Return to Video

โคลิน โพเวลล์: เด็กๆต้องการมีวินัย

  • 0:01 - 0:02
    สิ่งที่ผมอยากจะพูดในช่วงบ่ายนี้
  • 0:02 - 0:05
    เป็นสิ่งที่ต่างจากกำหนดการอยู่สักหน่อย
  • 0:05 - 0:07
    เรื่องนโยบายต่างประเทศ ทุกคนคงจะพอทราบได้จาก
  • 0:07 - 0:10
    การดูรายการของ เรเชล แมดดาว หรือใครสักคน
  • 0:10 - 0:12
    แต่ (หัวเราะ)
  • 0:12 - 0:16
    ผมอยากจะพูดถึงเด็กๆ และการสร้างวินัย
  • 0:16 - 0:18
    เด็กๆ และวินัย
  • 0:18 - 0:20
    นี่เป็นภาพจากเมื่อบ่ายวันพุธที่ผ่านมา
  • 0:20 - 0:22
    ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งย่าน บรู๊คลิน นิวยอร์ก
  • 0:22 - 0:25
    ที่โรงเรียนมัธยม คริสโต เรย์ ซึ่งดำเนินการโดย องค์กร Jesuits
  • 0:25 - 0:29
    ขณะที่ผมกำลังพูดให้นักเรียนกลุ่มนี้ แล้วดูพวกเขาสิ
  • 0:29 - 0:32
    พวกเขาล้อมรอบผมอยู่สามด้าน
  • 0:32 - 0:34
    คงสังเกตได้นะครับว่า เกือบทั้งหมดเป็นชนกลุ่มน้อย
  • 0:34 - 0:36
    และอาคารนั้นก็ดูค่อนข้างจะเก่าแก่
  • 0:36 - 0:40
    แบบตึกของโรงเรียนเก่าๆในนิวยอร์ก ไม่ได้หรูหราอะไร
  • 0:40 - 0:43
    ยังมีกระดานดำ และสิ่งอื่นๆที่ควรจะมี
  • 0:43 - 0:46
    มีนักเรียนประมาณสามร้อยคน ในโรงเรียนแห่งนี้
  • 0:46 - 0:48
    โรงเรียนนี้เปิดดำเนินการมาได้สี่ปีแล้ว
  • 0:48 - 0:51
    นักเรียนกลุ่มแรกของโรงเรียนกำลังจะจบการศึกษา
  • 0:51 - 0:53
    นักเรียนยี่สิบสองคนเรียนจบ
  • 0:53 - 0:55
    และทั้งยี่สิบสองคนจะเรียนต่อในมหาวิทยาลัย
  • 0:55 - 0:58
    พวกเขาทั้งหมดมาจากบ้านที่ ส่วนใหญ่แล้ว
  • 0:58 - 1:01
    มีผู้ใหญ่เพียงคนเดียว
  • 1:01 - 1:04
    ส่วนมากมักจะเป็น แม่ หรือ ยาย แค่นั้น
  • 1:04 - 1:06
    พวกเขามาที่นี่เพื่อรับการศึกษา
  • 1:06 - 1:07
    มาเพื่อสร้างวินัยเพื่อชีวิตพวกเขา
  • 1:07 - 1:10
    ผมให้เขาถ่ายรูปนี้ แล้วก็แปะไว้
  • 1:10 - 1:13
    บนหน้า facebook ของผมเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
  • 1:13 - 1:14
    ใครบางคนเข้ามาเขียนไว้ว่า
  • 1:14 - 1:19
    "เฮ้ ทำไมให้เขายืนตรงเหมือนทหารอย่างนั้นล่ะ"
  • 1:19 - 1:24
    แล้วก็เขียนต่อว่า "แต่เขาก็ดูดีนะ" (หัวเราะ)
  • 1:24 - 1:26
    เขาดูดี เพราะว่า เด็กๆต้องมีวินัย
  • 1:26 - 1:30
    เกมที่ผมเล่นเมื่อไปในโรงเรียนทั้งหลาย
  • 1:30 - 1:33
    คือ หลังจากที่ผมพูดคุยทำความคุ้นเคยกับเด็กๆแล้ว
  • 1:33 - 1:35
    ผมก็ให้พวกเขาถามคำถาม
  • 1:35 - 1:37
    พอพวกเขายกมือ ผมบอกให้พวกเขาเดินออกมา
  • 1:37 - 1:39
    ให้พวกเขาออกมาและยืนข้างหน้าผม
  • 1:39 - 1:41
    ผมให้พวกเขายืนตรงเข้าแถวเหมือนทหาร
  • 1:41 - 1:43
    เอามือแนบลำตัว
  • 1:43 - 1:47
    มองขึ้นมา เปิดตา จ้องมาข้างหน้า
  • 1:47 - 1:50
    แล้วพูดคำถามของเขาดังๆ เพื่อให้ทุกคนได้ยิน
  • 1:50 - 1:53
    ไม่ยืนหลังค่อม ไม่ใส่กางเกงห้อยๆ ไม่ทำอะไรแบบนั้น
  • 1:53 - 1:55
    (หัวเราะ)
  • 1:55 - 1:58
    แล้วเด็กผู้ชายคนนี้ เขาชื่อ เขานามสกุล Cruz (ครุซ)
  • 1:58 - 2:02
    เขาชอบนะ มันอยู่ไปทั่วหน้า facebook ของเขา และเผยแพร่ไปทั่วอินเตอร์เน็ต
  • 2:02 - 2:04
    (หัวเราะ)
  • 2:04 - 2:07
    หลายคนจึงคิดว่าผมใจร้ายกับเด็กคนนี้
  • 2:07 - 2:08
    ไม่ใช่ เราแค่เล่นสนุกกันนิดหน่อย
  • 2:08 - 2:11
    เรื่องของเรื่องคือ ผมทำแบบนี้มาหลายปีแล้ว
  • 2:11 - 2:14
    ยิ่งเด็กเล็กเท่าใหร่ ยิ่งสนุก
  • 2:14 - 2:17
    เมื่อผมมีเด็กอายุหกและเจ็ดขวบอยู่เป็นกลุ่ม
  • 2:17 - 2:19
    ผมต้องหาวิธีทำให้พวกเขาเงียบ
  • 2:19 - 2:21
    คุณก็รู้ พวกเขาจ้อกันไม่หยุด
  • 2:21 - 2:22
    ผมเลยเล่นเกมส์กับพวกเขานิดหน่อย
  • 2:22 - 2:24
    ก่อนที่ผมจะให้พวกเด็กๆยืนตรง
  • 2:24 - 2:26
    ผมบอกว่า "ฟังให้ดีนะ ในกองทัพ
  • 2:26 - 2:29
    เวลาเราต้องการให้ทุกคนตั้งใจฟัง
  • 2:29 - 2:32
    เรามีคำสั่งเรียกว่า at ease
  • 2:32 - 2:35
    ซึ่งหมายความว่าให้ทุกคนเงียบและตั้งใจฟัง จดจ่อ
  • 2:35 - 2:36
    เข้าใจไหม?"
