ถ้าคุณไปพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงงานสะสม ของศิลปะยุคใหม่หรือศิลปะร่วมสมัย คุณมักจะได้เห็นผลงาน ที่บางครั้งทำให้คุณคิดว่า "แมวของฉันก็ทำได้ นี่เป็นศิลปะได้อย่างไร" กิจกรรมของลัทธิสำแดงพลังอารมณ์แนวนามธรรม หรือรู้จักกันในชื่อ สกุลนิวยอร์ค ได้รับการตอบสนองแบบนี้บ่อยมาก ลัทธิสำแดงพลังอารมณ์แนวนามธรรม เริ่มขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1943 และพัฒนาขึ้นมาหลังการสิ้นสุด ของสงครามโลกครั้งที่สอง มันถูกนิยามโดยภาพวาดนามธรรมพื้นฐาน ซึ่งมีขนาดใหญ่พิเศษ องค์ประกอบทั้งหมดไม่มีจุดเด่นที่ชัดเจน และป้ายสีวาดแนวเส้นรูปร่าง สรรสร้างและลงลึกถึงความรู้สึกอันมากหลาย เหล่าศิลปินที่ถูกจัดเป็น นักกิจกรรมลัทธิสำแดงพลังอารมณ์แนวนามธรรม ซึ่งมี บาร์เน็ตต์ นิวแมน กับอัตถิภาวะที่กดดัน วิลเลม เดอ คูนนิ่ง ผู้โด่งดังจากภาพเสมือนสตรี เฮเลน แฟรงเคนเทลเลอร์ ผู้สร้างเทคนิคการเทสีน้ำมัน และคนอื่น ๆ แต่บางที คนที่มีชื่อเสียง ทรงอิทธิพล และน่างุนงงเป็นที่สุด คือ แจ็คสัน พอลล็อค เกือบทุกภาพของเขาล้วนเป็นที่จดจำได้ในทันที ภาพนั้นประกอบด้วยเส้นสีสันพัวพันยุ่งเหยิง สาดสายซ่านกระเซ็นไปทุกทิศทางบนผืนผ้าใบ และแน่นอน พื้นที่แห่งความยุ่งเหยิงเหล่านี้ ช่างกว้างใหญ่และน่าประทับใจยิ่ง แต่ว่า อะไรทำให้ภาพเหล่านั้นมันสำคัญนัก ไม่ใช่ว่าเขาเพียงสาดสีไปอย่างสะเปะสะปะ คนอื่นไม่สามารถทำอย่างเขาได้หรือ คำตอบของคำถามเหล่านี้มีทั้งใช่และไม่ใช่ ขณะที่พอลล็อคใช้เทคนิค ที่เหมือนว่าใคร ๆ ก็สามารถทำได้ โดยไม่ต้องฝึกฝนทักษะศิลปิน เขาคนเดียวที่สามารถรังสรรค์ภาพวาดของเขาได้ ปฏิทัศน์นี้เกี่ยวข้องกับรากกำเนิดงานของเขา ในกลุ่มศิลปินลัทธิเหนือจริง ซึ่งวาดภาพโดย ไม่ควบคุมของอังเดร แมซซอน และคนอื่น ๆ ศิลปินลัทธิเหนือจริงเหล่านี้วาดภาพ โดยการชี้นำของจิตใต้สำนึก เพื่อจะไขแสดงความจริง ที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของพวกเขา ในบางโอกาส แทนที่จะคิดภาพบางอย่างในหัว แล้วค่อยวาดออกมา เขาปล่อยมือของเขาให้เคลื่อนไหวไปเอง และแยกแยะให้เห็นรูปร่างที่คุ้นเคยที่ปรากฏ ในลายเส้นหยุกหยิกนั้นภายหลัง หลังจากพอลล็อคออกจากกลุ่มศิลปิน เขาสร้างสรรค์ภาพศิลป์จากหยดสี หรือกัมมันตจิตรกรรม ตามแบบฉบับที่คุ้นเคย