1 00:00:00,760 --> 00:00:02,735 จะเป็นยังไงล่ะถ้าพืชต่าง ๆ ของเรา 2 00:00:02,760 --> 00:00:05,456 สามารถรับรู้ระดับสารพิษในดิน 3 00:00:05,480 --> 00:00:08,520 แล้วแสดงระดับสารพิษผ่านทางสีใบของมันได้ 4 00:00:09,680 --> 00:00:13,000 จะเป็นยังไงล่ะถ้าพืชเหล่านี้สามารถ ลดสารพิษพวกนั้นที่อยู่ในดินได้ด้วย 5 00:00:14,560 --> 00:00:16,656 แล้วจะเป็นยังไงล่ะถ้าพืชเหล่านั้น 6 00:00:16,680 --> 00:00:18,536 สามารถงอกบรรจุภัณฑ์ของตัวเองได้ 7 00:00:18,560 --> 00:00:21,136 หรือถูกออกแบบให้เก็บเกี่ยวได้ 8 00:00:21,160 --> 00:00:23,416 ด้วยเครื่องจักรที่เจ้าของเครื่อง จดสิทธิบัตรไว้เท่านั้นล่ะ 9 00:00:23,440 --> 00:00:25,336 จะเป็นยังไงล่ะถ้าการออกแบบทางชีววิทยา 10 00:00:25,360 --> 00:00:28,896 ถูกขับเคลื่อนด้วยความต้องการ สินค้าที่ผลิตออกมาครั้งละมาก ๆ 11 00:00:28,920 --> 00:00:30,520 โลกแบบนั้นจะเป็นยังไงนะ 12 00:00:31,240 --> 00:00:35,256 ฉันชื่อ แอนนี่ ฉันเป็นนักออกแบบ และนักวิจัยที่ MIT Media Lab 13 00:00:35,280 --> 00:00:39,416 ที่ที่ฉันเองเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Design Fiction ที่ค่อนข้างใหม่และมีเอกลักษณ์ 14 00:00:39,440 --> 00:00:43,536 ที่ที่พวกเราอยู่ ณ จุดกึ่งกลางระหว่างนิยาย วิทยาศาสตร์กับข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ 15 00:00:43,560 --> 00:00:47,696 และที่ MIT ฉันก็โชคดีที่ได้พบปะ และใช้เวลาร่วมกับนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ 16 00:00:47,720 --> 00:00:49,696 และได้ศึกษาศาสตร์ล้ำสมัยในทุก ๆ แขนง 17 00:00:49,720 --> 00:00:52,096 อย่างเช่น ประสาทชีววิทยาสังเคราะห์ 18 00:00:52,120 --> 00:00:54,136 ปัญญาประดิษฐ์ ชีวิตประดิษฐ์ 19 00:00:54,160 --> 00:00:55,896 และทุก ๆ เรื่องในนั้นที่เกี่ยวข้อง 20 00:00:55,920 --> 00:00:59,736 และตลอดทั่วทั้งรั้วมหาวิทยาลัยนั้น ก็มีนักวิทยาศาสตร์ฉลาดล้ำมากมาย 21 00:00:59,760 --> 00:01:03,256 ที่คอยตั้งคำถามทำนองว่า "ฉันจะทำให้โลกนี้ดีขึ้นได้อย่างไร" 22 00:01:03,280 --> 00:01:06,176 และหนึ่งในคำถามที่กลุ่มของฉัน ชอบถามก็คือ "อะไรดีกว่ากัน" 23 00:01:06,200 --> 00:01:08,296 อะไรดีกว่าสำหรับฉัน สำหรับคุณ 24 00:01:08,320 --> 00:01:10,456 สำหรับผู้หญิงผิวขาว สำหรับผู้ชายที่เป็นเกย์ 25 00:01:10,480 --> 00:01:12,976 สำหรับทหารผ่านศึก สำหรับเด็กพิการที่ใช้อวัยวะเทียม 26 00:01:13,000 --> 00:01:15,056 เทคโนโลยีนั้นไม่เคยเป็นกลาง 27 