0:00:00.553,0:00:04.395 เพราะภาพหนึ่งภาพเป็นมากกว่าคำนับพัน 0:00:04.395,0:00:06.522 ผมจึงอยากเริ่มการบรรยายของผม 0:00:06.522,0:00:09.190 โดยหยุดบรรยายแล้วให้คุณชมภาพสักสองสามภาพ 0:00:09.190,0:00:12.357 ที่ผมได้ถ่ายไว้เมื่อเร็วๆ นี้ 0:00:30.712,0:00:34.742 ครับ ถึงตอนนี้ [br]การบรรยายของผมก็มีความยาว 6,000 คำแล้ว 0:00:34.742,0:00:36.890 และผมรู้สึกว่าผมควรหยุดตรงนี้แล้วล่ะ 0:00:36.890,0:00:39.310 (เสียงหัวเราะ) 0:00:39.310,0:00:41.131 แต่ในขณะเดียวกัน ผมอาจติดค้างคุณ 0:00:41.131,0:00:42.137 เรื่องการอธิบาย 0:00:42.137,0:00:45.240 เกี่ยวกับภาพเหล่านี้ที่คุณเพิ่งได้ชมไป 0:00:45.240,0:00:47.963 ที่ผมพยายามจะทำในฐานะนักถ่ายภาพ 0:00:47.963,0:00:50.446 ในฐานะศิลปิน คือการนำโลก 0:00:50.446,0:00:53.823 แห่งศาสตร์และศิลป์มาพบกัน 0:00:53.823,0:00:56.162 ไม่ว่ามันจะเป็นภาพของฟองสบู่ 0:00:56.162,0:00:58.928 ที่ถ่ายไว้ ณ วินาทีที่มันกำลังแตก 0:00:58.928,0:01:01.400 ขณะที่คุณกำลังจ้องมองภาพนี้ 0:01:01.400,0:01:04.008 ไม่ว่ามันจะเป็นเอกภพที่สร้างสรรค์ด้วยหยดเล็กๆ 0:01:04.008,0:01:06.506 ของสีน้ำมัน 0:01:06.506,0:01:10.849 ของเหลวประหลาดที่มีทำตัวแสนพิลึก 0:01:10.849,0:01:15.115 หรือภาพเขียนที่วาดโดยแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ 0:01:15.115,0:01:19.081 ผมพยายามเสมอที่จะ[br]เชื่อมโยงสองสาขาวิชานั้นเข้าด้วยกัน 0:01:19.081,0:01:21.471 ที่ผมพบว่ามันทรงสเน่ห์เหลือกันสำหรับสองสิ่งนั้น 0:01:21.471,0:01:24.750 ก็คือ พวกมันทั้งสองนั้นมองไปยังสิ่งเดียวกัน 0:01:24.750,0:01:27.574 พวกมันคือการตอบสนองต่อสิ่งที่อยู่รอบๆ 0:01:27.574,0:01:31.467 แต่กระนั้น พวกมันตอบสนองด้วยวิถีที่ต่างกันมาก 0:01:31.467,0:01:33.514 ถ้าคุณดูที่วิทยาศาสตร์ที่อยู่ข้างหนึ่ง 0:01:33.514,0:01:36.937 วิทยาศาสตร์นั้นมีหลักเกณฑ์เหตุผลมาก 0:01:36.937,0:01:38.418 ในการปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อมรอบมัน 0:01:38.418,0:01:40.507 ในขณะที่ศิลปะที่อยู่อีกข้างหนึ่ง 0:01:40.507,0:01:44.810 มักจะตอบสนองสิ่งแวดล้อมด้วยความรู้สึกและอารมณ์ 0:01:44.810,0:01:46.827 ที่ผมพยายามทำก็คือ ผมพยายามที่จะ 0:01:46.827,0:01:49.468 นำวิสัยทัศน์ทั้งสองนี้มาผสานรวมเป็นหนึ่ง 0:01:49.468,0:01:53.418 เพื่อที่ภาพของผมจะถ่ายทอดสื่อสารไปถึงหัวใจของผู้ชม 0:01:53.418,0:01:56.612 และไปยังสมองของพวกเขาด้วยเช่นกัน 0:01:56.612,0:02:01.278 อนุญาตให้ผมสาธิตสิ่งนี้บนรากฐานของสามโครงการ 0:02:01.278,0:02:06.332 โครงการแรกเกี่ยวข้องกับการทำให้เสียงเป็นที่มองเห็นได้ 0:02:06.332,0:02:07.350 