แต่เขาก็ได้พัฒนารูปแบบเฉพาะตัวขึ้นมา และไม่เคยมองหาภาพสะท้อนหรือข้อความ ที่ซ่อนอยู่ในงานของเขา อย่างแรก เขานำผืนผ้าใบออกจากขาตั้ง และกางไว้บนพื้น การกระทำที่ล้มล้างในตัวมันเอง จากนั้น โดยการเต้นรำอย่างควบคุมได้ เขาเยื้องย่างผ่านทุกที่บนผืนผ้า สาดสีงานอุตสาหกรรม ลงบนเครื่องกวนและอุปกรณ์อื่น คอยเปลี่ยนความเร็วและทิศทาง เพื่อควบคุมการที่หยดสีสัมผัสกับพื้นผิว การเคลื่อนไหวเหล่านี้ ดุจศิลปินลัทธิเหนือจริงเขียนเล่น กำเนิดจากการคาดคะเนในจิดใต้สำนึกของพอลล็อค แต่ไม่เหมือนกับศิลปินลัทธิเหนือจริง ที่ภาพของศิลปินจะแสดงถึง เนื้อหาที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใจ พอลล็อคทำให้เกิดการแสดงออกทางกายภาพ ของจิดใจเขาตามที่เขาจินตนาการ ภาพวาดคือเอกลักษณ์ทางจิตใจของตัวเขาเอง ในทางทฤษฎี ใครก็สามารถวาดภาพ ที่เป็นการแสดงถึงจิตใจของตัวเองได้ ทำไมพอลล็อคถึงพิเศษนัก เอาล่ะ มันสำคัญที่จะจดจำว่า คนอื่น ๆ สามารถทำตามแบบเขาได้ พอลล็อคกับศิลปินสกุลนิวยอร์ค เป็นผู้ริเริ่มทำสิ่งนี้ พวกเขาทำลายสัญนิยมภาพวาด ที่ยืนหยัดมาหลายศตวรรษ บังคับโลกศิลปะให้รื้อคิดตัวตนใหม่ทั้งหมด แต่เหตุผลสุดท้ายที่ว่าทำไมผลงานของ แจ็คสัน พอลล็อคถึงเด่นดังตลอดมา แตกยอดมาจากวัตถุเฉพาะที่เขาสร้าง ซึ่งก่อร่างความขัดแย้งอันชวนหลงใหล ตัวอย่างเช่น ในกระบวนการทำงานของพอลล็อค ทำให้เกิดพื้นผิวหลายชั้น ที่ต่างก็ถูกระบายอย่างรุนแรง ข่ายใยของเส้นสีที่ถูกระบายนี้ ได้สร้างภาพลวงตาของความลึกหลายชั้นไม่รู้จบ เมื่อมองดูในระยะใกล้ และความวุ่นวายของเส้นที่พันกันยุ่งเหยิงนี้ ดูคล้ายจะแข็งขืนต่อทุกการควบคุม แต่ที่จริง มันเป็นผลผลิตจากกระบวนการที่มีความตั้งใจ แม้จะไม่มีการวางแผนก่อนหน้า ลักษณะเฉพาะยิ่งเหล่านี้ทำให้พอลล็อค กลายเป็นผู้มีชื่อเสียง และในวงการประวัติศาสตร์ศิลป์ พวกเขายกย่องพอลล็อคให้เป็นตำนาน ของศิลปินอัจฉริยะเยี่ยงวีรบุรุษ ดังนั้น แทนที่ทุกความคิดสร้างสรรค์ จะมีความเสมอภาคทัดเทียมกัน โชคร้ายที่ผลงานของพอลล็อคได้รวบรวม องค์ประกอบขั้นสูงของงานศิลปะอันคงกระพัน ความเหนือระดับ ความเป็นนวัตกรรม หรือแล้วแต่คุณจะเรียกขานมัน ประวัติศาสตร์ที่ยึดโยง กับลัทธิสำแดงพลังอารมณ์นี้ คือสิ่งหนึ่งที่ไม่มีแมวตัวใด แม้จะมีพรสวรรค์ สามารถเอ่ยอ้างสิทธิ์นี้ได้