  • 2:36 - 2:41
    "เข้าใจนะ" "เอาละลองฝึกดู เอ้าคุยกันได้"
  • 2:41 - 2:45
    ผมก็ให้เขาคุยกันประมาณสิบวินาที แล้วผมก็สั่ง at ease!
  • 2:45 - 2:48
    "ฮึ" (เสียงหัวเราะ)
  • 2:48 - 2:51
    ครับท่านนายพล ครับท่านนายพล
  • 2:51 - 2:53
    ลองเอาไปใช้กับเด็กๆของคุณดูนะครับ ดูว่าจะได้ผลไม๊ (หัวเราะ)
  • 2:53 - 2:56
    ผมว่าไม่ได้ผล
  • 2:56 - 2:59
    แต่นั่นเป็นเกมที่ผมเล่น เห็นได้ชัดว่ามันมา
  • 2:59 - 3:01
    จากประสบการณ์ทางทหารของผม
  • 3:01 - 3:04
    เพราะเวลาส่วนใหญ่ในวัยผู้ใหญ่ของผม
  • 3:04 - 3:08
    ผมทำงานกับเด็กๆ หรือวัยรุ่นที่ถือปืน ผมเรียกเขาอย่างนั้น
  • 3:08 - 3:11
    เราจะนำพวกเขาเข้ามาในกองทหาร
  • 3:11 - 3:13
    และสิ่งแรกที่พวกเราจะทำก็คือ เอาพวกเขา
  • 3:13 - 3:17
    เข้ามาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีวินัย ให้เขามียศตำแหน่ง
  • 3:17 - 3:19
    ให้เขาทุกคนใส่เสื้อผ้าเหมือนๆกัน
  • 3:19 - 3:21
    ตัดผมออกให้หมด เพื่อให้พวกเขาดูเหมือนๆกัน
  • 3:21 - 3:23
    ให้แน่ใจว่าพวกเขายืนตามลำดับความสูง
  • 3:23 - 3:25
    เราสอนให้พวกเขา รู้จักการหันขวา หันซ้าย
  • 3:25 - 3:27
    เพื่อให้เขาสามารถทำตามคำสั่ง และรู้ว่า
  • 3:27 - 3:30
    ผลของการไม่ทำตามคำสั่งเป็นอย่างไร
  • 3:30 - 3:32
    มันทำให้พวกเขามีวินัย
  • 3:32 - 3:36
    แล้วก็พาไปรู้จักกับ คนที่พวกเขาจะเกลียดในทันที จ่าผู้ฝึก
  • 3:36 - 3:38
    และพวกเขาก็เกลียดจ่าฝึก
  • 3:38 - 3:40
    แล้วจ่าฝึกก็จะเริ่มตะโกนเสียงดังใส่พวกเขา
  • 3:40 - 3:44
    สั่งให้พวกเขาทำสิ่งที่แย่ๆสารพัดอย่าง
  • 3:44 - 3:47
    และแล้วสิ่งมหัศจรรย์ที่สุด ก็ค่อยๆเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
  • 3:47 - 3:50
    เมื่อวินัยได้ถูกปลูกฝังแล้ว
  • 3:50 - 3:53
    เมื่อพวกเขาเข้าใจเหตุผลของบางสิ่งบางอย่าง
  • 3:53 - 3:57
    เมื่อพวกเขาเข้าใจว่า "แม่ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยนะ ไอ้ลูกชาย
  • 3:57 - 4:01
    ครูฝึกนี่แหละเป็นฝันร้ายที่สุด เป็นทั้งพ่อและแม่
  • 4:01 - 4:03
    แล้วมันก็จะเป็นอย่างนี้ เข้าใจไม๊ ไอ้ลูกชาย
  • 4:03 - 4:06
    แล้ว เมื่อผมถามคำถามคุณ ก็ตอบได้อยู่สามอย่างเท่านั้น
  • 4:06 - 4:09
    ใช่ครับผม ไม่ใช่ครับผม และไม่มีข้อแก้ตัวครับผม
  • 4:09 - 4:11
    อย่ามาบอกผมว่า ทำไมคุณไม่ได้ทำอย่างนั้น
  • 4:11 - 4:13
    มีแค่คำตอบ ใช่ครับ ไม่ใช่ครับผม และ ไม่มีข้อแก้ตัวครับผม"
  • 4:13 - 4:15
    "คุณไม่ได้โกนหนวด" "แต่ผู้กองครับ"
  • 4:15 - 4:18
    "อย่า อย่ามาบอกผมว่า คุณถูหน้ามากี่ครั้งแล้วเช้านี้"
  • 4:18 - 4:20
    "ผมกำลังบอกว่าคุณไม่ได้โกนหนวด"
  • 4:20 - 4:23
    "ไม่มีข้อแก้ตัวครับผม" "ต้องอย่างนั้น เรียนรู้เร็วดีนี่"
  • 4:23 - 4:25
    แล้วคุณจะประหลาดใจว่า คุณสามารถช่วยพวกเขาได้แค่ไหน
  • 4:25 - 4:28
    เมื่อคุณทำให้พวกเขามีวินัย
  • 4:28 - 4:33
    ภายใน 18 สัปดาห์ พวกเขามีทักษะ พวกเขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
  • 4:33 - 4:36
    แล้วรู้อะไรไม๊ พวกเขาจะเริ่มชอบจ่าฝึกของพวกเขา
  • 4:36 - 4:38
    และพวกเขาจะไม่เคยลืมจ่าฝึกเลย
  • 4:38 - 4:40
    พวกเขาจะกลายเป็นคนที่เคารพจ่าฝึก
  • 4:40 - 4:44
    เราจึงต้องการวินัยแบบนี้มากขึ้น และการให้เกียรติ
  • 4:44 - 4:46
    ในชีวิตของเด็กๆของเรา