อย่างที่คุณทราบ 0:02:07.350,0:02:09.976 เสียงเดินทางในรูปแบบคลื่น 0:02:09.976,0:02:12.299 ฉะนั้น ถ้าคุณมีลำโพง 0:02:12.299,0:02:14.348 อันที่จริง ลำโพงนั้นไม่ได้ทำอะไร 0:02:14.348,0:02:16.232 นอกเหนือไปจากรับสัญญาณเสียง 0:02:16.232,0:02:19.829 แล้วเปลี่ยนมันไปเป็นการสั่นสะเทือน 0:02:19.829,0:02:22.530 ซึ่งจากนั้นมันถูกส่งผ่านมาทางอากาศ 0:02:22.530,0:02:24.392 แล้วหูคุณก็จะได้ยินเสียงนั้น 0:02:24.392,0:02:27.933 และเปลี่ยนมันไปอยู่ในรูปสัญญาณเสียงอีกครั้ง 0:02:27.933,0:02:29.779 ผมก็มาคิดว่า 0:02:29.779,0:02:33.999 จะทำให้คลื่นเสียงเหล่านี้ถูกมองเห็นได้อย่างไร 0:02:33.999,0:02:36.115 แล้วผมก็ได้ความคิดที่จะจัดการดังนี้ 0:02:36.115,0:02:39.835 ผมนำลำโพงมา ผมวางแผ่นฟอยล์พลาสติกบางๆ 0:02:39.835,0:02:42.070 บนลำโพงนั้น 0:02:42.070,0:02:44.737 และจากนั้น ผมวางคริสตัลเล็กๆ ลงไป 0:02:44.737,0:02:46.714 บนลำโพงนั้น 0:02:46.714,0:02:49.614 และทีนี้ ถ้าผมเปิดเสียงผ่านลำโพง 0:02:49.614,0:02:53.496 มันจะทำให้คริสตัลเคลื่อนขึ้นลง 0:02:53.496,0:02:55.795 ทีนี้ มันเกิดขึ้นเร็วมากๆ 0:02:55.795,0:02:57.747 ในชั่วพริบตา 0:02:57.747,0:03:01.434 ด้วยความร่วมมือจาก LG เราจับการเคลื่อนไหว 0:03:01.434,0:03:03.120 ด้วยกล้องที่สามารถ 0:03:03.120,0:03:06.595 จับความเคลื่อนไหวได้มากกว่า 3,000 ภาพต่อวินาที 0:03:06.595,0:03:10.068 ให้ผมได้แสดงให้คุณชมว่ามันเป็นอย่างไร 0:03:10.068,0:03:15.435 (เสียงดนตรี: เพลง "Teardrop" ร้องโดย Massive Attack) 0:03:51.406,0:03:56.724 (เสียงปรบมือ) 0:03:56.724,0:03:57.987 ขอบคุณมากครับ 0:03:57.987,0:04:01.231 ผมเห็นด้วยว่า มันดูสวยงามน่าทึ่ง 0:04:01.231,0:04:03.590 แต่ผมต้องบอกคุณถึงเรื่องตลกๆ ซะหน่อย 0:04:03.590,0:04:06.104 ผมถูกแดดเผาซะเกรียมในร่ม 0:04:06.104,0:04:08.152 ระหว่างที่ถ่ายทำในลอส แองเจลิส 0:04:08.152,0:04:10.427 ที่ลอส แองเจลิส คุณถูกแดดเผาแบบจริงจังได้ 0:04:10.427,0:04:12.153 แค่ไปอยู่ที่หาดใดสักหาด 0:04:12.153,0:04:14.223 แต่ผมถูกแดดเผาในร่ม 0:04:14.223,0:04:15.932 และที่มันเกิดขึ้นก็คือ 0:04:15.932,0:04:18.753 ถ้าคุณถ่ายทำด้วยความเร็ว 3,000 ภาพต่อวินาที 0:04:18.753,0:04:23.242 คุณต้องการแสงที่สว่างเป็นอย่างยิ่ง แสงเยอะมากๆ 0:04:23.242,0:04:25.771 คุณต้องมีลำโพงนี้จัดเตรียมไว้ 0:04:25.771,0:04:27.370 และเราก็มีกล้องที่หันหน้าไปทางมัน 0:04:27.370,0:04:30.756 และแสงที่ระดมยิงไปยังลำโพง 0:04:30.756,0:04:32.111 และผมก็จะจัดวางลำโพง 0:04:32.111,0:04:35.157 นำคริสตัลเล็กๆวางไว้บนนั้น 0:04:35.157,0:04:37.978 และเราก็จะทำเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก 0:04:37.978,0:04:40.739 เมื่อถึงตอนกลางวัน ผมถึงได้รู้ว่า 0:04:40.739,0:04:43.076 หน้าผมนั้นแดงไปหมด 0:04:43.076,0:04:46.162 เพราะว่าแสงที่ส่องลงมายังลำโพง 0:04:46.162,0:04:48.468 ที่มันตลกก็คือ 0:04:48.468,0:04:51.195 ลำโพงนั้นอยู่ทางด้านขวา 0:04:51.195,0:04:54.562 ฉะนั้นหน้าผมทางด้านขวาก็เลยแดงไปหมด 0:04:54.562,0:04:56.404 และผมก็เลยดูเหมือน เดอะ แฟนท่อม ออฟ ดิ โอเปร่า [br](the Phantom of the Opera) 0:04:56.404,0:04:59.246 ไปทั้งสัปดาห์ 0:04:59.246,0:05:01.349 ตอนนี้ให้ผมจะเปลี่ยนไปพูดถึงอีกงานหนึ่ง 0:05:01.349,0:05:04.869 ซึ่งเกี่ยวข้องกับสสารที่อันตรายน้อยกว่า 0:05:07.852,0:05:11.492 มีใครเคยได้ยินเกี่ยวกับ [br]แม่เหล็กเหลว (ferrofluid) ไหมครับ 0:05:11.492,0:05:14.014 อ้า บางคนเคย เยี่ยมเลยครับ 0:05:14.014,0:05:15.891 งั้นผมข้ามไปเลยดีไหมครับ 0:05:15.891,0:05:17.473 (เสียงหัวเราะ) 0:05:17.473,0:05:20.736 แม่เหล็กเหลวมีพฤติกรรมน่าประหลาดมาก 0:05:20.736,0:05:22.988 มันเป็นของเหลวที่ดำสนิท 0:05:22.988,0:05:25.482 มีความเหนียวข้นแบบน้ำมัน 0:05:25.482,0:05:28.942 และมันก็มีอนุภาคของโลหะเล็กๆ อยู่ในนั้น 0:05:28.942,0:05:31.081 ซึ่งทำให้มันมีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก 0:05:31.081,0:05:34.634 ถ้าตอนนี้ผมเอาของเหลวนี้เข้าไปในสนามแม่เหล็ก 0:05:34.634,0:05:37.427 มันจะเปลี่ยนรูปร่างไป 0:05:37.427,0:05:41.222 ทีนี้ ผมมีการสาธิตสดมาครับ 0:05:41.222,0:05:43.798 เพื่อที่จะแสดงให้คุณดู 0:05:47.533,0:05:50.486 ผมมีกล้องที่มองลงไปยังถาดนี้ 0:05:50.486,0:05:54.014 และใต้ถาดนั้น มีแม่เหล็กอยู่ 0:05:54.014,0:05:57.006 ทีนี้ ผมกำลังจะใส่แม่เหล็กเหลวนี้ลงไป 0:05:57.006,0:06:00.310 บนแม่เหล็ก 0:06:05.609,0:06:09.738 ลองเลื่อนมันไปทางขวาหน่อย 0:06:13.330,0:06:18.088 และบางทีปรับโฟกัสมันอีกนิด เยี่ยมเลย 0:06:18.088,0:06:20.281 ครับ ที่คุณเห็นตอนนี้ 0:06:20.281,0:06:22.678 ก็คือแม่เหล็กเหลวที่ก่อตัวเป็นลักษณะหนามๆ 0:06:22.678,0:06:26.031 นี่เป็นเพราะการเหนี่ยวนำและแรงดัน 0:06:26.031,0:06:29.740 ของแต่ละอนุภาคในของเหลว 0:06:29.740,0:06:31.983 นี่มันก็ค่อนข้างน่าสนใจแล้ว 0:06:31.983,0:06:35.537 แต่ให้ผมลองเติมสีน้ำลงไปสักหน่อย 0:06:35.537,0:06:37.991 พวกมันเป็นแค่สีน้ำธรรมดา 0:06:37.991,0:06:39.622 ที่คุณใช้วาดรูปแหละครับ 0:06:39.622,0:06:40.965 คุณคงจะไม่วาดภาพด้วยเข็มฉีดยาหรอก 0:06:40.965,0:06:45.953 แต่มันก็ใช้งานได้เหมือนกัน 0:06:58.798,0:07:00.910 ครับ ตอนนี้ 