1 00:00:07,775 --> 00:00:11,085 การต้องผจญกับยักษ์กินคนในระยะประชิด 2 00:00:11,085 --> 00:00:14,834 แม่มดที่เปลี่ยนคนให้กลายร่างเป็นหมู 3 00:00:14,834 --> 00:00:18,345 กษัตริย์ที่สาบสูญหวนกลับมาชิงบัลลังก์ 4 00:00:18,345 --> 00:00:21,956 เรื่องเล่าแต่ละเรื่องล้วนยิ่งใหญ่ในตัวเอง 5 00:00:21,956 --> 00:00:25,545 แต่เรื่องราวเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ของมหากาพย์ "โอดิสซีย์" 6 00:00:25,545 --> 00:00:32,895 บทกวี 12,000 บรรทัด ที่เล่าขานถึงประวัติศาสตร์ เรื่องเล่า และตำนานกรีกโบราณ 7 00:00:32,895 --> 00:00:36,046 เราจะทำความเข้าใจเนื้อหาอันยืดยาว 8 00:00:36,046 --> 00:00:39,995 ซึ่งบอกเล่าเรื่องราว ที่มาจากโลกอันไกลโพ้นได้อย่างไร 9 00:00:39,995 --> 00:00:44,095 ความจริงที่ว่าเราสามารถอ่านมหากาพย์ "โอดิสซีย์" ได้ก็นับว่าเหลือเชื่อแล้ว 10 00:00:44,095 --> 00:00:49,435 เพราะมันถูกประพันธ์ขึ้นก่อนที่จะมีการประดิษฐ์อักษรกรีก เมื่อ 800 ปีก่อนคริสตกาล 11 00:00:49,435 --> 00:00:52,156 โดยแต่งขึ้นเพื่อขับให้คนฟัง ไม่ใช่สำหรับอ่าน 12 00:00:52,156 --> 00:00:56,277 และมีนักขับลำนำที่เรียกว่า แรพโสด (rhapsodes) เป็นผู้ขับขาน 13 00:00:56,277 --> 00:01:00,476 แต่เดิมเนื้อเรื่องระบุว่า ผู้แต่งคือ ชายตาบอดนามว่า "โฮเมอร์" 14 00:01:00,476 --> 00:01:05,017 แต่ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่า เขามีตัวตนจริงหรือเป็นเพียงตำนาน 15 00:01:05,017 --> 00:01:08,866 ครั้งแรกสุดที่มีการกล่าวถึงโฮเมอร์ ก็หลายร้อยปีหลังยุคที่เขามีชีวิตอยู่ 16 00:01:08,866 --> 00:01:12,456 และบทกวีที่คาดว่าเขาเป็นผู้แต่ง ก็ดูเหมือนจะถูกเปลี่ยนแปลง 17 00:01:12,456 --> 00:01:15,771 และถูกเรียบเรียงใหม่หลายครั้ง โดยผู้แต่งหลายคน 18 00:01:15,771 --> 00:01:19,207 ก่อนที่จะมีการบันทึกในรูปแบบ ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน 19 00:01:19,207 --> 00:01:22,556 ที่จริงแล้วคำว่า แรพโสด (rhapsode) นั้นหมายถึง การปะติดปะต่อกัน 20 00:01:22,556 --> 00:01:27,616 อย่างที่กวีได้นำเรื่องราวที่มีอยู่จริง อย่างเรื่องขบขัน นิยายปรัมปรา และเพลง 21 00:01:27,616 --> 00:01:30,295 มารวมกันเป็นเรื่องเล่าเดียว 22 00:01:30,295 --> 00:01:33,207 ในการขับมหากาพย์อันยืดยาวนี้ 23 00:01:33,207 --> 00:01:35,697 แรพโสดใช้จังหวะหนัก - เบาที่สม่ำเสมอ 