นี่คือ เลข 1 และ เลข 0 จำนวนมากมาย เราเรียกมันว่า ข้อมูลเลขฐานสอง เป็นวิธีทำให้คอมพิวเตอร์คุยกัน มันเป็นวิธีเก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์ มันเป็นวิธีคิดของคอมพิวเตอร์ มันเป็นวิธีทำงานของคอมพิวเตอร์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่คอมพิวเตอร์ทำ ผมเป็นนักวิจัยด้านความปลอดภัยออนไลน์ ซึ่งหมายถึงว่า งานของผม อยู่กับข้อมูลพวกนี้ พยายามหาความหมาย และเข้าใจมันว่า เลข 1 และ 0 ทั้งหมดนั้น หมายความว่าอะไร แต่โชคไม่ดีสำหรับผม เราไม่ได้แค่พูดถึง เลข 1 และ 0 ที่อยู่บนจอตรงนี้เท่านั้น เราไม่ได้แค่พูดถึง เลข 1และ 0 แค่ไม่กี่หน้า เรากำลังพูดถึง เลข 1 และ 0 หลายพันล้านตัว มากมายเกินกว่าใครๆ จะหยั่งรู้ได้ ครับ มันฟังดูแล้วน่าตื่นเต้น เมื่อผมเริ่มทำงาน คอมพิวเตอร์ออนไลน์ -- (เสียงหัวเราะ) -- เมื่อผมเริ่มต้นทำงานออนไลน์ ผมไม่แน่ใจ ว่าการนั่งตรวจเลข 1 และ 0 นั้น เป็นสิ่งที่ผมต้องการจะทำ ไปจนตลอดชีวิต เพราะในหัวคิดของผมนั้น คอมพิวเตอร์ออนไลน์ คือ การไม่ให้ไวรัส เข้าไปในคอมพิวเตอร์ของคุณยาย คือ การให้หน้ามายสเปส ของผู้คน ไม่ถูกแฮ็ค และบางที่ ในวันรุ่งโรจน์ที่สุดของผม คือ เก็บข้อมูลบัตรเครดิตบางคน ไม่ให้ถูกขโมย เรื่องเหล่านั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่นั่นไม่ไช่วิธี ที่ผมต้องการจะใช้ชีวิต แต่หลังจาก 30 นาที ของการทำงานรับเหมา ว่าจ้างด้านการป้องกันประเทศ ไม่นานผมก็พบว่า ความคิดเรื่องออนไลน์ของผม ค่อนข้างใช้ไม่ได้แล้ว จริงๆ แล้ว ในเรื่องความปลอดภัยระดับชาติ การกั้นไวรัสไม่ให้เข้า เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณยาย อยู่ในระดับความสำคัญที่ตํ่า อย่างคาดไม่ถึง เหตุผล คือ คอมพิวเตอร์ออนไลน์นั้น ยิ่งใหญ่เกินกว่าสิ่งทั้งหลายนั้น มากมายนัก คอมพิวเตอร์ออนไลน์ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา เพราะคอมพิวเตอร์ เป็นส่วนหนึ่งชีวิตเรา แม้ว่าคุณไม่มีคอมพิวเตอร์ ของตนเองก็ตาม คอมพิวเตอร์ก็ควบคุมทุกอย่าง ในรถของคุณ ตั้งแต่จีพีเอสของคุณ จนถึงถุงลมนิรภัย มันควบคุมโทรศัพท์ของคุณ ทำให้คุณเรียก 911 ได้ และทำให้คนบางคนมารับสาย มันควบคุมโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด ของชาติเรา มันเป็นเหตุให้คุณมีไฟฟ้าใช้ มีความร้อน มีนํ้าสะอาด มีอาหาร คอมพิวเตอร์ควบคุมอุปกรณ์ ทางการทหารของเรา ทุกอย่าง จากโรงเก็บขีปนาวุธ ุจนถึงดาวเทียม จนถึงเครือข่ายการป้องกันนิวเคลียร์ ทุกอย่างทั้งหมดนี้ ถูกสร้างขึ้นมาได้ ก็เพราะคอมพิวเตอร์ และดังนั้น ก็เพราะคอมพิวเตอร์ออนไลน์ แต่เมื่อบางอย่างเกิดผิดพลาดขึ้น มันก็สามารถทำให้ทั้งหมดนั้น เป็นไปไม่ได้ แต่นั่นคือ ที่ให้ผมก้าวเข้ามา งานส่วนใหญ่ของผมคือ ป้องกันทั้งหมดนั่น ให้มันทำงานได้ต่อไป แต่ในบางครั้ง งานส่วนหนึ่ง คือเจาะเข้าไปในระบบเหล่านั้น เพราะคอมพ์ออนไลน์ ไม่ใช่แค่ปกป้องเท่านั้น แต่มันยังเกี่ยวข้องกับ การรุกรานอีกด้วย เรากำลังเข้าไปสู่ยุค ที่เราพูดถึง อาวุธออนไลน์ (cyberweapons) ที่จริง ศักยภาพการรุกรานออนไลน์ มีมากมายเหลือเกิน จนพิจารณาได้ว่า เป็นเขตแนวใหม่ของสงคราม การทำสงคราม ไม่จำเป็นว่า มันเป็นสิ่งที่ไม่ดี ในแง่หนึ่ง หมายถึง เรามีแนวหน้าใหม่ทั้งหมด ที่เราจำเป็นต้องป้องกันตัวเอง แต่อีกแง่หนึ่ง หมายถึงว่า เรามีวิธีการโจมตีรูปแบบใหม่ วิธีการใหม่ๆ ที่จะหยุดยั้งคนชั่ว จากการกระทำ สิ่งที่ชั่วร้าย ดังนั้น เราจึงมาพิจารณา ตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องสมมุติทั้งหมด สมมุติว่า ผู้ก่อการร้าย ต้องการจะระเบิดตึก และเขาก็อยากทำอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า ในอนาคต เขาจึงไม่ต้องการจะอยู่ในตึก ตอนมันระเบิด เขาจะใช้โทรศัพท์มือถือ เป็นตัวจุดชนวนระเบิด จากระยะไกล ในอดีต เพียงวิธีเดียวที่เราใช้ เพื่อหยุดผู้ก่อการร้ายนี้ ก็คือ ด้วยห่ากระสุนปืน และขับรถไล่จับ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น อีกต่อไปแล้ว เรากำลังไปสู่ยุค ที่เราหยุดเขาได้ ด้วยการกดปุ่ม จากที่ไกลออกไปถึง 1,000 ไมล์ เพราะว่า เขาจะรู้หรือไม่ก็ตาม เมื่อใดที่ตัดสินใจ ใช้โทรศัพท์มือถือ เขาก็เข้าไปสู่ อาณาจักร คอมพิวเตอร์ออนไลน์ การจู่โจมออนไลน์ ที่ถูกสร้างมาอย่างดี จะเจาะเข้ามือถือของเขา ทำให้ตัวป้องกันแรงดันไฟในแบตฯ ใช้การไม่ได้ วงจรไฟฟ้าเกินพิกัดอย่างรุนแรง เป็นผลให้แบตเตอรี่ร้อนเกินไป และระเบิด เมื่อไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีตัวจุดชนวนระเบิดแล้ว ก็อาจไม่มีผู้ก่อการร้าย อีกต่อไปแล้วก็ได้ ทั้งหมด ด้วยเพียงการกดปุ่ม จากที่ไกลออกไป เป็นพันไมล์ ครับ แล้วสิ่งนี้ทำงานอย่างไร มันก็กลับมาที่ตัวเลข 1 และ 0 เหล่านั้น ข้อมูลเลขฐานสอง ทำให้โทรศัพท์ทำงาน และถ้าถูกใช้อย่างถูกต้อง มันยังทำให้โทรศัพท์ของคุณระเบิดได้ ดังนั้น ถ้าคุณเริ่มมองออนไลน์ จากมุมมองนี้ ใช้ชีวิตของคุณ กลั่นกรองตัวเลขจากข้อมูลเลขฐานสอง ก็เริ่มดูเหมือนจะน่าตื่นเต้น แต่ ที่แย่คือ มันยากนะครับ ยากมากจริงๆ และนี่คือ เหตุผลว่าเพราะอะไร ลองคิดถึง ทุกอย่างที่คุณมีอยู่ในมือถือ คุณมีรูป ที่คุณถ่ายเอาไว้ คุณมีเพลง ที่คุณฟังอยู่ คุณมีรายชื่อ คนที่คุณติดต่อด้วย มีอีเมล และอาจมีแอพพ์อีก 500 ตัว ที่คุณไม่เคยใช้งานเลย ในชั่วชีวิตคุณ และเบื้องหลังของทั้งหมดนี้ คือซอฟต์แวร์ หรือรหัส ซึ่งควบคุมโทรศัพท์ของคุณ และ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ที่ฝังอยู่ในรหัสนั้น คือ คำสั่งสั้นๆ ที่ควบคุมแบตเตอรี่ของคุณ และนั่นคือ สิ่งที่ผมตามหาอยู่จริงๆ ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงเลข 1 และ 0 กระจุกเดียว และทั้งหมด ก็แค่ผสมปนเปกันอยู่ ทางออนไลน์ เราเรียกสิ่งนี้ว่า การหาเข็มในกองเข็ม เพราะทุกอย่าง ดูเหมือนๆ กันไปหมด ผมกำลังหาชิ้นส่วนสำคัญชิ้นหนึ่ง แต่มันผสมปนเปไปกับส่วนอื่นๆ เสียหมด ครับ ลองถอยออกมา จากสถานการณ์สมมุติ ของการทำให้โทรศัพท์ ของผู้ก่อการร้ายระเบิด และมาดูบางอย่างที่เกิดขึ้นจริงๆ กับผม ส่วนมาก ไม่ว่าผมจะทำอะไร งานของผมเริ่มด้วยการนั่งลงเสมอ พร้อมกับข้อมูลเลขฐานสอง จำนวนมากมาย ผมก็จะมองหา ชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่งเสมอ เพื่อจะทำบางสิ่งบางอย่าง ที่เจาะจงลงไป ในกรณีนี้ ผมกำลังมองหารหัส ที่ซับซ้อนมาก มีในเทคโนโลยีสูงมากๆ ชิ้นหนึ่ง ซึ่งผมรู้ว่า ผมจะแฮ็คได้ แต่มันถูกฝังอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ภายในตัวเลข 1 และ 0 เป็นพันล้านตัว แต่โชคไม่ดีสำหรับผม ผมไม่รู้ว่า ผมกำลังมองหาอะไรแน่ ไม่รู้มันเป็นอย่างไรแน่ ซึ่งทำให้การค้นพบมันนั้น ยิ่งยากมากๆ เมื่อผมต้องค้นให้พบ สิ่งที่ผมต้องทำ ก็คือ ตามหลักการแล้ว ก็ดูที่ชิ้นต่างๆ ของข้อมูลเลขฐานสองนี้ พยายามถอดรหัสแต่ละชิ้น ดูว่ามันอาจจะเป็น สิ่งที่ผมมองหาอยู่หรือไม่ จากนั้นไม่นานนัก ผมคิดว่าได้พบชิ้น ที่กำลังมองหาอยู่นั้นแล้ว ผมคิดว่า อาจเป็นชิ้นนี้แหละ มันดูเหมือนว่าจะใช่ แต่ผมก็ยังบอกแน่ไม่ได้ บอกไม่ได้ว่าเลข 1 และ 0 พวกนั้น มันแทนอะไร จึงใช้เวลาไปบ้าง พยายามเอามันมาปะติดปะต่อ แต่ก็ยังไม่มีโชคมากนัก และในที่สุด ผมก็ตกลงใจ ผมจะผ่านสิ่งนี้ไปก่อน ผมจะมาอีก ในวันสุดสัปดาห์ และจะไม่ออกไปไหนอีก จนกว่าจะคิดออก ว่ามันแปลว่าอะไร ผมก็ทำตามนั้น เข้ามาทำ ในวันเสาร์ตอนเช้า ราว 10 ชั่วโมง ผมก็คิดว่า เหมือนจะได้ชิ้นปริศนาทั้งหมดแล้ว แค่ไม่รู้ว่าจะมาต่อกันอย่างไร ผมไม่รู้ว่าเลข 1 และ 0 พวกนี้ หมายถึงอะไร ณ จุดชั่วโมงที่ 15 