0:07:00.910,0:07:04.154 เมื่อสีน้ำไหลเข้าไปในโครงสร้าง 0:07:04.154,0:07:07.505 สีน้ำไม่ผสมรวมตัวกับแม่เหล็กเหลว 0:07:07.505,0:07:09.841 นั่นเป็นเพราะว่าตัวแม่เหล็กเหลวนั้น 0:07:09.841,0:07:12.024 เป็นพวกไม่เปียกน้ำ (hydrophobic) 0:07:12.024,0:07:14.187 นั่นหมายความว่ามันไม่รวมตัวกับน้ำ 0:07:14.187,0:07:17.196 และในขณะเดียวกัน มันพยายามที่จะรักษาตำแหน่ง 0:07:17.196,0:07:18.561 เหนือแม่เหล็ก 0:07:18.561,0:07:21.956 และดังนั้น มันสร้างโครงสร้างที่ดูน่าทึ่ง 0:07:21.956,0:07:25.289 ของลำคลองและบ่อน้ำเล็กๆ 0:07:25.289,0:07:27.869 ของสีน้ำหลากสี 0:07:27.869,0:07:29.620 นั่นเป็นโครงการที่สองครับ 0:07:29.620,0:07:31.972 ให้ผมพูดถึงโครงการสุดท้ายนะครับ 0:07:31.972,0:07:36.744 ซึ่งมันเกี่ยวกับ 0:07:36.744,0:07:38.834 เครื่องดื่มประจำชาติของสกอตแลนด์ 0:07:38.834,0:07:41.154 (เสียงหัวเราะ) 0:07:41.154,0:07:45.074 ในภาพนี้ และเจ้านี่ด้วย 0:07:45.074,0:07:48.345 ทำขึ้นมาจากการใช้วิสกี้ 0:07:48.345,0:07:49.835 ตอนนี้ คุณอาจถามตัวเองว่า 0:07:49.835,0:07:50.863 เขาทำได้ยังไงกันหน่ะ 0:07:50.863,0:07:52.712 เขาดื่มวิสกี้เข้าไปครึ่งขวด 0:07:52.712,0:07:55.423 และจากนั้นวาดภาพหลอนที่เขาได้ 0:07:55.423,0:07:59.037 จากอาการเมา ลงบนกระดาษหรือเปล่า 0:07:59.037,0:08:01.281 ผมบอกคุณได้ว่า ผมมีสติสัมปชัญญะครบสมบูรณ์ 0:08:01.281,0:08:04.391 ระหว่างที่ผมถ่ายภาพเหล่านี้ 0:08:04.391,0:08:08.493 เอาล่ะ วิสกี้มีส่วนประกอบ 40 เปอร์เซ็นต์เป็นแอลกอฮอล์ 0:08:08.493,0:08:12.729 และแอลกอฮอล์มีคุณสมบัติบางอย่างที่น่าสนใจมาก 0:08:12.729,0:08:14.420 บางทีคุณมีประสบการณ์ 0:08:14.420,0:08:16.546 เกี่ยวกับคุณสมบัติพวกนี้มาก่อนแล้ว 0:08:16.546,0:08:19.265 แต่ผมกำลังพูดถึงคุณสมบัติทางกายภาพนะครับ 0:08:19.265,0:08:21.500 ไม่ใช่อีกอันหนึ่ง 0:08:21.500,0:08:25.700 เมื่อผมเปิดขวด โมเลกุลของแอลกอฮอล์ 0:08:25.700,0:08:27.043 จะแพร่ออกไปในอากาศ 0:08:27.043,0:08:31.123 และนั่นเป็นเพราะว่าแอลกอฮอล์นั้น[br]เป็นสสารที่ระเหยเป็นไอได้อย่างรวดเร็ว 0:08:31.123,0:08:35.810 และในขณะเดียวกัน แอลกอฮอล์ก็ไวไฟมาก 0:08:35.810,0:08:37.959 และด้วยคุณสมบัติทั้งสองนี้ 0:08:37.959,0:08:40.564 ทำให้ผมสามารถสร้างสรรค์ภาพ 0:08:40.564,0:08:42.594 ที่คุณเห็นในขณะนี้ 0:08:42.594,0:08:46.065 ให้ผมสาธิตให้คุณได้ชมตรงนี้ 0:08:52.709,0:08:56.027 และที่ผมมีตรงนี้เป็นขวดเปล่า 0:08:56.027,0:08:57.336 ที่ไม่มีอะไรข้างในเลย 0:08:57.336,0:09:01.144 และตอนนี้ ผมกำลังจะเติมออกซิเจน 0:09:01.144,0:09:03.825 และวิสกี้เข้าไป 