1 00:00:07,283 --> 00:00:09,591 พลังงานมีอยู่รอบตัวเรา 2 00:00:09,615 --> 00:00:14,009 มันมีปริมาณทางกายภาพที่เป็นไป ตามกฎที่แน่นอนของธรรมชาติ 3 00:00:14,033 --> 00:00:16,479 จักรวาลของเรามีปริมาณพลังงานที่จำกัด; 4 00:00:16,503 --> 00:00:18,675 ไม่มีการสร้างพลังงานขึ้นใหม่ หรือทำลายมันไปได้ 5 00:00:18,699 --> 00:00:20,175 แต่มันสามารถสามารถเปลี่ยนรูปได้ 6 00:00:20,199 --> 00:00:22,527 อย่างพลังงานจลน์หรือศักย์ 7 00:00:22,551 --> 00:00:25,698 ที่มีคุณสมบัติต่าง ๆ กันและสูตรต่าง ๆ กัน ให้เราจดจำ 8 00:00:25,722 --> 00:00:27,091 อย่างเช่น 9 00:00:27,115 --> 00:00:29,601 โคมไฟตั้งโต๊ะหลอดแอลอีดีขนาด 6 วัตต์ 10 00:00:29,625 --> 00:00:32,686 ให้พลังงานแสงสว่าง 6 จูลส์ต่อวินาที 11 00:00:33,568 --> 00:00:35,540 แต่ เรามากระโดดกลับไปยังห้วงอวกาศกันเถอะ 12 00:00:35,564 --> 00:00:39,130 เพื่อที่จะมาดูโลกของเรา ระบบของมัน และการถ่ายเทของพลังงาน 13 00:00:39,917 --> 00:00:41,714 ระบบทางกายภาพของโลกนั้นประกอบไปด้วย 14 00:00:41,738 --> 00:00:44,216 อากาศภาค อุทกภาค 15 00:00:44,240 --> 00:00:46,759 ธรณีภาค และชีวภาค 16 00:00:46,783 --> 00:00:49,554 พลังงานเคลื่อนที่เข้าและออกจากระบบเหล่านี้ 17 00:00:49,578 --> 00:00:52,342 และในระหว่างการถ่ายเทพลังงานระหว่างระบบ 18 00:00:52,366 --> 00:00:54,759 พลังงานบางส่วนจะสูญเสียไปให้แก่สิ่งแวดล้อม 19 00:00:54,783 --> 00:00:57,208 ในรูปของความร้อน แสงสว่าง เสียง 20 00:00:57,232 --> 00:00:59,185 การสั่นสะเทือน หรือการเคลื่อนไหว 21 00:00:59,783 --> 00:01:03,402 พลังงานของโลกของเรานั้นมาจาก แหล่งพลังงานภายในและภายนอก 22 00:01:03,426 --> 00:01:06,654 พลังงานความร้อนใต้พิภพ จากไอโซโทปกัมมันตรังสี 23 00:01:06,678 --> 00:01:09,759 และพลังงานการหมุนจากการหมุนรอบตัวของโลก 24 00:01:09,783 --> 00:01:11,826 เป็นแหล่งพลังงานภายใน 25 00:01:11,850 --> 00:01:14,872 ในขณะที่ดวงอาทิตย์ เป็นแหล่งพลังงานภายนอกหลัก 26 00:01:14,896 --> 00:01:18,208 ที่ขับเคลื่อนระบบบางระบบ เช่น สภาพอากาศ และ สภาพภูมิอากาศ 27 00:01:18,232 --> 00:01:21,963 แสงอาทิตย์ให้ความร้อนแก่ผิวโลก และบรรยากาศในปริมาณที่ต่างกันไป 28 00:01:21,987 --> 00:01:23,675 และนี่ก็ทำให้เกิดการนำพาความร้อน 29 00:01:23,699 --> 00:01:26,370 ทำให้เกิดกระแสลมพัด และมีอิทธิพลกับกระแสน้ำในมหาสมุทร 30 00:01:27,307 --> 00:01:31,842 การแผ่รังสีอินฟราเรดที่ แผ่ออกจากพื้นผิวโลกที่อมความร้อนไว้ 31 00:01:31,866 --> 00:01:36,012 ถูกกักไว้โดยก๊าซเรือนกระจก และส่งผลต่อการไหลเวียนของพลังงานเข้าไปอีก 32 00:01:36,933 --> 00:01:40,481 ดวงอาทิตย์ยังเป็นแหล่งพลังงานหลัก ให้แก่สิ่งมีชีวิตอีกด้วย 33 00:01:40,505 --> 00:01:42,899 พืช สาหร่ายและไซยาโนแบคทีเรีย 34 00:01:42,923 --> 00:01:45,510 ใช้แสงอาทิตย์ในการผลิตอินทรียวัตถุ 35 00:01:45,534 --> 00:01:48,112 จากคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ 36 00:01:48,136 --> 00:01:50,738 เป็นพลังให้กับห่วงโซ่อาหาร ในโลกของสิ่งมีชีวิต 37 00:01:50,762 --> 00:01:54,451 เราปล่อยพลังงานจากอาหารนี้ โดยใช้ปฏิกิริยาทางเคมี 38 00:01:54,475 --> 00:01:56,926 อย่างการสันดาปและกระบวนการหายใจ 39 00:01:56,950 --> 00:02:00,342 ในห่วงโซ่อาหารแต่ละระดับ มีการเก็บสะสมพลังงานอยู่บ้าง 40 00:02:00,366 --> 00:02:02,424 ในรูปโครงสร้างทางเคมีที่สร้างขึ้นใหม่ 41 00:02:02,448 --> 00:02:04,797 แต่ส่วนใหญ่จะสูญเสียให้กับสิ่งแวดล้อม 42 00:02:04,821 --> 00:02:06,840 ในรูปความร้อน อย่างความร้อนจากร่างกายคุณ 43 00:02:06,864 --> 00:02:09,175 ที่ได้มาจากการที่คุณย่อยอาหาร 44 00:02:09,199 --> 00:02:12,424 ตอนนี้ เนื่องจากพืชถูกผู้บริโภครายแรกกิน 45 00:02:12,448 --> 00:02:16,791 มีเพียง 10% ของพลังงานจากพืชทั้งหมดนั้น ที่ถูกส่งต่อไปยังผู้บริโภคในลำดับถัดไป 46 00:02:17,440 --> 00:02:21,342 เนื่องจากพลังงานสามารถไหลไปได้ ในทิศทางเดียวเท่านั้นในห่วงโซ่อาหาร 47 00:02:21,366 --> 00:02:24,341 จากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค และผู้บริโภคซากอินทรีย์ 48 00:02:24,365 --> 00:02:26,651 สิ่งมีชีวิตที่บริโภคในระดับแรก ๆ ของห่วงโซ่อาหาร 49 00:02:26,675 --> 00:02:29,014 จึงมีประสิทธิภาพดีกว่า ที่บริโภคในระดับท้าย ๆ 50 00:02:29,765 --> 00:02:32,281 ดังนั้นการกินผู้ผลิตจึงเป็นระดับ ที่ประสิทธิภาพสูงสุด 51 00:02:32,305 --> 00:02:34,759 ที่สัตว์ตัวหนึ่งจะได้รับพลังงาน 52 00:02:34,783 --> 00:02:38,677 แต่หากไม่มีพลังงานขาเข้าอย่างต่อเนื่อง ให้แก่ผู้ผลิตเหล่านั้น 53 00:02:38,701 --> 00:02:40,112 ซึ่งส่วนมากได้จากแสงอาทิตย์ 54 00:02:40,136 --> 00:02:43,424 ชีวิตบนโลกใบนี้อย่างที่เราคุ้นเคยนี้ คงไม่สามารถดำรงอยู่ได้ 55 00:02:43,448 --> 00:02:47,424 แน่นอนว่า มนุษย์เราใช้พลังงานในการทำ สิ่งต่าง ๆ มากมายนอกเหนือไปจากการกินแล้ว 56 00:02:47,448 --> 00:02:51,858 เราเดินทาง เราก่อสร้าง เราใช้พลังงานไปกับเทคโนโลยีต่าง ๆ 57 00:02:51,882 --> 00:02:53,106 เพื่อการทำสิ่งเหล่านี้ 58 00:02:53,130 --> 00:02:54,933 เราใช้แหล่งเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์: 59 00:02:54,957 --> 00:02:57,808 ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ 60 00:02:57,832 --> 00:02:59,560 ซึ่งบรรจุพลังงาน 61 00:02:59,584 --> 00:03:02,466 ที่พืชกักจากแสงอาทิตย์เมื่อนานมาแล้ว 62 00:03:02,490 --> 00:03:04,849 และเก็บไว้ในรูปของคาร์บอน 63 00:03:04,873 --> 00:03:07,400 เมื่อเราเผาเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์นี้ ในโรงไฟฟ้า 64 