1 00:00:07,899 --> 00:00:11,032 คุณรู้ได้อย่างไรว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในโลกของเรา 2 00:00:11,032 --> 00:00:13,621 ข้อมูลมากมายแค่เพียงกดคลิ๊กเดียว 3 00:00:13,621 --> 00:00:15,111 อาจไร้ขอบเขต 4 00:00:15,111 --> 00:00:16,968 แต่เวลาและแรงที่เรามี 5 00:00:16,968 --> 00:00:19,863 ในการรับและประเมินนั้นไม่ได้เป็นเช่นนั้น 6 00:00:19,863 --> 00:00:23,148 ข้อมูลทุกอย่างในโลกคงไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ 7 00:00:23,148 --> 00:00:25,988 ถ้าเราไม่รู้วิธีการอ่านข่าว 8 00:00:25,988 --> 00:00:27,538 สำหรับคุณปู่คุณย่า พ่อแม่ 9 00:00:27,538 --> 00:00:29,189 หรือแม้แต่พี่น้องที่แก่กว่าของคุณ 10 00:00:29,189 --> 00:00:31,601 ความคิดนี้อาจฟังดูประหลาด 11 00:00:31,601 --> 00:00:34,707 แค่ไม่กี่สิบปีก่อน ข่าวต้องพึ่งการเผยแพร่ 12 00:00:34,707 --> 00:00:36,203 ทางเลือกก็มีจำกัด 13 00:00:36,203 --> 00:00:38,390 เพียงแค่นิตยสารเนื้อหาทั่วๆ ไปสองสามหัว 14 00:00:38,390 --> 00:00:39,968 และหนังสือพิมพ์ที่ลงทะเบียน 15 00:00:39,968 --> 00:00:42,425 และทีวีสามหรือสี่ช่อง 16 00:00:42,425 --> 00:00:45,417 ที่ผู้ประกาศข่าวคู่ใจประกาศข่าวประจำวัน 17 00:00:45,417 --> 00:00:48,681 ในเวลาเดิมทุกเย็น 18 00:00:48,681 --> 00:00:51,148 แต่ปัญหาของระบบนี้ก็ปรากฏขึ้น 19 00:00:51,148 --> 00:00:53,213 เมื่อสื่อสารมวลชนแพร่ออกไป 20 00:00:53,213 --> 00:00:54,991 ในขณะที่เป็นที่ทราบกันว่าประเทศเผด็จการ 21 00:00:54,991 --> 00:00:57,256 ควบคุมและตรวจสอบข้อมูล 22 00:00:57,256 --> 00:00:59,665 เรื่องอื้อฉาวต่อเนื่องแสดงให้เห็นว่า 23 00:00:59,665 --> 00:01:03,051 รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยก็ยังทำให้สื่อไขว้เขว 24 00:01:03,051 --> 00:01:05,728 โดยเฉพาะกับสื่อรัฐวิสาหกิจ 25 00:01:05,728 --> 00:01:09,267 การรับรู้เรื่องสงคราม ที่ถูกปกปิด การฆาตกรรมลับ 26 00:01:09,267 --> 00:01:10,818 และการทุจริตฉ้อโกงทางการเมือง 27 00:01:10,818 --> 00:01:13,864 กร่อนทำลายศรัทธาของประชาชน 28 00:01:13,864 --> 00:01:16,503 ที่ถูกนำเสนอในรูปแบบที่เป็นทางการ โดยแหล่งข่าวหลัก 29 00:01:16,503 --> 00:01:19,421 การไม่เหลือความเชื่อให้กับผู้คุมสื่อ 30 00:01:19,421 --> 00:01:23,364 นำไปสู่หนังสือพิมพ์ รายการวิทยุ และข่าวเคเบิล ที่เป็นทางเลือก 31 00:01:23,364 --> 00:01:26,426 ซึ่งขัดแย้งกันในการให้ข้อมูลหลัก และการสรุปเหตุการณ์ 32 00:01:26,426 --> 00:01:28,251 จากมุมมองต่างๆ 33 00:01:28,251 --> 00:01:30,886 เร็วๆ นี้ อินเทอร์เน็ตได้เพิ่มปริมาณ 34 00:01:30,886 --> 00:01:32,953 ของข้อมูลและความเห็นมหาศาล 35 00:01:32,953 --> 00:01:35,957 ด้วยโซเชียลมีเดีย กระทู้ และวีดีโอออนไลน์ 36 00:01:35,957 --> 00:01:39,281 ที่เปลี่ยนคนทั่วไปให้อาจกลายเป็นนักข่าว 37 00:01:39,281 --> 