00:01:15,080 --> 00:01:16,736 มันร่างความเป็นจริงขึ้นมา 28 00:01:16,760 --> 00:01:18,536 และสะท้อนบริบทนั้น ๆ 29 00:01:18,560 --> 00:01:22,296 คุณพอจะนึกภาพออกไหมว่ามันจะเป็นยังไง กับสมดุลชีวิตการทำงานที่ออฟฟิศของคุณ 30 00:01:22,320 --> 00:01:24,496 ถ้าสิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็น ปัญหาปกติในวันแรก 31 00:01:24,520 --> 00:01:25,936 (เสียงหัวเราะ) 32 00:01:25,960 --> 00:01:28,216 ฉันเชื่อว่ามันเป็นหน้าที่ของ ศิลปินและนักออกแบบ 33 00:01:28,240 --> 00:01:30,376 ที่จะต้องคอยถามคำถามสำคัญ ๆ 34 00:01:30,400 --> 00:01:32,816 ศิลปะคือการมองเห็นและการรู้สึกถึงอนาคต 35 00:01:32,840 --> 00:01:35,296 และตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลา อันน่าตื่นเต้นที่จะเป็นนักออกแบบ 36 00:01:35,320 --> 00:01:37,456 เพราะอุปกรณ์ใหม่ ๆ มากมาย เริ่มเพียบพร้อมมากขึ้น 37 00:01:37,480 --> 00:01:39,056 ยกตัวอย่างเช่น ชีววิทยาสังเคราะห์ 38 00:01:39,080 --> 00:01:41,976 พยายามหาทางทำให้ชีววิทยา เป็นปัญหาทางการออกแบบอย่างหนึ่ง 39 00:01:42,000 --> 00:01:43,536 และในช่วงของการพัฒนาต่าง ๆ เหล่านี้ 40 00:01:43,560 --> 00:01:46,496 ที่ห้องทดลองก็มีคำถามว่า อะไรคือหน้าที่และความรับผิดชอบ 41 00:01:46,520 --> 00:01:50,856 ของศิลปิน นักออกแบบ นักวิทยาศาสตร์ หรือนักธุรกิจล่ะ 42 00:01:50,880 --> 00:01:52,416 อะไรคือผลกระทบที่ตามมา 43 00:01:52,440 --> 00:01:55,176 ของชีววิทยาสังเคราะห์ การดัดแปลงพันธุกรรม 44 00:01:55,200 --> 00:01:59,816 และผลกระทบเหล่านั้นจะเปลี่ยนมุมมอง ของเราต่อความเป็นมนุษย์ได้อย่างไร 45 00:01:59,840 --> 00:02:03,136 อะไรคือผลกระทบของมัน ต่อสังคม ต่อวิวัฒนาการ 46 00:02:03,160 --> 00:02:05,736 และอะไรคือสิ่งที่ต้องเดิมพันในเกม ๆ นี้ 47 00:02:05,760 --> 00:02:08,976 งานวิจัยด้านการออกแบบเพื่ออนาคต ที่ฉันทำอยู่ในขณะนี้ 48 00:02:09,000 --> 00:02:10,416 เล่นกับชีววิทยาสังเคราะห์ 49 00:02:10,440 --> 00:02:13,456 แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ผลักดัน ออกมาด้วยอารมณ์ที่มากขึ้น 50 00:02:13,480 --> 00:02:16,256 ฉันจึงหมกมุ่นกับเรื่องการรับกลิ่น ในฐานะของพื้นที่ในการออกแบบ 51 00:02:16,280 --> 00:02:19,096 และงานวิจัยนี้ก็เกิดขึ้นมาจากแนวคิดที่ว่า 52 00:02:19,120 --> 00:02:22,896 มันจะเป็นยังไงนะถ้าเราสามารถ ถ่ายเซลฟีกลิ่นได้ แบบสเมลฟี่น่ะ (smelfie) 53 00:02:22,920 --> 00:02:24,376 (เสียงหัวเราะ) 