ผมเริ่มเห็นภาพที่อยู่ตรงนั้น ชัดเจนขึ้น แต่ผมมีความสงสัยหวั่นใจอยู่ ว่าสิ่งที่ผมกำลังมองดูอยู่นั้น ไม่สัมพันธ์กันเลย กับสิ่งที่ผมกำลังมองหาอยู่ เกือบ 20 ชั่วโมง ชิ้นส่วนนั้น ก็เริ่มเข้ามารวมกันได้ อย่างช้ามากๆ - (เสียงหัวเราะ) - และผมก็แน่ใจมากๆ ว่ากำลัง ลงสู่เส้นทางที่ผิด ณ จุดนี้ แต่ผมก็จะไม่เลิก หลังจาก 30 ชั่วโมงผ่านไป ในห้องแล็บ ผมก็คิดออกว่า ที่กำลังเห็นอยู่นั้น คืออะไรแน่ และผมก็คิดถูก มันไม่ใช่สิ่งที่ผมกำลังมองหา ผมใช้ 30 ชั่วโมง นำชิ้นส่วนมาต่อกัน เลข 1 และ 0 นั้น สร้างเป็นรูปลูกแมว (เสียงหัวเราะ) ผมเสียไป 30 ชั่วโมงของชีวิต ในการค้นหาลูกแมวตัวนี้ ซึ่งไม่มีอะไรเลย ที่จะใช้ได้ กับสิ่งที่ผมกำลังพยายามทำให้สำเร็จ ผมจึงรู้สึกคับข้องใจ หมดเรี่ยวหมดแรง หลังจาก 30 ชั่วโมง ในห้องแล็บ กลิ่นตัวผมคงแย่ แต่แทนที่จะแค่กลับไปบ้าน เลิกทำเสีย ผมกลับหยุดคิดพิจารณาว่า ควรทำอะไรต่อ และถามตัวเองว่า ผมทำพลาดตรงไหนนะ? ผมทำผิดพลาดงี่เง่าอย่างนี้ ได้อย่างไร จริงๆ ผมก็เก่งมากนะในเรื่องนี้ ผมทำงานนี้เพื่อหาเลี้ยงชีพ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นเล่า? ครับ ผมก็คิดว่า เมื่อคุณดูข้อมูลในระดับนี้ มันง่ายมาก ที่จะหลงลืมไปว่า คุณกำลังทำอะไรอยู่ จะดูแต่รายละเอียด จนไม่เห็นภาพรวม มันง่าย ที่จะหลงไปอยู่ในวังวน และเสียเวลาไปมากต่อมาก ทำสิ่งที่ผิดพลาดไป แต่ผมตระหนักรู้เรื่องนี้ขึ้นมาได้ เรากำลังดูข้อมูลผิดไปอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่วันแรกแล้ว วิธีคิดของคอมพิวเตอร์ คือ เลข 1 และ 0 นั้น มันไม่ใช่วิธีคิดของคน แต่เราก็ได้พยายาม จะปรับความคิดของเรา ให้คิดเหมือนคอมพิวเตอร์ให้มากขึ้น เพื่อที่เราจะสามารถ เข้าใจข้อมูลนี้ได้ แทนที่จะพยายามให้ปัญญาของเรา เข้ากับปัญหา เราควรจะได้ทำปัญหานั้น เข้ากับปัญญาของเรา เพราะว่าสมองของเรานั้น มีศักยภาพใหญ่ยิ่ง สำหรับวิเคราะห์ข้อมูล ในปริมาณที่มากมาย ไม่เหมือนกับสิ่งนี้ ถ้าเราปล่อยศักยภาพนั้นออกมาได้ ด้วยการแค่เพียงแปลสิ่งนี้ ให้เป็นชนิดข้อมูลที่ถูกต้องแล้ว จะได้อะไร? ด้วยความคิดเหล่านี้ในใจ ผมจึงวิ่งแจ้น จากห้องแล็บใต้ดินที่ทำงาน มาที่ห้องแล็บใต้ดินที่บ้าน ซึ่งดูแล้ว ก็เหมือนกันมากๆ ความแตกต่างสำคัญคือ อยู่ที่ทำงานนั้น ผมถูกล้อมรอบด้วย วัสดุออนไลน์ และออนไลน์ ดูจะเป็นตัวปัญหา ในสถานการณ์นี้ ที่บ้านผมรอบล้อมไปด้วย ทุกสิ่งที่ผมได้เรียนรู้มาแล้ว ผมจึงกรองออกมา จากหนังสือทุกเล่มที่หาได้ จากทุกๆ ความคิด