  • 4:46 - 4:48
    ผมได้ใช้เวลามากมายกับกลุ่มเยาวชน
  • 4:48 - 4:51
    ผมบอกกับทุกคนว่า "กระบวนการการศึกษาเริ่มเมื่อใหร่"
  • 4:51 - 4:53
    เรามักจะคุยกันเรื่อง "มาปรับปรุงโรงเรียนกันเถอะ
  • 4:53 - 4:57
    ให้อะไรกับครูให้มากขึ้น ใส่คอมพิวเตอร์เข้าไปให้มากขึ้น
  • 4:57 - 5:00
    ทำเป็นระบบออนไลน์เถอะ"
  • 5:00 - 5:03
    แต่นั่นไม่ใช่คำตอบทั้งหมด มันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง
  • 5:03 - 5:06
    คำตอบที่แท้จริง เริ่มต้นด้วยการพาเด็กคนหนึ่งไปโรงเรียน
  • 5:06 - 5:11
    เด็กที่มีวินัยอยู่ในหัวใจและวิญญาณ ตั้งแต่เริ่มแรก
  • 5:11 - 5:14
    กระบวนการเรียนรู้เริ่มต้นขึ้นเมื่อใหร่ ชั้นป.1 หรือ
  • 5:14 - 5:16
    ไม่ ไม่ใช่ มันเริ่มขึ้นครั้งแรก
  • 5:16 - 5:19
    ที่เด็กคนนั้นอยู่ในอ้อมแขนแม่
  • 5:19 - 5:21
    มองขึ้นมาที่ใบหน้าของแม่
  • 5:21 - 5:25
    แล้วนึกว่า "โอ้ นี่ต้องเป็นแม่ฉันแน่เลย"
  • 5:25 - 5:27
    เธอเป็นคนที่ป้อนอาหารฉัน
  • 5:27 - 5:29
    ใช่ เวลาฉันรู้สึกไม่ค่อยดีนักที่ก้น
  • 5:29 - 5:32
    เธอดูแลฉัน
  • 5:32 - 5:35
    ฉันจะเรียนรู้ภาษาเพื่อสื่อสารกับเธอ"
  • 5:35 - 5:38
    ในช่วงขณะนั้น พวกเขาก็ปิดการรับรู้ภาษาอื่นๆ
  • 5:38 - 5:40
    ที่พวกเขาอาจจะเรียนได้ในวัยนั้น
  • 5:40 - 5:43
    และภายในสามเดือน นั่นแหละเธอ
  • 5:43 - 5:45
    คนที่ทำอย่างนั้น นั่นแหละ แม่
  • 5:45 - 5:47
    หรือเป็นคุณย่า คุณยาย ใครก็ตามที่ทำหน้าที่นั้น
  • 5:47 - 5:49
    นั่นแหละเป็น จุดเริ่มต้นของกระบวนการเรียน
  • 5:49 - 5:51
    นั่นแหละ ช่วงเวลาที่การศึกษาเริ่มขึ้น
  • 5:51 - 5:53
    นั่นแหละ ช่วงเวลาที่ความรักเริ่มเกิดขึ้น
    นั่นแหละ เป็นเวลาที่วินัยเกิดขึ้น
  • 5:53 - 5:56
    ตอนนั้นแหละ เป็นตอนที่คุณเริ่มสร้างรอยประทับทางใจ
    ไว้กับเด็กคนนั้น
  • 5:56 - 5:58
    ว่า "หนูเป็นคนพิเศษนะ
  • 5:58 - 6:01
    หนูต่างไปจากเด็กคนอื่นๆบนโลกนี้
  • 6:01 - 6:03
    และเรากำลังจะอ่านหนังสือให้หนูฟัง"
  • 6:03 - 6:06
    เด็กที่ไม่มีคนอ่านหนังสือให้ฟัง
  • 6:06 - 6:08
    ตกอยู่ในอันตรายเมื่อเด็กคนนั้นไปโรงเรียน
  • 6:08 - 6:10
    เด็กที่ไม่รู้จักสีผิวของเขา
  • 6:10 - 6:13
    หรือที่ไม่รู้จักวิธีบอกเวลา ไม่รู้วิธีผูกเชือกรองเท้าตัวเอง
  • 6:13 - 6:14
    ไม่รู้วิธีทำสิ่งเหล่านั้น
  • 6:14 - 6:17
    และไม่รู้วิธีทำบางสิ่งที่
  • 6:17 - 6:20
    เป็นคำซึ่งถูกปลูกฝังไว้ตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก คำว่าระวังนะ (mind)
  • 6:20 - 6:24
    ระวังมารยาทนะ ระวังรักษาความเป็นผู้ใหญ่ของคุณ ระวังคำพูดของคุณนะ"
  • 6:24 - 6:27
    นี่คือวิธีเลี้ยงดูเด็กอย่างถูกต้อง
  • 6:27 - 6:30
    ขณะนี้ผมกำลังมองดูหลานๆของผมเติบโตขึ้น
  • 6:30 - 6:34
    หลานๆผม ซึ่งเป็นภาระหนักหน่วงของลูกๆของผม
  • 6:34 - 6:39
    พวกเขาก็ปฏิบัติเหมือนกับที่เราทำ คุณก็รู้ คุณปลูกฝังในตัวพวกเขา
  • 6:39 - 6:44
    และนี่คือสิ่งที่คุณต้องเตรียมเด็กๆ เพื่อการศึกษาและโรงเรียน
  • 6:44 - 6:46
    ผมยังทำงานอยู่ด้วยแรงทั้งหมดที่ยังมี
  • 6:46 - 6:48
    เพื่อสื่อสารเรื่องเหล่านี้ออกไปว่า
  • 6:48 - 6:52
    เราต้องการโรงเรียนสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน เราต้องการโครงการ Head Start
  • 6:52 - 6:55