24 00:01:35,697 --> 00:01:37,558 ร่วมกันกับการใช้เทคนิคที่ช่วยให้จำได้ 25 00:01:37,558 --> 00:01:42,198 เช่นการซ้ำคำหรือบทส่วนหนึ่งที่จำไว้ 26 00:01:42,198 --> 00:01:46,057 ซึ่งประกอบด้วย การบรรยายตัวละคร และฉากต่าง ๆ 27 00:01:46,057 --> 00:01:49,705 ช่วยให้แรพโสดรู้ว่าเล่าถึงไหนแล้ว 28 00:01:49,705 --> 00:01:54,157 เช่นเดียวกับคอรัสหรือท่อนส่งของเพลง ที่ช่วยให้เราจำวรรคต่อไปได้ 29 00:01:54,157 --> 00:01:56,868 เพราะว่าผู้ฟังคุ้นเคยกับเนื้อหาส่วนใหญ่ อยู่แล้ว 30 00:01:56,868 --> 00:02:00,548 จึงไม่แปลกที่จะได้ยินบางบท ผิดลำดับไปบ้าง 31 00:02:00,548 --> 00:02:02,858 ต่อมาลำดับของเรื่องเริ่มแน่นอน 32 00:02:02,858 --> 00:02:07,288 และเนื้อเรื่องก็กลาย เป็นฉบับที่เราได้อ่านกันในปัจจุบัน 33 00:02:07,288 --> 00:02:11,508 แต่เนื่องจากโลกได้เปลี่ยนไป ในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา 34 00:02:11,508 --> 00:02:15,048 มันจึงเป็นเรื่องดีที่จะรู้ถึงความเป็นมา ก่อนเริ่มต้นอ่าน 35 00:02:15,048 --> 00:02:20,179 โอดิสซีย์ เป็นภาคต่อของ "อิเลียด" มหากาพย์ชื่อดังอีกเรื่องหนึ่งของโฮเมอร์ 36 00:02:20,179 --> 00:02:22,821 ซึ่งเล่าถึงเรื่องราวของสงครามกรุงทรอย 37 00:02:22,821 --> 00:02:27,158 หากจะมีแก่นเรื่องที่เชื่อมเรื่องราวทั้งสอง เข้าด้วยกัน ก็คงจะเป็นคำเตือนนี้ 38 00:02:27,158 --> 00:02:32,349 อย่าได้คิดลองดีเทพเจ้าให้พิโรธ ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใดก็ตามที 39 00:02:32,349 --> 00:02:36,908 เทพเจ้ากรีก คือส่วนผสมอันตรายระหว่าง พลังเทพ กับความไม่แน่นอนแบบมนุษย์ 40 00:02:36,908 --> 00:02:40,838 ซึ่งอาจริษยา และอาฆาตแค้นอย่างยาวนาน 41 00:02:40,838 --> 00:02:45,569 และปัญหาต่างๆที่มักพบในบทกวีนั้น ก็เกิดจากความอหังการของตัวมนุษย์เอง 42 00:02:45,569 --> 00:02:50,499 หรือความทรนงว่าตนเองเหนือกว่าเทพเจ้า 43 00:02:50,499 --> 00:02:52,797 ความปรารถนาที่จะให้เทพเจ้าพอใจนั้น มีอยู่เปี่ยมล้น 44 00:02:52,797 --> 00:02:55,850 ตามประเพณีดั้งเดิม ชาวกรีก จะต้อนรับคนแปลกหน้า 45 00:02:55,850 --> 00:02:58,068 ให้เข้ามาในบ้านด้วยความยินดี 46 00:02:58,068 --> 00:03:01,969 เพราะเกรงว่า คนแปลกหน้าเหล่านั้น อาจจะเป็นเทพจำแลง 47 00:03:01,969 --> 00:03:05,200 กฎเกณฑ์การต้อนรับแขกแต่โบราณนี้ เรียกว่า ซีเนีย (xenia) 