00:01:41,913 แต่ถ้าทุกคนเป็นนักข่าว ซึ่งที่จริงมันก็ไม่ 38 00:01:41,913 --> 00:01:43,610 แหล่งที่ต่างกัน ก็คงเห็นไม่ตรงกัน 39 00:01:43,610 --> 00:01:46,593 ไม่ใช่แค่ความเห็น แต่เป็นข้อเท็จจริงด้วย 40 00:01:46,593 --> 00:01:50,204 แล้วคุณจะได้ความจริง หรือใกล้เคียงได้อย่างไร 41 00:01:50,204 --> 00:01:52,929 หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดคือหาข่าวต้นตอ 42 00:01:52,929 --> 00:01:55,010 ที่ไม่ได้ผ่านการกรองจากคนกลาง 43 00:01:55,010 --> 00:01:57,582 แทนที่จะเป็นบทความ ที่วิเคราะห์การทดลองทางวิทยาศาสตร์ 44 00:01:57,582 --> 00:01:59,407 หรือคำพูดของนักการเมือง 45 00:01:59,407 --> 00:02:03,053 คุณสามารถหาบทความสำคัญๆ นั่นได้บ่อยครั้ง และตัดสินด้วยตัวคุณเอง 46 00:02:03,053 --> 00:02:06,753 สำหรับเหตุการณ์ในตอนนี้ ตามนักข่าวของเราบนโซเชียลมีเดีย 47 00:02:06,753 --> 00:02:09,019 ระหว่างเหตุการณ์สำคัญๆ เช่นอาหรับสปริง 48 00:02:09,019 --> 00:02:10,671 หรือการประท้วงที่ยูเครน 49 00:02:10,671 --> 00:02:14,271 ผู้ประกาศข่าวและบล็อกเกอร์ได้โพส และบันทึกข้อความใหม่ๆ 50 00:02:14,271 --> 00:02:16,184 จากความโกลาหนวุ่นวาย 51 00:02:16,184 --> 00:02:19,416 แม้ว่าต่อมาสิ่งเหล่านี้จะปรากฏตามสิ่งพิมพ์ หรือนำไปออกอากาศ 52 00:02:19,416 --> 00:02:21,890 จำเอาไว้ว่าแบบฉบับที่ถูกปรับแต่งขึ้นนี้ 53 00:02:21,890 --> 00:02:24,634 มักถูกปนเปด้วยเสียงของคนที่อยู่ตรงนั้น 54 00:02:24,634 --> 00:02:27,091 กับการเติมแต่งของบรรณาธิการ ผู้ที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น 55 00:02:27,091 --> 00:02:29,392 ในเวลาเดียวกัน ยิ่งเรื่องราววุ่นวายเท่าไร 56 00:02:29,392 --> 00:02:32,369 คุณยิ่งไม่ควรติดตามเรื่องราวตลอดเวลา 57 00:02:32,369 --> 00:02:35,721 ในเหตุการณ์อย่างการก่อการร้าย และภัยธรรมชาติ 58 00:02:35,721 --> 00:02:37,977 สื่อทุกวันนี้พยายามสรุปข่าวอย่างต่อเนื่อง 59 00:02:37,977 --> 00:02:41,458 แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้ก็ตาม 60 00:02:41,458 --> 00:02:44,021 บางครั้ง นั่นนำไปสู่ข้อมูลที่ผิดพลาด 61 00:02:44,021 --> 00:02:47,010 หรือการกล่าวหาคนที่บริสุทธิ์ 62 00:02:47,010 --> 00:02:49,842 มันง่ายที่เราจะตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์แบบนั้น 63 00:02:49,842 --> 00:02:51,992 แต่พยายามตามข้อมูลล่าสุด 64 00:02:51,992 --> 00:02:53,991 ณ เวลาต่างๆ ของวัน 65 00:02:53,991 --> 00:02:55,898 แทนที่จะตามกันทุกนาที 66 00:02:55,898 --> 00:02:58,704 ปล่อยเวลาผ่านไป ให้ข้อมูลที่สมบูรณ์ปรากฎออกมา 67 00:02:58,704 --> 00:03:01,721 และการรายงานผิดๆ จะถูกพิสูจน์ว่าไม่จริง 68 00:03:01,721 --> 00:03:03,838 ในขณะที่นักข่าวที่ดีมุ่งไปที่ประเด็น 69 00:03:03,838 --> 00:03:06,799 การบิดเบือนของสื่อ ก็มักหลีกเลี่ยงไม่ได้ 70 00:03:06,799 --> 