1 00:00:07,808 --> 00:00:10,839 ยาสีฟันยี่ห้อหนึ่งอ้างว่าผลิตภัณฑ์ ทำลายคราบแบคทีเรียบนผิวฟัน 2 00:00:10,839 --> 00:00:12,910 ได้มากกว่าผลิตภัณฑ์อื่นที่เคยมีมา 3 00:00:12,910 --> 00:00:16,411 นักการเมืองบอกว่า แผนการของพวกเขาจะสร้างงานได้มากที่สุด 4 00:00:16,411 --> 00:00:18,951 เราได้ยินการกล่าวเกินจริงเหล่านี้จนเคยชิน 5 00:00:18,951 --> 00:00:20,850 ในโฆษณาและการเมือง 6 00:00:20,850 --> 00:00:23,131 ซึ่งเราอาจไม่แม้แต่จะสนใจ 7 00:00:23,131 --> 00:00:26,111 แล้วถ้าการกล่าวอ้าง ถูกใช้ร่วมกับกราฟล่ะ 8 00:00:26,111 --> 00:00:28,471 อย่างไรก็ตาม กราฟไม่ใช่ความเห็น 9 00:00:28,471 --> 00:00:32,611 มันแสดงตัวเลขอย่างชัดเจน และใครจะสามารถเถียงได้ 10 00:00:32,611 --> 00:00:36,403 แต่กลายเป็นว่า มีหลากหลายวิธี ที่กราฟสามารถทำให้เข้าใจผิด 11 00:00:36,403 --> 00:00:38,192 และชักจูงได้ 12 00:00:38,192 --> 00:00:40,745 นี่เป็นบางสิ่งบางอย่าง เพื่อให้ระมัดระวัง 13 00:00:40,745 --> 00:00:45,760 ในโฆษณาปี 1992 เชฟวี่อ้างว่า ผลิตรถบรรทุกที่น่าเชื่อถือที่สุดในอเมริกา 14 00:00:45,760 --> 00:00:47,510 โดยใช้กราฟนี้ 15 00:00:47,510 --> 00:00:51,963 มันไม่เพียงแสดงว่า 98% ของรถบรรทุกเชฟวี่ทุกคันที่ถูกขาย 16 00:00:51,963 --> 00:00:53,592 ยังวิ่งอยู่บนถนนในทศวรรษที่ผ่านมา 17 00:00:53,592 --> 00:00:57,338 แต่มันยังดูเหมือนว่ารถเชฟวี่น่าเชื่อถือ มากกว่ารถบรรทุกของโตโยต้าถึงสองเท่า 18 00:00:57,338 --> 00:01:00,634 มันเป็นเช่นนั้น จนกระทั่งคุณได้สังเกตตัวเลขทางซ้ายมือ 19 00:01:00,634 --> 00:01:05,472 และพบว่าตัวเลขของโตโยต้า คือประมาณ 96.5% 20 00:01:05,472 --> 00:01:09,313 มาตราส่วนนั้น เริ่มจาก 95 ถึง 100% เท่านั้น 21 00:01:09,313 --> 00:01:12,963 ถ้ามันเริ่มจาก 0 ถึง 100 มันจะเป็นแบบนี้ 22 00:01:12,963 --> 00:01:16,243 นี่เป็นหนึ่งในวิธีทั่ว ๆ ไป ที่กราฟแปลความหมายข้อมูลผิด 23 00:01:16,243 --> 00:01:18,333 โดยการบิดเบือนมาตราส่วน 24 00:01:18,333 --> 00:01:20,804 การขยายส่วนเล็ก ๆ ของแกน y 25 00:01:20,804 --> 00:01:25,703 แสดงความแตกต่างที่พบได้เพียงเล็กน้อย ระหว่างสิ่งที่นำมาเปรียบเทียบกันเกินจริง 26 00:01:25,703 --> 00:01:27,974 และทำให้เข้าใจผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกราฟแท่ง 27 00:01:27,974 --> 00:01:31,023 เพราะเราคาดเดาความแตกต่าง ด้านขนาดของแท่งกราฟ 28 00:01:31,023 --> 00:01:33,233 ตามสัดส่วนกับค่า 29 00:01:33,233 --> 00:01:36,125 แต่มาตราส่วน ก็สามารถถูกบิดเบือนได้ตามแกน x 30 00:01:36,125 --> 00:01:40,414 โดยปกติในกราฟเส้น ที่แสดงว่าบางสิ่งเปลี่ยนแปลงตามเวลา 31 00:01:40,414 --> 00:01:44,747 แผนผังนี้แสดงการเพิ่มขึ้นของการว่างงาน ของคนอเมริกาจากปี 2008 ถึง 2010 32 00:01:44,747 --> 00:01:47,996 ปรับเปลี่ยนแกน x โดย 2 รูปแบบ 33 00:01:47,996 --> 00:01:50,395 อย่างแรก มาตราส่วนนั้นไม่เท่ากัน 34 00:01:50,395 --> 00:01:53,416 โดยการบีบช่วงสิบห้าเดือน หลังจากเดือนมีนาคมปี 2009 35 00:01:53,416 --> 00:01:56,755 ให้ดูสั้นกว่าหกเดือนก่อนหน้า 36 00:01:56,755 --> 00:02:00,106 การใช้จุดข้อมูลที่เท่ากันมากขึ้น แสดงภาพที่แตกต่างกัน 37 00:02:00,106 --> 00:02:03,705 โดยงานลดลงในปลายปี 2009 38 00:02:03,705 --> 00:02:06,675 และถ้าคุณสงสัยว่า ทำไมมันถึงเพิ่มขึ้นในตอนแรก 