ที่ผมเคยพบมา เพื่อดูว่า เราจะแปลปัญหา จากขอบเขตหนึ่ง ไปสู่บางอย่าง ที่ต่างกันสิ้นเชิง ได้อย่างไร? ปัญหาที่ใหญ่ที่สุด คือ แล้วเราต้องการจะแปลมัน ให้เป็นอะไร? สมองเราทำอะไรได้ เป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ ที่เราจะนำมาใช้ประโยชน์ได้ คำตอบของผม คือ สายตา เรามีความสามารถอย่างยิ่ง ที่จะวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสายตา สามารถเอามารวมกันได้ ระดับการเปลี่ยนของสี ระดับความลึก สัญญาณต่างๆ เหล่านี้ทุกชนิด เอามารวมเป็นภาพที่กลมกลืนกัน ของโลกรอบๆ ตัวเรา มันไม่น่าเชื่อนะครับ ดังนั้น ถ้าเราพบวิธีที่จะแปล รูปแบบเลขฐานสองเหล่านี้ ให้เป็นสัญญาณภาพได้ ก็จะสามารถเปิด พลังสมองของเราได้จริงๆ เพื่อจัดการกับเรื่องพวกนี้ ดังนั้น ผมจึงเริ่มมาดูที่ข้อมูลเลขฐานสอง ถามตัวเองว่า จะทำอะไร เมื่อพบอะไรแบบนี้ เป็นครั้งแรก? สิ่งแรกสุดที่ผมต้องการจะทำ คำถามแรกสุด ที่ผมอยากจะตอบ ก็คือ นี่มันเป็นอะไร ผมไม่สนใจหรอกว่า มันทำอะไร มันทำงานอย่างไร ทั้งหมดที่ผมต้องการจะรู้คือ นี่มันเป็นอะไร และวิธีที่ผมจะสามารถคิดออกได้ ก็คือ โดยดูที่ข้อมูลเลขฐานสอง ที่ต่อเนื่องกันเป็นชุดๆ และผมก็ดูความสัมพันธ์ ระหว่างชุดข้อมูลเหล่านั้น เมื่อรวบรวมชุดข้อมูลนี้จนพอแล้ว ผมก็จะเริ่มจะมองออกว่า ว่าข้อมูลนี้มันคืออะไร ดังนั้น ขอให้เรากลับไป สถานการณ์ระเบิด โทรศัพท์ของผู้ก่อการร้ายนั่น นี่คือ เนื้อหาภาษาอังกฤษ ที่ระดับเลขฐานสอง นี่คือ รายชื่อคนที่คุณติดต่อ เมื่อผมตรวจสอบมัน ยากมากๆ ที่จะวิเคราะห์มันในระดับนี้ แต่ถ้าเอาชุดเลขฐานสอง ชุดเดียวกับที่ผม กำลังจะพยายามค้นหาอยู่ แล้วแปลมัน แทน แสดงออกมาเป็นภาพ แล้วแปลความสัมพันธ์เหล่านั้น นี่คือ สิ่งที่ผมได้ นี่คือ ภาพของเนื้อหาภาษาอังกฤษ จากมุมมองภาพเชิงนามธรรม แล้วทันทีทันใดนั้น มันแสดงให้เห็น ข้อมูลเดียวกัน กับที่อยู่ในเลข 1 และ 0 แต่แสดงออกมาให้เห็น ในแบบที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง แบบที่เราสามารถเข้าใจได้ทันที เราสามารถเห็นรูปแบบทั้งหมดตรงนี้ ในทันที ใช้เวลาไม่กี่วินาที ที่จะดึงรูปแบบออกมาได้ตรงนี้ แต่ใช้เวลาหลายชั่วโมง หลายๆ วัน เพื่อดึงมันออกมา จากเลข 1 และ 0 ใช้เวลาแค่เป็นนาที ที่ใครๆ ก็ได้ จะรู้ ว่ารูปแบบเหล่านี้แทนอะไรตรงนี้ แต่ใช้เวลาหลายปี ของประสบการณ์ออนไลน์ จะรู้รูปแบบเดียวกันนั้นแทนอะไร จากตัวเลข 1 และ 0 ชิ้นส่วนนี้จึง เกิดจาก ตัวอักษรเล็ก ตามด้วย ตัวอักษรเล็ก ที่อยู่ในรายชื่อคนที่เราติดต่อนั่น