมเชื่อว่าเมืองคือผลลัพธ์ของความสัมพันธ์
ของผู้คนที่อาศัย ณ ที่แห่งนั้น
และผมเชื่อว่าถ้าเราสามารถ
บันทึกความสัมพันธ์เหล่านั้นได้อย่างแท้จริง
บางทีเราอาจจะบรรลุเป้าหมาย
ในการสร้างเมืองที่เราอยากจะมี
ขอบคุณครับ
(เสียงปรบมือ)