    เราต้องการการดูแลเด็กตั้งแต่ในครรภ์
  • 6:55 - 6:59
    กระบวนการเรียนรู้ เริ่มแล้วแม้ก่อนที่เด็กนั้นจะคลอด
  • 6:59 - 7:02
    และถ้าคุณไม่ทำอย่างนี้ คุณก็จะประสบปัญหา
  • 7:02 - 7:04
    เรากำลังประสบปัญหาในชุมชนของเรามากมาย
  • 7:04 - 7:07
    โรงเรียนมากมายหลายแห่งของเราที่เด็กๆเข้ามา
  • 7:07 - 7:10
    เรียนชั้น ป.หนึ่งและตาที่โกรธกริ้วของเขา
  • 7:10 - 7:13
    พวกเขามีกระเป๋าสะพายหลังเล็กๆ พร้อมจะกลับบ้านทุกเมื่อ
  • 7:13 - 7:17
    แล้วเขาก็เริ่มรู้ตัวว่า เขาไม่เหมือนเพื่อน ป.หนึ่งคนอื่น
  • 7:17 - 7:21
    ที่รู้หนังสือ เคยมีคนอ่านหนังสือให้ฟัง รู้จักตัวอักษร
  • 7:21 - 7:24
    และก่อนถึงชั้น ป.3 เด็กๆที่ไม่มี
  • 7:24 - 7:28
    วินัยและจิตใจตั้งแต่ตอนต้น
  • 7:28 - 7:30
    จะเริ่มรู้ตัวว่าตามหลังเพื่อน และพวกเขาจะทำอะไรหรือ
  • 7:30 - 7:33
    พวกเขาจะแสดงออก แสดงออก และก็จะเดินไปสู่
  • 7:33 - 7:36
    คุกตาราง หรือไม่ก็จะไปสู่การออกจากโรงเรียนกลางคัน
  • 7:36 - 7:38
    คาดการณ์ไว้ได้
  • 7:38 - 7:41
    ถ้าคุณไม่อยู่ที่ระดับการอ่านที่เหมาะสมในระดับชั้นป. 3
  • 7:41 - 7:45
    คุณมีสิทธิที่จะติดคุก ตอนอายุ 18
  • 7:45 - 7:47
    เรามีอัตราการติดคุกที่สูงที่สุด
  • 7:47 - 7:50
    เพราะเราไม่ได้ให้การตั้งต้นชีวิตที่เหมาะสมกับเด็กๆของเรา
  • 7:50 - 7:52
    บทสุดท้ายในหนังสือของผม ชื่อว่า
  • 7:52 - 7:55
    "ของขวัญของการเริ่มต้นที่ดี"
  • 7:55 - 7:59
    ของขวัญของการเริ่มต้นที่ดี เด็กทุกคนควรมีการเริ่มต้นชีวิตที่ดี
  • 7:59 - 8:02
    ผมโชคดีที่มีการเริ่มต้นที่ดีเช่นนั้น
  • 8:02 - 8:04
    ผมไม่ใช่นักเรียนยอดเยียม
  • 8:04 - 8:06
    เป็นเด็กโรงเรียนรัฐบาลในกรุงนิวยอร์ค
  • 8:06 - 8:09
    ไม่ได้เรียนดีเลย
  • 8:09 - 8:13
    ผมมีใบแสดงผลการเรียนทั้งหมดจากคณะกรรมการการศึกษากรุงนิวยอร์ค
  • 8:13 - 8:15
    ตั้งแต่อนุบาลถึงระดับปริญญา
  • 8:15 - 8:18
    ผมต้องการข้อมูลนี้ตอนที่ผมเขียนหนังสือเล่มแรก
  • 8:18 - 8:20
    ต้องการจะดูว่าความจำของผมถูกต้องหรือเปล่า
  • 8:20 - 8:23
    ให้ตายเถอะ มันถูกต้อง (หัวเราะ)
  • 8:23 - 8:26
    ได้ C เต็มไปหมด
  • 8:26 - 8:28
    และท้ายสุด ผมเลื่อนชั้นผ่าน ม.ปลาย
  • 8:28 - 8:30
    เข้ามหาวิทยาลัยรัฐนิวยอร์ก
  • 8:30 - 8:34
    ด้วยคะแนนเฉลี่ย 78.3 ซึ่งไม่ควรอนุญาตให้เข้าเรียนได้
  • 8:34 - 8:37
    แล้วผมก็เริ่มเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์
  • 8:37 - 8:39
    แต่เรียนได้แค่หกเดือน (หัวเราะ)
  • 8:39 - 8:43
    แล้วก็เปลี่ยนไปเรียน ธรณีวิทยา "ธรณีวิทยาพื้นฐาน" ง่ายๆ
  • 8:43 - 8:45
    แล้วผมก็ไปพบหน่วยฝึกทหารกองหนุน (ROTC)
  • 8:45 - 8:49
    ผมพบสิ่งที่ผมทำได้ดี และยังเป็นสิ่งที่ผมชอบทำ
  • 8:49 - 8:53
    ผมพบกลุ่มคนวัยหนุ่มเหมือนผมที่รู้สึกเช่นเดียวกัน
  • 8:53 - 8:57
    ชีวิตของผมทั้งชีวิตจึงอุทิศให้กับหน่วยฝึกทหารกองหนุนนี้ และกับกองทัพ
  • 8:57 - 9:00
    และผมจะพูดกับเด็กๆทุกที่ ว่าเมื่อพวกเธอโตขึ้น
  • 9:00 - 9:02
    และการมีวินัยนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นในตัวพวกเธอ
  • 9:02 - 9:05
    จงมองหาสิ่งที่เธอทำได้ดีและที่เธอรักที่จะทำ อยู่เสมอ
  • 9:05 - 9:08
    และเมื่อเธอพบทั้งสองสิ่งนั้นแล้ว นั่นแหละ เธอได้แล้ว
  • 9:08 - 9:11