นี่คือตัวใหญ่ ตามด้วยตัวใหญ่ ตัวใหญ่ตามด้วยตัวเล็ก ตัวเล็กตามด้วยใหญ่ นี่เกิดจากการเว้นววรค นี่เกิดจากการขึ้นบรรทัดใหม่ เราไปได้ทั่ว ทุกรายละเอียดย่อย ของข้อมูลเลขฐานสองในไม่กี่วินาที ไม่ใช่เป็นสัปดาห์ๆ เป็นเดือนๆ ในแบบนี้ นี่เป็นภาพหนึ่ง จากโทรศัพท์มือถือของผม แต่นี่เป็นภาพที่เห็น ในภาพเชิงนามธรรม นี่เป็น ภาพเพลงของคุณ แต่นี่เป็น ภาพเชิงนามธรรมของมัน ที่สำคัญที่สุดสำหรับผม นี่เป็น ภาพรหัสในโทรศัพท์มือถือของคุณ นี่เป็น สิ่งที่ผมตามหาอยู่ ในที่สุด แต่นี่ เป็นภาพนามธรรมของมัน ถ้าผมพบสิ่งนี้ ผมก็ไม่สามารถทำให้โทรศัพท์ระเบิดได้ ผมอาจใช้เวลาหลายๆ สัปดาห์ เพื่อพยายามหาสิ่งนี้ ในตัวเลข 1 และ 0 แต่ผมใช้ไม่กี่วินาที ที่จะดึง ภาพเชิงนามธรรม อย่างเช่นภาพนี้ ออกมา หนึ่งในส่วนที่น่าทึ่งที่สุด เกี่ยวกับทั้งหมดนี้ คือ มันให้ได้วิธีการใหม่ทั้งหมด ที่จะทำความเข้าใจ ข้อมูลใหม่ๆ สิ่งที่เรายังไม่เคยพบเห็นมาก่อน ผมจึงรู้ว่าภาษาอังกฤษจะเป็นอย่างไร ที่ระดับเลขฐานสอง และก็รู้ว่าภาพนามธรรมของมัน เป็นอย่างไร แต่ผมก็ไม่เคยเห็น เลขฐานสองของ ภาษารัสเซียเลย ในตลอดชีวิตผม ผมอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ แค่คิดให้ออก จากเลขดิบ 1 และ 0 ที่กำลังดูอยู่นั้น ว่าคืออะไร แต่เพราะว่า สมองของเราสามารถเลือก และรู้จัก จดจำ ได้ในทันที รูปแบบที่ซ่อนเร้น ซึ่งอยู่ภายในภาพนามธรรมเหล่านี้ เราจึงสามารถนำมันมาประยุกต์ใช้ ในสถานการณ์ใหม่ๆ ได้ โดยไม่รู้ตัว ครับ นี่เป็นในภาษารัสเซีย ในแบบภาพนามธรรม เพราะผมรู้ว่า ภาษาใดจะเป็นอย่างไร ผมจึงสามารถรู้จักภาษาอื่นๆ แม้ว่าผมจะไม่คุ้นเคยกับมัน นี่เป็นในแบบภาพถ่าย แต่นี่เป็นในแบบของคลิปอาร์ต นี่เป็นลักษณะของรหัส ในโทรศัพท์ของคุณ นี่เป็นลักษณะรหัส ในคอมพิวเตอร์ของคุณ สมองของเราสามารถดึง รูปแบบเหล่านี้มาได้ โดยวิธีที่เราไม่เคยทำได้ จากการดู ตัวเลขดิบ 1 และ 0 แต่จริงๆ เราก็แค่สะกิดผิวของมันเท่านั้น ในสิ่งที่เราสามารถทำได้ โดยวิธีการนี้ เราแค่เริ่มเปิดให้เห็น ความสามารถ ของสติปัญญาของเรา ที่จะจัดการกับข้อมูลภาพ ถ้าเราเอาความคิดเดิมเหล่านั้นมา และแปลมัน ให้เป็นสามมิติแทน เราจะพบวิธีการใหม่ๆทั้งสิ้น ในการทำความเข้าใจข้อมูล ไม่กี่วินาที เราก็จะดึงทุกๆ รูปแบบ ออกมาได้ ตรงนี้ เราสามารถเห็นรอยตัด ที่เชื่อมโยงกับรหัส จะเห็นสี่เหลี่ยมตัน ที่โยงกับเนื้อหาได้ เราจะดึงออกมาได้ แม้กระทั่งวัตถุมองเห็นได้ ที่เล็กสุด สิ่งต่างๆ ที่เราอาจใช้เวลา