สวัสดีครับทุกท่าน
เรามาเริ่มเที่ยวชมกันเลยดีกว่า
ยินดีต้อนรับสู่พิพิธภัณฑ์แห่งพิพิธภัณฑ์ครับ
พิพิธภัณฑ์เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
มานานกว่า 2000 ปีแล้ว
ต่มันไม่ได้เหมือนกับพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน
เสมอไปหรอกครับ
ประวัติศาสตร์ของพิพิธภัณฑ์นั้น
เก่ากว่า และแปลกกว่าที่คุณคิดเอาไว้มาก
เราจะเริ่มตรงนี้ในส่วนกรีก
คำว่า "มิวเซียม" ของเรา
มาจาก "มิวเซออน" (mouseion) ในภาษากรีก
วัดที่สร้างขึ้นสำหรับนพเทวี และเทพยดา
แห่งศิลปะและวิทยาการ
ผู้วิงวอนขอให้เหล่านพเทวี
เฝ้ารักษาสถานศึกษา
และประทานความปราดเปรื่อง
แก่ผู้ที่คู่ควร
วัดเหล่านี้เต็มไปด้วยรูปปั้นที่ถูกนำมาถวาย
โมเสก
อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์อันซับซ้อน
บทกวี และงานเขียนทางวรรณกรรม
และสิ่งบูชาอื่นๆ ที่จะเหมาะสมจะแสดงถึง
ความเป็นอมตะ
ของแรงบันดาลใจจากเหล่าเทพ
เรามาถึงส่วนเมนิเตอเรเนียน
พิพิธภัณฑ์แรกถูกสร้างขึ้น 530 ปีก่อน
คริสกาล ในที่ซึ่งตอนนี้คืออิรัก
และภัณฑารักษ์คนแรก แท้จริงแล้วเป็นเจ้าหญิง
เอนนิกลาดิ-แนนนา เริ่มเก็บและจัด
ของเมนิเตอแรเนียนเก่าๆ
ใน อี-จิ๊ก-พาร์ ซึ่งคือบ้านของเธอ
เมื่อนักโบราณคดีขุดค้นพบบริเวณดังกล่าว
พวกเขาค้นพบตัวอย่างมากมาย
ที่ถูกจัดวางเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ
โดยมีป้ายดินปั้น เขียนกำกับไว้สามภาษา
เธอจะต้องมีงานเลี้ยงที่น่าสนใจมากแน่ๆ
ประเพณีการเก็บและแสดงของอันน่าทึ่งเหล่านี้
เริ่มที่จะถูกเลียนแบบ
ดงที่คุณได้เห็นตรงนี้
ในส่วนอาณาจักรโรมัน
กรุสมบัติแห่งนักการเมืองและผู้นำทางทหาร
ถูกบรรจุด้วยซากแห่งสงคราม
และที่รวบรวมและแสดงสัตว์ป่าหลวง
ที่แสดงสัตว์ที่แปลกหายาก
ให้กับประชาชนในโอกาสสำคัญ
เช่นในการแข่งขันของแกลดิเอเตอร์
อย่างที่คุณได้เห็น
เรามีสิงโตตรงนี้และแกลดิเอเตอร์
และ อ่า ภารโรงน่าจะมาอยู่ตรงนี้นะเนี่ย
ต่อไป ตามมาเลยครับ
ขั้นถัดไปในวิวัฒนาการของพิพิธภัณฑ์
เกิดขึ้นในยุคฟื้นฟู
เมื่อการศึกษาโลกธรรมชาติ
ได้รับการสนับสนุนอีกครั้ง
หลังจากเกือบศตวรรษ
ที่ทางตะวันตกไม่ได้ให้ความใส่ใจ
ตู้แห่งความสงสัยถูกเรียกอีกอย่างว่า
"วันเดอร์แคมเมอร์" (Wunderkammers)
คือของสะสมที่ทำหน้าที่เสมือน
สารานุกรมกายภาพ
ที่แสดงชิ้นตัวอย่าง
ลองเข้ามาในตู้ตรงนี้
นั่นแหละ ระวังเสื้อคลุมนะ
และคุณจะได้ชม ตู้ของ โอล วอร์ม (Ole Worm)
หนึ่งในวัลเดอร์แคมเมอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุด
เป็นของนักธรรมชาติวิทยา ผู้เชี่ยวชาญ
ของโบราณ และแพทย์
ยุคศตวรรษที่ 17 ที่ร่ำรวย
นามว่า โอล วอร์ม
โอล วอร์ม เก็บตัวอย่างทางธรรมชาติ
โครงกระดูกมนุษย์
ร่องรอยอักขระโบราณ