54 00:02:24,400 --> 00:02:27,136 มันจะเป็นยังไงนะถ้าเราสามารถ เก็บกลิ่นตัวตามธรรมชาติของเรา 55 00:02:27,160 --> 00:02:29,216 แล้วส่งไปให้คนที่เรารักได้ 56 00:02:29,240 --> 00:02:33,016 แปลกแต่จริง ฉันไปเจอมาว่านี่เป็นธรรมเนียม อย่างหนึ่งของออสเตรียในช่วงศตวรรษที่ 19 57 00:02:33,040 --> 00:02:35,656 ซึ่งคู่รักที่ดูใจกันอยู่นั้นจะ หนีบแอปเปิ้ลชิ้นหนึ่ง 58 00:02:35,680 --> 00:02:38,256 ไว้ข้างใต้รักแร้ของพวกเขาในขณะเต้นรำ 59 00:02:38,280 --> 00:02:39,816 และในตอนจบของงานนั้น 60 00:02:39,840 --> 00:02:43,216 ฝ่ายหญิงจะให้แอปเปิ้ลที่หนีบไว้ กับผู้ชายคนที่เธอชอบมากที่สุด 61 00:02:43,240 --> 00:02:45,416 และถ้าเขารู้สึกแบบเดียวกับเธอ 62 00:02:45,440 --> 00:02:47,376 เขาก็จะยัดแอปเปิ้ลเหม็น ๆ นั้นเข้าปากไป 63 00:02:47,400 --> 00:02:50,520 (เสียงหัวเราะ) 64 00:02:51,680 --> 00:02:54,976 เป็นที่รู้กันว่า นโปเลียนนั้นเขียน จดหมายรักมากมายไปหาโฌเซฟีน 65 00:02:55,000 --> 00:02:59,256 แต่ว่าบางทีหนึ่งในจดหมายที่เป็นที่จดจำมาก ที่สุดอาจเป็นข้อความสั้น ๆ สุดเร่งเร้านี้: 66 00:02:59,280 --> 00:03:01,496 "จะถึงบ้านในสามวัน ไม่ต้องอาบน้ำนะ" 67 00:03:01,520 --> 00:03:03,576 (เสียงหัวเราะ) 68 00:03:03,600 --> 00:03:05,760 ทั้งนโปเลียนและโฌเซฟีน ต่างโปรดปรานดอกไวโอเล็ต 69 00:03:07,320 --> 00:03:09,456 โฌเซฟีนฉีดน้ำหอมกลิ่นไวโอเล็ต 70 00:03:09,480 --> 00:03:11,296 ถือดอกไวโอเล็ตในวันแต่งงานของเธอกับเขา 71 00:03:11,320 --> 00:03:13,335 และนโปเลียนเองก็ส่ง ช่อดอกไวโอเล็ตไปให้เธอ 72 00:03:13,359 --> 00:03:14,896 ทุก ๆ ปีในวันครบรอบวันแต่งงาน 73 00:03:14,920 --> 00:03:16,496 เมื่อโฌเซฟีนเสียชีวิตลง 74 00:03:16,520 --> 00:03:18,096 เขาได้ปลูกต้นไวโอเล็ตไว้ที่หลุมศพเธอ 75 00:03:18,120 --> 00:03:19,936 และก่อนที่เขาจะถูกเนรเทศ 76 00:03:19,960 --> 00:03:22,096 เขาได้กลับไปที่หลุมศพนั้น 77 00:03:22,120 --> 00:03:24,776 เด็ดดอกไม้บางดอก แล้วเก็บมันไว้ ในสร้อยล็อคเก็ตอันหนึ่ง 78 00:03:24,800 --> 00:03:26,536 และใส่มันจนวาระสุดท้ายของเขา 79 00:03:26,560 --> 00:03:28,096 ฉันพบว่ามันสะเทือนอารมณ์มากทีเดียว 80 00:03:28,120 --> 00:03:32,016 ฉันสงสัยว่า ฉันจะดัดแปลงดอกไวโอเล็ต ให้มีกลิ่นเหมือนกับโฌเซฟีนได้หรือไม่ 81 00:03:32,040 --> 00:03:33,696 มันจะเป็นยังไง ถ้าไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม 82 00:03:33,720 --> 00:03:35,296 ที่คุณไปเยี่ยมหลุมศพเธอ 