หลายสัปดาห์ หลายเดือน เพื่อหาให้พบ จากตัวเลข 1 และ 0 นั้น สิ่งเหล่านี้ ในทันทีทันใดก็เห็นชัดเจน ในภาพนามธรรม แบบใดแบบหนึ่ง, และ และเมื่อเรายังคงไปต่อ โดยโยนข้อมูลให้มัน มากขึ้นๆ สิ่งที่เราพบก็คือ เราสามารถจัดการ กับตัวเลข 1 และ 0 เป็นพันๆล้านตัวได้ ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที แค่เพียงใช้ความสามารถ ของสมองที่เรามีอยู่ มาใช้วิเคราะห์รูปแบบ นี่จึงเป็นสิ่งที่ดี และช่วยได้จริงๆ แต่ทั้งหมดนี้บอกผม ก็คือ สิ่งที่ผมกำลังดูอยู่ ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่เห็น ณ. จุดนี้ ผมสามารถหารหัสโทรศัพท์ได้ แต่นั่นยังไม่เพียงพอ ที่จะระเบิดแบตเตอรี สิ่งต่อไป ที่ผมต้องค้นหา คือ รหัส ที่ควบคุมแบตเตอรี่ เราจึงกลับไปที่ ปัญหาของเข็มตัวนั้น ที่อยู่ในกองเข็ม รหัสตัวนั้น ก็ดูเหมือนๆ กับรหัสอื่นๆ ทั้งหมด ของระบบนั้น ผมจึงอาจจะไม่สามารถพบ รหัสที่ควบคุมแบตเตอรี่ แต่ก็มีสิ่งมากมาย ที่เหมือนสิ่งนั้นมากๆ คุณมีรหัส ที่ควบคุมหน้าจอของคุณ ที่ควบคุมปุ่มต่างๆ ที่ควบคุมไมโครโฟน ดังนั้น แม้ว่าผมไม่สามารถพบรหัสแบตเตอรี่ พนันได้ว่า ผมจะสามารถพบสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ในพวกนั้น ดังนั้น ขั้นต่อไปในกระบวนการ วิเคราะห์เลขฐานสอง คือ ดูชิ้นต่างๆ ของข้อมูล ที่เหมือนๆ กัน ยากจริงๆ ที่จะทำที่ระดับเลขฐานสอง แต่ถ้า เราแปลความเหมือนกันเหล่านั้น ให้เป็นภาพนามธรรม แทน ผมก็ไม่ต้องกรองข้อมูลดิบอีกเลย ทั้งหมดที่ผมต้องทำ คือ คอยให้ภาพสว่างขึ้น ให้มองเห็นได้ ขณะที่ผม ดูชิ้นที่เหมือนๆกันนั้น มองตามเกลียวความเหมือนพวกนี้ เหมือนกับรอยเศษขนมปัง เพื่อจะพบให้แน่ๆ ในสิ่งที่ผมกำลังมองหา ดังนั้น ในกระบวนการ ณ จุดนี้ ผมได้ตำแหน่งของรหัส ที่ทำหน้าที่ควบคุมแบตเตอรี่ แต่นั่นก็ยังไม่พอ ที่จะระเบิดโทรศัพท์ได้ ชิ้นส่วนสุดท้ายของปริศนา คือ ความเข้าใจว่า รหัสนั้น ควบคุมแบตเตอรี่อย่างไร สำหรับเรื่องนี้ ผมจำเป็นต้องระบุ ความสัมพันธ์ที่ละเอียด เข้าใจยากมากๆ ภายในข้อมูลเลขฐานสองนั้น ซึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่ทำได้ยากมากๆ เมื่อเรามองที่ ตัวเลข 1 และ 0 นั้น แต่ถ้าเราแปลข้อมูลนั้น ไปเป็นการแทนเชิงกายภาพได้ เราก็นั่งสบายได้ ให้สมองส่วนการเห็น ทำงานหนักทั้งหมดนั้นแทน มันหารูปแบบที่ละเอียดนั้น ได้ทั้งหมด หาชิ้นส่วนที่สำคัญทั้งหมด ให้กับเราได้ มันสามารถหาได้อย่างถูกต้อง วิธีที่ชิ้นส่วนของรหัสนั้น ทำงานด้วยกัน เพื่อควบคุมแบตเตอรี่ ได้อย่างไร ทั้งหมดนี้สามารถทำได้ ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ในขณะที่กระบวนการเดียวกันนี้ อาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ ในอดีต ทั้งหมดนี้ ดีแล้ว น่าพอใจ ในสถานการณ์ระเบิดโทรศัพท์ ของผู้ก่อการร้าย ในเชิงทฤษฎี ผมยังต้องการรู้ว่า มันจะใช้ได้จริงหรือไม่ ในงานที่ผมทำอยู่ ทุกวันนี้ ผมจึงเล่นกับความรู้เดียวกันนี้ ไปเรื่อยๆ กับข้อมูลบางอย่าง ที่ผมเห็นมาแล้ว ในอดีต แต่ก็อีกนั่นแหละ ผมกำลังพยายามหา ชิ้นรหัสที่เฉพาะเจาะจง และก็ละเอียดมาก ภายในชิ้นส่วนของข้อมูล เลขฐานสองที่หนาแน่น ผมจึงดูมัน ที่ระดับนี้ และคิดว่า ผมกำลังดู สิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพียงเพื่อจะพบว่าสิ่งนี้ไม่ได้มี ความเชื่อมโยง เหมือนกับที่ผมคิดไว้ สำพรับรหัส ที่ผมกำลังมองหาอยู่ จริงๆ แล้ว ผมไม่แน่ใจนัก ว่ามันคืออะไร แต่เมื่อผมถอยลงมา หนึ่งระดับ และดูที่ความเหมือนๆ กัน ภายในรหัสนั้น ผมจึงเห็นว่า มันไม่ได้มีความเหมือนกัน เหมือนรหัสใดๆ ที่มีอยู่ตรงนั้น ผมไม่ได้กำลังดูรหัสอยู่ ด้วยซํ้าไป ความจริง จากมุมมองนี้ ผมอาจบอกได้เลยว่า มันไม่ได้เป็นรหัส นี่มันเป็นภาพ อย่างใดอย่างหนึ่ง และจากตรงนี้ ผมสามารถเห็นได้ว่า มันไม่ได้เป็นแค่ภาพ มันเป็นภาพถ่าย ตอนนี้ผมรู้ว่า มันเป็นภาพถ่าย แต่ผมมีเทคนิคการแปลเลขฐานสอง แบบอื่นๆ อีกเยอะแยะ ที่จะทำให้เห็นภาพ และเข้าใจข้อมูลนั้น ดังนั้น ในไม่กี่วินาที เราก็สามารถเอาข้อมูลนี้ เอามันใส่ลงไป ผ่านเทคนิคการแปลภาพอื่นๆ เพื่อจะพบให้แน่ๆ ว่า เรากำลังดูอะไรอยู่ ผมจึงได้เห็น --(เสียงหัวเราะ)-- มันก็เป็นแมวตัวนั้น อีกแล้ว ทั้งหมดนี้ สามารถทำได้ เพราะว่า เราสามารถพบวิธีการ ที่จะแปลปัญหาที่ยากมากๆ เป็นบางสิ่งที่สมองของเรา ทำงานเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง แล้ว สิ่งนี้หมายความว่าอะไร? ครับ สำหรับลูกแมว มันหมายความว่า ไม่มีอะไรซ่อนเร้นอีกแล้ว ในเลข 1 และ 0 สำหรับผม หมายถึง ไม่ต้องเสียเวลาวันหยุดอีกแล้ว สำหรับโลกออนไลน์ หมายถึง เรามีวิธีการใหม่ที่สำคัญ ในการใช้แก้ปัญหา ที่เป็นไปไม่ได้ที่สุด มันหมายถึงเรามีอาวุธใหม่ ในเวทีสงครามออนไลน์ ที่วิวัฒน์ไป แต่สำหรับพวกเราทุกคนแล้ว มันหมายถึงว่า วิศวกรออนไลน์ ขณะนี้ มีความสามารถ จะเป็นคนแรกที่ตอบโต้ ในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ เมื่อวินาทีนั้น สำคัญ เราได้ไขวิธีการ ที่จะหยุดคนไม่ดีได้ ขอบคุณครับ (เสียงปรบมือ)