48 00:03:05,200 --> 00:03:10,320 ซึ่งหมายถึงการที่เจ้าบ้านต้อนรับแขกโดย ให้ที่พัก อาหาร และอำนวยความสะดวก 49 00:03:10,320 --> 00:03:14,910 และแขกก็ตอบแทนน้ำใจนั้น ด้วยมารยาทอันดีหรือของขวัญที่มี 50 00:03:14,910 --> 00:03:17,551 ซีเนีย (xenia) มีบทบาทอย่างมาก ในเรื่อง "โอดิสซีย์" 51 00:03:17,551 --> 00:03:21,681 เพราะโอดิซิอุสที่เร่ร่อนอยู่นั้น เป็นแขกของคนอื่นอยู่เสมอ 52 00:03:21,681 --> 00:03:27,330 ขณะที่โอดิซิอุสไม่อยู่นั้น ภรรยาคนเก่ง "เพเนโลปี" ก็ทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านอยู่ไม่ขาด 53 00:03:27,330 --> 00:03:30,800 มหากาพย์โอดิสซีย์ เล่าเรื่องราวการเดินทาง อันยาวนานของโอดิซิอุส 54 00:03:30,800 --> 00:03:36,030 แต่เรื่องเริ่มเล่าในระหว่างเหตุการณ์ต่าง ๆ 55 00:03:36,030 --> 00:03:40,922 สิบปีหลังจากสงครามกรุงทรอย ฮีโร่ของเรากลับยังติดอยู่บนเกาะ 56 00:03:40,922 --> 00:03:46,341 ห่างจาก อิทาคา เมืองบ้านเกิด และครอบครัวที่ไม่ได้พบหน้ามา 20 ปี 57 00:03:46,341 --> 00:03:51,511 เนื่องจากเขาทำให้เทพสมุทรโกรธ เพราะไป ทำไซคลอปลูกชายของโพไซดอนตาบอด 58 00:03:51,511 --> 00:03:56,271 การเดินทางกลับบ้านของโอดิซิอุส จึงมีแต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด 59 00:03:56,271 --> 00:03:59,420 แถมด้วยปัญหาที่ก่อตัวขึ้นในบ้านเกิด และเหล่าเทพที่กำลังตัดสินชะตาของเขา 60 00:03:59,420 --> 00:04:04,468 โอดิซิอุสเล่าเรื่องการผจญภัย หลายปีของเขาให้เจ้าบ้านฟัง 61 00:04:04,468 --> 00:04:07,031 หนึ่งในบรรดาสิ่งที่น่าทึ่งที่สุด เกี่ยวกับโอดิสซีย์ 62 00:04:07,031 --> 00:04:10,551 คือช่องว่างด้านความรู้ของเรา เกี่ยวกับช่วงเวลานั้นในอดีต 63 00:04:10,551 --> 00:04:14,671 กับรายละเอียดมหาศาล ที่อยู่ในบทกวี 64 00:04:14,671 --> 00:04:17,422 นักประวัติศาสตร์ นักภาษาศาสตร์ และนักโบราณคดี 65 00:04:17,422 --> 00:04:20,433 ได้ใช้เวลาหลายร้อยปีเพื่อสืบหา เศษซากของกรุงทรอย 66 00:04:20,433 --> 00:04:24,172 และพยายามระบุว่า เกาะไหนบ้าง ที่โอดิซิอุสเดินทางไปถึง 67 00:04:24,172 --> 00:04:28,921 และเช่นเดียวกับพระเอกของเรื่อง มหากาพย์ทั้ง 24 เล่มได้เดินทาง 68 00:04:28,921 --> 00:04:31,511 ผ่านกาลเวลา ตำนาน และประวัติศาสตร์ เนิ่นนานหลายศตวรรษ 69 00:04:31,511 --> 00:04:34,482 จนได้มาเล่าเรื่องราวน่าประหลาดให้เราฟัง ในวันนี้