00:03:07,424 --> 00:03:09,267 เราก็ปลดปล่อยพลังงานที่ถูกกักไว้นี้ 65 00:03:09,291 --> 00:03:10,986 เพื่อผลิตไฟฟ้า 66 00:03:11,708 --> 00:03:13,267 ในการผลิตไฟฟ้า 67 00:03:13,291 --> 00:03:16,933 ความร้อนจากการเผาเชื้อเพลิง ซากดึกดำบรรพ์ถูกใช้ในการขับเคลื่อนใบพัด 68 00:03:16,957 --> 00:03:18,786 ที่หมุนแม่เหล็ก 69 00:03:18,810 --> 00:03:21,417 ที่สร้างการสลับของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า 70 00:03:21,441 --> 00:03:23,666 ไปตามขดลวด 71 00:03:23,690 --> 00:03:27,934 ทำให้เกิดการเหนี่ยวนำอิเลคตรอน ให้ไหลไปตามสายไฟ 72 00:03:27,958 --> 00:03:30,674 อารยธรรมสมัยใหม่ต้องอาศัยความสามารถของเรา 73 00:03:30,698 --> 00:03:33,886 ในการขับเคลื่อนพลังการไหลของอิเลคตรอนนี้ 74 00:03:33,910 --> 00:03:37,516 โชคดีที่เราไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียง การเผาผลาญเชื้อเพลิงสิ้นเปลืองเท่านั้น 75 00:03:37,540 --> 00:03:39,515 ในการผลิตกระแสไฟฟ้า 76 00:03:39,539 --> 00:03:41,644 อิเลคตรอนยังสามารถถูกเหนี่ยวนำให้ไหลได้ 77 00:03:41,668 --> 00:03:44,850 ด้วยการทำปฏิกิริยาโดยตรงกับอนุภาคแสง 78 00:03:44,874 --> 00:03:46,849 ซึ่งก็เป็นวิธีทำงานของแผงพลังงานสงอาทิตย์ 79 00:03:47,642 --> 00:03:49,372 แหล่งพลังงานทดแทนอื่น 80 00:03:49,396 --> 00:03:51,437 เช่น พลังงานลม น้ำ 81 00:03:51,461 --> 00:03:53,906 พลังงานความร้อนใต้พิภพ และ ชีวภาค 82 00:03:53,930 --> 00:03:56,388 ก็สามารถนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าได้ด้วย 83 00:03:57,332 --> 00:03:59,870 ความต้องการพลังงานของโลกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ 84 00:03:59,894 --> 00:04:02,039 แต่โลกมีแหล่งพลังงานที่จำกัด 85 00:04:02,063 --> 00:04:05,375 ที่เราเข้าถึงได้ผ่านโครงสร้างพื้นฐาน ทางพลังงานอันซับซ้อน 86 00:04:05,399 --> 00:04:07,126 เนื่องจากประชากรโลกเพิ่มขึ้น 87 00:04:07,150 --> 00:04:10,047 พร้อมกับอัตราการเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรม และการพัฒนา 88 00:04:10,071 --> 00:04:13,363 การตัดสินใจด้านพลังงาน จึงมีความสำคัญที่มากขึ้นทุกที 89 00:04:13,387 --> 00:04:16,559 การเข้าถึงพลังงาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ การศึกษา, 90 00:04:16,583 --> 00:04:19,942 อำนาจทางการเมือง และสถานะทางสังคมเศรษฐกิจ 91 00:04:19,966 --> 00:04:22,348 หากเราเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน 92 00:04:22,372 --> 00:04:25,393 เราจะสามารถใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ได้อย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้น 93 00:04:25,417 --> 00:04:27,778 และจะสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ทุกคนได้