39 00:02:06,675 --> 00:02:10,615 เส้นเวลาเริ่มทันทีหลังความเสียหาย ทางการเงินครั้งใหญ่สุดในอเมริกา 40 00:02:10,615 --> 00:02:12,626 ตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ 41 00:02:12,626 --> 00:02:15,219 วิธีการเหล่านี้รู้จักกันว่า เป็นการเลือกที่รักมักที่ชัง 42 00:02:15,219 --> 00:02:18,869 ช่วงระยะเวลา สามารถถูกเลือกเพื่อตัดผลกระทบ 43 00:02:18,869 --> 00:02:20,648 ของเหตุการณ์ใหญ่ออกไป 44 00:02:20,648 --> 00:02:24,762 และการเลือกตำแหน่งเฉพาะของข้อมูล สามารถซ่อนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในระหว่างนั้นได้ 45 00:02:24,762 --> 00:02:27,356 แม้ว่าจะไม่มีอะไรผิดในกราฟเลยก็ตาม 46 00:02:27,356 --> 00:02:30,937 การไม่รวมข้อมูลสำคัญ สามารถทำให้เกิดทรรศนะที่ไม่ถูกต้อง 47 00:02:30,937 --> 00:02:33,997 แผนผังของจำนวนคนที่ชม ซูเปอร์โบว์ (Super Bowl) ในแต่ละปี 48 00:02:33,997 --> 00:02:37,626 ทำให้มันดูเหมือนว่า ความนิยมของงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก 49 00:02:37,626 --> 00:02:40,198 แต่มันไม่ได้อธิบาย การเติบโตของจำนวนคน 50 00:02:40,198 --> 00:02:41,967 จริง ๆ แล้วอัตรานั้นคงที่ 51 00:02:41,967 --> 00:02:45,109 เพราะว่าในขณะที่ ตัวเลขของแฟนฟุตบอลเพิ่มขึ้น 52 00:02:45,109 --> 00:02:47,959 สัดส่วนของการเข้าชมโดยรวมไม่เพิ่มตาม 53 00:02:47,959 --> 00:02:49,888 ท้ายที่สุด กราฟไม่สามารถบอกอะไรได้มาก 54 00:02:49,888 --> 00:02:53,318 ถ้าคุณไม่ทราบส่วนสำคัญ ของสิ่งที่ถูกนำมาเสนออย่างครบถ้วน 55 00:02:53,318 --> 00:02:56,457 กราฟทั้งสองต่อไปนี้ ใช้ข้อมูลอุณหภูมิมหาสมุทรเหมือนกัน 56 00:02:56,457 --> 00:02:59,719 จากศูนย์ข้อมูลสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (National Centers for Environmental Information) 57 00:02:59,719 --> 00:03:02,490 แล้วทำไมกราฟเหล่านี้ ให้ทรรศนะที่ดูตรงกันข้าม 58 00:03:02,490 --> 00:03:05,279 กราฟแรกแสดงแผนผังค่าเฉลี่ย ของอุณหภูมิมหาสมุทรต่อปี 59 00:03:05,279 --> 00:03:07,987 ตั้งแต่ปี 1880 ถึงปี 2016 60 00:03:07,987 --> 00:03:10,149 ทำให้การเปลี่ยนแปลงดูไม่สำคัญ 61 00:03:10,149 --> 00:03:12,878 แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเพิ่มขึ้นกว่าครึ่งองศาเซลเซียส 62 00:03:12,878 --> 00:03:15,799 สามารถทำให้เกิดความเสียหาย ต่อระบบนิเวศอย่างมาก 63 00:03:15,799 --> 00:03:17,219 เป็นเหตุผลว่า ทำไมกราฟที่สอง 64 00:03:17,219 --> 00:03:19,858 ซึ่งแสดงการเปลี่ยนแปลง ของอุณหภูมิโดยเฉลี่ยต่อปี 65 00:03:19,858 --> 00:03:22,390 ดูสำคัญมากเหลือเกิน 66 00:03:22,390 --> 00:03:27,379 เมื่อกราฟถูกใช้อย่างเหมาะสม มันทำให้เราเข้าใจข้อมูลที่ซับซ้อนได้ง่าย 67 00:03:27,379 --> 00:03:31,180 แต่เพราะโปรแกรมภาพ ทำให้การใช้กราฟเพิ่มมากขึ้นตามสื่อต่าง ๆ 68 00:03:31,180 --> 00:03:35,900 กราฟยังถูกนำไปใช้โดยไม่ระมัดระวัง และไม่ซื่อตรงได้ง่ายขึ้น 69 00:03:35,900 --> 00:03:39,560 ดังนั้นคราวหน้าที่คุณเห็นกราฟ อย่าถูกชักจูงโดยเส้นและเส้นโค้ง 70 00:03:39,560 --> 00:03:40,882 ดูที่แถบแสดง 71 00:03:40,882 --> 00:03:42,130 ตัวเลข 72 00:03:42,130 --> 00:03:43,048 มาตราส่วน 73 00:03:43,048 --> 00:03:44,360 และเนื้อหา 74 00:03:44,360 --> 00:03:46,780 และถามว่ารูปนั้น พยายามบอกเราเรื่องอะไร