83 00:03:35,320 --> 00:03:38,576 คุณจะได้กลิ่นของโฌเซฟีนในแบบเดียว กับตอนที่นโปเลียนหลงรักเธอ 84 00:03:38,600 --> 00:03:41,016 เราจะสามารถออกแบบวิธีไว้ทุกข์แบบใหม่ 85 00:03:41,040 --> 00:03:43,136 รวมถึงพิธีรำลึกแบบใหม่ได้รึเปล่า 86 00:03:43,160 --> 00:03:45,856 ยังไงซะ เราก็ตัดต่อพันธุกรรม ของพืชผลต่าง ๆ 87 00:03:45,880 --> 00:03:48,016 เพื่อให้ทำกำไรได้สูงสุดอยู่แล้วนี่ 88 00:03:48,040 --> 00:03:50,176 ไม่ว่าจะพืชผลที่ทนต่อการขนส่ง 89 00:03:50,200 --> 00:03:52,136 พืชผลที่เก็บได้นาน ๆ 90 00:03:52,160 --> 00:03:54,616 พืชผลที่มีรสหวานแต่ไล่แมลง 91 00:03:54,640 --> 00:03:58,056 ที่ในบางครั้งก็ต้องแลกมาด้วย คุณค่าทางโภชนาการที่ลดลง 92 00:03:58,080 --> 00:04:02,656 เราจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเดียวกันนี้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางอารมณ์ได้หรือเปล่า 93 00:04:02,680 --> 00:04:03,976 ฉะนั้น ที่ห้องแล็บของฉันในตอนนี้ 94 00:04:04,000 --> 00:04:07,296 ฉันจึงทำวิจัยอยู่ว่าอะไรทำให้ มนุษย์มีกลิ่นเฉพาะในแบบของมนุษย์ 95 00:04:07,320 --> 00:04:09,936 และปรากฏว่ามันค่อนข้างซับซ้อนเลยทีเดียว 96 00:04:09,960 --> 00:04:13,176 ปัจจัยต่าง ๆ อย่างเช่น อาหารที่กิน ยาต่าง ๆ รูปแบบการใช้ชีวิต 97 00:04:13,200 --> 00:04:15,216 ล้วนส่งผลต่อกลิ่นตัวของคุณ 98 00:04:15,240 --> 00:04:17,776 และฉันก็พบว่าจริง ๆ แล้ว เหงื่อส่วนใหญ่นั้นไร้กลิ่น 99 00:04:17,800 --> 00:04:19,935 แต่เป็นเพราะแบคทีเรียและจุลินทรีย์ต่างหาก 100 00:04:19,959 --> 00:04:23,696 ที่ส่งผลต่อกลิ่นตัวของคุณ อารมณ์ของคุณ อัตลักษณ์ของคุณ 101 00:04:23,720 --> 00:04:25,336 และอื่น ๆ อีกมากมาย 102 00:04:25,360 --> 00:04:27,656 และยังมีโมเลกุลอีกมากมาย ในทุกรูปแบบที่คุณปล่อยออกมา 103 00:04:27,680 --> 00:04:29,960 แต่ทว่าเราสามารถรับรู้ได้ ผ่านทางจิตใต้สำนึกเท่านั้น 104 00:04:31,120 --> 00:04:33,456 ดังนั้นฉันจึงจำแนกและเก็บสะสม 105 00:04:33,480 --> 00:04:35,656 แบคทีเรียจากบริเวณต่าง ๆ บนร่างกายของฉัน 106 00:04:35,680 --> 00:04:37,656 หลังจากได้พูดคุยกับ นักวิทย์คนหนึ่ง เราก็คิดว่า 107 00:04:37,680 --> 00:04:39,376 บางทีส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบของตัวฉัน 108 00:04:39,400 --> 00:04:43,376 คือ กระดูกไหปลาร้า 10% ใต้วงแขน 30% 109 00:04:43,400 --> 00:04:45,696 จุดซ่อนเร้นอีก 40% และอื่น ๆ 110 00:04:45,720 --> 00:04:48,776 และในบางครั้ง ฉันก็ให้นักวิจัย จากห้องแล็บอื่น ๆ 111 00:04:48,800 --> 00:04:50,456 ดมตัวอย่างกลิ่นของตัวฉัน 112 00:04:50,480 --> 00:04:53,656 และมันก็เป็นเรื่องน่าสนใจที่ ได้รู้ว่ากลิ่นของตัวเองเป็นอย่างไร 113 00:04:53,680 --> 00:04:56,496 เมื่อสูดดมภายนอกร่างกายของฉัน 114 00:04:56,520 --> 00:04:58,096 ฉันได้รับคำตอบมากมาย อย่างเช่น 115 00:04:58,120 --> 00:05:00,576 กลิ่นเหมือนดอกไม้ เหมือนไก่ 116 00:05:00,600 --> 00:05:01,816 เหมือนคอร์นเฟลก 117 00:05:01,840 --> 00:05:03,296 หรือเหมือนเนื้อย่างรมควัน 118 00:05:03,320 --> 00:05:05,216 (เสียงหัวเราะ) 119 00:05:05,240 --> 00:05:08,856 ในขณะเดียวกัน ฉันก็ได้ ปลูกพืชกินแมลงกลุ่มหนึ่ง 120 00:05:08,880 --> 00:05:12,536 เพื่อดูความสามารถในการปล่อยกลิ่น คล้ายเนื้อหนังเพื่อล่อเหยื่อ 121 00:05:12,560 --> 00:05:15,376 เพื่อพยายาม แบบว่าสร้าง ความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกัน 122 00:05:15,400 --> 00:05:18,320 ระหว่างแบคทีเรียบนตัวของฉัน กับพืชกินแมลงชนิดนี้ 123 00:05:19,520 --> 00:05:22,176 แล้วก็มีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้น ฉันอยู่ในบาร์แห่งหนึ่งใน MIT 124 00:05:22,200 --> 00:05:24,496 และฉันก็กำลังคุยกับนักวิทยาศาสตร์ 125 00:05:24,520 --> 00:05:26,896 ที่บังเอิญเป็นทั้งนักเคมี และนักพฤษศาสตร์ 126 00:05:26,920 --> 00:05:28,816 และฉันก็เล่าเรื่องงานวิจัย ของฉันให้เขาฟัง 127 00:05:28,840 --> 00:05:31,976 แล้วเขาก็ตอบแบบว่า "อืม นี่มันดูเหมือน พฤกษศาสตร์สำหรับผู้หญิงขี้เหงาเลยนะ" 128 00:05:32,000 --> 00:05:35,016 (เสียงหัวเราะ) 129 00:05:35,040 --> 00:05:37,936 ฉันตอบอย่างไม่รีรอว่า "โอเค" 130 00:05:37,960 --> 00:05:39,176 ฉันท้าเขาว่า 131 00:05:39,200 --> 00:05:42,496 "เราสามารถสร้างต้นพืชที่รักฉันตอบได้ไหม" 132 00:05:42,520 --> 00:05:45,976 และเพราะอะไรสักอย่าง เขาก็ตอบว่า "ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ" 133 00:05:46,000 --> 00:05:48,936 ดังนั้น เราจึงเริ่มด้วยคำถามที่ว่า เราสามารถสร้างพืชที่เบนเข้าหาตัวฉัน 134 00:05:48,960 --> 00:05:50,416 ราวกับว่าฉันเป็นดวงอาทิตย์ได้ไหม 135 00:05:50,440 --> 00:05:54,376 ฉะนั้น เราจึงศึกษากลไกของพืช อย่างเช่น การเบนตามแสง (phototropism) 136 00:05:54,400 --> 00:05:56,576 ซึ่งเป็นกลไกที่ทำให้พืช เบนเข้าหาดวงอาทิตย์ 137 00:05:56,600 --> 00:05:58,576 