และตัวอย่างจากโลกใหม่
ในอีกตู้แห่งความสงสัย
คุณจะพบตัวอย่างที่มี
ความผิดปกติทางพันธุกรรม
หินมีค่า
งานศิลปะ
และร่องรอยจารึกทางศาสนาและประวัติศาสตร์
โอ้ ว้าว คุณคงจะไม่อยากจับหรอกนะ
ตู้เหล่านี้เป็นของส่วนตัว และโดยส่วนใหญ่
มันก็อยู่ในบ้านพัก
ถูกดูแลรักษาโดยเจ้าของของมัน
ผู้ออกกฎ และผู้สนับสนุน
เช่นเดียวกันกับพ่อค้า
และนักวิทยาศาสตร์ยุคแรก
ทีนี้ ใครได้ยินออแกนด์ละครสัตว์ไหม
ในยุค 1840
นักแสดงรุ่นเยาว์ที่มีความคิดริเริ่ม
นามว่า ไพเนียส ที. บาร์นัม (Phineas T. Barnum)
ซื้อตู้แห่งความสงสัยที่มีชื่อเสียงบางส่วน
จากยุโรป
และก่อตั้ง พิพิธภัณฑ์อเมริกันของบาร์นัม
ในกรุง นิว ยอร์ค
ของสะสมหลากหลายน่าทึ่ง
ห้องบรรยาย
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง
โรงละคร
และการแสดงประหลาด
ที่เป็นที่รู้จักกันว่าการสรรหาผู้อยู่อาศัย
เช่น หมี
ช้าง
นักกายกรรม
ยักษ์
แฝดสยาม
นางเงือกฟิจิ
และสาวมีหนวด
ตลอดจนเป็นบ้านของเครื่องจักรยุคใหม่
และอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์
พิพิธภัณฑ์เปิดให้กับสาธารณะ
และค่อยข้างจะเป็นปรากฏการณ์ใหม่
ก่อนบาร์นัม พิพิธภัณฑ์สาธารณะที่แรก
เปิดให้เฉพาะคนชั้นสูงและชั้นกลาง
และเป็นบางวันเท่านั้น
ผู้มาเยี่ยมชมจะต้องสมัคร
เพื่อมาเยี่ยมชม
โดยส่งเอกสารเข้ามาก่อนจะเข้า
และเพียงคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น
ที่ได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในแต่ละวัน
ตระกูลลูว์ฟ (Louvre) มีชื่อเสียงเรื่องให้สมาชิกทุกคน
จากสาธารณะเข้าพิพิธภัณฑ์ได้
แต่แค่สามวันต่อสัปดาห์เท่านั้น
ในศตวรรษที่ 19
พิพิธภัณฑ์ที่เราได้รู้จักกัน
เริ่มที่จะเกิดขึ้น
สถาบันอย่างสมิทโซเนียน (Smithsonian)
ถูกก่อตั้งขึ้น
ฉะนั้นเราก็ชมและศึกษาของต่างๆ
โดยที่พวกมันไม่ถูกเก็บไว้มิดชิดอีกต่อไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พิพิธภัณฑ์อเมริกา
รับหน้าที่ทำการทดลอง
และจ้างนักสำรวจเพื่อค้นหา
และเก็บตัวอย่างทางธรรมชาติ
พิพิธภัณฑ์กลายเป็นศูนย์กลางของผู้รู้
และศิลปิน และการค้นพบทางวิทยาศาสตร์
มันมักถูกเรียกว่า ยุคพิพิธภัณฑ์
ทุกวันนี้ พิพิธภัณฑ์เปิดให้ทุกคนได้รับชม
เป็นศูนย์กลางของการเรียนและทำวิจัย
และเปลี่ยนเป็นสถาบัน
ที่มีความเกี่ยวข้องสอดคล้องมากขึ้น
แต่คำถามที่ว่าใครที่จะต้องไปนั้น
ยังคงมีอยู่
ในเมื่อราคาตั๋วสามารถที่จะสกัดกั้น
การเยี่ยมชม
ของว่าที่นักวิชาการ ศิลปิน
และกลุ่มเป้าหมายที่มีแรงบันดาลใจเปี่ยมล้น
ผู้ที่ไม่มีกำลังทรัพย์เพียงพอ
ที่จะสามารถสนองความใคร่รู้เขาได้
ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมครับ
และขอเชิญหยุดซื้อของที่ระลึก
ที่ร้านขายของตรงทางออกได้ตามอัธยาศัยครับ