    นั่นคือสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ และนั่นคือสิ่งที่ผมค้นพบ
  • 9:11 - 9:13
    ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ค เริ่มเบื่อหน้าผม
  • 9:13 - 9:15
    ผมอยู่ที่นั่นสี่ปีครึ่ง เข้าปีที่ห้า
  • 9:15 - 9:20
    แต่เกรดก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร
  • 9:20 - 9:23
    ผมมักจะมีปัญหากับฝ่ายบริหาร
  • 9:23 - 9:26
    พวกเขาจึงบอกว่า "แต่เขาทำได้ดีในวิชาฝึกทหารนะ"
  • 9:26 - 9:29
    ดูสิ ได้ A ทั้งหมดเลย แต่อย่างอื่นไม่ได้ A สักตัว
  • 9:29 - 9:33
    พวกเขาจึงคุยกันว่า "เอ งั้นเอาเกรดวิชาทหาร
  • 9:33 - 9:37
    มารวมด้วยเป็นคะแนนรวม แล้วมาดูว่าจะได้อะไรออกมา
  • 9:37 - 9:43
    พวกเขาทำอย่างนั้น และคะแนนผมก็ถึง 2.00 (หัวเราะ)
  • 9:43 - 9:47
    ใช่ (หัวเราะ) (เสียงปรบมือ)
  • 9:47 - 9:50
    พวกเขาบอกว่า "น่าจะพอสำหรับงานราชการ
  • 9:50 - 9:54
    ให้เขาไปเป็นทหาร เราจะได้ไม่เจอะเจอเขาอีก ไม่ต้องเจอเขาอีกเลย
  • 9:54 - 9:56
    พวกเขาจึงส่งผมไปเป็นทหาร
  • 9:56 - 9:59
    แล้วเวลาผ่านไป หลายปีต่อมา
  • 9:59 - 10:04
    ผมได้รับการยอมรับว่า เป็นศิษย์เก่าคนหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มหาวิทยาลัยเคยมี (หัวเราะ)
  • 10:04 - 10:07
    ดังนั้น ผมจึงบอกกับเด็กๆทุกที่ เสมอว่า
  • 10:07 - 10:11
    มันไม่เกี่ยวกับว่าชีวิตเธอจะเริ่มต้นที่ไหน แต่มันสำคัญที่ว่าเธอทำอะไรกับชีวิต
  • 10:11 - 10:15
    ที่จะเป็นตัวชี้บอกว่า ชีวิตบั้นปลายจะอยู่ตรงไหน
  • 10:15 - 10:17
    คุณโชคดีที่ได้อยู่ในประเทศที่
  • 10:17 - 10:20
    ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นที่ใด คุณได้รับโอกาส
  • 10:20 - 10:23
    ตราบเท่าที่คุณมีความเชื่อในตัวเอง
  • 10:23 - 10:26
    มีความเชื่อในสังคมและประเทศชาติ
  • 10:26 - 10:30
    และเมื่อคุณเชื่อว่า คุณสามารถที่จะปรับปรุงตัวเองได้
  • 10:30 - 10:32
    และให้การศึกษากับตัวเอง ในขณะที่คุณดำเนินชีวิตไป
  • 10:32 - 10:34
    นั่นแหละ กุญแจไปสู่ความสำเร็จ
  • 10:34 - 10:38
    แต่มันเริ่มต้นจาก ของขวัญของการเริ่มต้นที่ดี
  • 10:38 - 10:40
    ถ้าเราไม่ได้ให้ของขวัญนั้น แก่เด็กๆของเราแต่ละคนและทุกๆคน
  • 10:40 - 10:44
    ถ้าเราไม่ได้ลงทุนกับพวกเขาตั้งแต่ยังเล็ก
  • 10:44 - 10:46
    เราก็จะวิ่งไปสู่ปัญหา
  • 10:46 - 10:51
    นี่คือสาเหตุที่ทำไมเรามี อัตราการเลิกเรียนกลางคัน โดยรวมประมาณ 25%
  • 10:51 - 10:53
    ซึ่งเป็นเกือบ 50% ของประชากรของชนกลุ่มน้อย
  • 10:53 - 10:57
    ที่อาศัยอยู่ในถิ่นของคนรายได้ต่ำ
  • 10:57 - 11:00
    เพราะว่าพวกเขาไม่ได้รับของขวัญของการเริ่มต้นที่ดี
  • 11:00 - 11:04
    ของขวัญของการเริ่มต้นที่ดีของผม ไม่ใช่เพียงแค่อยู่ในครอบครัวที่ดี
  • 11:04 - 11:07
    ครอบครัวที่ดี แต่มีครอบครัวที่บอกผมว่า
  • 11:07 - 11:11
    "ฟังนะลูก เรามาถึงประเทศนี้ในเรือยางเล็กๆ
  • 11:11 - 11:15
    ในปี 1920 และ 1924
  • 11:15 - 11:19
    เราทำงานหนัก ในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าไม่เว้นแต่ละวัน
  • 11:19 - 11:22
    เราไม่ได้ทำอย่างนั้น เพื่อให้พวกแกทำตัวหยิ่งจองหอง
  • 11:22 - 11:27
    หรือไปมีเรื่อง และอย่าแม้แต่จะคิดเลิกเรียน"
  • 11:27 - 11:30
    ถ้าแม้นว่าผมกลับไปบ้าน และบอกกับครอบครัวคนอพยพ
  • 11:30 - 11:32