0:09:19.962,0:09:22.915 เติมอีกนิด 0:09:26.171,0:09:28.186 เอาล่ะ ผมจะรอสักสองสามวินาที 0:09:28.186,0:09:31.233 เพื่อที่โมเลกุลเหล่านี้จะได้แพร่ไปในขวด 0:09:31.233,0:09:33.630 และทีนี้ มาจุดไฟกันเลย 0:09:33.630,0:09:38.340 (เสียงหัวเราะ) 0:09:51.740,0:09:53.278 ครับ นั่นล่ะครับทั้งหมด 0:09:53.278,0:09:56.477 มันเกิดขึ้นเร็วมาก และมันไม่ค่อยจะน่าประทับใจเท่าไร 0:09:56.477,0:09:59.083 ผมทำอีกทีก็ได้ครับ 0:09:59.083,0:10:01.814 แต่บางท่านคงแย้งว่านี่มันเปลืองวิสกี้จริงๆ 0:10:01.814,0:10:05.666 และผมน่าจะดื่มมันมากกว่า 0:10:05.666,0:10:07.754 แต่ให้ผมได้แสดงภาพช้า 0:10:07.754,0:10:09.449 ในห้องที่มืดสนิท 0:10:09.449,0:10:14.699 ของสิ่งที่ผมได้เพิ่งแสดงให้คุณดูในการสาธิตสดนี้ 0:10:21.605,0:10:24.338 ที่เกิดขึ้นก็คือ เปลวไฟ 0:10:24.338,0:10:28.330 เดินทางผ่านขวดแก้วจากบนลงล่าง 0:10:28.330,0:10:31.379 เผาไหม้ส่วนผสมของโมเลกุลอากาศ 0:10:31.379,0:10:33.208 และแอลกอฮอล์ 0:10:33.208,0:10:36.024 ดังนั้น ภาพที่คุณเห็นเมื่อตอนต้น 0:10:36.024,0:10:40.368 ที่จริงแล้ว พวกมันคือภาพเปลวไฟที่หยุด ณ เวลาหนึ่งๆ 0:10:40.368,0:10:42.846 ขณะที่มันเดินทางไปทั่วขวด 0:10:42.846,0:10:44.064 และคุณต้องจินตนาการเข้าช่วยด้วย 0:10:44.064,0:10:47.530 เพราะภาพถูกกลับหัวไป 180 องศา 0:10:47.530,0:10:49.968 ภาพนั้นโดนสร้างมาด้วยวิธีนี้ล่ะครับ 0:10:49.968,0:10:54.324 (เสียงปรบมือ) 0:10:54.324,0:10:57.097 ขอบคุณครับ 0:10:57.097,0:11:00.180 ถึงตอนนี้ ผมได้แสดงให้คุณดูไปถึงสามโครงการ 0:11:00.180,0:11:02.832 และคุณอาจถามตัวเองว่า แล้วมันมีประโยชน์อะไรกัน 0:11:02.832,0:11:04.423 อะไรเป็นแนวคิดสนับสนุนของสิ่งนี้ 0:11:04.423,0:11:05.756 นี่มันแค่เปลืองวิสกี้ใช่ไหม 0:11:05.756,0:11:09.981 นี่มันแค่วัสดุประหลาดๆ หรือเปล่า 0:11:09.981,0:11:12.794 โครงการทั้งสามนั้น พวกมันอยู่บนฐาน 0:11:12.794,0:11:14.456 ของปรากฏการณ์วิทยาศาสตร์ง่ายๆ 0:11:14.456,0:11:17.197 เช่นปรากฏการณ์แม่เหล็ก คลื่นเสียง 0:11:17.197,0:11:21.239 และตรงนี้ คุณสมบัติทางกายภาพของสสาร 0:11:21.239,0:11:23.151 และที่ผมพยายามจะทำ 0:11:23.151,0:11:26.300 ก็คือ ผมพยายามที่จะใช้ปรากฏการณ์เหล่านี้ 0:11:26.300,0:11:29.417 และแสดงพวกมันในวิถีที่สุนทรีย์และยังไม่มีมาก่อน 0:11:29.417,0:11:31.836 ซึ่งมันจะเชิญชวนให้ผู้ชม 0:11:31.836,0:11:33.736 หยุดสักวินาที 0:11:33.736,0:11:36.451 และคิดถึงความงามทั้งหมด 0:11:36.451,0:11:40.394 ที่อยู่รอบๆ เราเสมอมา 0:11:40.394,0:11:41.823 ขอบคุณมากครับ 0:11:41.823,0:11:46.316 (เสียงปรบมือ)