00:03:08,260 เมื่อคุณไม่สามารถได้ข้อมูลโดยตรงได้ 71 00:03:08,260 --> 00:03:10,754 ให้อ่านการสรุปข่าวจากหลายๆ แหล่ง 72 00:03:10,754 --> 00:03:14,212 ที่จ้างนักข่าวหลากหลาย และสัมภาษณ์ผู้รู้ที่หลากหลาย 73 00:03:14,212 --> 00:03:17,399 การรับสื่อหลายแหล่ง และเห็นสิ่งที่แตกต่าง 74 00:03:17,399 --> 00:03:19,445 ทำให้คุณประกอบเรื่องราวได้ 75 00:03:19,445 --> 00:03:21,364 เป็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น 76 00:03:21,364 --> 00:03:24,216 มันสำคัญที่จะแยกข้อเท็จจริงออกจาก ความคิดเห็น 77 00:03:24,216 --> 00:03:27,564 คำพูดอย่าง คิดว่า น่าจะ หรือเป็นไปได้ว่า 78 00:03:27,564 --> 00:03:29,591 หมายถึงแหล่งนั้นพยายามที่จะระวัง 79 00:03:29,591 --> 00:03:31,915 หรือ ที่แย่กว่านั้น คือกำลังเดา 80 00:03:31,915 --> 00:03:35,653 และระวังนักข่าวที่พึ่งสื่อนิรนาม 81 00:03:35,653 --> 00:03:38,677 นั่นอาจเป็นคน ที่มีความเกี่ยวข้องเพียงเล็กน้อยกับข้อมูลนั้น 82 00:03:38,677 --> 00:03:41,279 หรือเป็นพวกชอบชักจูงข่าว 83 00:03:41,279 --> 00:03:43,454 ความนิรนามทำให้พวกเขาไม่น่าเชื่อถือ 84 00:03:43,454 --> 00:03:45,745 สำหรับข้อมูลที่พวกเขาให้ 85 00:03:45,745 --> 00:03:47,545 สุดท้าย และที่สำคัญที่สุด 86 00:03:47,545 --> 00:03:50,652 พยายามตรวจสอบข่าวก่อนที่จะกระจายข่าว 87 00:03:50,652 --> 00:03:52,473 ในขณะที่โซเชียลมีเดียสามารถทำให้ความจริง 88 00:03:52,473 --> 00:03:53,756 มาถึงเราได้เร็วขึ้น 89 00:03:53,756 --> 00:03:55,805 มันก็ทำให้ข่าวลือถูกแพร่กระจายออกไปอีกด้วย 90 00:03:55,805 --> 00:03:57,588 ก่อนที่พวกมันจะถูกตรวจสอบ 91 00:03:57,588 --> 00:03:59,038 ขณะนั้นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นก็ยังคง 92 00:03:59,038 --> 00:04:01,185 อยู่อีกนานหลังจากมันถูกพิสูจน์ว่าไม่จริง 93 00:04:01,185 --> 00:04:03,470 ดังนั้น ก่อนที่คุณจะกระจายข่าวที่ไม่น่าเชื่อ 94 00:04:03,470 --> 00:04:05,431 หรือรุนแรง 95 00:04:05,431 --> 00:04:07,828 ทำการค้นหาผ่านเว็บไซต์ 96 00:04:07,828 --> 00:04:10,986 เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือข้อมูลที่คุณอาจพลาดไป 97 00:04:10,986 --> 00:04:13,540 และคนอื่นๆ คิดเห็นอย่างไร 98 00:04:13,540 --> 00:04:15,567 วันนี้ เรามีอิสรภาพมากกว่าที่เคยมี 99 00:04:15,567 --> 00:04:17,226 จากผู้คุมสื่อเก่า 100 00:04:17,226 --> 00:04:20,052 ผู้เคยควบคุมการเคลื่อนไหวของข้อมูล 101 00:04:20,052 --> 00:04:22,478 แต่อิสรภาพก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบ 102 00:04:22,478 --> 00:04:25,441 ความรับผิดชอบที่จะดูและประสบการณ์ของเราเอง 103 00:04:25,441 --> 00:04:28,202 และมั่นใจว่าความเคลื่อนไหวของข้อมูล จะไม่กลายเป็นข้อมูลท่วม 104 00:04:28,202 --> 00:04:31,847 ซึ่งจะทำให้เรารู้น้อยกว่าเดิม แทนที่เราจะล้ำหน้าก้าวไกลเพราะมัน