    ว่า "ผมรู้ ผมเบื่อโรงเรียนแล้ว ผมจะเลิกเรียน"
  • 11:32 - 11:35
    พวกเขาก็จะพูดว่า "เราก็จะทิ้งแกอยู่แล้ว เราจะมีเด็กอีกคน"
  • 11:35 - 11:41
    (หัวเราะ)
  • 11:41 - 11:44
    พวกเขามีความคาดหวังกับญาติๆ ทุกคน
  • 11:44 - 11:47
    และกับครอบครัวใหญ่ของผู้อพยพ ที่อาศัยอยู่ในเขตบรองซ์ตอนใต้
  • 11:47 - 11:50
    แต่พวกเขามีมากกว่าความคาดหวังกับเรา
  • 11:50 - 11:54
    มันแทงเข้าไปในใจเรา เหมือนกริชที่แหลมคม
  • 11:54 - 11:59
    มันเป็นความละอายที่ว่า "อย่าทำให้ครอบครัวนี้ต้องอับอาย"
  • 11:59 - 12:01
    บางครั้งผมไปมีเรื่อง
  • 12:01 - 12:03
    และพ่อกับแม่ผมกำลังจะกลับมาบ้าน
  • 12:03 - 12:06
    ผมอยู่ในห้อง รอดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น
  • 12:06 - 12:08
    ผมก็จะนั่งอยู่ตรงนั้น บอกกับตัวเองว่า "ตกลง เอาไม๊
  • 12:08 - 12:13
    เอาเข็มขัดมาตีผมเถอะ แต่ขอร้อง อย่าบอกว่า ผมทำให้ครอบครัวอับอายอีก"
  • 12:13 - 12:16
    มันทำให้ผมเศร้าใจมาก เวลาที่แม่พูดกับผมแบบนั้น
  • 12:16 - 12:18
    นอกจากนี้ผมยังมีเครือข่ายที่กว้างขวาง
  • 12:18 - 12:21
    เด็กๆต้องการเครือข่าย เพราะเด็กๆต้องการเป็นส่วนหนึ่งของพรรคพวก
  • 12:21 - 12:23
    หรือของครอบครัว ของชุมชนหนึ่ง
  • 12:23 - 12:27
    กรณีของผม เป็นป้าๆที่อาศัยอยู่ในอาคารอยู่อาศัยเหล่านั้น
  • 12:27 - 12:29
    ผมไม่รู้ว่า พวกคุณกี่คนที่เป็นชาวนิวยอร์ก
  • 12:29 - 12:31
    แต่มันมีตึกที่พักอาศัยพวกนี้
  • 12:31 - 12:34
    แล้วคุณป้าพวกนี้ ก็จะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่หน้าต่าง
  • 12:34 - 12:36
    นั่งพิงหมอน
  • 12:36 - 12:39
    พวกคุณป้าไม่เคยไปไหนเลย (หัวเราะ)
  • 12:39 - 12:42
    พระเจ้าช่วยผม ผมโตมาเดินบนถนนพวกนั้น
  • 12:42 - 12:43
    พวกคุณป้าก็อยู่ที่นั่นเสมอ
  • 12:43 - 12:46
    ไม่เคยไปห้องน้ำ ไปเคยทำอาหาร (หัวเราะ)
  • 12:46 - 12:49
    ไม่เคยทำอะไรเลย
  • 12:49 - 12:51
    แต่สิ่งที่พวกเขาทำคือ คอยดูพวกเราให้อยู่กับร่องกับรอย
  • 12:51 - 12:54
    คอยดูว่าเรายังอยู่กับร่องกับรอย
  • 12:54 - 12:56
    ทั้งๆที่พวกเขาไม่สนใจ
  • 12:56 - 13:01
    ว่าเราจะไปเป็นหมอ หรือเป็นทนาย หรือเป็นนายพลหรือไม่
  • 13:01 - 13:04
    พวกเขาไม่เคยคาดหวัง สมาชิกในครอบครัวเป็นนายพล
  • 13:04 - 13:07
    ตราบเท่าที่คุณได้รับการศึกษา แล้วก็ได้งานทำ
  • 13:07 - 13:09
    "อย่ามาบอกป้า เรื่องการค้นพบตัวเองอะไรนั่น"
  • 13:09 - 13:12
    แค่แกมีงานทำ แล้วก็ออกจากบ้านไป
  • 13:12 - 13:15
    เราไม่เสียเวลากับเรื่องพรรค์นั้น
  • 13:15 - 13:18
    แล้วแกเลี้ยงดูเราได้ นั่นแหละเป็นบทบาทของแก
  • 13:18 - 13:24
    ดังนั้นจำเป็นมาก ที่เราเหมือนกับว่าจะเอาวัฒนธรรมนี้
  • 13:24 - 13:28
    กลับมาในครอบครัวของเรา ทุกๆครอบครัว
  • 13:28 - 13:31
    มันสำคัญมากที่ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ในวันนี้
  • 13:31 - 13:34
    ซึ่งเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ
  • 13:34 - 13:39
    ผมเชื่อว่าคุณมีครอบครัวที่ยอดเยี่ยม และมีลูกมีหลาน
  • 13:39 - 13:40
    แค่นั้นยังไม่พอ คุณต้องให้ความสนใจที่จะช่วยเหลือ
  • 13:40 - 13:43
    หาเด็กๆ อย่าง นายครูซ
  • 13:43 - 13:46
    ที่จะประสบความสำเร็จ ถ้าเราให้เขาสร้างวินัย
  • 13:46 - 13:48