ด้วยการสร้างฮอร์โมนพวกออกซิน 138 00:05:58,600 --> 00:06:01,256 ที่ทำให้เซลล์ยืดตัวตามยาว ในด้านที่มีร่มเงา 139 00:06:01,280 --> 00:06:03,416 และในตอนนี้ฉันก็กำลัง สร้างลิปสติกชุดหนึ่ง 140 00:06:03,440 --> 00:06:05,256 ที่ถูกนำไปแช่ไว้ในสารเคมีจำพวกหนึ่ง 141 00:06:05,280 --> 00:06:08,936 ที่ทำให้ฉันสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับต้นพืชได้ ด้วยคุณสมบัติเฉพาะทางเคมีของมัน 142 00:06:08,960 --> 00:06:12,376 ลิปสติกที่ทำให้ต้นพืช โตขึ้นในที่ ๆ ฉันจูบ 143 00:06:12,400 --> 00:06:15,136 และทำให้ดอกไม้เบ่งบานขึ้น เมื่อฉันจูบไปที่ดอกตูม 144 00:06:15,160 --> 00:06:17,936 และในระหว่างที่ทำการวิจัยเหล่านี้อยู่ 145 00:06:17,960 --> 00:06:19,376 ฉันก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า 146 00:06:19,400 --> 00:06:21,096 เราจะนิยามธรรมชาติอย่างไร 147 00:06:21,120 --> 00:06:24,656 เราจะนิยามอย่างไรในเมื่อเราสามารถ ปรับเปลี่ยนคุณสมบัติของมันได้ 148 00:06:24,680 --> 00:06:26,096 และเราควรทำแบบนั้นเมื่อไร 149 00:06:26,120 --> 00:06:29,816 เราควรใช้มันเพื่อทำกำไร หรือเพื่อประโยชน์ใช้สอย 150 00:06:29,840 --> 00:06:31,536 เราสามารถใช้มันเพื่อ ผลลัพธ์ทางอารมณ์ได้ไหม 151 00:06:31,560 --> 00:06:35,136 เราสามารถใช้เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อสร้างผลงาน ที่เร้าอารมณ์ได้แบบดนตรีหรือไม่ 152 00:06:35,160 --> 00:06:37,056 อะไรคือจุดต่อระหว่างวิทยาศาสตร์ 153 00:06:37,080 --> 00:06:39,920 และความสามารถของมัน ในการเล่นกับความรู้สึกของเรา 154 00:06:40,640 --> 00:06:44,416 มันคือวาทกรรมทางการออกแบบอันโด่งดัง ที่กล่าวว่า "การใช้งานนั้นมาก่อนรูปแบบ" 155 00:06:44,440 --> 00:06:48,496 ที่ในตอนนี้อยู่ ณ จุดกึ่งกลางระหว่าง ศาสตร์ การออกแบบ และศิลป์ 156 00:06:48,520 --> 00:06:49,736 ฉันจึงได้มีโอกาสถามว่า 157 00:06:49,760 --> 00:06:51,216 หรือว่าเรื่องเล่าบ่งบอกข้อเท็จจริงล่ะ 158 00:06:51,240 --> 00:06:53,296 ห้องแล็บวิจัยและพัฒนาแบบนั้น จะมีหน้าตาแบบไหนกัน 159 00:06:53,320 --> 00:06:55,936 แล้วเราจะถามคำถาม แบบไหนไปด้วยกัน 160 00:06:55,960 --> 00:06:58,296 เรามักมองว่าเทคโนโลยีคือคำตอบ 161 00:06:58,320 --> 00:06:59,856 แต่ในฐานะที่เป็นศิลปินและนักออกแบบ 162 00:06:59,880 --> 00:07:02,376 ฉันอยากจะถามว่า "แล้วคำถามนั้นคืออะไรล่ะ" 163 00:07:02,400 --> 00:07:03,616 ขอบคุณค่ะ 164 00:07:03,640 --> 00:07:07,000 (เสียงปรบมือ)