    ถ้าคุณกลับไปช่วย ถ้าคุณแนะแนวทาง
  • 13:48 - 13:51
    ถ้าคุณลงทุนลงแรงกับ ชมรมของเด็กๆ
  • 13:51 - 13:53
    ถ้าคุณทำงานร่วมกับระบบโรงเรียนในขุมชน
  • 13:53 - 13:54
    เพื่อให้แน่ใจว่า มันเป็นระบบโรงเรียนที่ดีที่สุด
  • 13:54 - 13:59
    ไม่ใช่แค่เป็นโรงเรียนของลูกคุณ แต่เป็นโรงเรียนในฮาเล็มด้วย
  • 13:59 - 14:02
    ไม่ใช่แค่โรงเรียนแบบมอนเตสซอรีในถิ่นคนรวยเวสไซด์
  • 14:02 - 14:06
    พวกเราทุกคนต้องมีหน้าที่ผูกพันธ์ที่ต้องทำเช่นนั้น
  • 14:06 - 14:08
    เราไม่ควรที่จะลงทุนลงแรงเฉพาะกับลูกๆของเรา
  • 14:08 - 14:10
    เรากำลังลงทุนลงแรงกับอนาคตของเรา
  • 14:10 - 14:13
    เรากำลังจะกลายเป็นประเทศชนกลุ่มน้อย-ชนกลุ่มใหญ่
  • 14:13 - 14:15
    ในอีกหนึ่งชั่วอายุคน
  • 14:15 - 14:19
    พวกที่เราเรียกว่าชนกลุ่มน้อยจะกลายเป็นชนกลุ่มใหญ่ของประเทศ
  • 14:19 - 14:21
    และเราต้องแน่ใจว่า พวกเขาพร้อมที่จะเป็นประชากรส่วนใหญ่
  • 14:21 - 14:23
    พวกเราแน่ใจว่าพวกเขาพร้อมจะเป็นผู้นำ
  • 14:23 - 14:26
    ประเทศที่ยิ่งใหญ่นี้ของพวกเรา
  • 14:26 - 14:30
    ประเทศที่ไม่เหมือนประเทศไหนๆ
  • 14:30 - 14:32
    ประเทศที่ทำให้ผมประหลาดใจได้ทุกเมื่อเชื่อวัน
  • 14:32 - 14:34
    ประเทศที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง เราขัดแย้งกันเสมอ
  • 14:34 - 14:37
    นี่คือลักษณะที่ควรจะเป็น
  • 14:37 - 14:41
    เป็นประเทศที่มีความแตกต่าง แต่เป็นชาติของชาติ
  • 14:41 - 14:45
    เราเกี่ยวข้องกับทุกๆชาติ และทุกๆชาติก็เกี่ยวข้องกับเรา
  • 14:45 - 14:46
    เราเป็นประเทศของผู้อพยพ
  • 14:46 - 14:50
    นี่คือเหตุที่เราต้องมีนโยบายคนต่างด้าวที่ดีพอ
  • 14:50 - 14:53
    มันน่าหัวเราะที่เรา ไม่มีนโยบายคนเข้าเมืองที่ดีพอ
  • 14:53 - 14:56
    ที่จะต้อนรับ คนที่ต้องการมาเป็นส่วนหนึ่งของประเทศนี้
  • 14:56 - 14:58
    หรือที่เราสามารถส่งกลับบ้านพร้อมกับการศึกษา
  • 14:58 - 15:01
    เพื่อให้เขาไปช่วยคนของเขา ให้พ้นจากความยากจน
  • 15:01 - 15:05
    เรื่องสำคัญที่ผมชอบเล่าเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับความรัก
  • 15:05 - 15:07
    ที่จะไปบ้านเกิดของผม ในนิวยอร์ก
  • 15:07 - 15:08
    เดินไปตามถนน ปาร์กอเวนิว ในวันที่อากาศดีๆ
  • 15:08 - 15:11
    ชื่นชมทุกอย่าง และดูผู้คนที่ผ่านไปมา
  • 15:11 - 15:12
    จากทั่วโลก
  • 15:12 - 15:16
    แต่สิ่งที่ผมต้องทำเสมอคือ หยุดที่มุมถนนหนึ่ง
  • 15:16 - 15:19
    ซื้อฮอตดอก จากรถเข็นที่คนขายเป็นคนต่างด้าว
  • 15:19 - 15:23
    ต้องทานฮอตดอกจากรถเข็นข้างถนน (หัวเราะ)
  • 15:23 - 15:26
    ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน หรือกำลังทำอะไร
  • 15:26 - 15:27
    ผมก็ต้องกลับไปทำอย่างนั้น
  • 15:27 - 15:29
    ผมทำแบบนี้ แม้เมื่อเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ
  • 15:29 - 15:32
    ผมจะเดินลงมาจากห้องชุดที่โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสเทอะเรีย
  • 15:32 - 15:35
    (หัวเราะ)
  • 15:35 - 15:39
    เดินไปตามถนน จนถึงถนนสาย 55
  • 15:39 - 15:41
    มองหารถเข็น ฮอตดอกของคนอพยพ
  • 15:41 - 15:43
    ในตอนนั้น มีบอดีการ์ด 5 คนล้อมรอบตัวผม
  • 15:43 - 15:46
    รถตำรวจนิวยอร์คสามคันแล่นไปข้างๆ
  • 15:46 - 15:51
    เพื่อให้แน่ว่า ไม่มีใครมาทำร้ายผมขณะเดินอยู่บนถนน ปาร์ค เอเวอนิว
  • 15:51 - 15:53
    แล้วผมก็จะสั่งฮอตดอกจากคนขาย
  • 15:53 - 15:55
    เขาจะเริ่มทำฮอตดอก แล้วก็จะมองไปรอบๆ
  • 15:55 - 15:57
    ดูบอดี้การ์ด และรถตำรวจ
  • 15:57 - 15:59
    แล้วพูดว่า "ผมมีกรีนการ์ดนะ ผมมีบัตรนะ" (หัวเราะ)
  • 15:59 - 16:03
    "ไม่เป็นไร ไม่มีอะไร" ผมบอก
  • 16:03 - 16:06
    แต่เดี๋ยวนี้ ผมไปคนเดียว คนเดียว
  • 16:06 - 16:08
    ไม่มีบอดี้การ์ด ไม่มีรถตำรวจ ไม่มีอะไรเลย
  • 16:08 - 16:11
    แต่ก็ยังเดินไปซื้อฮอตดอกกินเหมือนเดิม
  • 16:11 - 16:15
    ไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เองครับ ช่วงบ่ายวันอังคาร
  • 16:15 - 16:17
    แถวๆ Columbus Circle
  • 16:17 - 16:20
    แล้วก็ทำสิ่งที่ทำเป็นประจำ
  • 16:20 - 16:23
    ผมไปสั่งฮอตดอก
  • 16:23 - 16:26
    คนขายก็จะทำ แล้วเมื่อทำเสร็จ
  • 16:26 - 16:28
    เขาก็พูดว่า "ผมรู้จักคุณนะ ผมเห็นคุณในโทรทัศน์
  • 16:28 - 16:30
    คุณคือ นายพล พาวเวลล์"
  • 16:30 - 16:33
    "ครับใช่" "โอ้"
  • 16:33 - 16:34
    ผมส่งเงินให้เขา
  • 16:34 - 16:39
    "ไม่ต้องครับท่านนายพล คุณไม่ต้องจ่ายให้ผม ผมได้รับแล้ว
  • 16:39 - 16:43
    ประเทศอเมริกาจ่ายให้ผมแล้ว ผมไม่เคยลืมว่าผมจากมาที่ไหน
  • 16:43 - 16:46
    แต่ตอนนี้ผมเป็นคนอเมริกัน ขอบคุณครับท่าน"
  • 16:46 - 16:48
    ผมรับน้ำใจของเขาไว้ แล้วเดินต่อไปตามถนน
  • 16:48 - 16:51
    แล้วมันก็ทำให้ผมรู้สึกตื้นตัน โอ้พระผู้เป็นเจ้า
  • 16:51 - 16:55
    ประเทศเดียวกับที่ต้อนรับพ่อแม่ของผม แบบเดียวกันนี้ เมื่อ 90 ปีที่แล้ว
  • 16:55 - 16:57
    เพราะฉะนั้นเรายังคงเป็นประเทศที่ยอดเยี่ยม
  • 16:57 - 17:00
    แต่เรากำลังจะถูกขับเคลื่อน ด้วยเด็กๆรุ่นใหม่ที่กำลังมา
  • 17:00 - 17:03
    จากทั่วทุกแห่งในโลก
  • 17:03 - 17:06
    และมันเป็นหน้าที่ของเรา ในฐานะประชาชน
  • 17:06 - 17:08
    ของประเทศที่ยอดเยี่ยมของเรานี้
  • 17:08 - 17:11
    ที่จะทำให้แน่ใจว่า ไม่มีเด็กคนใดถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
  • 17:11 - 17:13
    ขอบคุณมากครับ
  • 17:13 - 17:25
    (เสียงปรบมือ)
Title:
โคลิน โพเวลล์: เด็กๆต้องการมีวินัย
Speaker:
Colin Powell
Description:

เราจะช่วยให้เด็กเริ่มต้นที่ดีได้อย่างไร? ในการพูดที่กินใจและเป็นกันเองนี้ โคลิน พาวเวลล์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ ขอให้พ่อแม่ เพื่อน และญาติๆ ส่งเสริมเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่แม้เมื่อก่อนเข้าเรียนชั้นประถม โดยผ่านทางชุมชนและความรู้สึกรับผิดชอบที่เข้มแข็ง (ถ่ายทำที่ TedmidAtlantic)

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
17:46
Dimitra Papageorgiou approved Thai subtitles for Kids need structure
yamela areesamarn accepted Thai subtitles for Kids need structure
yamela areesamarn edited Thai subtitles for Kids need structure
yamela areesamarn edited Thai subtitles for Kids need structure
Yada Sattarujawong edited Thai subtitles for Kids need structure
Yada Sattarujawong edited Thai subtitles for Kids need structure
yamela areesamarn declined Thai subtitles for Kids need structure
yamela areesamarn edited Thai subtitles for Kids need structure
Show all

Thai subtitles

Revisions